อทิสมานกาย ๓๔ หลังจากที่ชายหนุ่มตื่นนอนชำระล้างร่างกายแล้ว ครั้นขึ้นมายังบนบ้านก็ เห็นหญิงสาวชบานั่งคอยอยู่ที่ถาดอาหาร ซึ่งเตรียมจัดอาหารนั่งคอยอยู่แล้ว เขาทักทันทีว่า..... น้องพี่เป็นอย่างไรบ้างรู้สึกอึดอัดหรือเปล่าล่ะน้อง????...... ตอนนี้น้องไม่เหมือนเก่าแล้วน๊ะ.... หญิงสาวหัวร่อ พลางตอบว่า ก็อึดอัดบ้างจ๊ะพี่...แต่ต่อไปคงจะชินเองแหละจ๊ะ รีบทานอาหารเสียก่อนเถอะ....... แกงเลียงข้าวกำลังร้อนๆอยู่ หากเย็นลงแล้วจะไม่อร่อยจ้าหรือว่าอาหารที่ทำนั้น จะอร่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะพี่ด้วยไม่เคยทำมาเลยทั้งหมดนี้ เป็นฝีมือของน้องทำเองจ้า จำมาจากแม่จ้าพี่???... หญิงสาวตอบชายหนุ่ม พลางมองใบหน้าชายหนุ่มที่แต่งตัวอยู่กับบ้าน แบบลูกทุ่งธรรมดาทั่วๆไป ชายหนุ่มนั่งลงและกำลังนั่งใช้มือเปิบกินข้าวไป ซดน้ำแกงและผักจิ้มน้ำพริกไปด้วย หญิงสาวมอง แอบนึกในใจว่าช่างเป็นชายงามรูปหล่อ นักอายุล่วงเข้าไปสี่สิบกว่าๆเท่านั้น แต่ทำไมดูเหมือนราวๆอายุพึ่งจะสามสิบอ่อนๆเอง ซ้ำรูปร่างก็หุ่นงามอีกด้วย เปรียบไปคล้ายๆดารา หล่อนรำพึงกับตนเอง แล้วก้มหน้าเงยหน้ามองสลับกัน ชายหนุ่มก็บอกว่าให้จัดอาหารจากที่นี่ แบ่งไปให้เจ้าแสงสีสินชัยไว้ด้วยนะชบา จ๊ะพี่หนูเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว และได้นำไปวางบอกพี่แสงสีพี่สินชัย ให้ทานอาหารแล้วจ้า....เห็นพี่ทำก็ทำตาม ดีแล้วจ้าต้องทุกๆวันด้วยนะจ๊ะน้อง ชายหนุ่มกล่าวขึ้น ครั้นแล้วชายหนุ่มก็ลงมือกินอาหาร กินไปก็พูดไปว่า ฝีมืออาหารไม่เลวนี่ ชบาอร่อยมากเสียด้วย ไม่เลวนะต่อไปคงจะเก่งขึ้น กว่านี้อีกและคงทำได้หลายๆอย่าง ทำเอาใบหน้าชบาซึ่งมัวแต่จ้องมองใบหน้าของชายหนุ่ม ครั้นได้ยินชายหนุ่มชมเท่านั้นถึงกับแดงระเรือๆขึ้นมาทันที พี่ล้อชบาเล่นหรือเปล่าล่ะ!!!!???..... นี่เป็นครั้งแรกที่ชบาทำอาหารนะพี่ หญิงสาวตอบ จริงๆนะน้อง อร่อยจริงๆเสียด้วยซิ แล้วก็รีบลงมือกินอาหารโดยเร็ว พลางพูดว่า พี่จะเข้าไปในจังหวัดเสียหน่อยนะ หากพ่อแม่ถามก็บอกท่านว่าพี่ไปธุระ ขากลับจะซื้อของมาฝากชบาด้วย แต่ต้องแวะไปกราบหลวงพ่อทองก่อนจะเข้าบ้านจ้า จ๊ะพี่แล้วพี่จะเอาพี่แสงสีและพี่สินชัย ไปด้วยหรือเปล่าล่ะ???... หญิงสาวถาม คงไม่หรอกจ้า...พี่จะไปคนเดียว เดี๋ยวเสร็จแล้วจะไปแต่งตัวแล้วเอารถมอเตอร์ไซค์ คันเก่าๆของพ่อไปด้วย บอกพ่อแม่ด้วยท่าน คงจะรู้หรอกว่าพี่ไปทำไม ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น อ้าวๆๆแล้วพี่ตั้งแต่มาอยู่นี่ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนเลย ไม่อันตรายหรือ???... หญิงสาวเป็นห่วง คงไม่เป็นไรหรอกจ้าชบา พี่รักษาตัวองได้จ้า พี่อิ่มแล้วขอบใจมากนะ เดี๋ยวจะรีบไปสักหน่อย นี่ก็สายแล้วล่ะ พอชายหนุ่มล้างบ้วนปาก เช็ดผ้าเช็ดมือ ที่สาวชบาเตรียมไว้ให้แล้ว ก็เดินเข้าห้องไป ครั้นชายหนุ่มออกห้องมาเล่นเอาสาวชบา ถึงกับตลึงตกใจมาก พลางทำตาโตแล้วถามว่า ทำไมพี่ถึงแต่งตัวอย่างนี้ล่ะไหนๆไปในเมืองทั้งๆที ควรจะแต่งตัวดีกว่านี้นะ สาวๆในเมืองเขาสวยๆกันนะพี่ กลับนุ่งกางเกงขาสั้นเก่าๆขาดๆที่ปะไว้ ซ้ำเสื้อก็มอซออีกด้วย ปล่อยชายดูคล้ายๆๆๆแล้วหยุดเอ่ยขึ้น ผ้าคาดพุงหรือก็เก่าๆมากเสียด้วย ชุดที่ดีๆก็มีอีกถมเถไปทำไมไม่แต่งเสียล่ะพี่ หญิงสาวฉงนใจ ชายหนุ่มหัวร่อพลางพูดว่า ไปอย่างนี้แหละดี จะได้ไม่มีคนสงสัยจ๊ะ แล้วชายหนุ่มตัดบทว่าชุดอะไรๆก็เหมือนๆกันแหละ พลางเดินไปเพื่อลงจากบ้าน พี่ไปก่อนนะชบาพูดเสร็จก็ก้าวลงบันไดบ้าน เสียงรถมอเตอร์ไซค์ สตาร์ทเครื่องแล้วแล่นรถออกไป จากบริเวณบ้านทันที เสียงก็เงียบหายไป หญิงสาวก็รีบเก็บข้าวของไปล้างแล้วรีบเช็ดถูบ้าน ให้สะอาด เก็บจัดข้าวของเสียใหม่ให้แลดูสวยงาม ภายในจังหวัด ชายหนุ่มขับมอเตอร์ไซค์คันเก่า วนเวียนไปรอบๆตัวเมือง เขาตรวจดูทุกๆทางแยก ทุกๆซอกทุกๆมุม ตลอดจนที่ทำการราชการทั้งหมด ตั้งแต่เขามาถึงยังไม่เคยที่จะมาเที่ยวในเมืองเลย เห็นว่าช่างเจริญมากนักกว่าสมัยเขายังเป็นนักเรียนเสียอีก ครั้นตรวจเรียบร้อยบนถนนก็กว้างใหญ่มีไฟและตำรวจจราจร เฝ้าทางแยกอยู่เกือบทุกทางแยก เขาพลางขับรถไปยัง ตำรวจจราจรคนหนึ่งพลางถามหนทางไปยังโรงพักตำรวจ ตำรวจคนนั้นมองใบหน้าและร่างกายซึ่งตอนนี้เผ้าผม เขากระเซิงไปหมด เนื้อตัวสกปรกด้วยฝุ่นที่เขาเดินทางมา ตำรวจคนนั้นเห็นเช่นนั้นแล้วถามว่า???... เอ็งจะไปโรงพักทำไหมหรือว๊ะ...เห็นวนไปๆมาๆน่าสงสัย ชายหนุ่มตอบว่าจะไปหาเพื่อนคนหนึ่งนัดไว้หน้าโรงพักครับ บ้านผมอยู่แถบภูเขาไม่เคยเข้าเมืองเลย ฝุ่นแยะเลยดูมอมแมมไป แล้วเอ็งมีใบขับขี่รถหรือเปล่าว๊ะ???...... ตำรวจชักสงสัยด้วยเห็นรถเก่ามากๆ ขอดูหน่อยได้ไหม ผมทำผิดกฏจราจรหรือครับ มีครับพลางล้วงส่งใบขับขี่รถ ที่เขาทำไว้ในในกรุงเทพฯให้ตำรวจดู เมื่ออ่านใบขับขี่แล้วพูดว่า เอ็งมาจากกรุงเทพฯหรือนี่ การพูดเจรจาของมึงนั้น... ไอ้ห่า!!!!ทำเป็นหัวหมอรู้กฏจราจรด้วย หรือเรียนกฏหมายมาด้วยหรือเปล่าล่ะ???..... ทำไมแต่งตัวเหมือนพวกขอทานว๊ะ จะแต่งตัวให้ดีๆกว่านี้ไม่ได้หรือว๊ะ แต่งตัวเหมือนพวกหัวขโมยนักล้วงกระเป๋า มึงอย่าคิดว่าในจังหวัดนี้ทำกันง่ายๆนะโว้ย????...... ไหนขอดูย่ามเอ็งหน่อยนะ พลางคว้าย่ามมาตรวจค้น แต่ไม่พบอะไรเลย ที่ผิดกฏหมายสักอย่างเดียว เพียงแค่สมุดดินสองเท่านั้นเอง จึงส่งคืนให้ ครับท่านผมมาเยี่ยมพ่อแม่แล้วก็จะกลับไปกรุงเทพฯ ชายหนุ่มตอบพลางมองยศบนบ่า เป็นแค่นายสิบเท่านั้นเอง เขานึกทำไมพูดจาช่างโฮกฮากนัก เหมือนจะข่มขู่ประชาชนทั่วๆไป คงเป็นนิสัยมันกระมัง เขาคิด โน่นๆๆมึงขับเลี้ยวซ้ายมือไปอีกนิดเดียวก็ถึงโรงพักแล้ว พลางยื่นใบขับขี่ส่งคืนแต่ไม่วายมองตลอดหัวเขาตลอดเท้า ชายหนุ่มหัวร่อในใจฮีๆๆๆ.....พลางเร่งรถไปทันที ครั้นถึงทางแยกก็เลี้ยวซ้ายมือทันที ก็เห็นโรงพัก สร้างด้วยตึกแต่มีเนื้อที่บริเวณกว้างขวางนัก มีตึกเล็กๆสร้างอยู่ข้างๆโรงพัก ในบริเวณมีรถยนต์ต่างๆจอดเรียงรายเต็มไปหมด เขาหาทางจอดรถได้ข้างๆร้านอาหารที่เปิด ไว้บริการเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่มาใช้บริการ ชายหนุ่มมองเข้าไปในร้านนั้นจัดโต๊ะอาหารเป็นรูปโต๊ะยาวๆ แต่มีประมาณสามสี่โต๊ะยาววางเรียงรายด้วยเก้าอี้เก่าๆ ไว้ให้คนมานั่งกินอาหาร อีกด้านหนึ่งมีโต๊ะอาหารสี่เหลี่ยมไม่กี่โต๊ะ แยกไว้ต่างหากจากโต๊ะยาวๆ ล้วนแล้วเป็นของใหม่ๆเกือบทั้งหมด ส่วนที่จำหน่ายอาหารอยู่ริมอีกแถบหนึ่ง มีจำนวนหลายๆร้าน คนทานต้องไปสั่งแล้วนำมากินกันเอง ตอนนี้มีคนทะยอยนั่งกิน อาหารกันอยู่บ้างแล้ว และกำลังคุยกันไปบ้าง แต่ยังไม่มากนัก ยกเว้นโต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กๆนั้นยังไม่มีคนไปนั่งสักคนเดียวเลย ชายหนุ่มหลังจากจอดรถไว้เรียบร้อยแล้ว ก็เดินไปรอบๆโรงพัก ดูสภาพภายในจนรอบๆพอใจ แล้วก็เดินกลับมาร้านอาหาร ไปที่ร้านผัดไทยสั่งผัดไทยจานหนึ่ง เขายืนรอคนทำสักพักใหญ่ๆก็จ่ายเงิน แล้วไปยังร้านขายเครื่องดื่ม ซื้อน้ำกระเจี๊ยบมาแก้วหนึ่ง เดินไปนั่งยังมุมโต๊ะห่างๆกับโต๊ะ พิเศษที่จัดไว้ แต่สภาพที่เขานั่งสามารถมองเห็น สิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ด้วยเหมือนมุมที่เหมาะสมในการนั่งมอง ด้วยเป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว สักพักหนึ่งก็มีคนทะยอยลงมา สั่งอาหารกินกันบนโต๊ะยาวๆซึ่งไม่มี คนมาคอยบริการต้องช่วยเหลือตัวเอง ส่วนโต๊ะพิเศษนั้น มีคนคอยบริการอยู่ สักครู่ใหญ่ๆก็เห็น สารวัตรชัชวาลย์ ผู้กองจรัสและผู้กองจำลอง กำลังเดินสนทนากันเข้ามาตำรวจอื่นๆก็ทำความเคารพ พลางไปนั่งยังโต๊ะที่จัดไว้ให้เป็นพิเศษ คนบริการก็เข้ามา ถามรายการอาหารจากนายตำรวจทั้งสามทันที เมื่อได้รับการสั่งเรียบร้อยแล้ว ก็เดินจากไปเพื่อไปยัง ร้านอาหารให้จัดการเพื่อจะได้นำมาเสริฟ สักพักหนึ่งท่านรองกำกับก็เดินตามเข้ามาอีก ตำรวจทั้งหลายที่กำลังกินอาหารกันอยู่ต่างก็ยืน ก็พากันทำความเคารพ เห็นท่านรองกำกับเดินตรงไปยัง โต๊ะสารวัตรและผู้กองทันที พลางดึงเก้าอึ้มาแล้วนั่งลง เพื่อนั่งร่วมเพื่อกินอาหารร่วมกัน แล้วพลันหันไปสั่งอาหาร จากผู้มาบริการที่มาคอยต้อนรับ เสร็จแล้วก็รีบเดินออกไป ทั้งสี่นายก็นั่งสนทนาไปพลางๆกันเพื่อรออาหารมากิน ในระหว่างนั้นผู้กองจำลองหันไปตรวจดูพวกที่กำลังกิน อาหารกันอยู่ มีทั้งประชาชนมาใช้บริการและเหล่าตำรวจทั้งหลาย เสียงดังแสดไปหมด ครั้นแลเห็นชายหนุ่มก็ตกตลึงพลางสะกิด สารวัตรและผู้กองจรัสทันที ทั้งสองก็รีบหันไปมองชายหนุ่มทันที อาหารที่กำลังกินอยู่ในปากถึงกลับปากอ้าตาค้างไปตามๆกัน อาหารก็หล่นใส่บนจาน จนท่านรองสงสัย เพียงถามว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือสารวัตร???...... สารวัตรชัชวาลย์รีบปฏิเสธทันทีเปล่าครับท่าน พอดีผมสะอึกเท่านั้นเอง แล้วแสร้งยกน้ำขึ้นดื่ม ท่านรองก็ไม่ได้กล่าวว่าอะไร แล้วก็ก้มหน้าก้มตา กินข้าวกันต่อไป.... ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็พอดีเด็กเก็บจานอาหารผ่านมา จึงตะโกนเสียค่อนข้างดังถามเด็กเก็บจานว่า เอ๊ะร้อนอย่างนี้ เห็นฝนตกทุกๆวันแต่วันนี้ทำไมไม่มี พิรุณโปรยเลยหรือไง?????... เด็กเสริฟที่กำลังเก็บจานว่างเปล่าเพื่อเอาไปล้างมองเห็น ชายหนุ่มผมเผ้ายุ่งเหยิงกระเสิง แต่งตัวสกปรก กางเกงก็ขาดขาสั้น ย่ามวางไว้ก็ช่างสกปรกสิ้นดี ก็ส่งเสียงห้วนๆว่า มึงไม่เห็นหรือว่า ท้องฟ้าแดดออกจ้าแรงอย่างนี้ พิรุณห่าอะไรจะโปรยให้ มึงได้ไอ้เวร???....ไม่แหกตาดูเสียบ้าง มึงจะบ้าหรือไงว๊ะ???......รู้จักอาบน้ำอาบท่าซักเสื้อผ้าบ้าง ซิเหม็นฉิบหายไอ้ห่านี่???.... แล้วคนเก็บจานก็รีบๆเดินหนีไป เมื่อสารวัตรและผู้กองทั้งสองได้ยินเช่นนั้น ก็ทราบทันทีว่านายส่งรหัสมา จึงแสร้งเป็นไม่รู้ไม่ชี้แต่ก็สะกิดสารวัตร กินอาหารไป พลางคุยกันไปพลางๆ ครั้นได้ยินท่านรองผู้กำกับเปรยๆขึ้นว่า ผมเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะต้องปลดเกษียณแล้ว ป่านนี้ทำไมท่านผู้กำกับยังไม่เห็นมารับงานสักที คิดว่าคงจะอยู่กับนายกรุงเทพฯ หรือทำเรื่องบางอย่างไม่เสร็จกระมัง??... ผมเองก็เตรียมงานส่งมอบไว้พร้อมนั้งนานแล้วล่ะ จะได้พักผ่อนเสียทีต้องคอยพะวงวันนี้พันตำรวจโท วิเชียรก็มาลาป่วยเสียอีกหมอบอกเป็นไข้ป่าอาการหนักมากเสียด้วย ส่วนพันตำรวจตรีอำนวยฝ่ายสอบสวน ก็มาขออนุญาต ไปเยี่ยมเมียที่กำลังคลอดลูกที่กรุงเทพฯยังไม่กลับมาเลย ตอนนี้เหลือเพียงสารวัตรเท่านั้นกับผู้กองที่ผมไว้ใจมากที่สุด ช่วยๆกันหน่อยนะ ได้ข่าวว่าทางสำนักงานตำรวจจะส่งตำรวจมือดี มาช่วยอีกหลายนายมาเสริมกำลังช่วยทางเรา แต่จะมาถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นี่กำลังทดแทนคนถูกย้ายก็มารายงานตัวกันหมดแล้ว จัดวางกำลังเรียบร้อย โรงพักเราได้เลื่อนชั้นขึ้น ก็ด้วยผู้กำกับคนนี้ทางกรุงเทพฯแจ้งผลงานฝ่ายเรา จำเป็นต้องมีตำรวจเพิ่มมากขึ้นเพื่อจะได้ช่วยดูแลบริเวณมากขึ้น ด้วยทางด้านเราก็มีภูเขาเยอะแยะทางหรือก็กันดาร ล้วนแล้วแต่เป็นทางผ่านพวกทำงานด้านผิดกฏหมายมากขึ้น จะอาศัยตำรวจตระเวณชายแดนหรือเขาก็ประสานงานดีอยู่หรอก แต่พวกป่าไม้นะซิผมเองชักจะไม่ค่อยไว้ใจนัก ด้วยมีกลิ่นทะแหม่งๆอยู่ ตอนนี้ก็อาศัยนายอำเภอกับพวกปลัดไปพลางๆก่อนเท่านั้น ท่านรองผู้กำกับกล่าวขึ้น........ ไม่เป็นไรหรอกครับท่านรองฯ ถึงแม้ว่าพวกผมจะพึ่งย้ายมาใหม่ แต่ก็พอจะรู้อะไรเป็นอะไรกันบ้างแล้วล่ะ ใช้เวลาวันหยุดไปดูสถานที่ ด้วยตัวเองเสมอๆ ทำให้รู้หนทางต่างๆได้ดีบ้างครับท่าน สารวัตรเอ่ยขึ้น อ้อๆๆๆจะละลาบละล้วงไหมครับ ด้วยเห็นเสี่ยหว่างกับพวกมันต่าง เข้าไปหาท่านรองเมื่อสายๆนี้เอง มันพยายามจะให้ผมทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จะมอบเงินให้จำนวนมหาศาล ผมเลยไล่ตะเพิดมันออกไป พวกมันหัวเสียใหญ่เลย ชักจะสงสัยเหมือนกันและมันยังไปหาเมียผมอีกแต่ผมห้ามปรามไว้ ว่าหากรับอะไรจากมันไม่ว่ามันจะให้อะไรๆทั้งสิ้นแล้วล่ะเห็นที เราก็ต้องเลิกกันนะผมไม่ชอบแบบนี้ ผมขู่เมียผมไว้ก่อนมันจึงไม่ได้ผล ท่านรองกล่าวกับสารวัตรชัชวาลย์เล่าเรื่องให้ฟัง เมื่อเป็นอย่างนี้ท่านสารวัตรให้จับตาดูพวกเสี่ยพวกนี้ไว้ด้วยก็แล้วกัน ผมคาดว่าคงจะมีเรื่องผิดกฏหมายอยู่ในเร็วๆนี้แหละให้พยายามส่งสายสืบ เราไปค้นหาความจริงให้ด้วย ผมเองชักสงสัยมันมากด้วยก่อนนั้นมันไม่เคยมาเข้าพบผมเลย อีกอย่างผมสั่งกำชับเจ้าหน้าที่หน้าห้องว่า หากเป็นพวกเสี่ยเม้งหรือเสี่ยหว่าง ไม่ให้เข้าพบแม้แต่คนของมัน นอกจากประชาชนธรรมดาที่เดือดร้อน ไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับตำรวจเราเท่านั้นเอง แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเข้าพบผมได้อย่างไร ทำให้ผมชักสงสัยจึงเรียกมาตักเตือน นี่ผมก็สั่งย้ายคนหน้าห้องไปทำหน้าที่อื่นแล้ว ส่งไปอยู่หน่วยสารบรรณไม่เกี่ยว กับความลับใดๆทั้งสิ้น เหมือนลอยแพมันไปเองให้มันคอยดูการส่งหนังสือเท่านั้น และผมหาคนไว้ใจได้ซึ่งมาใหม่ได้แล้วด้วย เป็นตำรวจมาใหม่จากกรุงเทพฯ ที่สืบประวัติการทำงานตรวจสอบดูแล้วถึงผลงานต่างที่เขารายงานมาให้ หากสารวัตรและผู้กองไม่กำลังฟังท่านรองอย่างตั้งใจ ก็จะทราบทันทีว่า บัดนี้ชายหนุ่มได้ย้ายที่นั่งใหม่แล้ว ด้วยไปซื้ออาหารมาเพิ่มและมานั่งใกล้ๆ กับโต๊ะของสารวัตรเอง ดังนั้นเหตุการณ์ทั้งหมดชายหนุ่มจึงได้ยินทั้งหมด แต่ทำไม่รู้ไม่ชี้ค่อยๆกินอาหารไปตามลำพังผู้เดียว ครั้นเสร็จก็นั่งสูบบุหรี่ราคาถูก ครั้นผู้กองจรัสเหลือบตามาเห็นก็สะดุ้งในใจ แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หันไปฟังท่านรองกล่าวขึ้นอีก ด้วยไม่ค่อยจะมีใครสนใจนัก เนื่องจากการแต่งกายของชายหนุ่มนั้น บ่งบอกถึงฐานะด้วย ทั้งร่างกายยังเต็มไปด้วยฝุ่นสีแดงแต่งตัวมอมแมมสกปรกอีก ผู้กองจรัสจึงสะกิดสารวัตรและผู้กองจำลองใต้โต๊ะบนขาให้ทราบ ทั้งสองก็หันมามองพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ทำเป็นไม่สนใจ จึงถามท่านรองว่าแล้วทางเราคิดว่าหากได้รับรายงานจากสายสืบ แล้วจะทำอย่างไรดีหรือครับท่านรอง ท่านรองกล่าวว่าผมรู้จากคนของผมว่าเสี่ยหว่างมันค้าไม้เถื่อนอยู่ จะใช้วิธีสับเปลี่ยนรถกัน ฉะนั้นเรื่องการตั้งด่านจะคิดแค่ป้ายรถไม่ได้เสียแล้ว มันจะค่อยทะยอยมาใช้รถหลายๆคันแยกทางกันมานะ แต่สายของผมบอกเท่านี้แล้วต้องรีบไป........ ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือเข้าจับกุมในระหว่างส่งของกันเหมือนคราวที่แล้ว นั่นแหละเห็นจะดี ผมคิดเช่นนี้ทางสารวัตรจะคิดอย่างไรหรือเหมือนผมหรือเปล่า ถ้าให้มันทะยอยๆมาก็คงจะลำบากด้วยคนของเราก็น้อย กำลังเสริมก็ยังไม่มา ทางผมจะลองให้สายสืบหลายๆสาย รีบออกเดินทางหาสถานที่แลกเปลี่ยนครับ ได้ผลประการใดจะรีบรายงานให้ท่านรองทราบครับท่าน เมื่อได้เวลาแน่นอนแล้วค่อยดำเนินการทีเดียว การขนย้ายคราวนี้คงจะลำบาก ด้วยของมันไม่เหมือนพวกยาและกัญชาที่ง่ายแก่การขนย้าย นี่เป็นไม้แปรรูปเสียด้วยที่สายผมบอกมาครับ นั่นซิ....งานนี้ให้ท่านสารวัตรดำเนินการก็แล้วกัน ส่วนกำลังคนอาวุธต่างๆนั้นแจ้งมาได้เลยว่าจะเอาเท่าไหร่ผมจะเซ็นต์มอบให้ ขอให้ทำงานให้สำเร็จก็เพียงพอ หรือได้สักครึ่งหนึ่งก็ยังดี ส่วนรายละเอียดค่อยไปหารือผมที่ในห้องอีกทีก็แล้วกันะ ตอนนี้ผมไปก่อนล่ะ แล้วท่านรองก็เรียกพนักงานเก็บเงินให้มาเก็บ บอกว่า ให้รวมกันเป็นบิลของผมเองหมดด้วย ทางสารวัตรและผู้กองต่างยืนคาราวะส่งแล้วก็ขอปรึกษาหารือนั่งคุยกันก่อน ท่านรองกล่าวว่าตามสบายเถอะเกินเวลาก็ไม่เป็นไร ช่วยกันรีบแสดง ความคิดเห็นปรึกษาหารือ ผมเองก็เห็นคล้อยตามสารวัตรว่าเหมือนกันนะ แล้วพอชำระเงินเสร็จท่านก็รีบเดินเข้าไปในโรงพักทำงานทันที....... ครั้นท่านรองขึ้นไปทำงานแล้ว ทางสารวัตรและผู้กองก็ปรึกษากัน เรื่องงานในครั้งนี้ พลางชำเลืองหางตามายังชายหนุ่มทันที พลางคิดว่านี่ถ้าหากท่านรองรู้ว่าผู้กำกับตัวจริงไม่ได้ไปไหน นั่งอยู่ใกล้ๆนี่เอง แล้วท่านจะตกใจมากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้ แม้ตำรวจอื่นๆตลอดจนร้านค้าก็ยังดูถูก ท่านกำกับการตำรวจเลยนึกว่า เป็นพวกกระจอกงอกง่อยกันทั้งสิ้น แม้แต่เด็กเก็บจานไปล้างยังขู่ตะคอก หากมันรู้มันคงจะตกใจขี้เยี่ยวแตกเป็นแน่ๆ ทั้งสามหัวร่อในใจ ชายหนุ่มแสร้งนั่งสูบบุหรี่ฟังการพูดคุยกัน นั่งหลับตาบ้างแสร้งไอบ้าง ครั้นแลเห็นว่าเหลือเพียงแค่สามคนแล้วก็พลันเอ่ยขึ้นเบาว่า นกฮูกนกเค้าแมวทำงานอยู่คงจะจับหนูได้แน่ๆนะ คนนั่งห่างจากชายหนุ่มไปเพราะได้กลิ่นเหม็นจากเสื้อผ้าของเขา พากันหันมามองคิดว่าไอ้นี่คงจะบ้าเสียแล้ว อยู่ดีๆก็พูดว่านกฮูกนกเค้าแมว อะไรของมันว๊ะ??...แล้วรีบกินอาหารให้เสร็จเร็วๆแล้ว เดินออกไป แต่ทางสารวัตรและผู้กองทั้งสองรู้ทันทีว่านายสั่งอะไรมา หากเราคิดว่าฟ้าแจ้งหรือมืดดีล่ะสารวัตร ก็ได้ยินเสียงมาอีกว่า เย็นๆอากาศกำลังสบายเห็นว่าจะไปนอนเล่นที่เดิมดีกว่า โอ้ย!!!!!..... เดี๋ยวต้องรีบกลับแล้วจะได้หาซื้อของสักหน่อย จะมืดคำเสียก่อนซินะ พรุ่งนี้จะได้ออกไปช่วยเขาทำงานหน่อย ว่าแล้วชายหนุ่มมอซอ ก็เดินออกจากร้านไปขับรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆ ออกจากโรงพัก หายไปทันที สารวัตรกล่าวเบาๆว่านายเราเจ๋งว๊ะว่าไงผู้กอง ???.... จริงๆครับผู้กองทั้งสองตอบ แหมมายังกับเงาหายไปก็เหมือนเงาเลยนะ สารวัตรกล่าว ตกลงที่เดิมนะพรุ่งนี้เวลาเดิมสารวัตรกล่าว ไปๆๆไปทำงานกัน....... * แก้วประเสริฐ. *
2 ธันวาคม 2553 16:05 น. - comment id 119671
อยากเก่งเหมือน พระเอก อิอิ
1 ธันวาคม 2553 21:01 น. - comment id 120331
แต่งตัวแบบนี้แถวบ้านเยอะค่ะ อิอิ แต่มาในคราบสายสืบ แฮ่ แฮ่
1 ธันวาคม 2553 21:41 น. - comment id 120332
คุณ แจ้นเอง ครับเหมือนพวกสายสืยจริงๆครับ สมัย ผมทำงาน เดินทางไปที่หัวลำโพง เห็นตำรวจ ไล่จับคนร้ายที่ขายยาบ้า คุณเชื่อไหมตำรวจ มันตัวเล็กนิดเดียวขนาดผมนี่แหละแต่มัน มียศเป็นนายร้อยรูปร่างเหมือนขี้ยาผอมๆ เกร็งๆ เหมือนเปี๊ยบ ส่วนตำรวจคนอื่นผมเผ้า รุงรัง มีหนวดไว้ยาวๆ เหมือนมหาโจร เลยล่ะครับ ผมยืนมองหันไปมองหน้า นายตำรวจเขายิ้มด้วยผมแต่งตัวราชการ ซ้ำมันหันมาถามว่า คุณมองผมเห็นว่าผม เหมือนขี้ยาไหม ผมตอบว่าเหมือนๆจริงๆ เสียด้วยซิ เขาหัวร่อใหญ่ แล้วสั่งให้ลูก น้องนำตัวประมาณสามสี่คนไปใส่กุญแจ มือขึ้นรถพาไปครับ นี่ประสบการณ์จริงๆ ที่ผมเห็นมาครับ ตอนนี้สลับฉากหน่อย นะครับเดี๋ยวเขียนแต่ผีๆคนจะกลัวมาก ยิ่งถ้าขวัญอ่อนด้วยซิ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 ธันวาคม 2553 21:22 น. - comment id 120346
คุณ กิ่งโศก การเขียนร้อยแก้วนั้นเราต้องสร้างสิ่ง หลายๆอย่าง ครูว่าต้องรอบรู้เกือบทุกๆด้าน สมองก็ยังใช้มากกว่าร้อยกรองเสียอีกนะ ยิ่งเป็นแบบนิยายด้วยแล้วยิ่งยากใหญ่ ฉะนั้นศิษย์เราควรจะดูวิธีการแต่ศิษย์ เรามีหนังสือนิยายมากๆอยู่แล้ว และผ่าน การอ่านมาแล้วย่อมจะง่ายๆกว่า แต่ครูนั้น อ่านตอนยังไม่ได้ทำงาน พอทำงานก็ไม่เคย ได้จับอีกเลย แต่อีกอย่างหนึ่งคือว่าเรา ต้องสร้างด้วยตัวเราเองเท่านั้น จะทำให้ เราเกิดไหวพริบปฏิภาณสติปัญญาเพิ่ม มากขึ้น อย่าไปคิดเลียนแบบใครๆเขา เป็นอันขาดนะ แม่แต่พอร์ตเรื่องก็ตาม เราควรคิดค้นหาเอง จึงจะนับได้ว่าทำให้ เราเกิดความภาคภูมิใจแก่เรา และก็จะ เพลินเพลินสนุกสนานไปด้วย หากเรา ไปเลียนแบบใครๆเขาทั้งๆที่เราอ่านมารู้ มาแล้ว สิ่งเพลิดเพลินก็จะไม่เกิด ปัญญา ก็จะหาค่ามิได้จ้า ทดลองซิครูคิดว่าเธอ นี่แหละทำได้ ตอนแรกครูก็สะเปะสะปะ ไปเหมือนๆกันแต่พอได้สักเรื่องสองเรื่อง ก็จะเกิดจินตนาการขึ้นแก่เราเองแหละ แต่ก็ควรสอดแทรกบางสิ่งบางอย่างไว้ ด้วยนะ รักศิษย์เราเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
3 พฤษภาคม 2554 11:24 น. - comment id 123615
ต่อค่ะ