อทิสมานกาย ๔๐ พอรุ่งขึ้นเช้า กำนันใช้ก็ต้องรีบไปแจ้งทางอำเภอและตำรวจเพื่อให้มาชัณพิสูจน์ศพ ด้วยอยู่พื้นที่ของหมู่บ้านบางโค อันเป็นถิ่นทุรกันดารใกล้แถบประเทศทั้งสองเต็มไปด้วย เทือกเขามากมายนัก สลับซับซ้อนกันไปๆมาๆ ด้วยมีคนตายในเขตพิ้นที่รับผิดชอบ ครั้นคณะชัณพิสูจน์แลเห็นศพต่างตกตลึงพรึงเพริดไปตามๆกัน ต่างคนต่างมองหน้า กันไปๆมา ด้วยสาเหตุน่าจะมาจากระเบิดด้วยสภาพของศพนั้นนอกจากระเบิดเท่านั้น ท้องไส้แตกกระจาย เครื่องในและเลือดออกมากระเด็นเต็มไปทั่วห้อง ที่อาจารย์เสิ่งปางพักอาศัยอยู่ แต่เหตุไฉนไม่มีร่องรอยของระเบิด ชิ้นส่วนของโลหะ อย่างน้อยก็ต้องมีรอยของแรงระเบิดตามฝาผนังบ้าง เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว ไม่พบร่อยรอยแต่อย่างใด ซึงควรจะมีเศษโลหะบ้าง ต่างก็ไม่พบเห็นคงเป็นสภาพเดิม ของบ้านที่ใช้สำหรับเป็นที่พักพิงอาศัยเท่านั้น ห้องก็แคบๆไม่กว้างใหญ่อะไรมากนัก นอกจากหิ้งบูชารูปปั้นต่างๆยังอยู่ปกติไม่เสียหายและแผ่นหนังควายมหึมาเท่านั้น ที่วางอยู่บนพื้นบ้านเต็มไปด้วยเลือดและเศษเครื่องในมนุษย์ ภายในบ้านล้วนไม่เสียหาย นอกนั้นอยู่ในสภาพปกติทั้งสิ้น นอกจากรอยเลือดและชิ้นส่วนของมนุษย์ หากเป็นระเบิด จริงๆแล้ว ฝาผนังก็ต้องมีรอยของระเบิดหรือก็ต้องพังทะลายลงมาบ้าง เพราะเป็นบ้านแบบกระต๊อบ หลังคาหรือก็ทำด้วยแฝกหญ้าต้องหล่นหรือแตกกระจายไป คณะชัณพิสูจน์ต่างปรึกษากัน แล้วตำรวจหันมาทางกำนันสอบถามว่า .....กำนันทำไมไม่มีหลักฐานใดๆที่เป็นคนไทยเลย หรือว่ามาจากประเทศอื่น???... เล่นเอากำนันใช้เหงื่อตกทั้งๆที่อากาศตอนนี้เย็นยังมีหมอกจางๆอยู่บ้าง ....ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ด้วยเป็นบ้านที่คงแอบปลูกสร้างในเหลือบเขา และยังไม่ได้มาตรวจสอบ ทราบเพียงแต่ชาวบ้านที่ไปหาของป่ามาแจ้งครับ กำนันตอบ ....อะไรๆคนมาอยู่ในพื้นที่แท้ๆยังไม่รู้เลยหรือนี่???.... ทั้งๆที่เป็นกำนันน่าจะรู้บ้างซิ แต่นี่มีร่องรอยของรถมาจอดไว้ แสดงว่าต้องมีการติดต่อกับผู้ตายนี่นา???... ตำรวจถาม เล่นเอากำนันชักอึดอัดใจขึ้นมาทันที แต่ก็แกล้งตีหน้าเซ่อๆไว้ แล้วกล่าวว่า .....แถวนี้ล้วนเชื่อมต่อชายแดน แล้วมีป่าชัฏมากมายอาจจะเป็นคนที่นิยมศรัทธา ด้วยเห็นสภาพการตั้งโต๊ะหมู่บูชาเป็นพระฤๅษี กุมารต่างๆ ภายในวางหน้าเครื่องโต๊ะบูชา น่าจะต้องเป็นพวกอาจารย์หรือหมอผีทำนองนั้นแหละ ที่คนศรัทธามาก็ได้ครับ กำนันใช้ตอบ ทางด้านตำรวจมองสภาพพื้นที่เป็นบ้านโดดเดี่ยวในป่าลึกก็ไม่ว่าอะไรพลางหันหน้าไป ปรึกษากับพวกอนามัยและทางอำเภอทันที่ว่าจะทำรายงานกันอย่างไรดีล่ะเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมต้องทำรายงานส่งเขาด้วยแต่นี่ไม่ใช่คนไทยแน่นอนครับ อาจจหลบหนีเข้ามาแน่นอน ครั้นปรึกษากันเสร็จเรียกกำนันมาร่วมด้วย ให้ช่วยแสดงความคิด กำนันใช้ก็ออกความ เห็นว่า .....ผมคิดว่าเป็นพวกแอบหลบหนีการไล่ล่ามาจากฝั่งโน้นแล้วมาตายที่นี่ก็แล้วกันครับ ด้วยไม่มีหลักฐานอะไรเลย ลักลอบเข้ามาปลูกกระต๊อบอยู่จะได้หรือไม่ครับ ทางพวกอำเภอและอนามัยก็เห็นคล้อยตามด้วย แล้วพลางหันไปทางตำรวจกล่าวขึ้นว่า ......ผมว่าก็ดีเหมือนกันนะครับ ด้วยเราไม่มีหลักฐานการตายของศพนี้เสียเลย เพียงท้องแตก ตายแล้ว ไม่มีร่องรอยของระเบิดเสียด้วย ทางตำรวจจะว่าอย่างไรดีล่ะ???... .....ในเมื่อเหตุการณ์เช่นนี้ผมก็จะสรุปว่า โดนระเบิดแล้วแอบหลบหนีมาฝั่งเราก็แล้วกันนะครับ ......ดีเหมือนกันทางผมก็จะทำเรื่องการชัณพิสูจน์ศพไว้ให้คุณเป็นหลักฐานพร้อมให้กำนัน เซ็นต์รับรู้ไว้ก็คิดว่าจบเรื่องได้แล้ว ว่าเป็นพวกหลบหนีเข้าเมืองมา คณะชัณพิสูจน์ศพกล่าว ....ครับดีครับด้วยเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นอะไรตาย อีกอย่างหนึ่งก็ไม่ใช่คนไทยเสียด้วย ผมจะเสนอรายงานปิดสำนวนเสียเลย เรื่องๆจะได้จบเสียที งั้นพวกเรากลับกันได้แล้วครับ ทางด้านตำรวจกล่าวขึ้น คณะชัณพิสูจน์ศพและตำรวจก็หันมาทางกำนันใช้ทันทีพลางกล่าวว่า..... ...เรื่องหลักฐานเกี่ยวกับบ้านนี้ ให้ทางกำนันเผาทิ้งไปอย่าให้มีหลักฐานก็แล้วกัน มิฉะนั้นทางกำนันก็ต้องเดือดร้อนแน่ๆ คณะชัณพิสูจน์กล่าว.... กำนันใช้แสนจะดีใจรู้สึกว่าโล่งอกไปจึงกล่าวว่า .....ครับทางนี้ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะให้พวกชาวบ้านไว้ใจได้มาช่วยจัดการเสีย หลังจากพวกท่านทั้งหลายกลับไปแล้ว จะเกลี่ยที่ให้คงสภาพป่าเดิมๆไว้ครับ .....ดีเหมือนกันคณะชัณพิสูจน์ศพกล่าวกันทั้งหมด แล้วต่างพากันสนทนาเดินออกไป พลางหันหน้ามากำชับไว้อีกด้วยว่า.... ......เอาล่ะเรื่องด้านนี้เป็นหน้าที่ของกำนันก็แล้วกัน ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นว่าตกลงกันตามนี้นะ .....ไม่ต้องห่วงหรอกครับผมจะจัดการให้เร็วที่สุด ขอบคุณมากครับสำหรับพวกท่านทั้งหมด กำนันใช้ก็ยกมือไหว้ .....ถ้าอย่างนั้นพวกเรากลับกันได้แล้วครับ คณะชัณพิสูจน์ศพเอ่ยขึ้น แล้วทางอนามัยอำเภอก็เซ็นต์หนังสือมอบให้แก่ตำรวจเพื่อไปใช้ในการสรุปคดีสำนวนหลักฐาน แล้วต่างก็เดินทางแยกย้ายกันกลับไป..... ภายในห้องแผ่นหนังควายมหึมาก็เกิดไฟลุกท่วมทั้งแผ่นไหม้จนละลายไปจนหมดสิ้นหายไป ส่วนทางกำนันใช้และพรรคพวกบางคนถึงกับเหมือนยกภูเขาออกจากอก กำนันใช้หันไปสั่ง พวกทันที .....เฮ้ย!!!!!.......พวกมึงรีบจัดการเดี๋ยวนี้เลยนะ กูเกือบจะเดือดร้อนเสียแล้วซิ ทำลายหลักฐาน แล้วเกลี่ยอย่าให้เหลือร่องรอยเลยนะ เดี๋ยวพวกเขาเปลี่ยนใจกูก็จะลำบากด้วยกำนันสั่ง ดังนั้นไม่นานนัก บ้านที่พักของอาจารย์เสิ่งปางก็ถูกเผาพร้อมซากของอาจารย์เสิ่งปางไหม้ หมดไปไม่นานนัก เมื่อกำนันเห็นดังนั้นก็ให้บรรดาเด็กๆไปตัดกิ่งไม้มากองสุมไว้เกลี่ยให้คง สภาพเดิมไว้ทันที แล้วก็นำพวกทั้งหมดเดินทางกลับบ้านทันที ระหว่างการเดินทางกลับนั้นก็บอกว่าเมื่อส่งกูเสร็จแล้วพวกมึงก็ไปวัดบ้านเราให้นิมนต์พระมา ทำบุญบ้านด้วย กูนอนไม่หลับทั้งคืนเลยล่ะ มันส่งเสียงรบกวนหมาหรือมันก็เห่าหอนทั้งคืนจน บรรดาเมียกูและลูกๆด้วย จึงต้องนิมนต์มาเลี้ยงพระทำบุญแผ่กุศลไปให้แก่พวกมันบ้างว๊ะ..... .....แล้วจะเป็นเมื่อไหร่ล่ะพ่อกำนันในการทำบุญนี้นะ จะเอาพระกี่รูปล่ะ???? พวกกำนันถาม .....ได้เท่าไหร่เอาเท่านั้นแหละว๊ะ สักห้ารูปก็ได้ว๊ะ มะรืนนี้ก็แล้วกัน กำนันใช้ตอบ ดังนั้นพอส่งกำนันเสร็จบรรดาเด็กๆก็นำรถไปยังวัดข้างหมู่บ้านทันที เพื่อนิมนต์พระตามที่กำนัน แจ้งไว้ เมื่อครบกำหนดวันเวลาทางบ้านกำนันใช้ก็จัดการเลี้ยงพระทำบุญบ้าน อุทิศส่วนกุศลให้ แก่พวกเหล่าวิญญาณพวกมันติดตามพวกเขามาจากบ้านอาจารย์เสิ่งปาง ครั้นเมื่อกำลังตรวจน้ำอุทิศส่วนกุศลนั้น เสียงร้องแว่วอนุโมทนาเยือกเย็นแผ่วเบาๆจนทุกคน ต่างมองหน้ากันและกัน ตลอดจนพระที่กำลังสวดอนุโมทนาอยู่ มันล่องลอยผ่านสายลมเข้ามา ภายในบ้านกำนันใช้ทันที บัดดลเสียงนั้นก็ค่อยๆจางหายไป เล่นเอาพระที่นั่งอยู่กำลังสวดมนต์ถึงกับสะดุ้งไปตามๆกัน ท่านทุกๆองค์ได้ยินกันทั้งสิ้นแต่ก็ พยายามระงับสติเสียงสวดมนต์สั่นเครือกันไปทุกๆรูป ครั้นเสร็จเรียบร้อยแล้วกำนันและทุกหมดที่ได้ยินกัน แม้ถึงจะเป็นเวลากลางวันก็ตามที เสียงนั้นช่างเยือกเย็นโหยหวนยิ่งนัก กำนันจะใช้ใครเอาน้ำไปเทรดใต้ต้นไม้ใหญ่ภายใน บริเวณบ้าน ต่างถูกปฏิเสธกันหมดสั่นหน้าดวงตาหล่อกแหล่กๆกันไปๆมาๆ ลูกน้องบางคนพลันกล่าวว่า .....ให้ไปสู้กับคนยังดีกว่า ถึงจะตายก็ไม่กลัว บอกตรงๆว่าพวกผมทุกๆคนไม่กล้าจริงๆพ่อกำนัน ซึ่งกำนันใช้ก็รู้ถึงความรู้สึกของพวกมันดีว่าอะไรเป็นอะไร ในเมื่อไม่มีใครรับอาสาไปเทน้ำนั้น กำนันจำต้องเดินขาสั่น นำน้ำที่กรวดไว้ไปเทคนเดียวด้วยคิดว่าเป็นกลางวันคงไม่ปรากฏตัว เมื่อเสร็จก็รีบกลับเข้าบ้านทันที พระท่านก็รีบขอลากลับวัด ทุกๆองค์กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า .....กำนันช่วยให้คนเอารถไปส่งให้ด้วยนะ อาตมาคงจะเดินกลับเหมือนก่อนไม่ได้แล้วล่ะ ดังนั้นกำนันหันไปสั่งเด็กๆให้ขับรถไปส่งพระที่วัดหน่อย .....หากใครกล้าไปส่งพระแล้วกลับมากูจะให้รางวัลพวกที่ไปส่งพระว๊ะ หากใครไม่ไป ไม่ต้องมาแดกเหล้าแดกข้าวของของกูนะโว้ย กำนันกล่าวขึ้น เมื่อได้ยินว่ามีรางวัลที่กำนันจะให้ก็ชักชวนกันไปหลายๆคน เพื่อนำพระไปส่งที่วัดแล้วจะ ได้รีบกลับมา ก่อนไปพวกมันเดินไปค้นเอาเหล้ามาดื่มๆเพียวๆกันคนละหลายๆอึกย้อมใจพวกมัน แล้วรีบนำรถมารับพระไปส่งวัดทันที........ ส่วนกำนันหวนครั้นถึงทางแยกไปบ้านอาจารย์เจี๊ยะเปิ้งก็หยุดรถ พลางโบกมืออำลารถ ของเสี่ยหว่างซึ่งแล่นตรงไปข้างหน้า แล้วพวกมันก็ขับรถแยกไปอีกทางเพื่อไปบ้านอาจารย์ เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณบ้านอาจารย์ที่พวกมันเชิญมาจากเขมรนั้น เห็นเสียงเงียบเชียบต่าง ก็ชักสงสัย ปกติแล้วเวลาเขามาเยี่ยมก็จะเห็นประตูหน้าต่างเปิดอยู่ อาจารย์จะมาคอยต้อนรับ แต่นี่เงียบเหมือนไม่มีคนอยู่เลยก็ให้นึกสงสัย ครั้นเดินทางมาถึงหน้าบ้าน แล้วต่างคนต่างลงจากรถ พอทุกๆคนเดินไปใกล้ๆประตูบ้านอาจารย์เจี๊ยะเปิ้ง ก็เอะใจด้วยคล้าย สัตว์กำลังกินอะไรอยู่ดังเกาะๆแกร๊กๆคล้ายๆกำลังแทะกระดูก จึงรีบเดินไปทางประตูผลักประตูดู ก็เปิดออกง่ายดายนัก ก็ถือวิสาสะเดินเข้าไปยังห้องทันทีในฐานะคนคุ้นเคยกัน ครั้นแลเห็นสภาพ ภายในพวกมันต่างพากันชะงักกันไปตามๆกัน ถอยหลังกันกรูดๆทั้งหมด แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างของตะขาบสีแดงสดๆตัวมหึมากำลังแทะร่างของอาจารย์ เจี๊ยะเปิ้งอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ เล่นเอาพวกมันชะงักรีบพากันถอยกรูดหันหลัง พลางวิ่งไปยังรถกะบะ แล้วรีบขับออกไปทันที กำนันหันไปมองทางประตูบ้านอาจารย์เจี๊ยะเปิ้งเห็นหัวตะขาบตัวเบ้อเริ่ม กำลังโผล่หน้าออกมาจากประตูบ้าน แลเห็นหัวมันใหญ่โตมาก ก็สั่งให้ลูกน้องมันเหยียบคันเร่งรถให้ รีบแล่นหนีไปโดยเร็ว หลังจากพวกกำนันหนีไปนั้นภายในห้องนั้นร่างตะขาบยักษ์ก็บังเกิดเปลวไฟลุก ขึ้นท่วมร่างมันจนมอดไหม้เป็นจุลละอองปลิวหายไปกับสายลมทันที...... พวกมันนึกในใจกันว่า หากช้ากว่านี้สงสัยไอ้ตะขาบมันคงจะแว้งกับมากัดพวกมันแน่นอน เลยดีนะที่เห็นมันกำลังแทะร่างอาจารย์เพลินอยู่ไม่ได้สนใจอะไรพวกมัน ที่กำลังเดินเข้าไปมากนัก เสียงกำนันหวนสั่งมาว่า ......พวกมึงไม่ต้องกลับบ้านว๊ะให้เลยไปหมู่บ้านบางกระดี่ก่อน กูจะเล่าเหตุการณ์ให้กำนันมั่นมันฟัง ลูกน้องมันพยักหน้าแล้ว รถก็แล่นเลยทางเข้าหมู่บ้านตรงไปทางหมู่บ้านบางกระดี่ทันที ครั้นเดินทางมาถึงก็บีบแตรเรียก สักครู่หนึ่งก็มีคนมาเปิดประตูบ้านครั้นแลเห็นเป็นกำนันหวน เด็กเปิดประตูก็ยกมือขึ้นไหว้ แล้วรถก็แล่นไปจอดยังหน้าบ้านอาจารย์มั่นทันที กำนันหวนรีบเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อหากำนันมั่นก็แลเห็นกำนันใช้นั่งสนทนากันอยู่แล้ว ครั้นกำนัน หวนได้รับฟังเหตุการณ์เรื่องของอาจารย์เสิ่งปางและบางสิ่งบางอย่างก็ตกใจสายตาพลันเหลียวซ้ายแลขวา ครั้นแล้วมันก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ กำนันมั่นและกำนันใช้ฟังว่าไปเจออะไรมา กำนันใช้กล่าวว่า .....ดีนะที่มึงมาที่นี่เสียก่อนไม่เจอเหมือนพวกกูมึงจะต้องตกใจเป็นสองเท่าว๊ะ กล่าวกับกำนันหวน กำนันหวนพลางหันไปปรึกษากำนันมั่นทันทีว่าควรจะทำอย่างไรกับอาจารย์เจี๊ยะเปิ้งดี หากปล่อยไว้คงจะ เหมือนไอ้ใช้เสียหรอก นี่ดีนะที่กูทำแกล้งเซ่อบอกว่ามันลอบหลบนี้เข้ามาสร้างกระต๊อบไว้เอง กำนันมั่นยังไม่ทันกล่าว กำนันใช้ก็ตอบแทนว่า .....กูว่าให้มึงรีบไปทำลายบ้านอาจารย์เจี๊ยะเปิ้งด่วนด้วย มิฉะนั้นเดี๋ยวพวกอำเภออนามัยตำรวจมา ก็จะเหมือนกูหรอกว๊ะ .....ทำอย่างไอ้ใช้บอกแหละดีแล้วรีบทำลายหลักฐานเสียก่อน เรื่องจะบานปลาย กำนันมั่นตอบ กำนันหวนพลันหันมาถามกำนันใช้ว่าแล้วมึงเจออะไรบ้างล่ะ???... ......พวกกูเจอพวกผีที่มันเลี้ยงมาซิว๊ะมันตามมาขออยู่กับพวกกูด้วย เป็นมึงจะเลี้ยงไหมว๊ะไอ้หวน ....กูก็ไม่เอาแหละโว้ย!!!....ผีนะโว้ยไม่ใช่คน แล้วมึงทำอย่างไรกับบ้านอาจารย์เสียล่ะ???.... แล้วกำนันใช้ก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กำนันหวนฟัง กำนันมั่นฟังก็เสียวสันหลังวาบดีนะที่อาจารย์ดำ ตายนั้นยังมีพวกตำรวจจ่าเจี่ยมและทางอำเภอเป็นพวกมันอยู่ มิฉะนั้นคงจะยุ่งยากเกิดขึ้นแน่นอน .....แล้วทำไมถึงมาหากำนันมั่นเร็วอย่างนี้ล่ะว๊ะ เวลามันก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่นี่หว่า???...กำนันหวนสงสัย .....กูพอสั่งให้ลูกน้องไปนิมนต์พระแล้วก็รีบบึ่งรถมาหาไอ้มั่นเพื่อปรึกษากัน เพื่อจะให้เสี่ยรู้ว่าจะพึ่งพา อาศัยอาจารย์เสิ่งปางไม่ได้เสียแล้ว แล้วมะรืนนี้ถึงจะทำบุญเลี้ยงพระแผ่อุทิศส่วนกุศล ให้แก่พวกผีๆทั้งหลายที่มันตามกูมาว๊ะ กำนันใช้ตอบกำนันหวน .....ถ้าอย่างงั้นกูเห็นจะต้องทำแบบเดียวกับมึงแหละโว้ย กูระหว่างกลับบ้านรู้สึกมีอะไรแปลกๆเหมือนกัน แต่กูไม่กล้าบอกพวกลูกน้องกู แสร้งทำใจแข็งไว้ มึงเอ๊ยไอ้ใช้ตะขาบพ่อตะขาบแม่อะไรไม่รู้ขนาดหัวมัน ใหญ่เท่าประตูบ้านเลยว๊ะ ดีนะกูแล่นรถไปห่างกับมันแต่หันหลังไปมอง มันโผล่หัวออกมาดูเท่านั้นแล้วมัน ก็หดหัวหายกลับคืนไปว๊ะ กำนันหวนพูดแล้วพลางยกแขนให้พวกดู ขนที่แขนมันชูตั้งเลย .....มิฉะนั้นกูกับลูกน้องกูสงสัยจะไม่เหลือกลับมาหรอกว๊ะ กำนันหวนกล่าวแสดงอาการสยดสยอง .....มันแทะเนื้อกินและหัวหมดเลย สงสัยกระดูกก็คงจะไม่เหลืออะไรอีกแล้วว๊ะ กูคิดเช่นนั้นไอ้ใช้ ....หากเป็นเช่นมึงว่า กูก็ว่าคงจะไปเหลืออะไรเล่า???.... กำนันใช้กล่าว ....เอาล่ะเรื่องนี้จบได้แล้วโว้ย!!!!!!!......เดี๋ยวกูจะให้คนไปบอกเสี่ยเม้ง ให้แจ้งไปให้เสี่ยหว่างทราบอีก ส่วนทางกูเองก็เห็นจะต้องทำแบบมึงแหละแต่ดีอย่างหนึ่งที่ได้ยินแค่เสียง หมามันหอนทุกๆคืนเลยว๊ะหาก เป็นเช่นมึงกูคงจะตายแน่ๆ ด้วยกูเป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย กำนันมั่นกล่าว ....รีบส่งคนไปแจ้งได้แล้วล่ะไอ้มั่น กำนันหวนและกำนันใช้กล่าวเป็นเสียงเดียวกัน .....เออ!!!!....พอดีไอ้แม้นลูกกูมันค่อนข้างหายดีแล้วจะไปหาหมอในเมืองกูก็จะใช้ให้มันไปแจ้งเสียเลย เรื่องจะได้จบลง แต่ว่าเรื่องงานที่รับปากเสี่ยหว่างจะว่าอย่างไรกันล่ะ???....กำนันมั่นถาม ....เรื่องนั้นมันวันศุกร์ตอนเช้าคงทันหรอก มึงรีบๆไปจัดการเรื่องของเราก่อนก็แล้วกัน ค่อยๆส่งคนไปช่วย ....อืมม???....จริงของมึงว๊ะ ถ้าอย่างงั้นให้พวกเราเตรียมตัวหากสำเร็จกูว่า เงินมันคงมากโขอยู่นา ด้วยไอ้ เสี่ยหว่างมันใจสปอร์ตมากกว่าเสี่ยเม้งเสียอีกว๊ะ กำนันมั่นกล่าวลอยๆ กำนันหวนและกำนันใช้มองหน้ากัน พลางยิ้มออก กล่าวว่า ....จริงของมึงว๊ะไอ้มั่น ดูมันจ่ายล่วงหน้าให้พวกเราคนละๆหลายหมื่นเชียว หากสำเร็จกูว่าหลายแสนล่ะว๊ะ งานนี้คงจะเหยียบล้านแน่ๆเลย เพี้ยงขอให้สำเร็จทีว๊ะ ดีกว่าไปทำงานให้เสี่ยเม้งเสียอีก ....ข้อนี้ก็จริงของมึงแหละว๊ะ!!!!..... แต่ว่างานเสี่ยหว่างมันไม่เหมือนกับงานเสี่ยเม้งนะเราได้หลายๆทางว๊ะ ไหนขายของให้มันก็ได้เปอร์เซ็นต์ ขนของให้มันก็ได้เงินก้อนโตๆ แล้วงานมันมีแทบทั้งปี ส่วนเสี่ยหว่างนั้น ก็พึ่งจะมีมานี้แหละว๊ะ หากไม่จำเป็นคงไม่ตกมาถึงพวกเราหรอก กูว่าจริงไหม???.....กำนันมั่นเอ่ยขึ้น .....อืมม???....จริงของมึงว่าไอ้มั่นหากคิดๆแล้วมันจะมากกว่าเสี่ยหว่างอีกนะ นั่นมันได้เพียงก้อนเดียวแต่ก็ คุ้มว๊ะ เราก็เอามันทั้งสองทางแหละว่า เป็นไงไอ้ใช้จริงหรือเปล่าล่ะ???.....กำนันหวนกึ่งถามกึ่งตอบ .....ที่มึงพูดมาก็ถูกทั้งหมดและว๊ะ แล้วหันไปทางกำนันมั่น พลางเร่งให้กำนันมันเร่งหน่อยรายงานเรื่องอาจารย์ทั้งสองด้วยนะ เดี๋ยวมันจะหา ว่าเราแหกตามัน ต่อไปงานก็จะลำบาก ทางกำนันมั่นก็พยักหน้า ..... งั้นพวกกูก็จะกลับบ้านแล้วว๊ะเสร็จงานบุญก็คงจะเหลือวันเดียว จะได้จัดเตรียมกำลังไว้ไปทำงานเสียเลย .....ตามสบายว๊ะไอ้หวนไอ้ใช้ ส่วนเรื่องเสี่ยนี้กูจะรีบให้ไปรายงานให้ทราบ อ้อๆๆๆไอ้หวนก็เหมือนกันไป คราวนี้จัดการทำลายหลักฐานให้หมดนะ แต่มึงอย่าพึ่งสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปให้ใช้น้ำมันราดรอบๆบ้านค่อยเผานะ เดี๋ยวเสือกไอ้ยักษ์มันอยู่ จะทำให้พวกมึงแย่กันถูกแดกกันหมดเสียล่ะ........ ....เออๆๆๆขอบใจว๊ะกูก็คิดเช่นมึงแหละว๊ะ จะสั่งมันให้ฉีดน้ำมันใส่ไปในบ้านไม่ต้องให้เข้าไปราดบ้านเดี๋ยว หากมันอยู่ก็จะยุ่งกันใหญ่แล้วค่อยจุดไฟเหวี่ยงไปเผาเสร็จกลบร่องรอยเสียด้วย ถ้าอย่างนั้นกูจะรีบกลับบ้านไปทำเรื่องของพวกกูก่อนไปล่ะไอ้มั่น ....เออไปเถอะว๊ะ กำนันมั่นกล่าวแก่ทั้งสองกำนัน ครั้นกำนันทั้งสองกับพวกออกไปแล้ว กำนันมันก็หันมาสั่งเด็กให้ไปเรียกลูกชายมันทันที พอไอ้แม้นขึ้น มาพบพ่อเพื่อสอบถามว่ามีเรื่องอะไร กำนันมั่นก็เล่าเรื่องต่างๆให้ฟังแล้วบอกว่า ....พรุ่งนี้มึงเข้าเมืองไปแล้วก็ไปหาเสี่ยเม้งด้วยว่า อาจารย์เสิ่งเปิงและอาจารย์เจี๊ยะเปิ้งตายห่าหมดแล้วและ ได้ทำลายหลักฐานไปแล้ว ส่วนกำลังคนทางเราและทางกำนันหวนและกำนันใช้เตรียมพร้อมอยู่แล้วให้ ไปบอกเสี่ยหว่างด้วยว่า ทั้งหมดพร้อมแล้วโว้ย .....จ๊ะพ่อข้าจะรีบไปรีบกลับแล้วมารายงานให้พ่อทราบโดยเร็ว พรุ่งนี้ข้าจะไปล่ะ ไอ้แม้นกล่าวรับคำ แล้วมันก็ลงจากบ้านไปร่วมวงกินเหล้ากับพวกไอ้สนไอ้เบี้ยวและบรรดาอีสาวๆทั้งหลาย เสมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น.......... * แก้วประเสริฐ. *