อทิสมานกาย ๑๖ หลังจากไอ้แม้นลงบันไดมา ก็รีบไปหาพวกมันพลางกล่าวขึ้นว่า.... เฮ้ยๆๆ....ไอ้สน ไอ้เบี้ยว คืนนี้มึงเตรียมตัวได้แล้วมีงานเข้าแล้วโว้ย???... ส่วนไอ้สนให้รีบไปตามพรรคพวกเก่าๆ ที่เคยทำงานมา ให้เตรียมอาวุธให้พร้อม เที่ยงคืนนี้ก็จะต้องออกไปทำงานกันแล้วล่ะ???.... มันกล่าวพลางเดินมา นั่งยังแคร่ใต้ต้นไม้ พลางหยิบแก้วเหล้าที่ไอ้เบี้ยวรีบรินส่งมาให้ทันที พร้อมถามว่างานเร่งด่วนหรือไอ้แม้น???.... เออ!!!!!......เออๆว๊ะ มึงก็เตรียมตัวไว้ให้พร้อมด้วยก็แล้วกัน แล้วพวกฉันจะให้ช่วยอะไรได้บ้างล่ะ???....ด้านทางหญิงสาวเอ่ยขึ้น??... ไม่ต้องหรอกมึงจะคอยหรือไม่ก็ไม่เป็นไร เพราะต้องไปหลายๆวันหน่อยนะ ไว้คอยพวกกูกลับมาก่อนหรือมึง จะกลับไปบ้านหรือมานั่งแดกเหล้าที่นี่ก็ได้ โน่นเหล้าอยู่ในห้องเก็บของข้างบนนะ ส่วนอาหารมึงก็ทำกันเองแหละ ถึงมึงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้โว้ย ไอ้แม้นกล่าวตอบ... ไม่แน่นะพี่พวกฉันยิงปืนเป็นทุกๆคนแหละ บางทีอาจจะช่วยพวกพี่ได้บ้าง???.... พวกหล่อนกล่าว เออๆๆ!!!!.....จริงซินะ แต่ว่ามึงอย่าไปดีกว่า อีกอย่างหนึ่งพวกฝั่งโน้นมันพวกกระหายเสียด้วยซิกูว่า ทางก็ลำบากผ่านป่าเขาขึ้นๆลงต้องหาทางไปยังเขาพนมดงรักลงเขาไปอีกตั้งไกลผ่านป่าอีกไม่ใช่ถิ่นเราด้วย อีกอย่างงานมันอันตรายมากว่าจะรีบไปกลับ และส่งมอบเงินและของกันต้องคอยตรวจสอบว่ามันเกรดอย่างไร และต้อง คอยคุมเชิงกันและกันหากตกลงกันไม่ได้ อาจจะมีปัญหาและต้องใช้ความรวดเร็วด้วย???....... มันกล่าว ตามใจพี่แล้วพี่คิดว่าใช้เวลาสักเท่าไหร่ล่ะ???.....พวกข้าจะได้เตรียมอาหารคอยไว้ต้อนรับฉลองกัน อีลัดดาเอ่ย งั้นพวกมึงก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เถอะว๊ะ ฮ่าๆๆๆช่วยผ่อนคลายอารมณ์บ้างก็ดี กล่าวพลางก็หัวร่อลั่น เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอกพี่แม้น ปกติก็ช่วยสนุกกันอยู่แล้วนี่นา อีพลอยเอ่ยขึ้นบ้าง แล้วมันก็หันไปทางไอ้สนทันที มีงรีบไปได้เลยไอ้สน ไปตามพวกเราสักประมาณ สามสี่สิบคนก็ได้ให้เตรียมอาวุธให้พร้อม เรื่องแบบนี้ไม่มี ใครไว้ใจกันได้หรอก อย่างมากก็ยิงกันเท่านั้นเองแหละว๊ะ??...แต่พวกเราก็ผ่านศึกเหล่านี้มามากๆกันแล้ว ไอ้แม้นกล่าว พลางหันไปดื่มเหล้าจนหมดแก้วทันที พร้อมทั้งหันไปมองทางไอ้สนที่กำลังแดกเหล้าอยู่ เหมือนจะ เตือนมันคอยรอดูกิริยาไอ้สนเพื่อนมัน..... เออๆๆๆ......กูจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละเพราะต้องไปตามมันหลายบ้านแต่ละบ้านก็ห่างไกลกันเสียด้วย....ไอ้สนเอ่ย งั้นมึงแดกแก้วนี่เสร็จก็ไปได้แล้วล่ะ....แล้วให้มันไปรวมตัวกันที่นี่ก็แล้วกันนะบอกให้มันทะยอยกันมา ...... เออๆๆ....กูไปล่ะ กล่าวแล้วมันก็รีบขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านทันที เพียงเวลาผ่านไปไม่นานนัก เสียงเหล่ามอเตอร์ไซค์และรถยนต์กะบะกำลังแล่นมา เสียงที่ได้ยินก็ใกล้เข้ามา แล่นผ่านรั้วมาถึง เป็นร่างชายฉกรรจ์ทั้งสิ้นตามตัวเต็มไปด้วยรอยสักยันต์ต่างๆ ใบหน้าทุกๆคนล้วนเหี้ยมเกรียม ทั้งสิ้น ต่างพาจอดรถยังอีกแห่งหนึ่งข้างๆด้านในประตูรั้ว พวกมันพากันลงจากรถ ในระกะบะก็กระโดดลงมา ไอ้สนเดินนำหน้าพาพวกมันมาหาไอ้แม้นทันที บรรดาพวกที่มาต่างยกมือขึ้นไหว้ไอ้แม้นกันทุกๆคน ไอ้แม้นหัวร่อลั่น....สั่งให้บรรดาสาวๆไปนำเหล้าที่บนบ้านและหาอาหารแก้วโซดาน้ำแข็งมาพร้อมเสื่อมาให้ หลายๆผืน แล้วนำให้ไปปูยังใต้ถุนบ้าน เพื่อเลี้ยงดูพวกมาใหม่ทันที บรรดาสาวๆได้ยินต่างรีบกุลีกุจอทำหน้าที่ ทันที ไอ้สนก็รายงานว่า ได้คนไม่ครบว๊ะไอ้แม้นประมาณยี่สิบกว่าคน เห็นจะต้องไปเอาคนที่หมู่บ้านบางโคและ หมู่บ้านโคกยายหอยเพิ่มเติมอีกแล้วว๊ะ เดี๋ยวกูจะให้อ้ายแช่มและให้อ้ายอ๊อดมันเดินทางไปบอกกำนันให้เตรียมคนไว้ ก่อนว๊ะ แต่ให้มันแดกเหล้าและข้าวก่อนนี้ก็เย็นเกือบจะมืดแล้วล่ะว๊ะ???....ไอ้สนกล่าวกับไอ้แม้น เออๆๆ!!!!....ได้เท่านี้ก็ดีแล้วล่ะว๊ะ พวกที่เหลือสงสัยมันจะไปในเมืองกันว๊ะ บอกให้ไอ้แช่มกับไอ้อ๊อดมันรีบไปให้รีบแดกๆก็แล้วกันนะ ไอ้แช่มกับไอ้อ๊อดก็กล่าวว่า ไม่เป็นไรพี่แม้น เดี๋ยวสักพักข้าจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปด้วยมันจะได้เร็วๆไปถึงก็คง คงไม่มืดเท่าไหร่หรอก กำนันทางโน้นก็คงจะหาได้ครบหรือกว่าจ๊ะ พอบรรดาสาวๆทำหน้าที่เสร็จก็เดินมาหาไอ้แม้นทันที ไอ้แม้นพลางกล่าวว่า เฮ้ยๆๆๆ....พวกเราไปกินกันได้แล้วโว้ย เที่ยงคืนนี้จะได้ออกเดินทางมึงเตรียมอาวุธมาครบหรือเปล่าล่ะ????..... เรียบร้อยจ๊ะพี่ อาวุธอยู่ที่รถแหละไม่ได้นำลงมา เออดีๆๆ งั้นรีบไปกินกันให้สบายอารมณ์ กูคิดว่ามันคงจะเหมือนเดิมแหละว้า!!!!...ไอ้แม้นกล่าว ส่วนไอ้ แช่มก้บไอ้อ๊อดมึงรีบๆกินแล้วก็ไป กลับมาสำเร็จกูก็จะฉลองทั้งคืนแหละโว้ยไม่ต้องห่วงหรอก....ไอ้แม้นตอบ จ๊ะพี่แม้น กล่าวจบพวกมันก็ส่งเสียงเฮฮากันหลังจากดื่มเหล้าเข้าไปสักพักหนึ่ง เสียงนั้นดั่งลั่นไปทั่วบ้านจน กำนันมั่นก็ออกยืนมองดูการทำงานของลูกชายมันแล้วก็เดินเข้าไปข้างใน ด้วยมันเชื่อมั่นในฝีมือของลูกมัน เสมอ ด้วยไม่เคยพลาดทำงานมาก็หลายๆครั้งแล้วสำเร็จทุกครั้ง มันหัวร่อฮึๆๆแล้วก็หายไปในบ้านทันที..... ส่วนบรรดาลูกน้องไอ้แม้นตลอดจนตัวมันและพวกที่มาก็ต่างกันส่งเสียงเย้าแหย่กันอย่างสนุกสนานร้องเพลงรื่นเริง พอได้เวลาสมควรใกล้ๆจะเย็นมาก ไอ้แช่มกับไอ้อ๊อดก็เดินเข้ามาแล้วกล่าวกับไอ้แม้นว่า...... พี่แม้นข้าทั้งสองไปทำงานก่อนนะ แล้วจะคอยอยู่ที่นั่นแหละไม่กลับมาเพื่อรวบรวมพรรคพวกไว้....มันกล่าว เออๆ....ดีแล้วล่ะ เมื่อได้เวลาทางนี้ข้าก็จะรีบไปบางทีอาจจะก่อนเที่ยงคืนอาจจะไปพบมึงทั้งสองที่บ้านกำนัน แล้วก็จะออกเดินทางกันไปเลย ด้วยระยะทางกันดารมาก อีกอย่างให้เตรียมคบไฟไปด้วยก็แล้วกัน ไอ้แม้นเอ่ยขึ้น เสียงรถมอเตอร์ไซค์สองเครื่องสตาร์ทแล้วก็แล่นออกไปจากบ้าน สักพักเสียงนั้นก็หายไปหมด เหลือแต่พวก ที่เหลือยังนั่งกินเหล้าส่งเสียงเฮฮา เหมือนว่างานที่จะทำนี้ไม่มีอะไรเลย หรือว่ามันเชื่อมั่นว่าคงจะมีเหตุการณ์เหมือน เดิม เมื่อได้เวลาพอสมควรก่อนเที่ยงคืน ไอ้แม้นก็กล่าวว่า เฮ้ยๆๆๆพวกเราไปกันได้แล้วโว้ย!!!!!.....เอารถมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้ที่นี่เอารถกะบะไปสักสี่ห้าคันไว้ใส่ของด้วย พร้อมทั้งของแบกหามใส่ไปรถไปด้วย ด้วยต้องเดินเท้าเหมือนเดิมแหละว๊ะ.....ไอ้แม้นกล่าว แล้วหันไปทางสาวๆ เอ็งอยู่ทางนี้ก็เก็บของให้ด้วยก็แล้วกัน พวกกูไปกันล่ะ.... ไปเถอะพี่ไม่ต้องห่วง บางทีใกล้ๆจะได้จัดเตรียมอาหารคอยไว้ด้วย เวลากลับมาจะได้มากินกัน พวกสาวๆตอบ เออๆดีแล้วล่ะ....คงไปไม่เกินสามสี่วันแหละว๊ะ....ไอ้แม้นกล่าว แล้วเสียงระยนต์กระบะก็บรรทุกบรรดาชายฉกรรจ์ทั้งหมดออกเดินทางหลังจากที่ไอ้แม้นมันขึ้นไปบอกพ่อมัน พร้อมนำเงินลงมาถุงใหญ่ๆ แบกขึ้นไปยังรถคันหน้า มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านทั้งสองทันที ส่วนกำนันบ้านบางโคซึ่ง รถยนต์ที่บรรทุกชายทั้งหมดมาถึง ไอ้แช่มก็ออกมาต้อนรับพร้อมกำนันบ้านพร้อมด้วยชายฉกรรจ์อีกสิบคนเห็นจะ ได้ ไอ้แม้นก็ยกมือไหว้กำนัน พร้อมรับไหว้พวกๆของกำนัน บอกว่าจะต้องรีบไปไม่รอกินข้าวที่กำนันเชิญไว้ เพียงแต่กินเหล้าที่พวกกำนันนั่งกินรอคอยหมดแก้วเท่านั้น แล้วทั้งหมดก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านโคกยายหอย ทันที กำนันหมู่บ้านบางโคก็ให้พวกเอารถกะบะไปอีกสามคันพร้อมเครื่องมือต่างๆและอาวุธไปด้วย รถก็ออกเดินทางไปยังบ้านกำนันโคกยายหอย ครั้นถึง ไอ้อ๊อดกับกำนันก็ออกมาต้อนรับเช่นเคยเมื่อครบ ถ้วนแล้วประมาณคนก็พอๆกับบ้านบางโค ทั้งหมดก็ออกเดินทางเข้าสู่ภูเขาพนมดงรัก รถทั้งหมดเกือบสิบคัน คันเร่งเครื่องในค่ำคืนเสียงจึงดังลั่นสนั่นไปทั่วทำให้บรรดาสัตว์น้อยใหญ่แตกตื่น พวกดูแลป่าไม้ครั้นเห็นดังนั้นก็ ออกมา พอเห็นเป็นพวกไอ้แม้น ก็เลยโบกมือต้อนรับ ไอ้แม้นก็กล่าวว่าขอฝากรถทั้งหมดไว้ก่อนขากลับจะมาเอา และให้พวกนำรถทั้งหมดไปจอดไว้ริมทางอันเป็นลานกว้างๆพอสมควร แล้วพวกมันทั้งหมดก็ออกเดินทางลัดเลาะ ไปตามเขา พวกป่าไม้ก็บอกว่าไม่เป็นไรจะดูแลรถให้ไม่ต้องห่วงหรอก เมื่อพวกมันเดินทางมาข้ามภูเขาลัดเลาะไปตามเส้นทางสู่ยังริมแม่น้ำโขงแล้ว ก็สั่งให้กระจายกำลังออกเพื่อคุมเชิง หาที่กำบังซ่อนตนไว้ เหลือแต่พวกมันไม่กี่คน มีไอ้แม้น ไอ้สน ไอ้เบี้ยว ไอ้แช่ม ไอ้อ๊อด อ้ายเชี่ยวบ้านบางโค กับไอ้หลอดบ้านโคกยายหอยเท่านั้น ที่จับกลุ่มไว้ ไอ้แม้นกับไอ้สนออกเดินสำรวจหนทางต่างๆจนพอใจแล้วก็กับมานั่งรอพวกส่งของ ประมาณสักครู่ใหญ่ก็ เห็นสัญญาณไฟส่งมา ทางไอ้สนก็ให้สัญญาณไฟตอบรับ แล้วพวกทางโน้นก็ให้คนแบกของมาเพื่อส่ง ไอ้แม้นก็ เข้าไปเจรจาเรื่องของกัน พร้อมทั้งนำของมาตรวจสอบให้แน่ใจ นับจำนวนจนครบแล้วก็ส่งเงินให้ทางโน้นนับดู ซึ่ง ทางโน้นในขณะนับเงินอยู่ ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นทันที........... หุ่นที่ชายหนุ่มส่งมาก็ป้องกันพวกผีต่างๆซึ่งจะทำให้พวกของตำรวจเดินผิดทางนั้น และยังใช้ให้พวกผีป่า ทั้งหลายออกมาช่วยนำตำรวจที่ต่างแยกย้ายกันให้เดินมาถูกทาง และทั้งตัวหุ่นทั้งสองก็แยกย้ายกันไปนำทางให้ พวกตำรวจทั้งหลายเดินทางมาด้วย สลับไปตรวจตราพวกผีทั้งหลายด้วย จนทั้งหมดมารวมตัวกันเป็นกลุ่มได้ครบสิ้น ครั้นมาถึงหัวหน้าพวกตำรวจจึงได้ปรากฏกายเป็นชายหนุ่มหันไปทางผู้กองว่าเป็นคนของชายหนุ่ม ที่อยู่บ้านพ่อเชียรหมู่บ้านโคกอีแร้งใช้ให้มา ทางผู้กองรู้ว่าเป็นใครแล้ว ผู้กองก็ถามว่าหนุ่มที่ให้มานั้นพลันย้อนถามว่า ชายหนุ่มดังกล่าวนั้นได้บอกอะไรไว้หรือเปล่า หุ่นทั้งสองยิ้มพลางส่งกระแสจิตไปยังชายหนุ่มทันทีก็ทราบจึง กล่าวโค๊ตซึ่งมันรู้จากอาจารย์มันทางจิตแล้วจึงบอกโค๊ตนั้นไป ผู้กองถามว่าทำไมไม่มีอาวุธอะไรหรือ มันทั้งสองยกมีดซึ่งดูคล้ายกริชว่ามีเพียงแค่นี้ก็พอแล้วล่ะนอกนั้นใช้ไม่เป็น ผู้กองก็ให้มันทั้งสองไปอยู่ด้านหลังเพื่อความปลอดภัยด้วยนึกว่าเป็นชาวบ้านธรรมดาที่หัวหน้าเขาไว้วางใจเท่านั้น แต่มันบอกว่าไม่เป็นไรหรอกอาวุธอื่นทำอะไรมันไม่ได้ มันเป็นพวกพรานแถวๆนี้จะขอไปดูลาดเลาก่อน ผู้กอง ก็อนุญาตให้มันล่วงหน้าไปก่อน เมื่อมันกลับมาแล้วแจ้งแก่ผู้กองว่า บัดนี้พวกนั้นได้กำลังเจรจากันอยู่ขอให้ผู้กอง ดำเนินการได้แล้ว เมื่อผู้กองทราบจากหุ่นทั้งสองแล้วซึ่งเขาเองไม่รู้นึกว่าเป็นพรานป่า ดังนั้นจึงรีบนำทางให้ตำรวจ พร้อมออกเดินทางนำหน้าเหล่าตำรวจที่แต่งกายเป็นชาวบ้านต่างผูกแขนด้วยผ้าสีเขียวทั้งสิ้น นับได้ประมาณ เกือบร้อยคน ผู้กองแบ่งกำลังออกเป็นสี่หน่วย ให้แยกย้ายกระจายไป ด้วยผู้กองออกมาสำรวจเรียบร้อยแล้วตาม แผนผังที่ชายหนุ่มให้ไว้ก่อนหมดสิ้นรู้หนทางพร้อมตำรวจที่ติดตามมา ไปแจ้งแก่ตำรวจอื่นๆให้ทราบด้วย พร้อมทั้งมอบแผนที่หนทางต่างๆไว้ให้แก่ทุกๆคนติดตัว เมื่อวางกำลังไว้ตามจุดต่างๆ สองกลุ่มแรกเข้าโจมตี ส่วนสองกลุ่มหลังวางกำลังไว้สนันสนุนและคอยจับกุม พวกที่หนีไปทางลัดนั้นไว้ หากได้ยินสัญญาณจากเขา ดังนั้นตำรวจในคราบชาวบ้านได้แยกย้ายต่างกระจายกำลังออกตามคำสั่งทันทีเมื่อผู้กองซึ่งแอบดูอยู่มองเห็น ฝ่ายโน้นส่งของเรียบร้อยกำลังนับเงินอยู่ ก็ส่งสัญญาณให้สองกลุ่มแรกเข้าจับกุมทันที พลางประกาศว่า นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้วางอาวุธและสิ่งของไว้หมดอย่าขัดขืนการจับกุมแต่โดยดียกมือขึ้นเหนือศีรษะ ทางโน้นขณะนับเงินต่างหันไปมองทางเสียงเห็นเงาตะคุ่มๆได้ยินเสียงเป็นตำรวจจึงนำเงินทั้งหมดไม่นับลงใน กระเป๋าพลางกล่าวว่า...... ไอ้แม้นมึงหักหลังพวกกูหรือ????... ไอ้แม้นพลันกล่าวว่า กูทำงานกับพวกมึงมานานจะไปหักหลังพวกมึงได้อย่างไร พูดแล้วพลางบอกให้บรรดาพรรค พวกยิงไปยังพวกตำรวจทันที คราวนี้พวกฝั่งโน่นเชื่อแล้วว่าไอ้แม้นไม่ได้หักหลังพวกมันจึง สั่งให้พวกมันช่วยยิงไป ยังเงาตะคุ่มๆที่เห็นด้วย เสียงปืนดังระงมไปทั่วๆ บรรดาพวกไอ้แม้นที่กระจายกำลังออกก็ระดมยิ่งใส่พวกตำรวจ ทันทีพร้อมด้วยพวกทางฝั่งโน้น ซึ่งมีพวกทหารฝั่งโน่นร่วมด้วย จริงดังผู้กองกล่าวไม่ผิด ทันใดนั้นเสียงพลุดังลั่น พุ่งไปบนท้องฟ้า บริเวณพวกกลุ่มฝ่ายโน้นและฝ่ายไอ้แม้นสว่างจ้าราวกับกลางวัน แสงสว่างส่องไปทั้งบริเวณที่ส่งของและพรรคพวกทั้งสองฝ่ายที่ซื้อขายของกัน แม้แต่พวกที่กระจายซ่อนหลังต้นไม้ ก็ยังพอมองแลเห็น เสียงร้องโหยหวนโอดครวญดังมาจากฝ่ายฝั่งโน่นและฝ่ายเจ้าแม้นต่างล้มตายกันเกือบหมด เสียงระเบิดที่ผู้กองวางไว้รอบบริเวณการซื้อขายและริมฝั่งโขงอันเป็นที่จอดเรือตามแผนที่ให้ไว้ ด้วยระเบิดทีเอ็นเสียงระเบิดดังกึกก้องแรงระเบิดส่งร่างของพวกฝั่งโน้นที่นำเรือมาด้วยเรือต่างพลิกคว่ำแตกกระจาย ตลอดพวกทหารที่ยืนบนเรือก็ตายกันเรียบ ฝ่ายขายของไม่มีใครรอดตายสักคน ต่างล้มตายด้วยอาวุธที่แตกต่างกัน ฝ่ายไอ้แม้นซึ่งโดนยิ่งที่ขาลากขาและสะโพกรีบหนีหลบเข้าต้นไม้ใหญ่พร้อมไอ้สนไอ้เบี้ยวและไอ้แช่ม นอกนั้นตายเรียบ บรรดาพวกที่แอบซุ่มยิงต่างล้มตาย และรีบหนีไปทางลัดทันที พวกที่หนีไปทางลัดต่างถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสองกลุ่มเข้าล้อมยิงบ้างตาย เหลือจับได้ไม่กี่คนที่ยกมือทิ้งอาวุธยอม แพ้ จับได้ประมาณเกือบสิบคน ทั้งหมดถูกใส่กุญแจมือไขว่หลัง ที่ขาก็ต่างถูกมัดด้วยเชือกติดกันอย่างล่ะข้างทันที ไอ้แม้นไอ้สนไอ้เบี้ยวไอ้แช่มต่างได้รับบาดแผลไปตามๆกัน เห็นเหตุการณ์นั้นตลอดจึงเลี่ยงหลบไปอีกทางกับพวกที่รอดเพียงสามคนรวมเจ็ดคนต่างลัดเลาะรีบลากขากพยุงกันหนีไปอีกทางหนึ่งจึงพ้นจากการจับกุม ไปซุกซ่อนตัวยังเหลือบหินไม่กล้าออกมา เมื่อเห็น พวกตำรวจเต็มบริเวณไปหมด ซึ่งแต่งกายเป็นชาวบ้านธรรมดาเท่านั้นเอง ไอ้แม้นด่าพึมพรำ ไอ้ห่า!!.....พวกมันรู้ได้อย่างไรว๊ะหรือว่าพวกเราเป็นสายให้มัน....... แต่ตำรวจส่วนมากก็พวกเราทั้งนั้นนี่นาทำไมมันรู้ว๊ะ หากเป็นตำรวจพวกเรารู้ ก็ต้องส่งข่าวมาให้รู้แล้วนี่นา????... แล้วมันรู้ได้อย่างไรกันว๊ะเวลาหรือสถานที่มันก็ยังรู้????...... มันบ่นไปถามพวกมัน แม้แต่ไอ้สนและไอ้เบี้ยว ก็ด่าเหมือนกันทุกๆคนต่างฉงนใจไปตามๆกัน ถึงจะถามอย่างไร พูดอย่างไรทุกๆคนก็ตอบไม่ได้ทั้งสิ้น ที่เหลือรอดมามีเพียงหมู่บ้านบางกระดี่สี่คน หมู่บ้านบางโคหนึ่งคน หมู่บ้าน โคกยายหอยสองคนเท่านั้น มากันห้าสิบกว่าคนตายหมดไม่มีใครเหลือรอดสักคนเดียว ส่วนฝ่ายทางโน้น ไอ้แม้นคิดพลางบอกไอ้สนว่า กูสงสัยพวกโน้นจะไม่เหลือสักคน ไอ้เหี้ยเอ๋ย???.....เงินก็เสียของก็ไม่ได้ แล้วพ่อกู จะไปพูดกับเสี่ยมันได้อย่างไรกันว๊ะ พวกมึงก็เจ็บกันทุกๆคนแบบนี้ ไอ้สนกับไอ้เบี้ยวก็กล่าว่า..... ก็มึงไปเล่าให้พ่อมึงฟังซิ ใช่ว่าเราจะไม่ทำงานเสียเมื่อไหร่ว๊ะ มึงก็ขาลากจะหักหรือเปล่าก็ไม่รู้เห็นลากขาข้างเดียว กูเองหัวไหล่แขนกูถูกยิงเลือดสาดใช้ผ้าคาดห้ามเลือดเหมือนๆกัน พวกเราฝ่ายหมู่บ้านอื่นหรือก็เจ็บกัน แล้วกำนันหมู่ บ้านบางโคกับหมู่บ้านโคกยายหอย ป่านนี้จะทำอย่างไรว๊ะ เฮ้ยๆๆไอ้พวกที่ถูกจับได้ประมาณสิบคนนั้นนะมันมีพวกเราอยู่หรือเปล่าล่ะ ตามที่มึงเห็นนะ กูคิดว่าคงมีบ้างละโว้ย!!!!.....ไอ้เบี้ยวตอบ ฉิบหาย!!!!.... หากมีพวกหมู่บ้านเรายิ่งฉิบหายใหญ่เลย พ่อกูคงจะทำอย่างไร???.... ตอนนี้เงียบนี่ก็จวนสว่างแล้วหาทางกลับกันก่อน เรื่องอื่นค่อยคิดกันดีกว่านะ ไอ้สนกล่าวขึ้นบ้าง.... เออๆๆๆ....ดีเหมือนกัน เลาะไปตามไหล่เขานี่แหละพวกมันคงไม่รู้หรอก เสียงเงียบหายไปหมดมันคงเก็บเงิน และของไปกันหมดแล้ว นี่เงียบมานานแล้วนี่นา???... ไอ้แม้นกล่าวขึ้น กูว่าคอยให้มันสว่างกว่านี้มิดีหรือว๊ะ ด้วยมันอาจจะทิ้งคนไว้คอยดูว่ามีใครหลงเหลืออีก.....ไอ้เบี้ยวตอบ เออ...จริงของมึงว๊ะไอ้เบี้ยว อย่างนั้นให้สว่างแล้วค่อยไป มึงดีหน่อยไปดูไอ้พวกหมู่บ้านที่มากับเราด้วยว่าเป็น อย่างไรพร้อมกับไอ้เบี้ยวด้วย ส่วนกูเลือดไหลมากเพลียแม้จะรัดขาไว้แล้วสงสัยกระดูกจะหักว๊ะ!!!!....ไอ้แม้นตอบ ดีเหมือนกันว๊ะ แล้วมันชวนไอ้เบี้ยวไปตรวจสอบพวกหมู่บ้านอื่น ซึงบางคนครางเบาๆ บ้างกัดฟัดกรอดดับปวด ทุกๆคนโดนอาวุธปืนบ้างที่ไหล่สองข้าง บ้างที่สะโพก เอว ที่ท้องบ้าง ต่างโดนกันคนละหลายๆรู แต่ไม่ตายถือว่ายังมีบุญอยู่แต่รู้สึกว่าบางคนจะไม่รอดแน่ๆด้วยเลือดมันออกมากๆ แต่มันไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากบอกให้กำลังใจมันไว้ว่าจะไม่ทิ้งกันเท่านั้นเอง พวกมันถามว่ารู้ไหมว่าใคร ไปแจ้งตำรวจ ไหนๆพ่อกำนันบอกว่าเรากับตำรวจรู้กันนี่หว่า????มันสงสัยถามขึ้น กูเองก็ไม่รู้เหมือนพวกมึงนั่นแหละว๊ะ???.....กูยัง งง อยู่เหมือนกันว่ามันรู้สถานที่เวลาได้อย่างไรกันว๊ะ???... ทนๆๆเอาหน่อยนะพวก....สายๆหน่อยค่อยออกเดินทาง ไปตอนนี้ไม่ไว้ใจว๊ะ พวกมันอาจจะซุ่มคอยอยู่ก็ได้ มึง คิดดูซิว่ามันเห็นพวกเรากระจายกำลังออกไปคงจะ คิดว่าพวกเราหลบซ่อนตัวไว้ ไอ้สนกล่าวขึ้น อืมมม???....จริงของมันว๊ะ พลางหันไปบอกพรรคพวกที่บาดเจ็บทันที บอกให้รอสายๆหน่อยพวกมึงทนเอาก็ แล้วกันดีกว่าไปถูกจับว๊ะ....มันหันไปกล่าวกับพวก ทางหมู่บ้านบางกระดี่ก็เจ็บๆกันเหลือแค่สามสี่คนเท่านั้นนอก นั้นตายห่าหมดแล้วกระมังว๊ะ...... พลันอีกคนกล่าวขึ้น.... เออๆๆจริงของมึงว๊ะ....แต่ว่าไอ้วงสงสัยว่าจะไม่รอดเสียแล้วล่ะ เห็นมันตอนนี้ตาค้างตัวสั่นๆไปๆมาๆ อีกคนกล่าว แล้วจะให้กูทำอย่างไรว๊ะ...เราก็ช่วยมันสุดความสามารถแล้วนี่หว่า...หยูกยาหรือก็ไม่มีใครจะคิดว่ามีเหตุการอย่างนี้เกิดขึ้น ทุกๆครั้งก็ปกติ และพวกเรากับพวกโน้นก็ตกลงกันได้เหมือนเดิม ดีนะที่มีพวกเรารอดพวกนั้นตายห่าหมด หากมันเป็นอะไรไปก็เอาไปให้พ่อกำนันก็แล้วกันอย่าทิ้งมันไว้ช่วยแบกมันไปด้วยหากมันตายนะ... เออๆๆๆ....กูไม่ทิ้งมันหรอกว๊ะมันคนบ้านเดียวกับเรา อย่างน้อยก็ให้ลูกเมียพ่อแม่มันทำศพบ้าง???... คนหมู่บ้านโคกยายหอยกล่าวขึ้น หากมันตายลงพวกหมู่บ้านบางกระดี่จะมาช่วยงานศพหรือเปล่าว๊ะ...พูดจบหันไป ถามทางไอ้แม้นทันที.... มาซิว๊ะพวกกูต้องไปช่วยกันอยู่แล้วพวกเราทั้งนั้นนี่นา กูจะให้พ่อกูเป็นเจ้าภาพให้ด้วย ไอ้แม้นตอบ เออ...ให้ได้อย่างนี้ซิว๊ะจะได้คบกันได้นานๆ มีอะไรบอกมาทางกูก็ได้ กูชื่อช้วนว๊ะดูแลพวกบ้านกูอยู่นะ มีอะไร มึงส่งคนมาบอกก็แล้วกัน แล้วกูจะคอยรับพวกมึงหากมึงไปได้มึงก็เจ็บไม่ใช่เล่นสงสัยขาจะหัก และอีกหลายๆแผล เหมือนกัน มันกล่าว เออๆๆๆ....ขอบใจมึงมากว่าไอ้ช้วน กูจะจำชื่อมึงไม่ลืมหรอกหากมึงไปหมู่บ้านบางกระดี่เมื่อไหร่ถามหาชื่อกู ใครๆก็รู้จักทั้งนั้นแหละ จะให้กูช่วยอะไรบอกมาได้เลยเหมือนกันว๊ะ ไอ้แม้นกล่าวตอบ ขอบใจมากว่าไอ้แม้น.... กูว่าสงสัยมันจะไม่รอดแน่นอนตอนนี้มันเงียบกูไปดูแล้วมันหยุดหายใจแล้วล่ะโว้ย... เออๆๆ....กูจะไปหาพ่อกำนันด้วยแล้วจะรีบไปรักษา แต่สงสัยไปรพ.ไม่ได้หรอกต้องให้หมอมารักษาที่บ้านว๊ะ มีงไปจัดการศพพวกมึงก่อนเอาท่อนไม้ห่อแล้วแล้วเถาวัลย์พันไว้จะได้ช่วยกันลากไปจะแบกคงจะไม่ไหวกระมัง???... ด้วยเจ็บๆกันมากทุกๆคน ข้อนี้ไม่เป็นปัญหาหรอก ขอบใจที่ห่วงใยพวกกูว๊ะ ไอ้ช้วนกล่าว.............. * แก้วประเสริฐ. *
19 พฤศจิกายน 2553 23:38 น. - comment id 120079
ได้ยินเสียงปืนยิงกันสนั่นฟ้าเลยค่ะครู แต่ยังมีพวกที่รอดไปได้อีก รอตอนต่อไปนะคะ กำลังสนุกมากค่ะ
20 พฤศจิกายน 2553 13:23 น. - comment id 120081
คุณ อนงค์นาง ครูเขียนแบบสลับกันระหว่างคนกับผี จ๊ะ หากเขียนเรื่องผีอย่างเดียวมันน่ากลัวก็ จริงแต่มัีนจะไม่สนุึกสนานตื่นเตื้น ให้มัน ตื่นเต้นทั้งคนทั้งผีแหละดี นี่คือความคิด อ่านของครู การเขียนนี้คนจะอ่านหรือไม่ ครูไม่สนใจอะไร เพียงแค่ฝึกสมองให้มัน โลดแล่นไปเรื่อยมือให้ฝ่อเท่านั้นจ้า รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 มกราคม 2554 11:34 น. - comment id 121755