อทิสมานกาย ๕๐

แก้วประเสริฐ

76.gif
                               อทิสมานกาย  ๕๐
     เสียงปืนดังปั๊งๆๆๆพรืดๆๆๆ  สนั่นกึกก้องในบริเวณลานกว้างที่ ใช้ในที่เก็บไม้แปรรูป
เถื่อนทั้งหลายประทับตราและไม่ประทับตรา กองสูงเนินอย่างเป็นระเบียบ  รถบางคันก็
บรรทุกออกไปบ้างแล้ว
  เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่กำลังประทับตราอยู่ก็พลันทิ้งตราไว้พร้อมกับหมึก  ครั้นได้ยินเสียง
ของเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้วางอาวุธยกมือขึ้นเหนือศีรษะ วิ่งหนีเอาตัวรอดไปตามๆกัน
  หาที่แอบยังบริเวณแถวนั้น เข้าไปที่ปลูกกระต๊อบไว้หลายๆหลัง  บ้างหลบซ่อนแอบแถว
กองไม้ที่สุมขึ้นสูงไว้เพื่อที่จะใส่สายพานลำเลียงมาเพื่อใช้ประทับตราให้ถูกกฏหมาย
   เสียงร้องตะโกนของ เสียหว่างดังขึ้นระหว่างเสียงปืนที่กำลังยิงใส่ร่างของหุ่นที่ถือดาบโล่ห์
หอก อาวุธโบราณที่วิ่งเข้ามาหา แข่งกับเสียงประกาศของเจ้าหน้าทีตำรวจ
   “  เฮ้ยๆๆๆ....พวกเราไม่ต้องกลัวไม่ต้องถอย ยิ่งแหม่งมันเข้าไป  น๊านๆๆต้องอย่างนั้นซิ ”
    “ พวกมันล้อมเราไว้หมดทุกๆด้านนะเสี่ย   ผมคิดว่าให้เสี่ยหาทางหลบหนีไปก่อนมิดีหรือ”
เสียงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบางกระดี่ตะโกนตอบ พร้อมันก็ส่งกระสุนปืนไปแถวบริเวณล้อมรอบ
แนวป่าทันที
     “  ไม่กูไม่ไปทั้งนั้นโว้ยๆ!!!!....  มึงยิงมันเข้าไปคนมันน้อยกว่าเราไม่เท่าไหร่หรอกว๊ะ
เดี๋ยวคงตายห่าหมดล่ะ”  เสี่ยหว่างเอ่ย พร้อมยิงโต้ตอบกับตำรวจทันที
     “ ไปเถอะน่าเสี่ย  ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอกเดี๋ยวพวกเราจัดการได้แหละ”  
กำนันถ้วน แห่งบ้านบึ้งห้วยเอ่ยเตือนอีกครั้ง  มันเองก็หันไปทางแนวป่าที่เห็นเงาตะคุ่มๆยิ่งใส่
เข้าทันที   เห็นร่างนั้นพลันผงะและล้มลง  
       พลางส่งเสียงหัวร่อ  ด้วยความดีใจที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจล้มลง
       “จะเท่าไหร่กันว๊ะ นึกว่าแน่ๆ”  
     แต่แล้วเสียงหัวเราะมันก็หยุดชะงักอ้าปากค้าง เมื่อแลเห็นร่างที่เห็นนั้นกลับลุกขึ้นยืนอีกพร้อม
หันมายิงมันทันใด กระสุนปืนถูกที่ไหล่ซ้ายมันถึงกับทรดกายนั่งทันทีและยังติดตามมาอีกหลายๆ
ลูก อาศัยเสาไม้บังไว้กระนั้นมันก็ยังโดนที่หน่องขาอีก
     เมื่อลูกน้องกำนันถ้วนเห็นลูกพี่ดังนั้นก็วิ่งสลับฟันปลามา ช่วยเหลือหัวหน้ามันทันที
     “ เป็นอย่างไรบ้างกำนัน  ”    มันพยุงร่างกำนันพร้อมมือก็หันปืนยิงเร็วส่งกระสุนออกไปทันที
     “ กูยังไม่ตายว๊ะ  เออๆดีให้มันได้อย่างนั้นซิไอ้เวก ”  กำนันชม แต่มันก็กัดฟันกรอดๆพลางล้วง
ไปในกระเป๋าหยิบยาแก้ปวดฉีกซองออกมายกซองเทขึ้นกินทันที  เป็นยากลางบ้านคือทันใจ อัน
เป็นที่นิยมกันอย่างมากสำหรับแถวชนบท ใช้ทั้งรักษาไข้และปวดได้อีกด้วย
     แต่กระนั้นมันก็หันไปมองทางลูกน้องมันและพวกลำเลียงไม้มาส่ง ต่างก็ยิงต่อสู้กันทุกๆคน  แล
เห็นร่างพวกลำเลียงไม้ต่างล่วงผล๊อยๆกันไปหลายคน ส่วนทางพวกมันก็ล่วงๆลง แต่ที่เหลือก็ต่าง
ยิงกันปะทะอย่างไม่เกรงกลัว  พลางส่งกระสุนปืนยิงออกไปอีกอย่างไม่หวาดหวั่น
    “ เฮ้ยไอ้ถ้วน  มึงไม่เป็นไรมากนักหรือว๊ะ”  เสียงกำนันแช่มบ้านเนินสูงตะโกนถาม
    “ยังโว้ยกูยังไม่ตายไอ้แช่ม  มีอย่าหนีมันนะโว๊ยเห็นไหมพวกเรามากกว่ามัน หากน้อยกว่ามัน
คงบุกเข้ามาแล้วล่ะ????....”
     “เออดีว๊ะ ให้มันได้อย่างน๊านซิว๊ะ”   ก็แลเห็นประกายไฟวูบวาบออกจากปืนของไอ้แช่มมัน
ที่ต่อสู้อย่างไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหลียวไปมองยังพวกของไอ้กำนันบาง บ้านนางลอย 
ที่ขมักเขม่นสั่งลูกน้องให้ต่อสู้ อย่างไม่ถดถอย  ส่วนเสี่ยหว่างเองก็ใจถึงมันไม่ยอมหนีไปไหน
เหมือนกัน  สร้างขวัญกำลังใจให้แก่พวกมันและพวกลำเลียงเมื่อมันมองมายังเสี่ยหว่างเห็นกำลัง
ยิงต่อสู้อย่างไม่ถอยหนี เหมือนกับพวกมัน
        เสียงร้องของกำนันบาง ก็ตะโกนถามกำนันถ้วนเหมือนกัน
    “เฮ้ยไอ้ถ้วน มึงไม่เป็นอะไรแน่นะโว้ย????....”
    “ เออยังไม่ตายห่าหรอกว๊ะ” ปากตะโกนตอบกำนันบางทันที  แต่แล้วตัวมันก็สะดุ้งเฮือกตาเหลือก
ลานเมื่อหน้าอกด้านซ้ายมันโดนกระสุนปืนเข้าไปหลายๆนัด  ร่างมันกระโดดขึ้นเต้นเร่าๆแล้ว
หงายผึ่งลงทันที ส่วนลูกน้องมันก็ล่วงตามนายมันอีกคน
    กำนันบางกำนันแช่มและผู้ช่วยกำนันมั่นเห็นว่าทางกำนันถ้วนไม่เป็นอะไร ก็ไม่มองหันหน้าไปยิง
ต่อสู้ทันที    เสียงปืนดังสนั่นลั่นป่าไปหมด ร่างของเจ้าหน้าที่ป่าไม้คนหนึ่งถึงกับผงะเมื่อเจอกระสุน
เข้าใส่หลายๆนัด ร่างมันกระเด็นออกจากกองไม้ทันที  ที่กระสุนเล็ดรอดเข้ามาได้ถูกมันอย่างจัง ถึง
กับเซแซดๆกระเด็นออกจากที่กำบังล้มลงสิ้นใจตาย
     เสียงทางด้านฝ่ายลำเลียงไม้มาส่ง ก็ตะโกนบอกทันทีว่า....
     “ พวกเรามาช่วยกันแล้วล่ะโว้ย!!!!...ไม่ต้องกลัวอะไรมันตีโอบล้อมพวกตำรวจไว้แล้วว๊ะ???...”
     “เฮ้ยๆๆๆพวกเราโว้ยพวกกูมาช่วยแล้วล่ะไม่ต้องพวกกลัวมันหรอก”  เสียงปืนอาก้าดั่งสนั่นลั่นขึ้น
อีก  พรืดๆๆๆๆ....ดังขึ้น  พร้อมกับเสียงตะโกนบอก
     “ทางเราแบ่งกำลังโอบล้อมพวกมันอีกด้วยว๊ะ!!!!!....เสี่ยหว่างโว้ยไม่ต้องกลัวพวกเรามากันอีกแยะ”
มันร้องตะโกนบอกทางเสี่ยหว่างและพวกเพื่อเรียกขวัญกำลังให้มากๆยิ่งขึ้น
        คล้ายพวกตำรวจได้สัญญาณอะไรบางอย่างก็เห็น เหล่าชาวบ้านถือโล่ห์หอก ดาบ วิ่งออกมากจากชายป่า
เหมือนไม่เกรงกลัวอาวุธปืน อันร้ายแรงของพวกมัน
    “เฮ้ยๆๆพวกมันออกมาแล้วล่ะว๊ะ ยิงโว้ยยิงมัน”  เสียงร้องตะโกนออกมาจากพวกกำนันและพวกลำเลียงไม้
เถื่อนมา ทุกๆคนแลเห็น พวกมันขณะวิ่งบ้างถูกปืนล้มลง บ้างเซผงะ บ้างถูกระสุนทะลุออกหลัง
พวกที่ล้มต่างก็ ลุกขึ้นวิ่งมาหามันได้อีก กระสุนปืนแค่ทำให้เซและล้มลงเท่านั้น
หาได้ทำอันตรายแก่มันได้ไม่ต่างก็ยืนถือปืนจังงังกันไปตามๆกัน
  เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวพวกชาวบ้านก็เข้ามาถึงมันเสียแล้ว พลางยกดาบหอก มีดแหลมแทงพวกมัน
ที่อยู่ด้านหน้าล้มตายลงไปมากทันที
  “เฮ้ยๆๆมันตำรวจผีหรือคนว๊ะ ยิงมันไม่ตายว๊ะกลับลุกขึ้นมาได้อีก”  เสียงร้องลั่นจากพวกผิดกฏหมาย
  “พวกกูจะรู้หรือว๊ะ ก็เห็นเหมือนพวกมึงนั่นแหละโว้ย  ยิงมันก่อนเถอะว๊ะไม่ต้องถามมากโว้ย”
        เสียปืนดังเปรี้ยงปร้าง ปั๊งๆๆ พรืดๆๆระงมไปทั่วบริเวณแถบริมแม่น้ำและลานไม้แปรรูป
  เสียงระเบิดดังกึกก้องตามมาอีก  ด้วยบรรดาเรือที่นำพวกมาส่งต่างถูกระเบิดขว้างเข้าใส่หลายๆลูกระเบิด
  เศษไม้เกลื่อนกระจายไปบ้าง กระเด็นลอยเข้ามาในลานที่ใช้ทำงานกัน
   “เฮ้ยพวกเรามันแอบไปทางแม่น้ำแล้วโว้ย  ไอ้ห่ามันทำลายเรือพวกเราเสียหมดด้วย”  เสียงตะโกนร้อง
บอกกันไปทั่ว  สู้ๆๆๆโว้ยๆๆๆสู้ๆๆๆ....เสียงตะโกนของพวกลำเลียงของเถื่อนมาส่งตะโกนดังก้อง
     การยิ่งต่อสู้กันตั้งแต่เที่ยงคืนจวบจนฟ้าสาง  การยิงก็ยังไม่เลิกรากัน ต่างฝ่ายต่างระดมยิงโต้ตอบกันไปๆ
มาๆ    เมื่อแสงสว่างเกิดขึ้นพวกมันก็พากันตกใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นพวกชาวบ้านป่าที่ถือโล่ห์อาวุธโบราณต่างๆ
นั้นพากันเก็บอาวุธหมด  แล้วต่างกันก็เข้ามาคว้าอาวุธพวกมันที่ตกเรี่ยระเนระนาดที่ล้มตายไปขึ้นมายิงอีก
มันไม่คิดว่าพวกชาวบ้านป่าจะสามารถใช้อาวุธทันสมัยเป็น  กว่าจะตั้งสติได้ด้วยจิตใจเสียไปเมื่อเห็นพวก
มันกับถูกปืนของพวกมันเอง ล้มดิ้นชักตายระเนระนาดไป
      พวกกำนันทั้งหลาย หากปืนมันเป็นปืนเก่าหน่อยก็ได้ยินแต่เสียงดังแช๊ะๆแล้วก็ระเบิดทำเอาพวกมันเสีย
ชีวิตด้วยปืนของมันเอง  พวกปืนทันสมัยหน่อยก็ยิงไป บ้างก็ขัดลูกปืนขัดลำกล้องเสียอีก ยิงได้บ้างไม่ได้บ้าง
ทำความงุนงงต่อมันมากนัก   ครั้นเสี่ยหว่างเห็นเช่นนั้นก็ปากอ้าตาค้างไปเมื่อใกล้ตัวมันลูกน้องมันซ้ายขวา
ยิงไปเสียงดังแช๊ะๆพอแช๊ะที่สามปืนของลูกน้องมันก็แตกระเบิดทันที   ทำเอาลูกน้องมันถึงกับล้มหงายดิ้น
พลาดๆไป เมื่อเหลียวหลังไปดูพวกมันก็เห็นต่างล้มตายด้วยกระสุนปืนของฝ่ายตำรวจบ้าง  ปืนระเบิดตายเอง
บ้าง  เลือดนองไปทั่วบริเวณลานกว้างที่ใช้เก็บไม้แปรรูป สายพานที่ส่งด้วยเครื่องจักรก็ถูกทำลายเสียสิ้นด้วย
ระเบิดของพวกตำรวจที่ขว้างมา
    ส่วนตัวเสี่ยหว่างก็โดนสะเก็ดปืนที่แตกออกกระจายเข้าใส่ร่างมันและใบหน้า เลือดไหลโทรมกาย
แต่นี่แค่สะเก็ดระเบิดเล็กๆเท่านั้นหากเป็นกระสุนจริงปานนี้มันคงจะตายไปเสียแล้ว
    บัดนี้อากาศสว่างขึ้นแล้วในยามเช้าตรู่ของวันใหม่ แต่ก็ยังมีหมอกเบาบางเรี่ยราดพื้นอยู่  แต่ก็มองเห็น
สภาพได้อย่างชัดเจน  ยามที่พวกมันขว้างระเบิดใส่ร่างของชาวบ้านป่าที่ต่างสาระวนในการเก็บปืนร่าง
พวกมันกระดอนกระเด็นลอยสู่ท้องฟ้า แต่พอตกมายังพื้นดันกลับลุกขึ้นวิ่งเข้าไปคว้าปืนอีก
    เสี่ยหว่างถึงกับอ้าปากค้างในสายตามันถึงกับขยี้ตามมันทั้งสองข้าง พร้อมกับหยิกแขนตัวเองก็รู้สึกว่า
เจ็บมันถึงกับสะดุ้งนึกว่ามันถูกหลอกหลอนด้วยผี  แต่ๆๆๆนี่ๆๆสว่างแล้วพระอาทิตย์ขึ้นแล้วหากเป็น
พวกผีก็ต้องหายไป  แต่ที่มันเห็นเป็นร่างคนชัดๆ ไฉนลูกปืนระเบิดก็ไม่สามารถทำลายร่างกายมันได้เลย
และไม่มีเลือดไหลออกจากร่างมันสักนิดเดียว
    “ไอ้หย่า!!!!???....จะว่าอั้วถูกผีหลอกก็ไม่ใช่นี่หว่า มันคนชัดๆ พระอาทิตย์ขึ้นแล้วสว่างหรือก็สว่าง
แล้วนี่ก็สายแล้วด้วย  หากเป็นผีมันต้องหายไปซิว๊ะ???....”  มันพูดกับตัวเอง
        ทันใดนั้นพวกชาวบ้านป่าครั้นหยิบปืนได้ก็หันไปยิงพวกลำเลียงไม้เถื่อนอีก  เห็นพวกมันก็งุนงงแต่
ร่างมันไม่งุนงงด้วยเต้นเร่าๆไปตามแรงกระสุนปืนที่พวกชาวบ้านยิงใส่ ล้มตายระเนระนาด บ้างวิ่งหนีไป
ด้วยขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆกัน
      “ไอ้หย่าๆ...อั๊วจะซี้เลี้ยวหน่อ??....”  มันหันหลังกลับวิ่งหนีไปทางรถยนส่วนตัวมันทันทีหลบหลีกวิ่ง
ทะแยงไปๆมาๆ
        “ไอ้เว้งๆๆโว้ยๆๆ...มึงอยู่ไหนว๊ะไอ้ห่าๆ...ไปกันโว้ยกูอยู่ไม่ได้แล้วล่ะว๊ะ ยิงเท่าไหร่มันก็ไม่ตายสักที”
เสียงเสี่ยหว่างร้องแรกแหกกระเฌอ
         “อั๊วอยู่นี่อาเสี่ย กำลังสตาร์ทรถให้ลื้อจะไปหรือไม่ไปล่ะ???...”  ไอ้เว้งถาม
         “อยู่ห่าเตี่ยมึงเร๊อะ???....กูไม่กลัวคนโดนปืนตายว๊ะ แต่ไอ้พวกห่านี้ปืนยิงไปมันเสือกไม่ตายกูกลัวว๊ะ???.. 
มึงรีบออกรถได้ไปตามทางที่กูบอกมึงไว้ก่อนนะโว้ย อย่าเสือกไปตามทางที่มาเสี่ยล่ะ” เสี่ยหว่างเปิดประตู
หลังรีบขึ้นรถไป พอรถปิดประตูแทบไม่ทันเสียงปืนก็ระดมยิงมาแต่อาศัยว่ารถมันกันกระสุนปืนได้จึงไม่
เป็นไร   รถมันกระชากส่ายไปส่ายมาก็ลับหายไปจากลานต่อสู้กันทันที
        ครั้นรถเลยไปเลือดมันยังไหล จึงล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาอุดรอยแผลไว้ทางนี้ทีทางโน้นที 
แต่อาศัยเพียงแค่เป็นสะเก็ดระเบิดของปืนแตกเท่านั้นบาดแผลถึงไม่ลึกแค่ทำให้เลือดมันไหลได้เท่านั้น
เมื่อรถมันแล่นพ้นเสียงการต่อสู้ไปแล้วแต่ข้างรถมันเป็นแค่รอยกระสุนปืนพรุนๆไปแต่ไม่เข้ามาในตัวรถ
    “สงสัยว่าพวกเราที่มากันมีมึงกับกูเท่านั้นที่จะรอดว๊ะ  สงสัยมันจะซี้เลี๊ยวหน่อ มึงคิดอย่างกูไหมไอ้เว้ง”
    “คงจะเป็นแบบอาเสี่ยว่าแหละ สงสัยมันจะซี้หมดแล้วล่ะ”   ไอ้เว้งตอบ
     “ไอ้ห่างานนี้กูทุ่มมากมายเสียด้วย เจ๊งๆๆๆก็คราวนี้แหละแต่ช่างเถอะ  ไอ้ห่าเสี่ยเล้งมันจะคิดอย่างไร
บ้างล่ะ ไหนมึงลองช่วยกูคิดหน่อยซิว๊ะ”
      “อั้วจะไปรู้เหรอเสี่ย  ขนาดเสี่ยสมองดีกว่าอั้วยังคิดไม่ออก ถ้าอั้วมีสมองยังกับเสี่ยป่านนี้ไม่ต้องมา
นั่งเป็นคนขับรถให้เสียหรอกจริงไหมเสี่ย”  ไอ้เว้งตอบ
      “อืมมๆๆ...มึงพูดก็ถูกของมึง  แล้วกูจะทำอย่างไรดีว๊ะ หากไอ้เล้งมันรู้เรื่องโว้ย  โอ้ยๆๆกลุ้มๆๆโว้ย!!!...”
พลางยกมือที่เปื้อนเลือดกุมหัวมันทันที  พลางเหลียวไปข้างหลังก็ไม่เห็นใครติดตามมาค่อยโล่งใจนัก
       ขณะนั้นฝ่ายกำลังที่มาทางเรือก็ค่อยๆย่องมาทางด้านหลังฝ่ายของตำรวจ มันมาอย่างเงียบเชียบนัก
แต่ทันใดพวกมันก็สะดุ้งเกือบทุกๆคน ประมาณสามสี่สิบคนได้ต่างหันหลังไปทันที ก็เห็นร่างของพวก
ชาวบ้านที่ถือปืนออกมาเรียงรายล้อมมันอีกที  ทำให้พวกมันตกใจยิ่งนัก มันคิดไม่ถึงว่าจะถูกตลบหลังอีก
      ก็สายมันรายงานแล้วว่าทางโน้นนั้นตายห่าเรียบไปหมดเหลือจับกุมก็ไม่กี่คนนี่หว่า แต่จะมาช่วยทางนี้
คงไม่ทันแน่  ถ้ามาเสียงรถก็คงจะได้ยินดังมาก่อนแล้วแต่ก็ต้องเวลาเป็นหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึง แต่นี้
มันมาได้อย่างกันกัน ต่างก็ถามกันไปๆมาๆกันหมด ทุกๆคนก็ไม่รู้ได้แต่ส่ายหน้ากันไปมา
      ดังนั้นมันจึงรีบแบ่งกำลังกันหันหน้าไปทางฝ่ายตำรวจ  โดยต่างหันหลังชนกันมาทางชาวบ้าน
ที่ถือปืนเรียงรายกระจายกันเข้ามา เป็นกลุ่มได้ห้ากลุ่มตามที่หัวหน้ามันคิด มันห้าสิบกว่าๆ
ทางเราแค่สามสี่สิบ สู้สีว๊ะพวกมันคิดกัน       หัวหน้ามันสั่งทันที
   “สู้ๆๆโว้ย...โอ้ยๆๆๆ”  เสียงร้องสู้ๆโว้ยยังไม่ทันกล่าวต่อร่างหัวหน้ามันก็
ทะลึงพรวดขึ้นฟ้าแล้วตกมาเต้นเร่าๆ
เมื่อมันถูกพวกตลบหลังชาวบ้านป่ายิงปืนอาก้าใส่มาเป็นชุดๆ  พรืดๆๆๆ  เท่านั้นเองก็เกิดเสียงปืนดัง
ขึ้นทันทีต่างระดมกันยิงใส่กันและกันอย่าเมามันส์ไม่ยั้งมือ ทั้งสองฝ่าย
     ทางด้านสารวัตรสังวาลย์ ผู้กองจรัส ก็รู้ตัวสั่งแบ่งกำลังกันออกต่อสู้ทันที  ส่วนเจ้าแสงสีนั้นนำพวกออก
นำหน้าไปต่อสู้กับพวกกำนันและพวกลำเลียงไม้เถื่อนมาอยู่ในบริเวณลานที่กองสุมไปด้วยไม้แปรรูปแล้ว
    ก่อนไปเจ้าแสงสีหันมาบอกเขาว่าให้เขาและผู้กองไม่ต้องออกไปให้สั่งหาชัยภูมิเหมาะสมไว้แค่เพียงยิง
ออกไปเท่านั้นไม่ต้องออกไปเด็ดขาด  พวกนั้นทำอะไรลูกน้องมันไม่ได้เหมือนเชื่อมั่นเสียเหลือเกิน ก็จริง
ดังที่สารวัตรและผู้กองเห็น  พวกลูกน้องของเจ้าแสงสี ตลอดจนเจ้าแสงสีเองก็โดนกระสุนปืนหงายหลังล้ม
ไปแต่กระสุนทำอะไรเจ้าแสงสีไม่ได้ เพียงแค่ผงะหงายหลังแล้วกลับลุกขึ้นเดินเข้าไปต่อสู้อีก  
     เมื่อเจ้าแสงสีและลูกน้องมันได้ปืนฝ่ายตรงข้ามแล้วก็นำปืนมันยิงใส่ไปหาพวกมันอีก ทำให้ผู้กองแปลกใจ
เรื่องคงกะพันชาตรีนั้นผู้กองไม่สงสัย  แต่สงสัยว่าเหตุใดลูกน้องเจ้าแสงสีมันถึงใช้อาวุธทันสมัยได้อย่างคล่อง
แคล่วว่องไวราวกับได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเยี่ยม  และอีกอาวุธนั้นเป็นจำพวกอาก้าที่ผู้ก่อการร้าย
ต่างประเทศเพื่อนบ้านเรือนเคียงใช้ด้วย  กับชำนาญยิ่งกว่าตำรวจพวกเขาเสียอีก อาวุธอาก้าทั้งเบาและมี
กระสุนมากกว่าปืนเอ็ม๑๖มากนัก  ซึ่งมีแต่อาวุธทันสมัยที่เขาได้รับและมอบให้ตำรวจเท่านั้นถึงจะดีกว่าอาวุธนั้น
    “ผู้กองเห็นเหมือนผมไหมล่ะผู้กอง”  สารวัตรถาม
     “ครับผมเห็นครับก็แปลกใจนักว่าทำไมพวกลูกน้องเจ้าแสงสีถึงได้ใช้อาวุธประเภทนี้เป็นและเชี่ยวชาญด้วย”
ผู้กองจรัสตอบทันที
      “นั่นซิ ผมถึงแปลกใจมากนัก ฝ่ายเราเสียอีกยังไม่ชำนาญเท่าพวกลูกน้องแสงสีเลย”
      “  แต่ช่างเถอะครับสารวัตร แบ่งกำลังออกปะทะตีโอบพวกลำเลียงไม้ทางเรือมาช่วยดีกว่านะ”
      “ จริงซิผู้กอง”   พลางตะโกนแจ้งรหัสไปทันที  
       ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ครั้นได้รับทราบแล้วก็แบ่งกำลังกันทันที จากสองคนกลายเป็นหนึ่งคนแยกกันทำงานทันที
      ตอนนี้ฝ่ายมาช่วยเหลือก็ตกอยู่ในวงล้อมทันทีไม่สามารถจะหนีไปไหนก็แบ่งกำลังกันต่างหันหน้าหลังเข้าต่อสู้
ทันที
      เสียงดังพรืดๆๆระงมไปทั่ว ทางสารวัตรและผู้กอง แยกกันนำคนเข้าต่อสู้ทันที  สารวัตรพลางหันมาทางผู้กอง
แล้วสั่งทันที
       “ผุ้กองไม่ต้องไปให้คอยคุมกำลังทางด้านนี้ไว้คอยช่วยเจ้าแสงสี  ผมจะนำกำลังไปช่วยพวกมาช่วยเหลือเรา”
       “ครับสารวัตร”   แล้วผู้กองก็หันหลังกลับไปยิงต่อสู้กับพวกในลานกว้างทันที  
    ฝ่ายทางด้านช่วยเหลือครั้นโดนกระหนาบทั้งหน้าหลังก็ค่อยทะยอยตายลงกัน ทีคนละคนด้วยอาวุธนั้นต่างทัดเทียม
กัน ด้านฝ่ายสารวัตรเป็นอาวุธทันสมัยใหม่ ส่วนทางมาช่วยเหลือครั้นสารวัตรมองเห็นถึงกับอ้าปากค้างแต่มือก็ยัง
ยิงไป ด้วยสายตาบัดนี้เห็นแล้วว่า เป็นใครมาช่วย คือเจ้าสินชัยนั่นเอง มันนำหน้าพวกลูกน้องมันเดินยิงเข้ามาไม่
เกรงกลัวกระสุนฝ่ายด้านลำเลียงไม้เถื่อนเลย  แค่ผงะนิดหน่อยแล้วก็เดินเข้ามาอีก ที่ทำให้สารวัตรแปลกใจยิ่งขึ้น
     คือเจ้าสินชัยใช้ปืนอาก้าและลูกน้องที่เดินเรียงหน้ากันเข้ามาก็ถือปืนอาก้ากันแทบทุกคน
เสียงดังพรืดๆๆๆระงมไปทั้งสองฝ่าย ส่วนด้านตำรวจนั้นดีหน่อยที่มีทำเลเหมาะสูงได้เปรียบกว่า 
         แต่ด้านเจ้าสินชัยเสียเปรียบด้านชัยภูมิแต่อาศัยที่กระสุนนั้นไม่สามารถระแคะระคายผิวหนังมันได้เลย
 นอกจากพวกนั้นจะเซบ้างผงะบ้างแต่ก็เดินตรงเข้ามาไม่มีที่กำบังอะไรเลย พวกผิดกฏหมาย
เมื่อเห็นพวกมันล้มตายระเนระนาด ที่เหลือต่างก็ทิ้งปืนยกมือขึ้นยอมแพ้  
เลยถูกตำรวจของสารวัตรจับได้เกือบสิบคน ทุกๆคนถูกสวมกุญแจมือทั้งสิ้น  ถูกนำมานั่งรวมกลุ่มอีกด้านหนึ่ง
       เจ้าสินชัยและพวกต่างเดินมาอย่างเป็นระเบียบกระจายกำลังออกระวังภัยให้ทันที   ส่วนสินชัยก็เข้าไป
หาสารวัตร พลางเอ่ยขึ้นว่า
    “ทางด้านโน้นเป็นอย่างไรบ้างครับสารวัตร”
    “ กำลังต่อสู้กันหนักอยู่ แต่แสงสีนำกำลังพลไปออกรบเองกับพวก  แต่ไม่ใหัพวกเราออกไปให้คอยยิงช่วยเหลือ”
สารวัตรเอ่ยขึ้น
     “ถ้าอย่างนั้น ผมลาไปช่วยพี่แสงสีก่อนนะแล้วกลับมาค่อยคุยกัน”  มันไม่รอคำตอบก็หันไปสั่งทางลูกน้องมัน
ทันที  เหล่าลูกน้องมันก็เดินผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทุกๆคนอ้าปากค้างด้วยเห็นอาวุธในมือของพวกชาวบ้านล้วน
แล้วแต่เป็นอาก้าที่ผู้ก่อการร้ายใช้นั่นเอง............
                        *  แก้วประเสริฐ.  *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus
  • อรุโณทัย

    17 ธันวาคม 2553 15:31 น. - comment id 120596

    แวะมาอ่านผลงานครับ 
    ครูเขียนเก่งจังเลยครับ
    อ่านไม่ทันเลย
    
    ขอบคุณที่เขียนให้อ่าน ครับ
  • เอื้องอังกูร

    17 ธันวาคม 2553 15:56 น. - comment id 120597

    หวัดดีครับ
    ต้องบอกว่าติดตามอ่านตลอดด้วยความระทึก
    ในดวงหทัยพลัน...
      สารภาพตามตรงว่า..แรกๆก้อไม่ได้สนใจ
    อ่านมากนัก..ด้วยว่าชื่อเรื่องไม่ชวนให้อ่าน
    ดูมันหนักๆอย่างไรชอบกล..
      แต่เปิดมาดูเรื่องสั้นทีไร..เห็นเรื่อง
    อทิสมานกาย..เขียนหลายตอนเหลือเกิน
    คิดในใจว่า..คงไม่ธรรมดาเสียแล้ว
      ก้อเลยเปิดอ่านตอนกลางๆจำได้ว่า
    ประมาณตอนที่20 นี่แหละ
      อ่านไปนิดหนึ่ง..โห..ไม่ธรรมดาจริงๆ
    เลยย้อนไปอ่านตั้งแต่บทแรก..
    มาจนครบบทที่ 50 นี่แหละครับจึงขอแสดงความคิดเห็น
       ที่ไม่แสดงความคิดเห็นหลายๆบทที่ผ่านมา
    ด้วยว่ากลัวขาดตอน..เสียอรรถรสในการอ่านครับเดี๋ยวอารมณ์ค้าง
       จึงต้องรีบอ่านให้ทันผู้ประพันธ์ก่อนครับ
    บอกตรงๆว่าเนื้อเรี่องชวนติดตามมากครับ
    เปนการผสมผสานความเก่าใหม่ของ2ยุค
    ได้อย่างลงตัว
      เรื่องนี้ผมว่าน่าจะสร้างเปนบทภาพยนต์ออกทีวีเปนตอนได้เลยนะครับนั่น..แต่..ชื่อเรื่อง
    ต้องเปลียนครับ..เพราะชื่อนี้มันยากเกิน
    หากไม่มีพื้นฐานภาษาบาลี..ก้อไม่รู้เรื่อง
    เลยนะครับ
       สรุป..ผมชอบมากครับและจะติดตามอ่าน
    จนกว่าจะอวสาน..ด้วยความระทึก...
    ในดวงหทัยพลัน36.gif16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    17 ธันวาคม 2553 20:37 น. - comment id 120599

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ อรุโณทัย
    
           ผมไม่เก่งหรอกครับอาศัยเคยเขียน
    มาบ้างเท่านั้นเอง อันที่จริงการเขียนลักษณะ
    แบบนิยายนี้จะยากมากต้องอาศัยหลายสิ่ง
    หลายอย่างมาประมวลเหตุผลให้กลมกลืน
    กัน ก็เหมือนร้อยกรองแหละครับ หากเรา
    จับจุดได้ งานที่ว่ายากก็มักจะง่ายขึ้นครับ
      ทำไมล่ะผมถึงมาทางนี้ปล่อยทางโน้นไป
    บ้าง ก็ด้วยเหตุที่ทางนี้งานด้านแบบนี้ใข้
    สมองมากกว่าปกติธรรมดา ตลอดจน
    การวางโครงเรื่องไว้ในใจและการดึงมิให้
    เกินความจริงไป โอ้ยๆๆมีหลายสิ่งหลาย
    อย่างครับ ส่วนร้อยกรองนั้นเขาจะวาง
    กรอบไว้ให้แล้วเพียงอาศัยใครเก่งอักษร
    เนื้อคำอักษรมากกว่ากันเท่านั้นเองแค่
    ผสานให้กลมกลืนกับทำนองของแต่ละ
    ชนิดก็ย่อมจะไปได้สวยครับ รักเสมอ
    งานนี้เข้าใจว่าจะผ่านครึ่งหนึ่งไปไม่มาก
    นักครับ หากผมเล่นไปแบบสนุกสนาน
    และไม่รวบรัดจนเกินไปก็ยังไปอีกนาน
    เชียวครับ แต่นี่ผมมานำเอาเรื่องยาสมุน
    ไพรไทย ขนานดั่งเดิมมาไว้จึงทำให้สมอง
    นั้นแปรเปลี่ยนไปบ้าง อาศัยว่าตำรานี้มี
    คนรจนาเพียงเอามาเสริมกับความรู้ที่ได้
    รับผสานกันเข้าไปก็ทำให้น่าอ่านขึ้นบ้าง
    แต่ผมมักจะให้เกียรติเขาไว้ อันไหนเสริม
    ผมจะวงเล็บชื่อผมลงไปด้วยครับ คุณ
    น่าจะติดตามนะครับมีประโยชน์มากครับ
    รักเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    17 ธันวาคม 2553 20:49 น. - comment id 120600

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เอื้องอังกูร
    
            ครับคงจะเป็นดังคุณว่าแหละครับ
    ด้วยชื่อเนื้อเรื่องนั้น ทำไมผมถึีงใช้ชื่อเรื่อง
    นี้เพราะเจตนารมณ์ผมแจ้งไว้ในชื่อแล้วว่า
    ต้องอยู่ในลักษณะของเทวดาชั้นที่ใกล้ชิด
    กับคนมากที่สุด และยังผสมผสานธรรมลง
    ไปอีกด้วย จึงเหมาะกับชื่อเรื่อง ผมเขียน
    เพื่อจะให้สมองได้ทำงานเพราะอายุอานาม
    ผมก็โขอยู่แล้วไม่อยากจะให้เว้นว่างไปซึ่ง
    อาจจะนำมาในเรื่องความทรงจำครับ
        ขอบคุณมากที่แวะมาอ่าน ครับนี่ผม
    คิดว่าไปเพียงแค่ครึ่งเรื่องเท่านั้นเองครับ
    หากไม่เป็นอะไรไปก่อนจบแน่ๆครับด้วย
    ผมจะเขียนทุกๆวัน หากวันไหนผมไม่ค่อย
    สบายด้วยโรคแพ้อากาศแล้วหยุดไปก็จะ
    เขียนเพิ่้มให้อีกครับ คุณคงคิดซิว่าผมได้
    เขียนไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว ผมเขียนนิยาย
    มาไม่เคยพอร์ตเรื่องเก็บไว้เลย เพราะ
    ผมมัีนมีนิสัยบ้าๆบอๆอยู่แล้ว จะแต่งขึ้น
    แบบสดๆทุกครั้งทั้งเรื่องร้อยกรองก็เหมือน
    กันครับผมชอบเขียนแบบสดๆสนุกกว่า
    แยะเชียว หากเขียนทิ้งไว้แล้วนำมาลง
    บอกตรงๆว่าไม่ผมแน่นอน มัีนไม่เร้าอารมณ์
    ผมเองครับ เวลาตรวจทานเรื่องสระนั้น
    หากเรื่องที่ยังไม่ต่อเนื่องผมจะได้เพิ่ม
    เติมได้ ทั้งหมดนี้เกิดจากจินตนาการผม
    เองทั้งสิ้น พอเวลาจับงานมันก็พลุ่งขึ้นมา
    เองทั้งแนวทางเรื่องและชื่อบุคคล ไม่รู้
    เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ผม
    เองไม่สามารถตอบได้ครับ ขอบคุณที่
    จะติดตามอ่านผลงานผม เรื่องยาวๆนี้
    ผมเขียนจบไปสองเรื่องเสียดายเรื่อง
    ลุ่มลึกอิสราวดี  ที่รวบรัดไปหน่อยครับ
    ด้วยตอนนั้นมีงานมารกสมองมากเลย
    ต้องรวบรัดแบบกระท่อนกระแท่นไปครับ
         ขอบคุณที่แวะมาชมครับขอบคุณ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน