อทิสมานกาย ๒๑ ภายหลังจากใส่บาตรพระเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็หันมากล่าวกับพ่อแม่ว่า เห็นทีจะต้องไปวัดกันได้แล้ว บ่ายๆนี้ของจะมาส่งแล้วครับ หากรับของแล้วจะให้หลวงพ่อตรวจสอบทดลองกดพระดูจ๊ะ ว่าจะถูกใจหรือไม่แต่เมื่อกด พระแล้วก็จะนำมารวมเป็นก้อนดินดั่งเดิม คอยวันอาทิตย์เมื่อได้ฤกษ์งามยามดีตามที่หลวงพ่อกล่าวก็จะเริ่มทำพิธีกัน เนื่องด้วยจะได้มีเวลาคอยพระแห้งแล้วเข้าพิธีพุทธาภิเษกเสีย นี่ก็ใกล้วันสงกรานต์เข้ามาเดี๋ยวจะไม่ทันจ๊ะพ่อ เออๆๆๆจริงๆว๊ะ....พลางหันไปทางแม่เข็มงั้นเสร็จงานก็รีบไปวัดกันเลยนะแม่ จ๊ะพี่จะได้เรียบร้อยกันเสียที....แล้วหันไปทางลูกชาย แม่ว่าลูกไปคอยรอรับก่อนมิดีหรือ ครับผมจะไปคอยรอรับของก่อนครับ ทางลูกน้องผมจะได้ไม่เก้ๆกังๆครับ ชายหนุ่มตอบ ถ้าอย่างนั้นพ่อแม่ไปทำงานก่อนนะ คงไม่นานหรอกก็จะไปพบกันที่วัด กล่าวแล้วก็ชวนกันเดินออกจากบ้านไปไร่ทันที....... ชายหนุ่มหลังพ่อแม่ออกไปแล้วก็เตรียมตัวรีบไปหาหลวงพ่อ และรอรับของด้วย เมื่อรับเสร็จก็จะให้ลูกน้องเดินทางกลับทันที ไม่อยากให้ใครๆสงสัยในการกระทำครั้งนี้ ครั้นมาถึงวัดแล้วก็เข้าไปกราบหลวงพ่อบนกุฎีทันที หลวงพ่อซึ่งกำลังนั่งมองสิ่งของที่ได้ทำขึ้นไว้หน้าโต๊ะหมู่บูชา เมื่อเห็นเขาคลานเข้ามากราบท่าน ก็หันไปทักทันที เออๆๆๆไอ้โชติมาก็ดีแล้วล่ะ.....มาคอยรับของหรือ?????.....หลวงพ่อถาม ครับหลวงพ่อจะได้ให้เขารีบกลับไปก่อนคนจะรู้ครับ และจะได้ให้หลวงพ่อปลุกเสกเครื่องทำพระอีกด้วยเพื่อจะ ได้เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นครับ ชายหนุ่มกล่าว พลางเหลียวซ้ายแลขวา หลวงพ่อเห็นก็ถามว่าหาใครหรือลูก???.... เจ้าจุกกับพวกมันหายไปไหนล่ะ ทุกทีจะเห็นมันวิ่งเล่นแถวๆนี้ ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย???.... มันคงจะไปพักผ่อนกระมัง มันมักจะออกมาตอนกลางคืนมาเล่นและเฝ้าวัดไปด้วย ช่างมันเถอะหลวงพ่อกล่าว แล้วงานเอ็งนั้นระยะนี้ไปถึงไหนแล้วล่ะ???.... ตอนนี้ได้ข่าวว่ายังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ครับ ต้องรออีกระยะหนึ่งก่อน เมื่อครบแล้วค่อยดำเนินให้เรียบร้อยครับ.... ชายหนุ่มตอบหลวงพ่อทอง เมื่อคืนนี้ข้านั่งสมาธิดูและมาคำนวณทางโหราศาสตร์ว่าทางหมู่บ้านแถวบริเวณนี้มันจะยุ่งนะ หากเอ็งพอจะ ไปช่วยเหลือได้ก็ไปทำเถอะนะ ด้วยบรรดาพวกผีเร่ร่อนทั้งหลายมันมาที่นี่ไม่ได้ กำลังจะอาละวาดอยู่ มันเที่ยวไป หลอกหลอนและเข้าสิงคนในหมู่บ้านเราด้วยนา.....หลวงพ่อกล่าว ให้คนอื่นไปมิดีหรือครับหลวงพ่อ ด้วยผมระยะนี้ไม่อยากจะแสดงตัวให้ใครๆเขารู้เท่านั้นครับ ชายหนุ่มกล่าว หากเช่นนั้นก็เห็นมีแต่โยมเชียรและโยมเข็มเท่านั้นที่พอจะกำหราบมันได้ แต่ว่าข้ารู้ว่าเอ็งมีแม่นางอัปสรและ เจ้าหุ่นพยนต์สองตัว มันคงจะพอช่วยเหลือได้ หากโยมเชียรและโยมเข็มไม่ว่างนะ ...... หลวงพ่อกล่าว อืมมๆๆๆๆแต่ว่าทางแถวหมู่บ้านที่ติดชายแดนนะรู้สึกว่าจะมีพวกมีวิชาอาคมที่ต้องปาราชิกทำตัวเป็นผู้มีอาคมกำลังจะมาอาศัยอยู่ด้วยนะ มันเชี่ยวชาญด้านสมาธิขั้นสูงๆเสียด้วย นี่น่าเป็นห่วงมาก เอ็งก็ระวังตัวไว้ด้วยนะ... หลวงพ่อกล่าว เอๆๆ...แต่อย่างไรมันคงสู้เจ้าไม่ได้เห็นมีแต่เจ้าคนเดียวเท่านั้นเองที่จะไปปราบมันได้ นอกนั้นกู ก็ไม่เห็นใคร แม้แต่โยมเชียรและโยมเข็มก็เถอะ มันมาจากประเทศเขมรโน่นนะ...หลวงพ่อกล่าวขึ้น คราวนี้ชายหนุ่มอึ้งทันที.....เขาคิดไหนจะต้องงานทางราชการอีก แล้วยังต้องมาเจองานด้านนี้อีก แต่เขาเห็นว่า หากเจ้าหมอวิชาอาคมไม่ทำงานผิดด้านกฏหมายก็จะปล่อยมันไปก่อน หากมันร่วมด้วยก็จะได้ปราบเสียทีเดียว ชายหนุ่มรำพึงในใจ กูรู้ว่ามึงคิดหนักไอ้โชติเอ๋ย????.....แต่ไม่เป็นไรมันยังอีกนานนัก ค่อยๆแก้ค่อยๆไปก็แล้วกัน สักพักหลวงพ่อกับชายหนุ่มก็ต้องหยุดการสนทนากัน เมื่อเขาได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาภายในวัด เขาจึงกราบหลวงพ่อแล้ว แล้วแจ้งว่า คงจะมาแล้วล่ะครับหลวงพ่อ เดี๋ยวผมจะให้เขาเอามาเก็บไว้ที่นี่ก็แล้วกัน จะให้เขารีบกลับไปก่อนคนอื่นจะรู้ อย่างนั้นก็ได้เจ้าโชติ รีบๆไปเถอะ......หลวงพ่อเตือนชายหนุ่ม ดังนั้นชายหนุ่มจึงรีบออกไปนอกกุฎีไปยังลานกว้าง เห็นรถเก๋งเข้ามาจอด เขากวักมือเรียกให้มาจอดที่หน้ากุฎีหลวง พ่อทันที รถเก๋งคันนั้นก็แล่นเข้ามาจอด ชายที่ก้าวลงมาก็ยกมือไหว้เขา เขายกมือไหว้ตอบพลางกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นช่วยกันยกของไปไว้บนกุฎีหลวงพ่อก่อนก็แล้วกันแล้ว รีบกลับไปอย่าให้ใครเห็นล่ะ หากมีคนมาถามว่า มาทำไม บอกว่ามาให้หลวงพ่อทองลงของไว้ป้องกันตัว ด้วยได้ยินเขาเลื่องลือกันว่าท่านเก่ง ครับนาย ชายหนุ่มทั้งสี่คนตอบ แล้วรีบช่วยกันยกของซึ่งมีไม่มากนัก เป็นแค่เครื่องกดแบบพิมพ์อันเดียวเท่านั้นแต่ ว่ามันหนักมาก ต้องช่วยกันถึงจะยกของนั้นซึ่งวางด้านหลังเบาะของรถเก๋งคันนั้น ทั้งหมดค่อยๆพยุงเพื่อกันเสียหายขึ้นกุฎีหายไปพร้อมด้วยชายหนุ่ม ตรงไปยังห้องหลวงพ่อทันที ประเดี๋ยวเดียวงานทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว แล้วชายหนุ่มก็เร่งให้กลับได้ ชายทั้งหมดก็รีบขับรถออกไปทันที ชายหนุ่มกล่าวตามหลังชายทั้งหมด พอให้ได้ยินกับลูกน้องของเขา กับบรรดาชายหนุ่มกำลังรีบเดินเข้ารถ หากมีอะไรก็จะให้คนไปบอกนะหรือมีรายงานมา ผมก็จะให้คนที่ไปบอกนั้นไปแจ้งให้ทราบ ชายหนุ่มคนหนึ่งคือผู้กองชัชวาลย์หันหน้ามาตอบ ครับนายผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละครับ ทันใดเสียงรถเก๋งคันนั้นก็เร่งเครื่องแล่นออกจากวัดหายลับตาไป ชายหนุ่มก็ก้าวขึ้นมา พลางตรวจสอบดูสิ่งของว่าเป็นอย่างไร พลันกล่าวกับหลวงพ่อว่า...... หลวงพ่อครับ ทดลองกดพิมพ์ดูก่อนนะครับว่าจะใช้ได้ดีหรือไม่....ชายหนุ่มกล่าวขึ้น ครั้นหลวงพ่อได้ยินเช่นนี้ก็หัวร่อ ข้าพอจะดูออกว่าใช้ได้ว๊ะ แต่เอ็งอยากให้ข้าทดลองก็ได้นะ พลางนึกถึงชายหนุ่มขึ้นได้ว่าให้ทำการเสกเครื่องใช้ทำพระเสียก่อน จึงจัดแจงนุ่งห่มจีวรให้เรียบร้อย สังฆฏิพาดไหล่คาดด้วยสายประคตผูกไว้ที่สูงกว่าเอวแล้ว เอามือจับยังเครื่องมือนั้นพลางหลับตาเข้าสมาธิภาวนาทันที พลางเป่ามนต์ต่างๆลงไปหลายต่อหลายครั้ง หลวงพ่อก็ยังไม่ยอมออกจากสมาธิภาวนาคาถาอาคมเสกไปเป่าไปเรื่อยๆ เวลาผ่านไปนานมากพอสมควร ชายหนุ่มนั่งเฝ้าดูอยู่ใกล้ๆเขาทราบว่า คราวนี้หลวงพ่อท่านคงจะตั้งใจอย่างมุ่งมั่นมากหากเป็นเช่นนั้น เมื่อเสร็จการทำพระแล้ว ท่านกล่าวว่าจะทุบของทั้งหมดทิ้งเสียก็นึกเสียดายจริงๆ แต่ทำไงได้นี่ เป็นเจตนาของท่านเอง จนกระทั่งหลวงพ่อลืมตาเอามือออกจากเครื่องทำพระแล้ว ก็บอกว่าเห็นว่าเพียงเท่านี้ก็พอแล้วล่ะน๊ะ พลางหันไปยิ้มกับชายหนุ่ม ครับหลวงพ่ออัดวิชาเสียมากมายอย่างนี้ ตอนนี้เครื่องนี้หากใครเอาปืนมายิงก็ยิงไม่ออกหรอก แล้วเขาก็ยิ้มให้ หลวงพ่อ คงจะเป็นอย่างนั้นมั๊งท่านกล่าวแค่นั้น หากหลววพ่อตั้งใจทำแล้วลูกเอ๋ยมันแน่ยิ่งกว่าแน่เสียอีกเสียง พ่อเชียรเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มสะดุ้งหันไปมองข้างหลัง เห็นพ่อกับแม่มานั่งเมื่อไหร่ไม่ได้ยินเสียงเลย พ่อแม่มาสักพักใหญ่แล้วล่ะแต่ไม่กล้าส่งเสียงดังด้วยหลวงพ่อกำลังทำสมาธิอยู่ พลางก้มลงกราบหลวงพ่อ เออ...มาพร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว งั้นพวกเอ็งก็มาช่วยทำด้วยซิ คงไม่ต้องหรอกครับหลวงพ่อ....พ่อเชียรเอ่ยขึ้นแค่นี้ก็ยอดเยี่ยมแล้วล่ะ ไว้วันจริงๆค่อยมาช่วยกันครับ เออๆๆๆตามใจโยมนะ แล้วหันไปทางชายหนุ่มพลางกล่าวว่า.... อย่างนั้นเจ้าโชติไปหยิบผงที่ทำไว้มาทดลองก็แล้วกันนะ หลวงพ่อหันมากล่าวกับชายหนุ่ม ดังนั้นเขาจึงไปกราบพระบูชาแล้วหยิบผงผสมดินซึ่งตอนนี้ออกสีขาวๆปนเทาค่อนข้างเขียวๆ แต่ยังเปล่งประกายรุ่งโรจน์กว่าเดิมอีก ด้วยความสงสัยจึงหันไปทางหลวงพ่อว่า.......หลวงพ่อครับของที่จะใช้ทำทำไมถึงมีประกายมากกว่าเดิมเสียล่ะ???.... หลวงพ่อพลางเอ่ยว่า....ทำไมจะไม่มีประกายเพิ่มด้วยล่ะรู้ไหมว่าข้านำพระธาตุพระสาริกธาตุ ตลอดจนพระธาตุอรหันต์ธาตุที่เก็บรักษาไว้ตั้งนานสมัยข้าไปธุดงค์ได้มานั้นมาบดรวมเข้ากับผงพุทธคุณไว้ด้วย ดังนั้นจึงมีสีสรรเปล่ง ประกายมาขึ้นว๊ะ.....หลวงพ่อตอบ อ้าวๆๆๆ...เสียงอุทานทั้งชายหนุ่มและพ่อแม่เขา มีพระธาตุอะไรหรือครับหลวงพ่อ ถามด้วยความสงสัย???.... อืมมๆๆๆ.....ข้าไปธุดงค์ทางใต้มาเห็นแสงปรากฏเป็นลูกไฟลอยขึ้นมาเหนือท้องฟ้า วิ่งไปๆมาๆก็สงสัยจึง รีบเข้าสมาธิตรวจสอบดูจึงทราบว่าเป็นพระธาตุที่อยู่ใต้เขานั้น พอรุ่งขึ้นจึงถอนกลดออกเดินทางไปพลางอธิษฐาน ไว้ว่าหากมีบุญวาสนาเมื่อใดจะนำไปสร้างพระเพื่อต่ออายุพระพุทธศาสนา ขอให้เจ้าป่าเจ้าเขาช่วยนำทางด้วยเถิด ดังนั้นข้าถึงไปถึงแหล่งพระธาตุทั้งหลายได้ ได้ทำการบูชาขอขมากล่าวสัจจะอธิษฐานว่าจะสร้างพระครั้งเดียว ดังนั้นข้าจึงขอทำแค่ครั้งเดียวเท่านั้น มิอาจจะเสียสัจจะวาจาที่กล่าวไว้ได้น๊ะ.......หลวงพ่อกล่าวลอยๆ แล้วมีพระธาตุอะไรบ้าวล่ะเห็นหลวงพ่อบอกว่าพระธาตุทั้งหลาย พ่อแม่ลูกสงสัยถามขึ้น????.... ที่ข้าทราบว่า มีพระบรมสารีกธาตุ พระธาตุอรหันต์ต่างๆ บอกไปก็ยาวมาก เอาแค่ที่สำคัญ คือ มีพระบรมสาริกธาตุ ส่วนพระอรหันต์นั้น มีพระธาตุอรหันต์พระสารีบุตร พระธาตุพระโมคคัลลานะ พระธาตุพระสีวลี พระธาตุพระควัมบดี พระธาตุพระสังขจายนะพระธาตุพระอนุรุธธะ พระธาตุพระมาลัย พระธาตุอุปคุตเถระเจ้าซึ่งเป็นพระธาตุที่สำคัญมากฤทธิ์เดชาบารมีสูง พระธาตุพระอัญญาโกณฑัณยะ พระธาตุพระปัจจวัคคีและพระธาตุพระอรหันต์อื่นๆอีกมากมายนักเป็นต้น ฉะนั้นพระที่ทำนี้จึงพิเศษกว่าพระเครื่องอื่นใดทั้งสิ้น พวกเอ็งเก็บไว้บูชาองค์หนึ่งเท่ากับได้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พร้อมสรรพเชียวนะตลอดจนอิทธิฤทธิ์ของทวยเทพยดาทั้งปวงด้วย เวทย์มนต์ ซึ่งเป็นวิทยาคมสายขาว ของพวกเอ็งละข้าซึ่งล้วนแล้วแต่จิตใจบริสุทธิ์ต่อการกระทำครั้งนี้ จึงส่งเสริมให้เกิดพลังพลานุภาพมากเหลือเกิน หลวงพ่อกล่าวขึ้น พลางหยิบผงที่ทำขึ้นรวมตัวแน่นจากชายหนุ่มมาก้อนหนึ่ง พลางวางลงยังแท่นพิมพ์พระแล้วเสกคาถาพร้อม กดแป้นแบบพิมพ์ข้างบนลงมายังแบบพิมพ์ด้านล่างที่เป็นเบื้องหลังพระทันที เครื่องใช้พิมพ์พระนี้ครั้นตั้งไว้พอ ประมาณจะหนาหรือบางแล้วแต่จะตั้งไว้ แต่ เขาตั้งมาให้เรียบร้อยไม่หนาไม่บางไปพร้อมก็มีที่ตัดขอบนำส่วนที่เหลือล่วงลงมากับพื้นทันที หลวงพ่อ รีบนำส่วนที่เหลือออกมาปั้นเป็นรูปกลมๆไว้ แล้วนำองค์พระที่ฐานล่างยกลอยขึ้นมาให้เก็บได้อีกครั้งหนึ่งนั้น พลางนำไปพิจารณา ผงที่ทำเป็นองค์พระสวยงามมากเหมือนแบบที่เขียนไว้ทุกๆประการ เนื้อสีส่งประกาย แวววาว ออกสีอมเขียวปนเทานิดๆหน่อยๆ จนหลวงพ่อถึงกับอุทานออกมาว่า..... แปลกๆประหลาดจริงๆนะโยม สีสรรองค์พระนั้นช่างไม่เหมือนพระเครื่องที่เห็นทั่วๆไปสักนิดเลยล่ะ????.... ช่างงดงามและเปล่งประกายสดใสยิ่งนัก เนื้อองค์พระก็แน่นละเอียดมากเสียด้วย เอ็งเอาไปดูซิ..... ดังนั้นชายหนุ่มและพ่อแม่ต่างรับมาดูพลางยกมือขึ้นพนมมือไหว้ก่อนส่ง ว่าแปลกอย่างหลวงพ่อจริงๆ แล้วหันไปถามหลวงพ่อว่า พระที่ทำนี้จะทำอย่างไรกันหรือว่าจะปั้นเป็นรูปกลมๆไว้เหมือนเดิม???...... หลวงพ่อหัวร่อพลางกล่าว่า....ไม่ต้องหรอกโยมฉันจะเก็บไว้เองเวลาทำพิธีก็จะนำเข้าร่วมด้วย ถือว่านี้เป็นองค์ แรกเชียวนะโยม หลวงพ่อกล่าว..... ชายหนุ่มหันมาถามหลวงพ่อว่า....หลวงพ่อครับผงที่ทำขึ้นนี้ผมว่าอยากจะให้ได้แปดหมื่นสี่พันองค์เท่าพระธรรมขันธ์ ไม่รู้ว่าจะพอหรือเปล่าครับหลวงพ่อ??????.... ข้าว่าพอนะเจ้าโชติ...ข้ากะแล้วยังจะเหลืออีก ด้วยองค์พระก็ไม่ใหญ่กำลังพอเหมาะพอควรเลยล่ะ...หลวงพ่อกล่าว พระอีกส่วนหนึ่งข้าจะนำไปเก็บไว้ใต้ฐานพระประธานในโบสถ์ พวกเอ็งเห็นเป็นประการใดล่ะ ด้วยพระมากมายเช่นนี้?????...... หลวงพ่อถามขึ้น ตามใจหลวงพ่อเถอะครับ หลวงพ่อจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ทุกๆคนเอ่ยขึ้น ตามที่เจ้าโชติมันขอไว้เพื่อแจกจ่ายแก่ลูกน้องมันนะ บอกให้มันไปเลี่ยมอย่าให้น้ำเข้าเสียล่ะจะแตกหรือหักก็อย่าทิ้ง อำนาจพุทธคุณยังอยู่ครบถ้วน ให้ห้อยคอไว้ตลอดเวลาไม่ต้องกล้วเสื่อมยกเว้นเวลาร่วมประเวณีเท่านั้นควรถอดออก ถึงแม้จะบิ่นหรือหักก็มีค่าเท่ากับพระสมบูรณ์ทุกประการสั่งพวกมันไว้ด้วยนะ หลวงพ่อกล่าวขึ้น..... ครับปัญหาว่าเราจะทำทันหรือครับ????....ชายหนุ่มกล่าว เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอกหลวงพ่อกล่าว ข้าจะระดมเด็กๆมันมาช่วยทำทั้งวันทั้งคืนคงทันงานหรอก อีกอย่างพระนี้ แปลก เอ็งดูซิขนาดพึ่งทำก็แห้งแข็งแกร่งเสียแล้ว..... ว่าแล้วก็ยื่นให้คนทั้งหมดดู จริงอย่างหลวงพ่อกล่าวบัดนี้พระที่ทำไว้แห้งแข็งแกร่งดังกับทำมานาน ตอนแรกคิดว่าต้องเอาไปผึ่งลมให้แห้งเสียก่อน คงจะใช้เวลาหลายๆวันถึงพระจะแห้งสนิท ทำให้นึกฉงนสนเท่ห์ใจยิ่งนัก ครั้นดูเสร็จแล้วก็ยื่นมอบให้แก่หลวงพ่อทองทันที ท่านก็รีบนำไปวางไว้บนพานหน้าพระบูชาทันทีพร้อมผงกลมๆ แล้วผมจะมาช่วยหลวงพ่อทำด้วยนะครับ ชายหนุ่มกล่าว ไม่ต้องหรอกเจ้าโชติ งานเอ็งมันก็มากอยู่แล้วข้าสามารถเรียกพวกเด็กและวิญญาณในป่าช้ามาช่วยรวมทั้งนายป่าช้า อาจารเลื่อมด้วยงานจะได้เสร็จเร็วๆ ไม่ต้องห่วงหรอกว๊ะ......ทันฤกษ์ยามหรืออาจจะก่อนเสียด้วยซิ หลวงพ่อกล่าว อ้าวๆๆแล้วกล่องจะเก็บพระล่ะจะใช้อะไรใส่เก็บล่ะหลวงพ่อ????.....ชายหนุ่มถาม ไว้เป็นหน้าที่หลวงพ่อก็แล้วกันนะไม่ต้องห่วงหรอก พวกเอ็งก็เหนื่อยกันมามากแล้วแทบจะไม่ได้หลับได้นอนกันเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นข้ามีวิธีเก็บก็แล้วกัน หลวงพ่อกล่าวขึ้น.... อ้อๆๆ....โยมเชียรไปเรียกกำนันจ้อยและผู้ใหญ่บ้านอาจมาหาข้าด้วยนะ จะได้ปรึกษางานเกี่ยวกับงานสงกรานต์ด้วย ครับหลวงพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้หรืออาจจะไปเลยก็ได้นี่ยังบ่ายๆมากอยู่เลย ผมจะแวะไปหากำนันและผู้ใหญ่บ้านว่าหลวงพ่อเรียกครับ.... ขอบใจมากนะโยม เอาล่ะเสร็จเรียบร้อย อ้อๆๆๆนอกจากพระแล้วข้าจะทำลูกอมกลมๆไว้แจกจ่ายอีกด้วยนะสำหรับคนมาร่วมทำบุญในงานนี้เท่านั้นคนละองค์ที่ทำบุญไว้ ส่วนพวกที่จะมาช่วยในงานก่อนวันทำพิธีนั้นข้าก็จะ มอบลูกอมไว้ให้ทุกๆคนด้วยเป็นสินน้ำใจแก่เขา ซึ่งจะมีงานพิธีในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้คงต้องอาศัยแรงงานในวันเสาร์ก่อนเพื่อจัดการให้พร้อมก่อน ด้วยต้องทำให้สำเร็จก่อนในวันอาทิตย์นี้ ด้วยต้องตั้งพิธีสังเวยทวยเทพยดานอกโบสถ์และในโบสถ์ต้องประกอบประรำพิธีโยงสายสินธ์ที่องค์พระประธาน ตลอดคนนั่งปลุกเสกอีกด้วย ครั้นฤกษ์ยามเที่ยงวันอาทิตย์ก็จะเริ่มพิธีสวดมนต์ปลุกเสกของ ของแต่ละคนว่าจะใช้กันอย่างไร ข้าคิดว่าเพียงพวกเราสี่คนนี้ก็เหลือเฟือแล้วไม่ต้องเชิญเกจิอาจารย์อื่นมาหรอก ด้วยไม่แน่ว่าจิตนั้นจะบริสุทธิ์หรือไม่ ข้อนี้ข้าไม่ ไว้ใจจริงๆส่วนพวกเราข้าเชื่อใจในความบริสุทธิ์ของพวกเจ้ามาก อีกประการหนึ่งข้าคิดว่าอาจจะมีทวยเทพยดามาร่วม ปลุกเสกด้วยจึงให้โยงสายสินธ์พันรอบกล่องใส่พระแล้วต่อไปยังภายนอกโบสถ์ที่ในพิธีสังเวยเทพยดาอีกด้วย เมื่อครบเวลาฤกษ์ผ่านไปก็จะให้พระในวัดสวดถวายพรพระแล้วสวดชยันโตก็คงจะพอเพียง ของนั้นดีอยู่ แล้วไม่จำเป็นต้องปลุกเสกหลายๆวันหรอก พอพระสวดชยันโตจบถืออันเป็นเสร็จพิธี ข้าก็จะดับเทียนชัยก็จบเรื่อง ในระหว่างที่พระยังอยู่กับข้า ข้าก็จะปลุกเสกไปจนกว่าจะถึงวันสำคัญนั้นไปพลางๆก่อน โดยจะนำลงไปไว้ใน โบสถ์เวลาพระท่านทำวัตรเช้าเย็นก็จะได้รับพลานุภาพเหมือนกัน ส่วนข้านั้นจะอยู่ภายในโบสถ์จนกว่าจะเข้าพิธี ในวันฤกษ์งามยามดีวันอาทิตย์ถึงนี้ หลวงพ่ออธิบายให้ทั้งสามคนฟัง แล้วก็กล่าวว่า ส่วนฝ่ายโยมทั้งสามก็ต้องมาช่วยกันบริกรรมคาถาอาคมด้วยนะ ข้าจะเป็นคนจุดและดับเทียนชัย ของดีๆไม่จำเป็นต้องพิธีใหญ่โตของจะดีหรือไม่อยู่ที่คนทำที่จิตใจบริสุทธิ์เท่านั้น โยมทั้งสามต้องนุ่งผ้าขาวห่ม ขาวมาด้วยนะ ถ้าหากมีโยมที่มาในงานจะร่วมทำบุญให้พระหนึ่งองค์ หากจะทำบุญให้แก่เด็กก็จะได้ลูกอมไปไว้ห้อยคอ หลวงพ่อกล่าวขึ้น แล้วโยมจะว่าอย่างไรล่ะหากเป็นพระก็จะให้ผู้ใหญ่ ส่วนเด็กก็จะได้ลูกอมไปเท่านั้น ตามใจหลวงพ่อก็แล้วกันครับ.....แล้วหันไปทางชายหนุ่มว่าสำหรับเจ้าข้าจะให้ไว้มากๆเหลือก็เก็บไว้บูชาด้วยก็ แล้วกัน หากว่าวันข้างหน้านั้นอาจจะต้องใช้อีก เหมือนหลวงพ่อจะรู้อนาคตข้างหน้าของเขา ครับแล้วแต่หลวงพ่อจะเมตตาครับ ชายหนุ่มตอบแล้วก้มลงกราบหลวงพ่อ ถ้าอย่างนั้นพวกโยมกลับกันได้แล้วล่ะ เออเจ้าโชติอย่าลืมนะที่ข้าบอกเอ็งไว้ด้วย ครับหลวงพ่อ......ทำเอาพ่อแม่เขาหันมามองหน้ากันแต่ไม่ได้ถามอะไรคิดว่าไปบ้านก็จะถามได้ ทั้งหมดจึงได้ก้มลงกราบพ่อกราบลา ไปเถอะโยมแค่นี้ก็ช่วยเหลืออาตมามากพอแล้วล่ะ ขอบใจมากนะ พระคุ้มครองโยมทุกๆคนนะจงเจริญๆมีแต่ความสุข ความเจริญปราศจากทุกข์โรคภัยอันตรายนะ ทั้งหมดรับคำกราบหลวงพ่อแล้วก็เดินทางกลับบ้านทันที ระหว่างทางพ่อเชียรก็หันมากล่าวกับลูกชายว่า..... ลูกกับแม่กับบ้านไปก่อนนะ พ่อจะไปหาท่านกำนันผู้ใหญ่บ้านก่อน พ่อจะนำรถเครื่องมอเตอร์ไซค์ไป ส่วนเจ้าก็เอารถจักยานพ่วงแม่กลับไปบ้านก่อน ด้วยระยะทางห่างไกลนัก และจะมืดค่ำเสียก่อนรีบไป แล้วทั้งหมดก็แยกทาง กัน ส่วนพ่อเชียรก็ขี่มอเตอร์ไซค์แยกไปทางบ้านกำนันและผู้ใหญ่บ้านแจ้งข่าวว่าหลวงพ่อต้องการพบโดยด่วน เมื่อแจ้งข่าวเรื่องหลวงพ่อกับกำนันแล้ว กำนันบอกว่า อ้าวแล้วไม่พักก่อนหรือเชียร???..... พ่อเชียรตอบว่าไม่ล่ะขอบใจกำนันมากจะต้องไปหาผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านด้วย มันเรื่องด่วนของหลวงพ่อ ถ้าอย่างนั้นรีบไปเถอะ สงสัยพรุ่งนี้จะไปตอนเช้าๆเลยล่ะ.....กำนันกล่าว พ่อเชียรก็ออกเดินทางไปพบผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแจ้งความประสงค์ของหลวงพ่อ แล้วขอตัวกลับ บอกว่านี่ก็จวนจะมืดค่ำแล้วทางลำบาก หลวงพ่อบอกให้ไปพบให้ได้ด้วยนะ ผู้ใหญ่บ้านอาจรับคำกลับบอกว่าส่วนผู้ช่วยนั้น พ่อเชียรไม่ต้องไปหรอกเดี๋ยวข้าจะให้เด็กไปบอกเอง อย่างนั้นขอบใจผู้ใหญ่นะ งั้นข้ากลับก่อนล่ะ พลางผู้ใหญ่บ้านอาจถามทันทีว่า แล้วกำนันจะไปพบหลวงพ่อเมื่อไหร่ล่ะ???..... เห็นบอกว่าพรุ่งนี้เช้าจ๊ะผู้ใหญ่ เอองั้นข้าก็จะรีบไปหากำนันก่อนแล้วไปด้วยกัน ไปเถอะนี่ก็จะมืดอยู่แล้วสายตาก็ไม่ค่อยจะดีด้วย เมื่อผู้ใหญ่บ้านรับคำเช่นนั้น พ่อเชียรก็รีบเดินทางกลับบ้านทันที พร้อมกล่าวว่างั้นเจอกันที่วัดก็แล้วกันนะผู้ใหญ่ เออๆๆๆไปเถอะ พ่อเชียรก็รีบขี่รถกลับบ้านทันที พอถึงบ้านก็มืดคำพอดี ภายในบ้านจุดตะเกียงรออยู่แล้ว เพื่อคอยกินอาหารด้วยกัน ครั้นจอดรถเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นบ้านเพื่อจะได้ไปกินอาหารร่วมกันระหว่างพ่อแม่ลูก............ * แก้วประเสริฐ. *
23 พฤศจิกายน 2553 14:38 น. - comment id 120130
หวัดดีครับครู..อาทิตย์กว่าแล้วไม่ว่างเลยครับ ต้องถอยกลับไปอ่าน ตั้งแต่บทที่ 8-9 โน่นเลยครับ..
23 พฤศจิกายน 2553 18:49 น. - comment id 120149
คุณ กิ่งโศก ไม่เป็นไรทำงานให้เสร็จ จะมาอ่านและ ศึกษาวิธีเขียนร้อยแก้วจากครูก็ได้ เคยอ่าน มาแล้ว แต่นี่เป็นนิยายอีกแบบหนึ่ง และพยายามฝึกฝนไว้ด้วย จะได้รู้ หลายๆอย่างทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ตอนนี้ครูเร่งด้วยเขียนไปอ่านไปชักสนุก กับงานเขียนจ้า รักศิษย์รักเรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 พฤศจิกายน 2553 17:14 น. - comment id 120167
ตามมาติดๆค่ะ
24 พฤศจิกายน 2553 20:14 น. - comment id 120171
คุณ แจ้นเอง ตั้งแต่เขียนเรื่องนี้มา ผมเองนอนดึกๆ แทบทุกคืน เมื่อคืนนี้ตีสามครึ่งกว่าได้นอน ครับ อิอิ เอาใจคุณหน่อย เดี๋ยวไม่รัก ฮ่าๆๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
26 มกราคม 2554 10:18 น. - comment id 121906