อทิสมานกาย ๒๒ ครั้นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตลอดจนกรรมการทั้งหลายที่กำนันไปแจ้งให้ทราบเข้าประชุม ก็พากันเข้ามากราบหลวงพ่อทอง ต่างปรึกษากันเรื่องงานในวันสงกรานต์ที่จะมาถึงประมาณปลายเดือนนี้นั้น ด้วยทางกำนันจ้อยนั้นในฐานะเป็นมัคทายกของวัด ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยเป็นรองมัคทายก ตลอดจนชาวบ้านบางคนซึ่งต่างเป็นกรรมการวัดโคกอีแร้ง กำนันพลันกล่าวขึ้นว่า............. ผมคิดว่าไม่เป็นปัญหาอะไรหรอกครับหลวงพ่อ.....กำนันและพวกกรรมการต่างช่วยกันเอ่ยขึ้น หากท่านกำนันและกรรมการดำเนินงานครั้งนี้ ก็ให้พยายามประหยัดไว้หน่อยนะด้วยตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก อีกประการหนึ่ง ฉันอยากจะขอร้องให้กำนันช่วยเหลือในบางสิ่งบางอย่างด้วยนอกจากงานนี้แล้ว .......หลวงพ่อกล่าวในที่ประชุมให้แก่บรรดากำนันและกรรมการทั้งหลายประมาณสิบกว่าคนล้วนเป็นคนมีฐานะดีๆทั้งนั้น ซึ่งทางกำนันได้แจ้งไว้ให้ทราบขอให้เข้ามาประชุมด้วย เมื่อได้ฟังหลวงพ่อกล่าวเช่นนี้ก็ต่างพากันสงสัย กำนัน ก็ถามหลวงพ่อทองว่า....ไม่ใช่เรื่องงานสงกรานต์แล้วมีอะไรหรือครับหลวงพ่อ????....... หรือจะมีเรื่องอื่นๆอีก หลวงพ่อจะให้พวกเราทำอะไรหรือครับบอกมาได้เลยครับหลวงพ่อ กำนันกล่าวขึ้น อ้อๆๆๆ.....ปีนี้หลวงพ่อคิดว่าจะเป็นปีพิเศษสักหน่อย ด้วยฉันนั้นได้สร้างพระเครื่องรางของขลังบางอย่างไว้ สำหรับเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ที่จะเข้ามาร่วมทำบุญร่วมงานนี้ด้วยนะกำนัน.... รายได้ก็จะซ่อมแซมโบสถ์และศาลาหน่อย จึงขอให้พวกเราช่วยเป็นหูเป็นตาตรวจสอบในการมอบพระให้แก่ผู้ทำบุญสักหน่อย หลวงพ่อกล่าวขึ้น กำนันและพวกเราจะว่าอย่างไรล่ะ???.... หลวงพ่อถาม ฮ้าๆๆจริงๆหรือครับหลวงพ่อ......ทุกๆคนต่างตกตะลึงไปตามๆกันด้วยทราบดีว่าหลวงพ่อไม่เคยคิดจะสร้างพระไว้ เลยตั้งแต่เป็นเจ้าอาวาสมาก็หลายสิบปี แม้จะมีพวกเขาและชาวบ้านต่างพากันขอร้องให้ช่วยสร้างพระเครื่องไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาไว้ ด้วยทุกๆคนทราบว่าหลวงพ่อทองท่านเก่งกาจในเรื่องวิชาอาคมมากมายนัก หลวงพ่อทองก็ปฏิเสธทุกๆครั้งไป เพียงกล่าวว่าพวกโยมคอยก่อนก็แล้วกันนะ แล้วเอ่ยว่าคงจะมีและคงไม่นานหรอก สักวันหนึ่งครั้นถึงเวลาฉันจะบอกพวกเธอเอง...... หลวงพ่อมักจะกล่าวเช่นนี้เสมอๆ บรรดากรรมการทั้งหลายรู้สึกแสดงความดีอกดีใจอย่างเห็นได้ชัด ต่างร้องส่งเสียงเซ็งแซ่ไปตามๆกันต่างมองหน้ากันไปๆมาๆเหมือนไม่เชื่อหูตนเอง กำนันพลันหันไปถามย้ำหลวงพ่ออีกทีว่า หูผมไม่ฝาดนะครับว่าหลวงพ่อจะสร้างวัตถุมงคลเพื่อแจกจ่ายแก่ชาวบ้านครับหลวงพ่อ???..... ไม่หูฝาดหรอกโยม บัดนี้อาตมาสร้างเสร็จครบเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอเข้าพิธีเท่านั้นเองแหละ จึงใคร่ขอรบกวนพวกเราสักหน่อย......หลวงพ่อกล่าว อ้าวๆๆแล้วทำไมไม่บอกพวกผมล่ะครับ จะได้เกณฑ์พวกเรามาช่วยกันทำพระให้แก่หลวงพ่อ กำนันเอ่ยขึ้น ฉันเกรงใจพวกเธอแหละ อีกอย่างหนึ่งทุกๆคนก็ต้องทำงานกัน เดี๋ยวงานที่ทำจะเสียหายไปจ๊ะ หลวงพ่อเอ่ยขึ้น ว่ามาเลยครับหลวงพ่อจะให้ผมทำอะไรบ้าง พวกผมและชาวบ้านเราคงจะดีใจมากที่ทราบข่าวนี้แล้วผมจะไป ประกาศให้ชาวบ้านโคกอีแร้งทราบทุกครัวเรือน หมู่บ้านเราก็มีคนประมาณร้อยกว่าหลังคาเรือน จำนวนคนก็นับได้ เป็นหมื่นหรือกว่าอยู่แล้วครับ ทุกๆคนจะมีความหวังด้วยอยากได้วัตถุมงคลจากหลวงพ่อจริงๆครับ.....กำนันตอบด้วยความดีใจที่เขาได้ยินหลวงพ่อกล่าวเช่นนี้ อีกอย่างหนึ่งเมื่อชาวบ้านทราบข่าวนี้เห็นทีงานสงกรานต์ปีนี้คงจะมีคนมามากมายแทบหมดหมู่บ้านเลยก็ได้ครับ แล้วเรื่องมหรสพล่ะ หลวงพ่อจะให้เหมือนเดิมหรือเปล่าล่ะครับ???...ด้วยทุกๆปีไม่เคยมีมาครั้งนี้เป็นงานพิเศษด้วย ฉันว่าไม่ต้องมีหรอก ไม่ใช่งานเที่ยวนี่นา นี่เป็นงานทำบุญกันโดยเฉพาะเท่านั้นต้องการให้มาทำบุญด้วยศรัทธา มิใช่มาเพราะต้องการดูมหรสพกันจ๊ะ หลวงพ่อเอ่ยขึ้น แต่ฉันยังขาดอุปกรณ์ในการใช้ทำในพิธีปลุกเสกไม่รู้ว่าจะหาได้อย่างไรจึงอยากจะให้กำนันและพวกเราช่วยๆกันหน่อยแหละ ......หลวงพ่อกล่าว เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกครับหลวงพ่อ หลวงพ่อต้องการอะไรบ้างล่ะ พลางหันไปบอกทางผู้ใหญ่บ้านให้เตรียมจดรายการเอาไว้ด้วย บรรดากรรมการต่างก็รีบขะหมีขะหมันเตรียมจดรายการทันทีด้วยความเต็มอกเต็มใจ ด้วยจะได้รับการแจกพระจากหลวงพ่อที่เป็นความหวังของพวกเขาและชาวบ้านโคกอีแร้งมานมนานแล้ว คือว่าฉันอยากจะให้ช่วยหากล่องใหญ่ๆสักหน่อยจำนวนมากและแข็งแรงด้วย มาใส่พระซึ่งตอนนี้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเพียงใส่ในตุ่มไว้มากมายจะเสียหายหมดเสียก่อน และก็ของที่จะใช้บรวงสรวงเทพยดากับ ประรำพิธีอันมีฉัตรเก้าชั้นสักเก้าฉัตรตลอดจนเครื่องบวงสรวงสังเวยต่างๆ ส่วนฉัตรนั้นฉันอยากได้ของสดที่ทำด้วยใบตองคล้ายๆกับใบศรีที่ใช้ในงานบวชนาคนั่นแหละ ปลายเป็นธงกระดาษหลากสีหน่อย ตลอดจนเขือกที่ร้อยธงเล็กๆเรียงรายเป็นสายยาวๆ คงจะหลายๆสายหน่อยนะกะพอประมาณในการใช้ในพิธี ภายในโบสถ์ และนอกโบสถ์เพื่อประดับหน่อย แล้วหลวงพ่อก็จรรนัยสิ่งที่ต้องการให้แก่กำนันและพวกกรรมการทั้งหลายทราบ กำนันและกรรมการทั้งหลายรีบจดรายการไว้จนครบทั้งหมด พลางเอ่ยพร้อมกันว่า....... ไม่เป็นปัญหาหรอกครับหลวงพ่อ เข้าของต่างๆไม่ต้องเอาเงินวัดมาใช้จ่ายหรอกพวกกระผมจะช่วยกันออกเอง ครับหลวงพ่อ........ พวกกรรมการกล่าวพร้อมๆกัน เมื่อหลวงพ่อได้ยินเช่นนั้น ก็กล่าวอนุโมทนาแก่ทุกๆคน พลางลุกขึ้นเดินไปยังหน้าโต๊ะพระบูชา พลางหยิบพระและลูกอมที่ปั้นไว้ ออกมาให้พวกกรรมการดูกัน พลางกล่าวว่า นี่คือวัตถุที่ฉันสร้างขึ้นไว้พวกเราดูซิว่าใช้ได้หรือเปล่า กล่าวเสร็จก็ยื่นพระและลูกอมส่งให้กำนันก่อน กำนัน เมื่อรับพระแล้วพวกกรรมการทั้งหมดต่างรีบเข้ามามุงดูและรับไปพิจารณากัน ครั้นเห็นองค์พระและลูกอมแล้วต่างอุทานกันไปตามๆกัน พลางยิ้มด้วยใบหน้าระรื่นสดชื่นต่างพากันอุทาน สวยงามมากนะนักครับหลวงพ่อ แปลกจริงๆทำไมองค์แม้จะใหญ่ไม่มากนัก คิดว่ากำลังเหมาะพอควรใช้ได้ทั้ง หญิงและชาย หากใครเห็นต้องรักหลงใหลมากเชียวครับด้วยเหตุที่ พระที่หลวงพ่อทำนั้น ไม่ว่าพระและลูกอมเหล่านี้ แต่ทำไมจึงมีประกายแวววาวหลากสีสวยงามยิ่งนัก แปลกจริงๆครับหลวงพ่อทุกๆคนเอ่ยขึ้น..... ดูแล้วเหมือนไม่ใช่เนื้อผงพระธรรมดาอื่นๆที่พวกผมใช้อยู่เลยล่ะครับ แล้วหลวงพ่อสร้างไว้เท่าไหร่ล่ะครับ พวกผมไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย แต่พลันนึกได้ว่าหลวงพ่อมักจะไม่ค่อยพูดและเปิดเผยอะไรมากนัก ด้วยความดีใจครั้นจะเงียบไม่ถามด้วยความขัดข้องสงสัย จึงได้ถามเพื่อให้คลายความสงสัยกังวลเท่านั้น ดังนั้นจึงถามหลวงพ่อพร้อมด้วยกำนันและพวกต่างสอบถามกันเซ็งแซ่ไปหมด หลวงพ่อทองตอบว่า......ฉันก็ทำพระนั้นเท่าพระธรรมขันธ์เท่านั้นแหละโยม ตั้งใจว่าจะเก็บไว้ใต้พระประธานใน โบสถ์เสียส่วนหนึ่ง นอกนั้นจะแจกจ่ายแก่พวกโยมและผู้มีศรัทธาทำบุญแก่วัดเราจ๊ะ อะไรครับหลวงพ่อ????......พระตั้งแปดหมื่นสี่พันองค์เชียวนะครับ ไม่ใช่น้อยเลยนะครับต้องใช้เวลานานเสียด้วย แล้วได้แรงงานทำมาจากไหนล่ะครับหลวงพ่อถึงได้ทำเสร็จเร็วอย่างนี้ ???.... หรือว่าทางร้านที่สั่งทำจะทำมาให้ครับ กำนันและพวกกรรมการถามด้วยความสงสัยยิ่งนัก????.... ไม่มีอะไรหรอกโยมอาตมาก็ใช้พวกผีๆนั่นแหละมาช่วยทำกันนะ หลวงพ่อตอบ พวกผีๆในวัดนี้หรือครับหลวงพ่อ???.... กำนันและกรรมการถามพลันอึ้งและพลางตาเหลือกโพลงไปตามๆกัน ใช่แล้วโยมพระในวัดเราก็มีไม่กี่รูป จะไปขอกำลังจากพวกเราหรือก็ทำงานกันจะเสียงาน อาตมาก็เลยไม่อยาก รบกวนเลยให้พวกผีๆที่อาสานี่แหละมาช่วย ทำกันทั้งวันทั้งคืน โดยอาตมาได้ปลุกเสกร่างของพวกเขาก่อนหากผีตัวใดท่องมนต์สมาธิได้สำเร็จก็แปลงกายในกลางวันได้ หากไม่สำเร็จก็จะมาช่วยกันในเวลากลางคืน ก็เท่านั้นเองแหละ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลยนี่โยม แล้วงานก็ละเอียดดีเสียด้วยซิ .......หลวงพ่อกล่าวเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เล่นเอากำนันและพวกตาเหลือกลานกันไปหมด โอ้ย!!!!!?????......พากันร้องลั่นไประงมแทบทุกๆคน ก็ดีไปอย่างนะโยม....หากใครคล้องพระนี้ไว้รับรองว่าผีในป่าช้าเราไม่ทำอะไรหรอก เพราะเขาเป็นคนช่วยทำเอง แล้วหลวงพ่อก็หัวเราะ ฮึๆๆๆ..... แต่กำนันและกรรมการไม่คิดจะหัวร่อนอกจากมองหลวงพ่อ ต่างคนต่างนึกไปคนละแบบกัน ได้แต่มองหน้ากัน แล้วกำนันและพวกเราอย่าไปบอกชาวบ้านเชียวนาว่าพระนี้พวกผีๆทั้งหลายมันช่วยทำ ประเดี๋ยวเขาจะกลัว แต่ อาตมารับรองได้ว่า ของที่อาตมาทำไว้นั้นไม่เหมือนใครและก็ไม่มีใครเหมือนอาจารย์อื่นๆทั่วไปหรอก... หลวงพ่อกล่าวและกำชับพวกกรรมการเสียก่อน ครับหลวงพ่อ....พลางหันไปบอกพวกกรรมการทั้งหลายว่า พวกมึงก็อย่าปากเสียปากพล่อยไปล่ะแม้แต่ลูกเมียญาติมึงก็อย่าเผยเอ่ยด้วยนะ จ๊ะกำนันรับรองได้ว่าให้เรารู้กันแค่พวกเรานี้เท่านั้นเองแหละ พลางกำนันก็หันไปทางหลวงพ่อแล้วถามขึ้น..... แล้วพระนี้จะจำหน่ายองค์ละเท่าไหร่ล่ะ ลูกอมด้วยครับหลวงพ่อ..... หลวงพ่อทองกล่าวว่า... ไม่คิดราคาหรอกโยมกำนัน หากใครทำบุญมากหรือน้อยก็แจกให้ทุกๆคนแหละ เพียงแต่หากเป็นพวกเด็กๆ ขอร้องให้พ่อแม่เขาช่วยทำบุญให้เด็กด้วยก็แล้วกันแล้วนำเด็กไปไหว้พระก่อนด้วยนะ... ส่วนด้านกำนันให้จัดคนคอยแจกแล้วบอกให้เขาทำบุญกันด้วย แต่ไม่ให้เกินกว่าคนละหนึ่งองค์นะลูกอมก็เหมือนกัน จะอ้างว่าคนที่บ้านไม่มาขอเช่าไปฝากก็ไม่ได้ อีกอย่างหนึ่งคนของโยมที่ให้แจกพระและลูกอมนั้นบอกเขาด้วย หากนำไปซ่อนไว้เพื่อจะได้ของมากๆนั้น ของเหล่านั้นก็จะกลับหายไปคืนมายังอาตมาด้วย จะมาเอาคืนไม่ได้ อาตมาจะนำไปเก็บไว้ยังฐานพระประธานหมด อาตมาไม่ให้ด้วย ใครทำนั้นอาตมาจะรู้เพราะได้เตรียมพานไว้หากผู้ใดจิตใจไม่บริสุทธิ์หรือใช้ในทางที่ไม่ควร พระและลูกอมจะหนีคืนกลับมาที่พานอาตมา บอกทุกๆคนด้วยนะโยม ด้วยของนี้มีอิทธิ์ฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์มากหากผู้ใดไม่ต้องการเขาจะ หนีกลับมาหมด อย่าลืมสั่งไว้เป็นพิเศษแก่คนที่รับของทุกๆคนด้วย หรือเขียนป้ายบอกไว้ก็ดี เพื่อให้ชาวบ้านได้รับรู้ไว้ คาถาไม่ต้องหรอกเพียงบูชาพระรัตนตรัยเท่านั้นพอ หากผู้ใดทำไม่ดีก็จะหนีกลับมาหมด แล้วจะมาขออาตมาอีก อาตมาจะไม่แจกให้อีกแล้ว ถือว่าวันนั้นเป็นวันสำคัญฤกษ์ดีมีชัยด้วย จะหาฤกษ์ทำได้ยากหลายๆปีจะมีสักครั้งเดียว อย่าลืมคำอาตมาเสียล่ะ อาตมาต้องการคนมีศรัทธาเท่านั้นต้องให้มาทำบุญไหว้พระด้วยใจบริสุทธิ์ สิ่งของจะได้ช่วยเหลือคุ้มครองแก่ผู้มีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาเท่านั้น เพราะความมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเช่นนี้จิตใจย่อมบริสุทธิ์ ของที่มอบให้ ก็จะแสดงอิทธิ์ฤทธิ์ได้เต็มที่ ช่วยเหลือปกปักรักษาให้มีแต่ความสุขความเจริญพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง ปราศจากสิ่ง ชั่วร้าย บอกโยมก็ได้ว่าของๆนี้ทวยเทพยดาท่านลงมาช่วยทำให้ด้วยนะ ล้วนแต่เป็นเทพชั้นผู้ใหญ่เกือบทั้งสิ้น ฉะนั้นจึงไม่เหมือนเครื่องรางของขลังทั่วๆไป หลวงพ่อทองกำชับไว้ ส่วนคนที่มาช่วยเหลืองานในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ด้วยแรงกายนั้นให้แจกแค่ลูกอมเท่านั้นคนละหนึ่งลูกพอถึงจะไม่ทำบุญก็ตาม หากเขาจะทำบุญเพิ่มก็ให้ไปไหว้พระก่อนแล้วค่อยมารับพระไป ส่วนคนที่มาช่วยงานสองวันนี้ให้จดรายชื่อคนมาช่วยงานด้วยแรงกายไว้ทุกๆคนเวลามารับให้ขีดฆ่าชื่อออกลงชื่อไว้ด้วยเพื่อมอบของให้ ด้วยของเหล่านี้ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆนัก โยมก็เห็น แล้วว่าเป็นพระหรือลูกอมล้วนไม่เหมือนใครๆเขาที่ทำกันทั้งหลายนะโยม ส่วนชาวบ้านที่มาทำบุญให้เขาทำบุญไหว้พระก่อนถึงจะได้รับพระคนละองค์ ปฏิบัติเหมือนกันหมด ให้ตอนที่เขาทำบุญไหว้พระเสร็จเสียก่อน โยมช่วยประกาศให้พวกเขาทราบด้วยนะ ถึงจะแจกแต่ต้องบอกเขาให้ไปไหว้พระเสียก่อนด้วย ไม่ใช่ว่าพอเช่าพระแล้วก็ไม่เข้าไปกราบพระประธานเสียล่ะ และคอยบอกคนแจกให้สังเกตุด้วยว่าอย่าให้ มีการเวียนเทียนกันซ้ำหน้ากันด้วย อาตมาต้องการให้คนในหมู่บ้านโคกอีแร้งเท่านั้น ส่วนคนนอกหมู่บ้านนั้นก็ไม่เป็นไร ถ้าหากเขามีศรัทธาจริงๆและจิตใจบริสุทธิ์ แต่พวกของกำนันมั่นนั้นไม่ต้องไปแจกแม้จะทำบุญด้วยก็ตามด้วยเขาพวกนี้ทำงานผิดกฏหมายกันซ้ำคนในหมู่บ้านรอบๆก็ติดยากันเกือบแทบทุกๆคน เสมือนให้ของไปเพื่อใช้ในทางที่ผิดๆ หลวงพ่อย้ำแล้วย้ำอีก กำนันและพวกก็รับคำหลวงพ่อ พลางนึกว่านั่นซิพระและลูกอมถึงไม่ธรรมดาด้วยอิทธิ์ฤทธิ์บารมีของทวยเทพยดาชั้นสูงๆนี่เอง ความศรัทธาจึงเปี่ยมล้นในจิตใจเขาอีกประการหนึ่งพวกเขารักและเคารพหลวงพ่อมากอยู่ พวกเขาพยายามอ้อนวอนหลายต่อหลายครั้งให้ท่านสร้างวัตถุมงคลท่านถึงไม่ยอมสร้างด้วยเหตุนี้นี่เอง แล้วหลวงพ่อก็เอ่ยขึ้นอีกว่า หากได้เงินมาเท่าไหร่ก็ตามฉันว่าจะนำมาสร้างโบสถ์บ้าง กุฎีบ้างและศาลาฟังธรรมด้วยเพราะชำรุดทรุดโทรมมากเกรงจะเป็นอันตรายไปนะหากพังลงมาในขณะมาทำบุญกันจ๊ะ.... ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ......กำนันหันไปทางกรรมการทันทีว่าเห็นทีพวกเราเมื่อหลวงพ่อจะสร้างสิ่งดังกล่าวไว้ พวกเราก็ช่วยๆกันหน่อยก็แล้วกัน แล้วต่างให้ช่วยพากันไปบอกว่าหลวงพ่อจะซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ กับสิ่งที่หลวงพ่อบอกมา ชาวบ้านพวกเราก็มีฐานะไม่ต่ำต้อยเท่าไหร่คงจะได้โขนะ....กำนันเอ่ยขึ้น ส่วนข้านั้นจะช่วยเงินสร้างครั้งนี้ห้าหมื่นบาทนำทางก่อน แต่ส่วนพวกกรรมการจะช่วยเท่าไหร่ก็ตามใจว๊ะ.... พวกผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยและกรรมการคนอื่นก็บอกว่า หากกำนันช่วยห้าหมื่นบาท พวกข้าต่างปรึกษากันแล้วก็ทำ บุญคนละห้าหมื่นเหมือนกำนันนั่นแหละแต่ว่าจะช่วยมากกว่ากำนันก็เกรงใจ ผู้ใหญ่อาจเอ่ยขึ้นบ้าง กำนันบอกว่าไม่เป็นไรจะช่วยมากกว่าก็ได้ว๊ะ ยิ่งมากยิ่งดีจะได้บุญถ้วนหน้าด้วยหลวงพ่อไม่เคยสร้างวัตถุมงคล ไว้เลย นี่เป็นครั้งแรกของท่านด้วย เมื่อกำนันพูดดังนี้ อย่าหาว่าข้าล่วงเกินกำนันนะ ผู้ใหญ่บ้านอาจถาม.... แล้วแต่ผู้ใหญ่เถอะเท่าไหร่ก็ได้พ่ออาจ.........กำนันตอบ ถ้าอย่างนั้นข้าขอช่วย สักหนึ่งแสนบาทจ๊ะ พ่อกำนันจะว่าอย่างไร....ครั้นทางกำนันได้ฟังดังนั้นก็หัวร่อลั่นเออๆๆๆ....ดีว๊ะพวกเราก็มีฐานะร่ำรวยด้วยผลผลิตเงินหรือก็ไม่ได้ใช้เก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์ด้วย งั้นข้าเองก็ช่วย เท่าผู้ใหญ่บ้านอาจก็แล้วกัน....กำนันกล่าว เมื่อเป็นเช่นนั้นพวกข้าก็จะช่วยคนละแสนเท่าๆกันด้วย พวกเรามีทั้งหมดสิบกว่าคนคงจะได้ล้านกว่าบาท คงสามารถซ่อมแซมหรือบางทีอาจจะได้ของใหม่ๆเสียเลย แล้วพากันหัวร่อด้วยความปลาบปลื้มยินดี แล้ว กล่าวต่อว่า กำนันพูดถูกพวกเราไม่ได้ใช้เงินเลยรายได้พวกเราเกิดจากโครงการณ์พระราชดำริห์ของพระองค์ท่าน จึงมีรายได้ทั้งปี อาหารการกินหรือก็ทำเองกินเองทั้งสิ้น รายจ่ายแทบจะไม่มีจึงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก เมื่อต่างคนลงมติกันเช่นนี้ก็หันไปทางหลวงพ่อแจ้งความประสงค์ทันที ทุกๆคนเอ่ยกับหลวงพ่อทุกคน ในเรื่องนี้ พร้อมหันไปทางกำนันว่า .......ในเรื่องเงินนั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปเบิกธนาคารมามอบให้กำนันในฐานะ ประธานกรรมการก็แล้วกันนะ กรรมการคนอื่นๆกล่าวขึ้น ตามใจพวกเราว๊ะ....เออดีๆเป็นครั้งแรกที่มีงานเช่นนี้ต่อไปคงจะไม่มีอีกแล้วนะพวกเรา...อายุต่างคนก็มากๆ กันแล้วล่ะจะเสียดงเสียดายกันไปทำไม ลูกหลานหรือก็มีที่ทำมาหากินที่พวเราสร้างไว้ให้มันทุกๆคนแล้วนี่นา... ใช่แล้วล่ะพ่อกำนัน....ซ้ำยังได้สิ่งมงคลที่งดงามหาแบบนี้อีกไม่ได้เสียด้วยติดตัวไปบูชากันอีกด้วยนะ พวกเราก็ได้ยินหลวงพ่อกล่าวแล้ว ปกติท่านจะไม่เคยกล่าวอะไรกับใครง่ายๆ ท่านกลัวผิดศีล ถือว่าเป็นบุญของพวก เราที่ได้เห็นสิ่งที่เป็นมหามงคลเช่นนี้ เงินทองหาง่ายนะแต่ว่าของแบบนี้ซิจะไปหาได้ที่ไหนอีก จริงๆว๊ะกรรมการคนหนึ่งเอ่ยสนับสนุนทันที... เออ...นี่เฉพาะพวกเราเท่านั้นนะ ส่วนลูกเมียและครอบครัวต่างหากนะโว้ยไม่เกี่ยวกัน รู้แล้วล่ะพ่อกำนัน ให้ปิดเป็นความลับหากเมียมันถามว่าเป็นเงินของเรามาทำบุญสร้างโบสถ์บูรณะวัดเท่านั้น บางทีอาจจะได้มากอีกก็ได้ว๊ะ จริงไหมว๊ะผู้ใหญ่.... พลางหันไปถามเพื่อป้องกันไว้ก่อนด้วยผู้ใหญ่กลัวเมียมาก เหมือนจะรู้ทันมึงไม่ต้องพูดมากหรอกว่าไอ้กำนัน....แล้วก็หัวร่อช่างกูเถอะเพราะกลัวเมียนี่แหละกูถึงได้ดีว๊ะ??... ด้วยกำนันและผู้ใหญ่บ้านเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆรักใครกลมเกลียวกันจนเป็นที่รู้ไปทั่วๆ กูก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่หว่า มันก็จริงของมึงยายแช่มเองมันดีแสนดีเอาใจมึง เป็นกูกลัวเกรงใจว๊ะ??.... กำนันพลางหันไปตอบ... ดังนั้นผู้ใหญ่อาจซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันก็หัวร่อลั่นห้องกุฎี มันก็เหมือนกันล่ะว้าไอ้พ่อกำนัน ฮิๆๆๆๆ เล่นเอาพวกกรรมการทั้งหลายซึ่งเป็นเพื่อนกัน แต่ความสนิทสนมไม่เท่ากับผู้ใหญ่อาจ ต่างพากันยิ้มๆไปตามๆกัน นี่โยมออกความเห็นกันเองนะ ฉันไม่ได้กะเกณฑ์อะไรขอร่วมอนุโมทนากันทุกๆคนด้วย....หลวงพ่อเอ่ยขึ้น คราวนี้พวกกรรมการหันมาทางหลวงพ่อ ทุกๆคนเอ่ยขึ้นว่า เป็นความพอใจของผมครับ พวกผมก็เคยปรึกษากัน เหมือนกันว่าวัดเราทรุดโทรมมาก จะเสนอหลวงพ่อก็เกรงใจด้วยไม่รู้ว่าหลวงพ่อจะอนุญาตหรือเปล่าเท่านั้นครับ.... เอาล่ะหลวงพ่อเรียกมาปรึกษาเท่านี้แหละ งานนี้ต้องทำให้เสร็จในวันเสาร์นี้ วันอาทิตย์จะเป็นวันมหาฤกษ์ มหามงคล แล้วโยมจะได้เห็นสิ่งแปลกๆเกิดขึ้นอย่าตกใจก็แล้วกัน คราวนี้กำนันและพวกต่างมองหน้ากัน พลางถามหลวงพ่อว่าเกิดอะไรหรือครับหลวงพ่อ???..... เออๆๆข้าไม่บอกไว้วันอาทิตย์พวกเอ็งก็จะรู้หลังตอนเที่ยงไปนะ โยมอย่าลืมของที่ข้าบอกไว้ก็แล้วกันขาดไม่ได้ ด้วยนา อ้อ เรื่องธูปเทียนด้วยนะทางวัดมีไม่มากหรอกจัดเตรียมไว้ด้วยก็จะดีจ๊ะ .......หลวงพ่อตอบ ครับหลวงพ่อ....เรื่องเหล่านี้พวกข้าจะนำมาให้อาจจะเกินแล้วก็จะถวายหลวงพ่อด้วยเลยหากเหลือครับหลวงพ่อ... ขอบใจพวกกำนันและกรรมการทุกๆคนด้วยนะ แล้วเจอกันในวันเสาร์อาทิตย์ อ้อ...ให้กำนันจัดหาคนมาช่วยดูแล งานด้วยนะ หลวงพ่อสั่งขึ้น ครับผมจะกะเกณฑ์พวกหนุ่มๆที่ฝึกไว้มาช่วยครับหลวงพ่อ ........กำนันผู้ใหญ่บ้านตอบ งั้นก็ดีแล้วจะได้หมดห่วงเสียที ตามสบายนะโยมจะอยู่หรือจะไปก็ได้นะ???......หลวงพ่อเอ่ยขึ้น เมื่อไม่มีอะไรแล้วงั้นหลวงพ่อพักผ่อนได้แล้ว ของจะส่งมาก่อนวันเสาร์จะให้เด็กๆนำมาวางไว้ในกุฎีหลวงพ่อและใน ศาลาไว้พลางๆก่อนครับแล้วจะให้คนมาคอยเฝ้าไว้ด้วย.....กำนันเอ่ยขึ้น ไม่ต้องหรอกให้เขาทำงานไปเถอะ ของที่นำมานั้นมีเด็กคอยเฝ้าให้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว....หลวงพ่อตอบ พวกกำนันและกรรมการทั้งหมดมองหน้า ด้วยทราบว่าใครจะมาเฝ้า ก็คงจะเป็นพวกผีๆทั้งหลายนั่นเองแหละ แล้วพากันก้มลงกราบหลวงพ่อ พวกผมกลับก่อนนะครับหลวงพ่อกำนันเอ่ยนำพรรคพวก เจริญพรเถอะโยม....หากโยมนำมาแล้วไปวางไว้ที่ศาลาฟังเทสก์ก็แล้วกัน แล้วให้มันกลับบ้านได้ไม่ต้องเฝ้า พวกเด็กๆมันจะคอยช่วยดูแลให้เองแหละ หลวงพ่อกล่าว..... ครับหลวงพ่อ...ครั้นแล้วพวกกรรมการทั้งหลายก็ทะยอยลงจากุฎีหลวงพ่อ เสียงรถดังขึ้นแล้วก็หายไป หลังจากพวกกรรมการไปแล้ว หลวงพ่อก็นั่งสมาธิบริกรรมคาถาอาคมโดยมีสายสินธ์พันรอบๆพระบูชาและสิ่งของที่ อยู่ในตุ่มวางเรียบรายไว้รอบๆ โยงสายสินธ์เข้ามาในห้องม้วนสายสินธ์วางบนพานหน้าพระพุทธรูป ภายหลังจากกราบพระบูชาพระรัตนตรัยเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าสมาธิปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่อไปทั้งกลางวันกลางคืน แล้วก็พักผ่อนร่างกายบ้างเพื่อมิให้ร่างกายทำงานหนักและช่วยผ่อนคลายเส้นสายต่างๆด้วย...... * แก้วประเสริฐ. *
23 พฤศจิกายน 2553 21:32 น. - comment id 120161
ครูคะ ภาคแรกๆ ดูเหมือนจะเกี่ยวกับผีๆ ถึงภาคนี้ ก็ยังมีผีมาช่วยอีกแรง อิ เก่งจังเลยค่ะครูแก้วฯ คิดได้ยังงคะ ยาวมากๆ
23 พฤศจิกายน 2553 21:57 น. - comment id 120163
คุณ แก้วประภัสสร ศิษย์รัก ครูก็เคยกล่าวไว้แล้ว ตลอด จนหลักร้อยแก้ว และร้อยกรอง นั้นจะมี ส่วนคล้ายๆกัน แต่การเขียนร้อยแก้วให้เป็นนิยายนั้น ยากกว่าการเขียนแบบธรรม เนื้อเรื่องต้อง สัมพันธ์กัน ในเมื่อเขียนเรื่องผีสางนางไม้ ก็ต้องสอดแทรกเข้่าไป ส่วนการสร้างเรื่อง ก็ต้องคิดเอง โดยใช่้จินตนาการของแต่ละ คนประกอบเข้ากับประสบการณ์ที่ผ่านมา ของเรา อย่างเรานึกว่าจะเขียนเรื่องใดๆ ต้องหาข้อมูลมาประกอบหรือก็เคยผ่าน สายตาเรามาแล้ว ก่อนจะเขียนเราต้อง พอร์ตเรื่องไว้ก่อนว่าจะให้เดินทางไปใน แนวทางไหน การวางตัวหนังสือก็ต้องใช้ ให้ถูกต้องตามลักษณะของภูมิประเทศ ด้วย ถึงจะเข้ากัน เช่นคำพูดของพวก ชนบทอย่างหนึ่ง คำพูดของในกรุงเทพ อย่างหนึ่ง คำพูดระหว่างเจ้านายกับคนใช้ ก็อีกแบบหนึ่งเป็นต้น เราต้องรู้ไว้ ส่วน อรรถรสนั้น หลักสำคัญยิ่งคือเราต้องเข้่า ไปร่วมแสดงกับเขาด้วยถึงจะได้เนื้อ ความแล้ว เนื้อเรื่องก็จะออกมาให้เห็น ภาพเองแหละจ้า เห็นเขียนเรื่องสั้นๆไว้ ครูเข้าไปอ่านเสมอแหละ ซึ่งเขาเรียกว่า การเขียนแบบเรียงความ ส่วนเรื่องสั้นที่ มีความหมายนั้นคือต้องอธิบายเกี่ยวกับ เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ หากเป็นนิยาย ต้องอาศัยเหตุการณ์ การสนทนา การวาง เรื่องราวให้สอดคล้องกัน นิยายจึงเขียน ได้ยากกว่าอื่นใดทั้งสิ้น ยิ่งเป็นนิยายเกี่ยว กับประวัติศาสตร์ด้วยแล้วยิ่งยากใหญ่เลย จะนึกเขียนอย่างไรก็ต้องให้เป็นไปแนว ประวัติศาสตร์จะผิดเขียน เช่นลักษณะ เมือง แม้นเราจะตั้งใหม่แต่ก็ควรจะมี เมืองในประวัติศาสตร์อยู่ด้วยจ้า เรื่องแบบนี้สำหรับครูถือว่าไม่ยากนักหรอก ด้วยผ่านการเขียนแบบยากๆ มาแล้วล่ะจ้า อีกอย่างต้องผ่านการอ่าน หนังสือมามากๆด้วยนะ รักศิษย์เรามากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
24 พฤศจิกายน 2553 17:27 น. - comment id 120168
อ่านแล้วมีความสุขค่ะ
24 พฤศจิกายน 2553 20:17 น. - comment id 120172
คุณ แจ้นเอง เห็นคุณมีความสุข ผมก็สุขด้วย เวลา เีขียนเสร็จต้องมาอ่านทบทวนเสมอๆครับ ผมเองก็ไม่รู้เขียนไปได้อย่างไรกัน เหมือน มันเกิดขึ้นจริงๆเสียด้วยซิครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
28 มกราคม 2554 19:59 น. - comment id 121960
.....เครื่องลางของขลัง...คริๆๆ แอบนึกถึง เวลาน้ำขังมักเกิดบุตรยุง อ้าวนอกเรื่องอีก ของขลังต่อค่ะ....ลูกอมที่พระท่านให้... ส่วนมากจะเห็นเอามาแวนคอกันนะคะ.. เรียกแวนรึผูกนะ ช่างเถอะ.... แล้วจริงใช้อมเวลากลัวผี... อย่างใหน.. จะส่งผลตรงกับเจตนาผู้สร้างคะ คุณชายชรา...