อทิสมานกาย ๒๗

แก้วประเสริฐ

76.gif
                   อทิสมานกาย  ๒๗
       พอวันพฤหัสบดีทางครูบาอาจารย์มักถือว่าเป็นวันครู  ใช้สำหรับ
ในการมอบวิชาการต่างๆทั้งหลายให้แก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งปวงที่รับไว้  
ฉะนั้นบรรดาครูบาอาจารย์ต่างๆถือปฏิบัตินับถือกันมา
ตั้งแต่โบราณกาลนมนานมาแล้ว
       ดังนั้นพอครบกำหนด  ผู้กองชัชวาลย์  หมวดจรัส และหมวดจำลอง
  ก็นำพานดอกไม้ธูปเทียนกรวยพร้อมเงินค่ายกครู  
มากราบหลวงพ่อทองซึ่งท่านก็รับพานที่เปิดฝากกรวยไว้แล้ว  ท่านนำไปวางหน้าโต๊ะ
หมู่บูชา    หันกลับมาก็เริ่มอธิบายถึงการฝีกวิชาอาคม ว่าควรจะใช้อย่างไรและอบรมศีลธรรม 
จรรยาบรรณในการฝึกฝนเกี่ยวกับการใช้ให้แก่ลูกศิษย์ใหม่ที่รับไว้ และขอสัจจะวาจาไว้ด้วยว่า ........
      หากได้ร่ำเรียนวิชาอาคมแล้วจะไม่ใช้ในทางที่ผิดศีลธรรมเด็ดขาด   มิฉะนั้นของที่ร่ำเรียน
มาจะเสื่อมสลายไป  บางครั้งอาจจะเข้าตัวเราเองก็ได้    
 จึงต้องควรระมัดระวังและหมั่นฝึกฝนท่องจำไว้เสมอๆ  
    สิ่งแรกที่ควรกระทำคือต้องทำสมาธิก่อนเพื่อให้จิตใจมั่นคงแน่วแน่ 
จะสอนทั้งฌานสมาธิและทางกสิณไว้ 
       อาจารย์จะไม่ปิดบังความรู้จะถ่ายทอดให้หมดสิ้น  
ด้วยอาจารย์จะไม่รับศิษย์ต่อไปอีกแล้วนอกจากพวกเจ้า
ทั้งสี่คนเท่านั้น   ครั้นผู้กองผู้หมวดได้รับการอบรมก็ก้มลงกราบ
ด้วยความปลื้มปิติยินดีอย่างล้นพ้น  และให้
สัญญาว่าจะนำวิชาความรู้นี้ไปคอยช่วยเหลือคนที่ได้รับความเดือดร้อน
และพระพุทธศาสนาเท่านั้น จะไม่ยอม
รับสินบนเงินตราจากใครๆทั้งสิ้น
      เมื่อหลวงพ่อทองได้ยินเช่นนั้นก็หัวร่อลั่น  พลางชมเชยและกล่าวว่า 
 ข้าเองมองคนไม่ผิดหรอกว๊ะ....ขอให้เอ็งจงหมั่นฝึกฝนร่ำเรียน  
หากไม่หมั่นท่องจำไว้ก็จะทำให้ลืมเลือนไปได้  
เวลาจะทำของต้องสร้างจิตใจให้แจ่มใสบริสุทธิ์ยิ่งนัก  หากใจเรายังไม่มั่นคง
บริสุทธิ์แล้วก็อย่าได้ทำของนั้นให้แก่ใคร  หากหมั่นท่องจำไว้เสมอฝึกสมาธิ
จนเชียวชาญจิตใจเราก็จะสะอาดบริสุทธ์เองด้วยอำนาจของฌานสมาธิเรา 
 เวลาไปช่วยคนเพียงแค่หลับตาว่าจะทำสมาธิเท่านั้นจิตใจเราก็จะพร้อมอยู่เสมอ
ด้วยความคล่องแคล่วว่องไว  
       แม้จะไปยังฌานขั้นไหนก็ได้ทั้งสิ้นรวมถึงกสิณด้วย 
หากได้กสิณใดกสิณหนึ่งกสิณอื่นก็จะได้เหมือนๆกันแหละ
หากเวลาว่างเวลาใดให้หมั่นเจริญสมาธิภาวนาไว้เสมอๆนะ   
 ทั้งสามรับคำหลวงพ่อแล้วหลวงพ่อก็ให้มากราบบูชา
พระรัตนตรัยก่อนแล้วก็ให้ทั้งสามฝึกสมาธิทันที   โดยคอยควบคุมไว้
หากเห็นคนใดคนหนึ่งแสดงผิดอาการก็จะเตือนว่ากำลังส่งจิตออกนอกลู่
นอกทางเป็นต้น
       จะเป็นด้วยบารมีเก่าหรืออย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าคนทั้งสามเข้า
สมาธิได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง  จนหลวงพ่อท่าน
ถึงกับยิ้มออกมา พลางนึกในใจว่าเห็นทีทั้งสามคนนี้
จะสำเร็จวิชาการต่างของท่านได้ไม่นานนัก  
ครั้นได้เวลาพอสมควรก็ให้ทั้งสามออกมา   แล้วก็ให้หัดเขียนท่องอักขระ
ซึ่งมีไม่กี่ตัว พลางทบทวนไปมาก็สามารถทำได้ด้วยทั้งสามคนนี้ผ่านการ
ร่ำเรียนทางโลกมาจนจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจทั้งสิ้น
 จึงไม่เป็นการยากเลย จึงสามารถเขียนอักขระขอมได้หมด พร้อมทั้งการเรียก
สูตรต่างๆได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว แล้วค่อยมาสอนวิชาการเขียนยันต์
ต่างๆจนครบถ้วนบริบูรณ์ไม่ติดขัดแต่อย่างไร
        เมื่อเห็นศิษย์ทั้งสามคล่องแคล่วในการเขียนอ่านอักขระขอม
และตลอดเลขยันต์ต่างๆแล้ว  ก็บอกว่าหากกลับไปบ้านสวดมนต์ไหว้พระ
ทุกๆกลางคืนแล้วก็ให้หมั่นนั่งสมาธิไว้ให้เชียวชาญเมื่อ  
ออกจากสมาธิแล้วก็หมั่นทบทวนวิชาการต่างๆอยู่อย่างสม่ำเสมอนะ  
อย่าลืมเสียล่ะหากได้สมาธิถึงฌานขั้นสูงแล้วจะร่ำเรียนอะไรๆก็ง่ายนัก 
 วิชาสำคัญคือการฝึกสมาธินี่แหละ
       ศิษย์ทั้งสามก็ก้มลงกราบอาจารย์  แล้วคอยรับฟังการอบรมสั่งสอนอีก
       หลวงพ่อกล่าวว่าวันนี้เอาเท่านี้ก่อนนะ  กลับไปทำงานได้แล้วล่ะ???....ท่านสั่ง
       ถ้าอย่างนั้นวันเสาร์วันอาทิตย์พวกผมจะมาเรียนเพิ่มเติมนะครับอาจารย์????.........
       เออๆๆๆดีแล้วล่ะ ข้าจะได้ลองทบทวนวิชาต่างๆตลอดจนสมาธิไว้
   หากเอ็งสามารถทำได้สำเร็จก็ถือว่าร่ำเรียนได้สำเร็จแล้ว   
พลางให้ผู้กองชัชวาลย์ไปยกพระพุทธรูปที่สร้างด้วยทองเหลืององค์ใหญ่ๆ
องค์หนึ่งที่วางไว้จากบนหิ้งมา     ครั้นเมื่อผู้กองนำมาแล้วท่านบอกว่า
ให้นำองค์พระนอนหงายลงแต่ให้กราบขอขมาองค์พระพุทธรูปก่อนนะ
        ครั้นผู้กองทำตามหลวงพ่อสั่งแล้วก็ถอย  ออกมารวมกลุ่มมองดู
การกระทำของหลวงพ่อ   เขาเห็นหลวงพ่อหลับตาเดี๋ยวเดียวแล้ว  
ก็ลืมตาพลางเพ่งไปยังพระพุทธรูปองค์นั้นทันที  
ปรากฏว่าพระพุทธรูปองค์นั้นลุกตั้งได้เหมือนเดิม  
 นี่เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่จะให้ศิษย์เกิดความเชื่อมั่นและเกิดความพยายาม
ในฝึกวิชาที่ร่ำเรียนมากขึ้น
หลวงพ่อจึงทำการทดสอบให้ดูว่า หากฝึกสมาธิกสิณได้ขั้นสูงๆแล้ว  
ผลของการฝึกสมาธิสำเร็จนั้นผลจะออกมาเป็นอย่างไร
        ทำเอาผู้กองผู้หมวดตกตะลึงไปตามๆกัน   ครันแล้วท่านพลันหันไปบอก
ให้ผู้กองนำไปเก็บไว้ดังเดิม แล้วอธิบายว่า
    เห็นไหมหากฝึกสมาธิขั้นสูงสำเร็จแล้วเพียงลงมายังอุปาจาระสมาธิแล้ว
เข้ากสิณต่อเพ่งไปยังสิ่งใดๆก็ตามที่ว่าจะหนักมากน้อยเท่าไหร่ก็สามารถสั่งการได้
   อย่างเช่นลูกพี่เอ็งนั้นสามารถสั่งให้ของๆสิ่งนั้นวิ่งไปวิ่งมาอีก
ทั้งลอยไปในอากาศไปๆมาได้อีกด้วย       การจะได้หรือไม่ได้นั้นต้องล้วนแล้ว  
แต่การสะสมบุญบารมีของแต่ละบุคคลมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
       เมื่อได้รับการฝึกฝนอีกทีก็จะสามารถเพิ่มพลังงานให้มั่นคงยิ่งขึ้นและรวดเร็วเป็นต้น
 ผู้กองและผู้หมวดพลันถามว่า     นายผมทำสำเร็จแล้วหรือครับอาจารย์???....
       ไม่เพียงเขาร่ำเรียนวิชาจากข้าเท่านั้น     ยังร่ำเรียนจากพ่อแม่เขาซึ่งมีวิชาอาคม
ไม่เป็นรองกูเลยล่ะ  ฉะนั้นกูถึงให้พวกเขามาปลุกเสกพระเครื่อง  
พวกเขาล้วนสำเร็จวิชาการหมดทั้งสิ้นตลอดจนมีจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งนัก
 กูถึงไม่นิมนต์เกจิอาจารย์อื่นใดๆมาทำพิธี   นอกจากพวกเราเท่านั้นเองด้วยกูรู้ว่า
ได้เพียงคนเหล่านี้มาทำการปลุกเสกของก็จะเข้มข้นแข็งแล้วล่ะ
หลวงพ่อกล่าวขึ้น.....
       เอาล่ะกลับกันได้แล้วตอนนี้ข้ารู้ว่า  จะมีคำสั่งมาถึงพวกเอ็งด้วย 
 ขอแสดงความยินดีกับพวกเอ็งด้วยนะไปได้แล้วล่ะ   คราวนี้ผู้กองผู้หมวดพากันมองหน้า
   อาจารย์เรารู้ได้อย่างไรกันว่าจะมีคำสั่งมาถึงพวกเขา   จึงได้รีบก้มลงกราบ
ลาอาจารย์เพื่อกลับไปยังโรงพักทันที............
        เมื่อมาถึงก็เจอท่านรองผู้กำกับยิ้มแป้น หน้าโรงพักคอยพวกเขาก่อนอยู่แล้ว
พลางกวักมือเรียกเขาเข้าไปยังห้องท่านทันที   เมื่อทั้งหมดเข้าไปในห้องท่านรองผู้กำกับ
ซึ่งรักษาราชการแทนผู้กำกับ      ก็ยื่นหนังสือทางการจากกรุงเทพฯส่งมาให้เขาอ่านทันที 
  ทั้งหมดอ่านแล้วพากันดีใจว่า   แต่ก็ยังนึกสงสัยในใจอยู่แต่ไม่ได้สอบถามอย่างไรว่า
เหตุใดเขาจึงได้เลื่อนตำแหน่งด้วยเหตุใด  ด้วยความอยากจะรู้จึงถามท่านรองว่า.....
       ท่านรองฯครับทำไมผมพึ่งมาอยู่จึงได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเร็วอย่างนี้ล่ะครับ
 ต้องขอบคุณท่านรองฯมากที่สนันสนุนพวกผม  พลางยืนขึ้นตะเบ๊ะท่านรองทันที   
       ท่านรองพลันกล่าวว่าลำพังผมเองก็ไม่สามารถทำได้หรอก   พวกทางกรุงเทพฯไม่มี 
ท่านผู้กำกับท่านรายงานไปยังสำนักงานกรมตำรวจเอง  ด้วยพวกเราได้จับกุมยาบ้ารายใหญ่
พร้อมของกลางทั้งหมดได้ จนฮือฮากันไปทั้งสำนักงานฯเลยเชียวล่ะ  
 นับเป็นมูลค่านับร้อยๆล้านบาทเชียวนะ....       ท่านรองกล่าวให้พวกทั้งหมดฟัง
      ส่วนการเลื่อนตำแหน่งนี้ท่านผู้กำกับท่านรู้ได้อย่างไรผมเองก็ยังงุนงงจนบัดนี้????.......
  ท่านยังไม่มารับตำแหน่งคงจะอยู่ทางกรุงเทพฯ   แต่คงมีสายของท่านรายงานให้ทราบกระมัง???... 
 ท่านจึงได้โอกาสเสนอว่าความดีความชอบทั้งหมดเป็นของผู้กองและหมวด  อ้อไม่ใช่.....  
ตอนนี้ผู้กองเปลี่ยนเป็นสารวัตรไปแล้ว ส่วนหมวดก็เลื่อนขึ้นเป็นผู้กองทั้งสองนาย 
 ผมยังได้รับคำสั่งจากท่านผู้กำกับว่าให้ผมติดยศให้ท่านเมื่อได้รับอ่านรายงานแล้ว 
 ผมได้เตรียมไว้ให้เรีบบร้อยแล้ว ล่ะ   ท่านรองฯกล่าว......
        มาๆๆเราไปไหว้พระก่อนแล้วค่อยทำพิธีมอบตำแหน่งกัน 
 เมื่อทั้งหมดไปกราบพระพุทธรูปที่ตั้งไว้เหนือโต๊ะทำงานจนเรียบร้อยแล้ว
  ก็มาคอยเข้าแถว   ท่านรองฯก็เดินไปเปิดตู้ยกพานใส่ยศตำแหน่งออกมา 
  แล้วประดับยศให้แก่ผู้กองชัชวาลย์พร้อมปลดดาวสามดวงออกจากไหล่
 แล้วติดยศนายพันตำรวจตรีแทนลงไปทันที แล้วถึงเป็นหมวด
จรัสและหมวดจำลองซึ่งได้เป็นร้อยตำรวจเอกด้วยกันทั้งคู่ทันที 
      หลังจากนั้นท่านรองก็ จับมือทั้งสามคนแล้วก็กล่าวว่า   ท่านผู้กำกับสั่งว่า
ยังมีงานที่ต้องปราบปรามทางติดชายแดน
        ว่าจะมีการลอบทำการค้าไม้เถื่อนอีก  ซึ่งย้ายมาทางโน้นมาขึ้นทางด้านเขตเรา 
 ขอให้รีบประสานงานจัดกำลังเตรียมพร้อมไว้อย่างลับๆ 
 อ้ออีกอีกประการหนึ่ง  ยังมีคำสั่งย้ายตามรายงานของท่านสารวัตรชัชวาลย์ส่งมาถึงผม 
 ผมก็รีบรายงานเสนอขึ้นไปทางกรุงเทพฯนั้น ให้คนทั้งหมดที่ถูกย้ายเซ็นต์รับทราบไว้ทุกๆคน
       บัดนี้ทางสำนักงานฯได้สั่งย้าย   ร้อยตรีเชษฏ์นั้นลงไปปฏิบัติงานที่หาดใหญ่
 ส่วนจ่าเจียมไปปฏิบัติงานที่จังหวัดนราธิวาส สิบตำรวจเอกเอนกนั้นไปปัตตานี
ตลอดคนอื่นๆอีกประมาณเกือบยี่สิบคนต่างย้ายไปทางใต้ทั้งสิ้นภายในไม่เกินสามวัน   
        เพียงรอกำลังมาเสริมไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่กันคงจะเร็วๆนี้แหละ
   รองผู้กำกับกล่าวเพื่อแจ้งแก่สารวัตรให้ทราบคำสั่งไว้
สารวัตรและผู้กองทั้งสองต่างหันมามองหน้ากัน  พลันนึกถึงคำที่อาจารย์บอกไว้ว่า
จะได้รับข่าวดีแสดงถึงอาจารย์เรานั้นไม่ธรรมดา รอบรู้ไปหมดแม้แต่นายเรา
ซึ่งเป็นผู้กำกับตัวจริง  แม้แต่รองผู้กำกับยังไม่รู้เลยว่าท่านผู้กำกับมาอยู่ตั้งนานแล้วเลย
    ตลอดจนเหล่าตำรวจที่จะมาเสริมแทนตำแหน่งนั้นก็อยู่ภายในพื้นที่ทุกๆคนแล้ว
  ซึ่งเป็นความลับของท่านผู้กำกับกำชับสั่งไว้มิให้เปิดเผยแก่ใครๆทั้งสิ้นนั่นเอง
     ครั้นเมื่อสารวัตรชัชวาลย์และผู้กองจรัสและผู้กองจำลอง  
 เดินออกมาจากห้องท่านรองผู้กำกับ   บรรดาตำรวจทั้งโรงพักครั้นมองมายังนายตำรวจ
ทั้งสามต่างแลเห็นดาวบนบ่าทั้งหมดเปลี่ยนไป   ล้วนแล้วแต่ได้ติดยศเพิ่มขึ้นพากันงุนงง  
และต่างเข้ามาแสดงความยินดีกันทุกๆนาย  แม้แต่พวกที่ถูกย้ายไปต่างมีใบหน้าซีดเซียว  
แต่ด้วยหน้าที่ต้องทำการแสดงความเคารพท่านสารวัตรและผู้กองทั้งสองตามหน้าที่ทันที
     ด้านจ่าเจียมพลางจ้องใบหน้าสารวัตรเขม็งแต่ไม่กล่าวว่ากระไร  เพียงขุ่นข้องหมองใจ  
แต่ปากก็แสดงความยินดีน้ำเสียงห้วนๆสั้นๆเท่านั้น   พลันสารวัตรก็แสดงความเสียใจ
ด้วยที่จ่าต้องย้ายไปเสียแล้วน่าเสียดายที่เป็นคนซื่อสัตย์ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี และยัง
เป็นคนในพื้นที่เสียด้วยน่าเสียดาย  บางครั้งต้องอาศัยจ่าช่วยเหลือในการปราบปรามอีก  
      นั่นแหละจ่าเจียมถึงจะยิ้มออกได้  คิดว่าคงจะไม่ใช่รายงานของท่านสารวัตรหรอก
 หรือว่าการกระทำของพวกเขาจะล่วงรู้ไปถึงผู้ใหญ่ในทางกรุงเทพฯ  จากพวกเสี่ยเม้งกระมัง
ด้วยสารวัตรเพียงนำตัวพวกเขาเข้ามาอบรมชี้แจ้งเหตุไม่สมควรเท่านั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม   
เพียงกล่าวว่า.......   แล้วก็ขอให้พวกเขาปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบความเป็นนายตำรวจเท่านั้น  
      พลันจ่าเจียมและพวกต่างกล่าวว่า  ท่านสารวัตรและผู้กองสบายใจได้ครับ
พวกผมไม่สงสัยอะไรท่านสารวัตรอีกแล้วล่ะครับ  ครั้งแรกยังสงสัยอยู่ขอโทษด้วยนะครับ
      เหตุการณ์มันผ่านพ้นไปแล้วผมไม่ติดใจอะไรหรอก  ทำใจให้สบายๆได้แล้วครับสารวัตร 
 สารวัตรก็กล่าวว่า   เพียงขอให้ทุกๆคนรู้จักหน้าที่ว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรักษา
ความเดือดร้อนของประชาชน  แล้วก็ให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่กันได้แล้ว
    เพียงแต่ขอให้เซ็นต์รับทราบความผิดว่าเป็นครั้งแรกเท่านั้นไว้ก่อน  
ตำรวจอื่นเขาจะได้ไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้  แล้วจะพากันทำตามอารมณ์ไปกันหมด 
 แล้วยังบอกว่าผมจะเก็บไว้  แต่ขออย่าให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป     
     บรรดาพวกจ่าเจียมพลางเขาก็เห็นคำสั่งที่พวกเขาเซ็นต์ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักชั้นล่างสุด
 ซึ่งทุกๆคนรู้ว่าไม่มีการรายงานต่อไปแน่นอน
      เมื่อจ่าเจียมนึกขึ้นได้เช่นนี้ความโมโหก็หายไป  พลางเข้าไปกอดสารวัตรและผู้กอง
แสดงความยินดีด้วยใจจริงๆ  มิได้เคลือบแคลงสงสัยอะไรท่านสารวัตรและผู้กองอีกเลย
  แต่เพียงสงสัยว่าเหตุใดคำสั่งจึงมาอย่างกระชั้นชิดนัก  นี่เหตุการพึ่งเกิดขึ้นสองวันเท่านั้น
  คงจะไม่ใช่เป็นการรายงานของสารวัตรและผู้กองแน่นอน     ก็มีคำสั่งย้ายมาแล้ว
      จ่าเจียมจึงกล่าวว่า   งั้นเย็นนี้พวกเราทั้งหมดจะจัดงานเลี้ยงฉลองยศท่านสารวัตรกัน
ขึ้นที่โรงอาหารนะพวกเรา  พลางหันไปทางบรรดาตำรวจทั้งหมด  ทุกๆคนต่างก็เห็นชอบด้วย
      ทางด้านสารวัตรบอกว่าไม่ต้องหรอก   เห็นพวกเรารักใคร่สามัคคีกันก็ปลื้มใจแล้ว
ไม่ต้องเลี้ยงอะไรหรอกก็ได้   ทางตำรวจทั้งหลายไม่ยินยอมว่าในเมื่อเป็นแบบนี้
ก็ควรทำตามธรรมเนียมดั่งเดิมดีกว่า
ดังนั้นสารวัตรชัชวาลย์และผู้กองทั้งสองหันหน้ามายิ้มให้กัน   พลางกล่าว่า
      ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจพวกเราก็แล้วกัน  และอีกอย่างหนึ่งจะได้ส่งพวกที่ถูกย้ายไปในตัวด้วย
  กล่าวเสร็จทั้งหมดก็เข้าไปสวดกอดจ่าเจียม และบรรดานายตำรวจและตำรวจที่ถูกย้ายครั้งนี้
ทุกๆคนด้วย   พร้อมอวยพรขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพทุกๆคน
ทำให้บรรดาที่ถูกย้ายพากันปลาบปลื้มยินดีหมดความสงสัยแก่สารวัตรและผู้กองหมดสิ้น
      ครั้นตกตอนเย็นๆ  ร้านอาหารที่เลี้ยงส่งตำรวจที่ถูกย้ายและที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่เกิดขึ้น  ทุกๆคนต่าง
คนต่างอวยพระดื่มกินกันอย่าง สนุกสนาน  ท่านรองผู้กำกับก็กล่าวในพิธีทั้งแสดงความเสียใจที่เสียตำรวจ
ที่ดีๆไปในครั้งนี้  และแสดงความยินดีผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนยศขึ้นใหม่  พร้อมทั้งอวยพร  
     ทั้งผู้ที่ถูกย้ายและผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งก็ขึ้นมากล่าวอำลาและอวยพรกัน
  ต่างคนก็สนุกสนานกันลืมสิ่งบาดหมางใจกันและกัน  นายตำรวจร้อยตรีและจ่าเจียมก็เข้ามาแสดงความยินดี
กับผู้ที่ได้เลื่อนตำแหน่ง  พลางกล่าวว่าจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้พร้อมครอบครัวจะปฏิบัติหน้าที่
รักษาพิทักษ์ประชาชนกระทำแต่ความดี  สิ่งใดผ่านไปหากพวกเขาผิดก็ขออภัยด้วย  ตำรวจทุกๆนาย
ก็ต่างปรบมือกัน   และงานเลี้ยงก็เริ่มติดต่อกันไปจวบจนเที่ยงคืน  ใครเข้าเวรก็ไปเข้าพวกเข้าเวรก็มาร่วม
รับทานอาหารกันต่อ   งานเลี้ยงจึงได้เลิกลาต่อเมื่อล่วงเลยเวลาดึกมากไปแล้ว
ต่างคนต่างลาท่านรองกำกับ ท่านสารวัตรและผู้กองออกเดินทางกลับบ้านกัน...........
                          *  แก้วประเสริฐ.  *

Cartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus
  • แจ้นเอง

    26 พฤศจิกายน 2553 23:40 น. - comment id 120221

    36.gif
    
    ต้องฝึกนั่งสมาธิจรืงๆจังๆซะทีแล้วล่ะค่ะ
    
    31.gif
  • แก้วประเสริฐ

    27 พฤศจิกายน 2553 00:28 น. - comment id 120222

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แจ้นเอง
    
            ครับผมขออนุโมทนาด้วยคนครับ 
    อย่างน้อยสิ่งที่ได้รับ คือปัญญาเกิดแน่นอน
    และจิตใจจะปราศจากความขุ่นมัว ระงับ
    อาการโมโหได้ให้น้อยลงครับ ขอบคุณ
        รักแจ้นเสมอ
    
                 16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • กิ่งโศก

    28 พฤศจิกายน 2553 10:43 น. - comment id 120232

    ครูแก้ว ทำไมทราบเรื่องวิถีชีวิตของตำรวจละครับ..1.gif
  • แก้วประเสริฐ

    28 พฤศจิกายน 2553 13:07 น. - comment id 120244

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
           อ้อ...ด้วยครูมีเพื่อนเป็นตำรวจที่เรียน
    หนังสือรุ่นเดียวกัน เป็นถึงนายพลฯทั้งทหาร
    และตำรวจมา ตอนนั้นกินเหล้ากันเสมอ
    และคุยกันต่างๆนาๆด้วยถึงได้รู้จ้า
    ทุกวันนี้ก็มีสารวัตรที่ครูฝึก
    เบตองให้เขาด้วย เขามาเห็นทีไรต้องยกมือ
    ไหว้ครูเสมอ  และเธอเองก็รู้ว่านิสัยครูนั้น
    ชอบรู้เรื่องราว คบใครที่เห็นว่าจะมีประโยชน์
    ในการศึกษา ก็จะสอบถามเขาเสมอๆจ้า
    เขาจึงเล่าให้ฟัง  ครูก็เก็บมาเล่าและเพิ่ม
    เติมไปด้วย  ก็เท่านั้นเองแหละจ้า
         รักศิษย์เราเสมอๆ
    
          16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ทางแสงดาว

    5 กุมภาพันธ์ 2554 09:22 น. - comment id 122063

    ทำให้ได้ทราบสิ่งต่างมากมาย...
    
    ขอบคุณอีกครั้ง..ด้วยรักและเคารพคุณชาย36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน