อทิสมานกาย ๑๕ ครั้นพ่อและแม่ได้ออกไปทำไร่ เขาขอติดตามไปเพื่อช่วยพ่อและแม่ ท่านก็ปฏิเสธว่า ไม่ต้องหรอกลูก ไม่มีอะไรเพียงแค่ถอนต้นหญ้าและรดน้ำเท่านั้นเอง และให้อาหารปลาซึ่งไม่ห่างไกลกับกระต๊อบ ที่พ่อทำไว้หรอก ลูกอยู่ที่นี่แหละดูแลและหมั่นร่ำเรียนวิชา สมาธิให้แกร่งกล้าก็แล้วกันนะ ถ้าอย่างนั้นผมไม่กินแรงพ่อแม่หรือ???..... ชายหนุ่มตอบ นี่ก็จวนจะเดือนหนึ่งเหลืออีกวันสองวัน ทางโน้นเขาจะว่าอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ เห็นบอกว่าลามาเดือนหนึ่งเท่านั้นนี่ นา???.... แม่เข็มถามบ้าง เรื่องนี้พ่อแม่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ด้วยเขาบอกว่าจะอยู่อีกเท่าไหร่ก็ได้ให้งานเรียบร้อยก่อน หรือไม่แน่นะพ่อบาง ทีผมอาจจะมาอยู่ในเมืองนี้ก็ได้นา....ชายหนุ่มแย้มพรายออกมา เออๆๆ???....ถ้ามาอยู่ใกล้ๆกันก็ดีซิลูก พ่อแม่ก็อายุมากแล้วด้วย ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้น ครับๆ...แนวโน้มสงสัยว่าคงจะไม่ได้กลับไปอีกแล้วล่ะครับ คงจะได้อยู่ใกล้ๆพ่อแม่นี่แหละ ด้วยผมเคยเอ่ยเกริ่นๆไว้กับผู้ใหญ่ท่านไว้ว่า อยากจะทำงานแถวๆบ้าน พ่อแม่ก็อายุมากแล้ว ท่านหัวร่อแต่ไม่ได้บอก อะไรกับผม แล้วยิ้มพร้อมพยักหน้าเท่านั้น ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ถ้าเป็นจริงก็ดีนะลูก เราจะได้อยู่ด้วยกันไม่ต้องจากกันไปอีก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบกันอีก..... ครับๆ ผมอาจจะได้ช่วยแรงพ่อแม่ด้วยอีกทางหนึ่ง เอาล่ะๆๆ.....พ่อแม่ไปก่อนนะนี่ก็สายเดี๋ยวพวกปลามันจะหิว ไปล่ะอยู่บ้านก็ดูแลด้วยก็แล้วกัน พ่อเชียรและแม่เข็มกล่าวจบก็เตรียมข้าวของแล้วก็เดินออกจากรั้วบ้านไป .......... เขามองแลเห็นหายลับไปแล้ว ก็ก้าวขึ้นบันไดบ้านเดินเข้าห้องเขา ไปยังโต๊ะหมู่บูชา ซึ่งทั้งสามพานได้จัดเรียงกันไว้ ด้านซ้ายมือเป็นร่างหุ่นชายหนุ่มสองตนนอนเรียงกัน พานตรงกลาง เป็นแม่นางตะเคียนยืนอยู่ ส่วนอีกพานเป็นร่างของหญิงสาวอ้อยซึ่งก็ยืนอยู่เหมือนกัน เขาเพ่งไปยังพานทั้งสามแล้วนึกชมเชยตัวเอง และแม่ตลอดจนหลวงพ่อท่าน ซึ่งแม่เขารู้สึกว่าจะมีฝีมือละเอียด สวยงามมากกว่า เขาและหลวงพ่อเสียอีก เป็นใบหน้าที่สวยงามตลอดจนแพรพันต่างๆ การให้สีช่างกลมกลืนเสีย จริงๆ เขารำพึงกับตนเอง นั่งเพ่งมองแลเห็นหรืออุปทานจะหลอนหรือก็ไม่รู้ เขาแลเห็นแม่นางทั้งสองต่างยิ้มให้เขา จึงยิ้มตอบหันไปทางที่นอนนั่งลง แล้วก็มานั่งนึกทบทวนวิชาอาคมที่ร่ำ เรียนมาเพื่อความไม่ประมาทตามคำสั่งของพ่อ ทบทวนไปๆมาๆเห็นว่าไม่ผิดพลาดแน่แล้ว จึงกล่าวลอยๆว่าให้ช่วยดูแลบ้านและสาวชบาเจ้าแกละด้วยนะ อบรมสั่งสอนบ้าง สายลมพัดมาต้องกายเสมือน ดังจะรับรู้ ดังนั้นเขาเดินออกจากนอกห้องเพื่อลงบันไดไปพักผ่อนยังแคร่ใต้ถุนบ้าน เจ้าหมาสามตัวก็พากันกระดิก หางแล้วเข้ามาคลอเคลียเขา ชายหนุ่มได้หยอกเย้ามันเล่นสักพัก สั่งให้มันไปนอนได้แล้ว เหมือนมันจะรู้คำสั่ง ดังนั้นเขาก็เดินไปรอบๆบ้านเพื่อสำรวจว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างใด ด้วยเขาจากบ้านมานานแสนนานแล้ว สภาพเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แม่ยังได้ปลูกผักสวนครัวเรือนหลังบ้านอยู่เป็นแปลงเล็กๆ ไว้ใช้ยามขาดเหลือกระมัง หน้าบ้านก็ปลูกต้นไม้ที่ออกดอก ซึ่งตอนนี้มันกำลังออกดอกบานสะพรั่งหลายหลากสี ดอกแต่ละดอกล้วนแล้วแต่ใหญ่ๆทั้งสิ้น คงจะด้วยอากาศที่ใกล้ๆกับภูเขาและมีความชุ่มชื้นมาก จึงทำให้ต้นไม้เติบโตชะอุ่มใบงามสีเขียว ปุ๋ยหรือก็ใช้ขี้หมูเป็นปุ๋ยแทนปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ตลอดพ่อแม่เขายังหมักสิ่งของต่างๆไว้ในตุ่มใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ห่างจากบ้านไปเล็กน้อย คงจะทำปุ๋ยจุลินทรีย์ด้วย ชายหนุ่มคิดพ่อแม่เขาช่างหัวทันสมัยเหมือนกันนะ ทั้งๆมาอยู่ที่แสนจะกันดารเช่นนี้ยังรู้จักหมักปุ๋ยจุลินทรีย์ไว้ใช้ เขาคิด ครั้นเดินสำรวจจนทั่วแล้ว เขาก็กลับไปยังเปลที่ผูกระหว่างต้นเสาไว้เพื่อพักผ่อน เขาจึงขึ้นไปนอนแกว่งเล่น อากาศช่างบริสุทธิ์สายลมโบกพัดมาตลอดเวลา เขานำหมอนของพ่อมาวางไว้แล้วนอนเปลแกว่งไปแกว่งมาพลันก็รู้ สึกเคลิบเคลิ้มหลับไป........ ทางด้านบ้านกำนันมั่นหลังจากเจ้าแม้นลูกชายมารายงานผลแล้วและพึ่งจะกลับมาจากการประชุมเหล่ากำนัน ทั้งหลายเพื่อรับแผนงานจากท่านนายอำเภอคนใหม่ รู้สึกว่าใบหน้าไม่ค่อยจะดีนัก หลังจากถอดชุดกำนันออก แล้วก็ให้หญิงสาวคนหนึ่งมาสั่งให้ไปเรียกเจ้าแม้นมาพบด่วน เมื่อเจ้าแม้นมาพบพ่อเห็นใบหน้าทมึงบึ้งตึงเช่นนั้นก็ให้นึกสงสัยนัก จึงได้เอ่ยปากถามไปว่า มีอะไรหรือพ่อ????....เห็นสีหน้าไม่ค่อยสู้จะดีนัก มีซิว๊ะ....กำนันมั่นตอบด้วยอารมณ์เสีย ไอ้ห่า!!!!.....ไอ้นายอำเภอคนใหม่มันกำชับว่าหากหมู่บ้านใดติดยาก็ให้ จับกุมตัวมาส่งเพื่อนำไปให้ตำรวจ งานการกูก็จะเสียรายได้ อีกอย่างหนึ่งให้เสาะหาพวกตัดไม้ทำลายป่าด้วยซิ พวกนั้นมันก็พวกเราเองนี่หว่า มันยังบอกว่าเป็นคำสั่งจากผู้ว่าราชการคนใหม่ ให้นายอำเภอทุกอำเภอรายงานมันให้ทราบทุกๆอาทิตย์ด้วย ส่วนไอ้รองผู้กำกับคนใหม่มันกับเราก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันด้วยิ่งแล้วกันใหญ่ กูพึ่งได้รับคำสั่งจากเสี่ยเม้งว่า มะรืนนี้ให้พวกเราไปรับของล๊อตใหญ่จากพวกกระเหรี่ยงทางด้านชายแดนเสียด้วยซิ แล้วมึงคิดว่าจะทำอย่างไร ดีว๊ะไอ้แม้น???...... อ้าวๆๆๆ!!!!!.....แล้วเสี่ยมันไม่รู้หรือว่าอะไรเป็นอะไรในระยะนี้ ไอ้แม้นตอบพ่อมัน กูเองก็บอกเมื่อคราวไปประชุมเจอเสี่ยมันก็บอกมันแล้ว มันบอกว่าคราวนี้ไม่ได้ด้วย เพราะทางฝั่งโน้นมันส่งของ มาให้แล้ว มะรืนนี้ให้รีบส่งคนไปรับของได้พร้อมด้วยเงิน ไอ้เรื่องเงินนั้นไม่มีปัญหาหรอก เสี่ยมันให้มาแล้วล่ะ...แต่ คนที่จะไปรับของซิ กูว่ามันจะยังไงๆชอบกลนะ เจอจ่าเจียมมันก็บอกมาว่าให้ระมัดระวังไว้ด้วย มีคนแปลกหน้าเข้า มาเที่ยวงานสงกรานต์ผิดปกติ เป็นทางกรุงเทพฯถึงแม้ว่าจะมากับเพื่อนมันที่เป็นคนพื้นที่ก็ตาม แต่ดีอย่างที่มันแยก ย้ายไปอยู่กันคนละหมู่บ้าน มีสองสามคนบ้างคนเดียวบ้างที่จะมาเที่ยวงาน ส่วนหมู่บ้านอื่นๆจะมีหรือไม่มันก็ไม่แน่ใจว๊ะ จ่าเจียมและพวกเรา ยังบอกว่าระยะนี้มีพวกตำรวจย้ายเข้ามาอยู่ที่สถานีอีกห้าหกนาย มันพยายามไปทำความรู้จักเลี้ยงต้อนรับพวกตำรวจ มาใหม่ พยายามตีสนิทมันมันเพียงแค่ยิ้มๆและฝากเนื้อฝากตัวเท่านั้นเอง ส่วนในหมู่บ้านแถวพื้นที่เราก็มีไม่เท่าไหร่นี่หว่า แต่ใจข้ามันชักสังหรณ์ใจอย่างไรไม่รู้ ยิ่งอาจารย์ดำมาตายห่าก่อนเสียด้วย หากอยู่ก็พึ่งพาอาศัยพวกผีๆมันไปสืบเสาะให้แก่เราได้ว๊ะ ระยะนี้มันรู้สึกว่าจะไม่ค่อยจะดีเท่าใดนักนะโว้ย กูเองก็ไม่ค่อยจะสบายใจนัก ส่วนกำนันอื่นๆหรือบ้างสีหน้าปกติ บ้างสีหน้าเครียดๆคงจะทำงานเหมือนพวกเรานี่ แหละ กูก็เข้าไปคุยกับมันด้วยเป็นพวกเดียวกัน ต่างบอกว่าไม่ค่อยจะสบายใจนักเหมือนกูแหละ......กำนันเอ่ยขึ้น อีกอย่างนายอำเภอคนใหม่บอกว่าให้พวกกำนันทุกครึ่งเดือนให้ทำรายงานลูกบ้านและผลงาน โดยจำเพราะพวก ยาเสพย์ติดของผิดกฏหมายต่างๆให้ทราบด้วย มึงเอ๋ยไอ้แม้นแล้วจะให้กูทำอย่างไรดีว๊ะ..... ก็จะไปโง่อะไรล่ะพ่อ....ก็รายงานส่งเดชไปว่าหมู่บ้านเราปกติไม่มีสิ่งผิดกฏหมายก็แล้วกัน ไม่เห็นจะยากนี่นา อีกอย่างหนึ่ง พวกเราก็ช่วยสอดส่องดูแลลูกบ้านเสมอๆ ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างไร ก็รายงานไปแบบนี้แหละ ส่วนลูกบ้านเราหรือก็ไม่มีใครกล้าหือหรอกพ่อมันอยู่ในกำมือของพ่อหมดแล้วนี่นา...ไอ้แม้นตอบพ่อมัน ไอ้นายอำเภอมันทุกครั้งต้องมาหาพวกเราแต่คราวนี้มันไม่มาหาพวกกำนันทั้งหลายเลยล่ะว๊ะ กูถามกำนันทุกๆคน แล้วด้วย ซ้ำมันยังบอกว่า ทำไมเขาบางลูกไม่มีต้นไม้ใหญ่เลยเหลือเพียงต้นไม้เล็กๆเท่านั้นเล่นเอากูและกำนันบางคน ต่างอึ้งไปตามๆกัน ไอ้ห่า!!!!!....มันไปรู้มาได้อย่างไรกันว๊ะ ข้อนี้กูชักสงสัยก็มันพึ่งจะมาสองสามวันนี้นา???..... มันอาจจะดูแผนที่จากการถ่ายทางอากาศก็ได้นี่พ่อ ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้.....ไอ้แม้นแสดงความคิดเห็น ถึงข้อนี้ก็จริงของมึง พวกที่ถูกย้ายต่างก็มากันครบหมดแล้วยกเว้นผู้กำกับซึ่งสำคัญมากสำหรับพวกเรา ไม่รู้มัน เสือกหายหัวไปไหนยยังไม่มาเลย เสี่ยเม้งหรือก็ติดต่อไปกับพวกพ้องผู้ใหญ่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่า ไอ้ผู้กำกับคนใหม่เป็นใครสักคนเดียว ข้อนี้สำคัญมากนะโว้ย ส่วนผู้ว่าหรือรองผู้ว่านั้นมันก็เพียง แค่ออกคำสั่งตรวจสอบดูแลเท่านั้นไม่ได้มาคลุกคลี ยกเว้นจะมีผู้ใหญ่ในกรุงมาเท่านั้นเอง การปราบปรามเป็นของ ตำรวจและนายอำเภอ กูเองก่อนไปก็นำกระเช้าช่อดอกไม้ไปมอบให้ มันได้แต่ยิ้มๆ บอกขอบใจเท่านั้นเอง แล้วให้คนเอาไปวางไว้ห่างๆเหมือนมันจะไม่สนใจใยดีอะไรเลย แต่กูไม่กล้าจะใส่ซองไว้ในกระเช้าด้วยไม่แน่ใจว๊ะ แล้วนายอำเภอล่ะมันมีเมียหรือเปล่าล่ะพ่อ????.....ไอ้แม้นถาม กูสอบถามคนภายในว่ามันเป็นคนโสดว๊ะยังไม่มีลูกมีเมีย กำนันตอบ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ว๊ะ....ไอ้แม้นเกาหัวมัน หากมีลูกมีเมียก็จะง่ายเข้าไปหาเมียมันทางหลังบ้านก็คงจะไม่ เท่าไหร่หรอก คราวก่อนคนที่แล้วก็เหมือนๆกันแหละพ่อ แต่พอเราเข้ากับเมียมันได้เหตุการณ์จึงเปลี่ยนไป แต่นี่ โถ่ๆๆๆ ข้าเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันแหละพ่อ???.....ไอ้แม้นตอบ ก็นั่นนะซิกูก็เคยปรึกษากับกำนันพวกเราเหมือนกันมันก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าผู้ว่าราชการฯมันมีลูกมีเมีย ไอ้ห่าเสือกไม่ กลัวเมียมันเสียด้วยซิ ข่าวว่าก่อนจะมาเมียมันพูดอย่างไรไม่รู้ยังถูกตะเพิดออกจากงานร้องไห้กลับบ้านเลยล่ะ น่าๆๆๆพ่อ...ข้าว่าเรื่องงานที่เสี่ยมันบอกข้าคิดว่าไม่เป็นปัญหาหรอก ด้วยไอ้ผู้กำกับมันยังไม่มา งานคงจะ เรียบร้อยข้า ไอ้สน ไอ้เบี้ยว จะนำพวกไปสักยี่สิบกว่าคน ระยะนี้มันคงจะทำอะไรไม่ได้ แต่คราวต่อไปหากมัน มาก็ต้องหาทางวางแผนกันใหม่นะพ่อ ใจเย็นๆได้ล่ะสำเร็จแน่นอน.....ไอ้แม้ตอบ เออๆๆๆ....มึงพูดก็มีเหตุผล น้ำยังไม่เดือดก็รีบๆทำ คืนนี้มึงระดมพลออกเดินทางไปได้แล้วล่ะ เอารถไปสักสอง สามคันนะโว้ย เกณฑ์คนที่มีฝีมือไปด้วย ทางโน้นเวลารับของส่งของไว้ใจกันไม่ได้ว๊ะ....กำนันกล่าวขึ้น เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาหรอก เที่ยงคืนนี้ก็พร้อมและพวกที่ไปก็มีฝีมือทั้งสิ้น จะให้ไอ้สนมันไปบอกให้เตรียมอาวุธ มาให้พร้อมด้วย พอเที่ยงคืนก็จะออกเดินทางจะได้ไปถึงก่อนพวกมัน สำรวจท้องที่ก่อนเหมือนเก่าหรอกน่า พ่อใจเย็นๆได้ คอยรับฟังข่าวก็แล้วกัน อ้อๆ!!!!....ของที่รับมาแล้วจะไว้ที่เดิมหรือเปลี่ยนที่ล่ะพ่อ....ไอ้แม้นถาม กูว่าแยกออกเป็นสามส่วนดีกว่าว๊ะ ฝากไว้ที่หมู่บ้านที่มันรับของเราไปแต่ละส่วน แต่มึงต้องดูที่ไว้ใจได้นา ข้อนี้ไม่ต้องห่วงเพียงแค่ถามดูเท่านั้น แล้วเสี่ยจะมาเอาของเมื่อไหร่ล่ะ เห็นจะเป็นเสาร์นี้กระมัง???..... ได้ยินมันเปรยๆ ถ้าอย่างนั้นข้าลงไปก่อนนะจะได้ไปบอกไอ้สนและพวกให้รีบไปรวมกำลังไว้ ไอ้แม้นกล่าว เออๆดีๆ....บอกทุกๆคนด้วยว่าอย่าประมาทนะโว้ย.....เสียงกำนันกำชับลูกชายมัน พ่อนี่ยิ่งแก่ยิ่งกลัวไปใหญ่ ไม่เหมือนเก่านี่หว่า....ไอ้แม้นพูดลอยๆๆ ไอ้เหี้ยแม้นมึงนะมึง ถึงกูจะแก่ลายเสือกูก็ยังไม่ลบนะโว้ย.... ข้าไม่เคยเห็นพ่อห่วงใยเหมือนคราวนี้นี่นา ไอ้แม้นย้อน กูเพียงให้มึงระวังตัวไว้เท่านั้นเองแหละว๊ะ กูสังหรณ์ใจอย่างไงไม่รู้มันชอบกลๆว๊ะไม่เหมือนคราวก่อนๆ กำนันตอบ ไปๆๆๆมึงรีบไปดำเนินการให้เร็วๆก่อนจะสายไปว๊ะ มันกำชับลูกชายมัน เมื่อเห็นไอ้แม้นเดินลง บันไดไปแจ้งแก่พวกมันให้เตรียมตัวออกเดินทางไปรับของ ตามที่พ่อมันบอกว่าเป็นที่เดิมที่เคยทำมา ไม่ได้ เปลี่ยนแปลงสถานที่ ซึ่งพวกมันรู้และชำนาญทางอยู่แล้ว สักพักหนึ่งหนุ่มโชติซึ่งกำลังนอนสบายๆอยู่พลันได้ยินเสียงกระซิบข้างหูว่า .... พี่ๆๆๆๆ.....มีคนมาหายืนเรียกอยู่ริมรั้วไม่กล้าเข้ามาหมามันเห่าคุมเชิงอยู่ ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นเหลือบสายตาไปยังประตูรั้วหน้าบ้าน ครั้นเห็นก็รีบผลุนผลันรีบออกไปทันที พร้อมทั้งไล่ หมาของเขาให้ไปที่อื่น เหมือนจะรู้คำสั่งเจ้านายหมาทั้งสามตัวหยุดเห่า ชายหนุ่มนำหน้าคนที่มาเรียกประมาณ สามคนได้ เดินออกจากบ้านไปทางต้นไม้ใหญ่ บดบังสายตาคนอื่น แล้วเดินลึกผ่านพุ่มไม้เข้าไปในดงไม้ทันที ครั้นถึงที่เหมาะสมแล้วก็ถามขึ้นทันที....... มีเรื่องอะไรหรือ???.... คำสั่งแต่งตั้งมาแล้วครับนาย แต่ท่านบอกว่าอย่าให้นายแสดงตัวให้เก็บตัวเงียบๆไปก่อน รู้กันเฉพาะพวกเราส่วนตำรวจที่สถานีรู้เพียงแค่ชื่อยศของผู้กำกับการสถานี แต่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ข่าวสายสืบแจ้งมาว่ามะรืนนี้จะมีการขนย้ายของเป็นการใหญ่ครับ แถวไหนล่ะ???.... ชายแดนลาวริมฝั่งโขงติดต่อกับเขาพนมดงรัก เวลาประมาณตีสอง เห็นสายบอก...อีกคนรายงาน ดีแล้วเอาเฉพาะพวกเราที่สถานีอย่าให้กระโตกกระตากนะ ทำเป็นขอลาพักร้อนเหนื่อยจากเดินทางมาจาก กรุงเทพฯ จะไปหาบ้านเช่าอยู่กันก่อน ป้องกันการระแวงของพวกไม่หวังดีต่อพวกเรานะที่ลากันหลายๆคน ทางรองผู้กำกับคนนี้กับผมรู้ด้วยกันมานานแล้ว คงจะอนุญาตให้ไม่ยากหรอก ส่วนจ่าเจียมที่เป็น หัวหน้าตำรวจหลายนาย ยกเว้นจ่าอื่นๆบางคนนั้น ให้ผู้กองพยายามติดตามสอดส่องดูตลอดเวลาอย่าได้คลาดสายตา ด้วยผมเองทราบมานานแล้วว่าจ่าคนนี้และพวกที่ได้รับเงินจากจ่าคนนี้นั้นมันช่วยเหลือร่วมมือกัน กับพวกผิดกฏหมายทั้งสิ้น คอยส่งข่าวให้พวกผิดกฏหมายรู้ตลอดเวลา อย่าพลั้งเผลอหรือแสดงอาการให้มันรู้ และหาทางส่งข่าวลับๆไปยังพวกเราที่แยกย้ายตามหมู่บ้านอื่นๆด้วยนะ ให้เตรียมตัวไว้ หากได้รับคำสั่งจากผมเมื่อใด ให้พร้อมแยกย้ายอย่าไปเป็นกลุ่ม จะเป็นที่สงสัยของพวกชาวบ้าน ให้ผู้กองเป็นหัวหน้างานนี้ ส่วนพวกนำไป ให้ไปเพียงแค่คนเดียวสองคนพอ ให้ไปก่อนล่วงหน้าแล้วหาทางซุกซ่อนตัวไว้อย่าให้ชาวบ้านพบเห็น ส่วนที่อยู่ หมู่บ้านอื่นๆนั้นเขาเตรียมพร้อมทุกๆคนไว้เรียบร้อยแล้วเพียงรอคำสั่งอยู่ ไม่ต้องห่วงเพียงรับคำสั่งจากผมเท่านั้น โดยใช้โค๊ตว่า สายฟ้าแลบฟ้าผ่า เท่านั้นพวกเขาก็จะรู้ว่าเป็นคำสั่งจากผม และกำนันบางคนที่ผมแจ้งแก่ผู้กองไว้แล้ว เขาจะได้จัดการเตรียมกำลังพลไว้หาทางช่วยเหลือพวกเราอีกทางหนึ่งด้วย ชายหนุ่มสั่งอย่างเป็นการเป็นงาน หากคนไม่พอติดต่อพ่อกำนันโคกอีแร้งกำชับเป็นความลับคนเดียว ผมเองก็ได้ติดต่อกับกำนันเป็นการส่วนตัว มานานแล้ว ทางกำนันคนนี้ไว้ใจได้ อีกอย่างด้วยพวกเราได้ไปช่วยฝึกชายหนุ่มในหมู่บ้านเลือกเอาคนที่ไว้ใจได้ ด้วยพวกเราแกล้งทำเป็นทหารผ่านศึกมาช่วย ส่วนด้านอาวุธนั้นก็ทางการส่งมาให้มากมายทั้งอาวุธต่างๆนานา ล้วนแล้วเป็นอาวุธสมัยใหม่ทั้งนั้นซึ่งพึ่งสั่งซื้อมาจากต่างประเทศทั้งหมด พร้อมด้วยเสื้อเกราะกันกระสุนต่างๆ กระสุนอีกจำนวนมาก มีแต่พวกเราเท่านั้นที่สามารถใช้ได้และคนที่รับการฝึกฝนไว้มีจำนวนมากล้วนใช้การได้ดี มานานนับปีๆแล้ว ไปร่วมสมทบด้วยก็แล้วกัน แต่ให้พวกชาวบ้านนั้นต่างไม่ต้องบอกลูกเมียด้วยนะ บอกกำนันกำชับไว้ด้วยว่าผมสั่งมาโดยแจ้งโค๊ตให้กำนันทราบ ส่วนกำนันที่ผู้กองรู้แล้วก็เช่นเดียวกัน ให้เขาส่งคน ให้ทะยอยกันไปทีละคนสองคน ทั้งหมดให้คาดผ้าสีเขียวไว้บนแขนทุกๆคนด้วยเมื่อเข้าทำการจับกุม ชายหนุ่มกล่าว แล้วนายคิดว่าจะเอาไปสักเท่าไหร่ดีล่ะ.....อีกคนถาม ฉันว่าเอาไปอย่างน้อยห้าสิบคนหรือมากกว่านี้ก็ดี ด้วยมันมีหลายๆหมู่บ้านและพวกฝั่งทางโน้นด้วย ซึ่งอาจจะ มีทหารทางโน้นร่วมมาด้วยก็ได้ เพื่อความไม่ประมาทเราอาจจะเสียเปรียบกำลังพล แต่อย่าลืมเอาระเบิดทีเอ็นที น้อยหน่า พลุ กระสุนปืนเต็มพิกัดเผื่อขาดเหลือไม่เป็นไรไปด้วยนะ ชายหนุ่มสั่ง ครับนาย เดี๋ยวผมจะรีบไปจัดการ แต่ว่า...นายควรระวังตัวไว้ด้วยนะอย่าแสดงอาการอย่างหนึ่งอย่างใดให้ทำตัว แบบเดิมเห็นจะดีที่สุด ผู้กองเอ่ยด้วยความห่วงใย พวกกำนันมั่นและกำนันที่ซื้อขายของมันมีทั้งชาวบ้านอื่นๆอีกด้วย ตำรวจสถานีครึ่งกว่าเป็นพวกจ่าเจียมทั้งสิ้น นี่ผมลอบแอบมาแจ้งต้องรีบกลับก่อนล่ะ......เดี๋ยวพวกมันจะสงสัย ผู้กองที่ควบคุมมาพลันกล่าวขึ้น ดีแล้วอย่าใช้วิทยุเป็นอันขาดนะ ด้วยทางเสี่ยเม้งมันมีเครื่องรับฟังทางทหารอยู่ด้วย ที่ทราบมามันมีวิทยุเครือข่าย ร่วมมือกัน ความถี่อาจจะซ้อนกันจนมันรู้ทาง ทางที่ดีจดหมายเป็นโค๊ตที่พวกเราเรียนรู้โดยเฉพาะกันแล้วเฉพาะ พวกหัวหน้าข่าวกรอง การส่งข่าวดีที่สุดหรือการติดต่อให้ประสานทางคนจะดีกว่า อย่าลืมเสียล่ะ..... ชายหนุ่มกำชับ ครับนายพวกผมไปล่ะ นายระวังตัวไว้ด้วยนะ อยู่เบื้องหลังแหละดี ข่าวนี้คงจะรู้ถึงกำนันมั่นมันแล้วมันเป็น หัวหน้าใหญ่ในพื้นที่นี้ที่เสี่ยเม้งมันไว้ใจนัก และไอ้จ่าเจียมมันคงส่งคนมาบอกว่ามีการแต่งตั้งพร้อมชื่อแล้วล่ะ อืมมๆๆๆๆ...ข้อนี้ฉันรู้มานานแล้ว ก่อนมาได้ศึกษามาหมดแล้ว และอีกอย่างหนึ่งฉันเกิดในพื้นที่นี้ด้วยทางหนี ทีไล่ตลอดสองฟากฝั่ง ฉันไปตรวจสอบมาหมดแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงรีบกลับไปได้แล้ว ออกไปก่อนนะแล้วฉันจะ ตามไปทีหลัง.......ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น พลางร่างแผนผังที่จะต้องใช้ในการเข้าทำการนี้ ตลอดจนทางลัดเลาะและพื้นที่ ต่างๆที่สำคัญทางหนีทีไล่ให้แก่ผู้กองเก็บไว้เวลาเข้าปฏิบัติงานจะได้ไม่เพลี่ยงพล้ำแก่พวกผิดกฏหมาย ครั้นชายฉกรรจ์ร่างกำยำทั้งสามนายออกเดินทางเลี่ยงทางเก่าที่เข้ามาออกหายลับตาไป ชายหนุ่มแกล้งเดินเข้าไป ยังกอไผ่ ขุดเอาหน่อไม้รวกพร้อมต้นหญ้านาง หอบหิ้วใส่ในผ้าขาวม้าแบกลัดเลาะไปอีกทางหนึ่ง ที่คดเคี้ยวกลับ บ้านพร้อมทั้งยังเก็บเห็ดบางชนิดนำมาอีกด้วยเพื่อให้พ่อแม่ใช้ทำอาหาร เมื่อนำมาก็จัดการก่อไฟต้มหน่อไม้โดยใส่ต้นหญ้านางกันขื่น และลวกเห็ดรอพ่อแม่กลับมาพร้อมทั้งหุงข้าวไว้ด้วย ครั้นไฟราแล้ว เขาก็เดินเข้าห้องพลางร่ายมนต์เรียกหุ่นทั้งสองทันที บัดดลก็ปรากฏร่างชายหนุ่มรูปงามสองนายมานั่งยังเบื้องหน้าเขา พลางถามว่า???... อาจารย์เรียกผมมาเพื่อจะใช้ไปทำอะไรหรือครับ???.... หุ่นทั้งสองถาม ข้าอยากจะให้เอ็งออกไปสำรวจหน่อย ด้วยมีพวกมิจฉาชีพมันกำลังทำงานผิดกฏหมายเป็นอันตรายแก่ชาวไทยเรา หากพวกเจ้าทำงานได้สำเร็จถือเป็นบุญกุศลอย่างหนึ่งและช่วยเหลือประเทศอีกด้วย นายสั่งมาเถอะผมทั้งสองทำอะไรก็ได้แม้จะลุยน้ำลุยไฟผมก็ยอม ด้วยอาจารย์มีคุณแก่พวกผมมากไม่เหมือนคนเก่า แล้วชายหนุ่มก็เล่าเรื่องต่างๆให้ หุ่นทั้งสองฟังพร้อมบอกว่าให้ช่วยคุ้มครองพวกเขาด้วย ส่วนอาจารย์จะไม่ไปหรอก ต้องเก็บตัวไว้พลางๆก่อน แต่จะให้เจ้าไปแทนด้วยระยะทางมีพวกผีโป่งผีป่ามากมายอาจจะทำให้พวกเราหลงทางได้ อีกอย่างหนึ่งไอ้แม้นมันก็มีวิชาอาคมเหมือนกันถึงจะไม่แก่กล้านักก็อย่าได้ประมาทเป็นอันขาด หากเหลือเกินความ สามารถก็รีบกลับมาหาข้านะ ไม่ต้องเสี่ยงภัยมากหรอกล่ะ จำคำข้าไว้ให้ดีๆ ชายหนุ่มกล่าว หุ่นทั้งสองมองหน้ากัน เหมือนจะสงสัยอะไรบางอย่าง แต่ไม่กล้าถาม ชายหนุ่มรู้กระแสจิตมัน จึงกล่าวว่า พวกเรานั้นจะแต่งตัวเหมือนชาวบ้านธรรมดาให้สังเกตุลักษณะว่าเขาจะไม่รวมตัว กันเป็นกลุ่มก้อน จะแยกทางกันแค่เพียงคนสองคนเท่านั้น เมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้วก็จะกระจายแยกย้ายกันคอย จังหวะ นี่คือพวกเรา หากรวมตัวเป็นกลุ่มๆนั้นไม่ใช่พวกเรา เมื่อเกิดเหตุการณ์พวกเราจะคาดผ้าสีเขียวที่แขนกัน ทุกๆคน ไอ้แม้นมันเป็นหัวหน้าข้าคิดว่าเจ้าก็คงจะจำไอ้แม้นได้หรือไอ้สน กับไอ้เบี้ยวก็เช่นเดียวกัน อาจจะมีหมู่บ้านอื่นซึ่งข้าคิดว่าเอ็งพอจะรู้ด้วยอำนาจที่ข้าพร่ำสอนไว้ให้แล้วนี่นา ครับอาจารย์ผมจำได้ ที่สงสัยด้วยพวกอาจารย์เท่านั้น อย่างนั้นผมไปก่อนนะครับอาจารย์ เออๆๆๆ.....ไปเถอะขอให้โชคดีมีชัยชนะกลับมานะ อย่าลืมหากสุดความสามารถให้รีบหนีกลับมาก่อนอย่าลืม ชายหนุ่มอดเป็นห่วงเสียมิได้ เมื่อหุ่นทั้งสองได้รับฟังเช่นนั้น มันทั้งสองรู้สึกปลาบปลื้มใจที่อาจารย์มันช่างดีกับมันเหลือหลายแม้แต่คำพูดจา ก็น่าฟัง ซ้ำยังมีความเป็นห่วงเป็นใยพวกมันอีกไม่เหมือนนายคนเก่าดีแต่เอาแต่ด่าว่ากล่าวมัน ดังนั้นมันจึงยอมทุ่มเททั้งกายและจิตใจมันให้แก่ชายหนุ่มจนหมดหัวใจ หุ่นทั้งสองคิด แล้วร่างมันก็ค่อยเลือนลางกลายเป็นลมพุ่งออกจากหน้าต่างหายไปทันที........... * แก้วประเสริฐ. *
19 พฤศจิกายน 2553 00:30 น. - comment id 120070
อ่านแล้วคิดถึงบ้านค่ะครู ตอนอยู่เมืองไทยเคยมีโอกาสได้เป็นหลังบ้านของ ปลัด อบตค่ะ ได้คลุกคลีกับชาวบ้าน ข้าราชการ ศิษย์ก็เป็นข้าราชการครู (หลังจากลาออกจาก กสทแล้ว) พอมาอยู่ที่นี่ ชีวิตเปลี่ยนไปมากค่ะ จากปลัด ก็มาทำงานบริษัท จากครูก็ได้ทำไปรษณีย์อีกครั้ง กลับไปถาวรเมื่อไหร่จะขอเป็นเกษตรกร ชาวนาค่ะ อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเกิดนะคะครู
19 พฤศจิกายน 2553 07:00 น. - comment id 120072
สวัสดีค่ะคุณครูแก้ว ตามมาอ่านค่ะ สวัสดีคุณอนงค์นางด้วยค่ะ ตอนนี้เจี๊ยบไม่อยากทำงาน อะไรทั้งนั้น นอกจากเขียนๆๆๆๆ
19 พฤศจิกายน 2553 12:15 น. - comment id 120074
คุณ อนงค์นาง ใช่แล้วจ้าครูก็คิดเหมือนเธอแหละที่ ไหนๆสู้บ้านเราไม่ได้หรอก มิฉะนั้นเสือที่ไป ปล้นเข้า ตำรวจไม่ต้องไปไหนหรอกคอย เฝ้ามันที่บ้านมัน ไม่ช้าก็จับได้ด้วยมันต้อง มาตายรังทุกๆราย แล้วยิ่งศิษย์เราไปอยู่ เมืองนอกมีหรือจะไม่คิดถึงบ้าน ดีนะที่มี่ วัดไทยรวมคนไทยด้วยกันไม่เหงา คนที่ ไม่มาร่วมๆกัน มักจะเป็นโรคโฮมซิกค์กัน ทั้งนั้นแหละจ้า รักศิษย์เราเสมอ อ้อ ช่ออักษราลีเป็นศิษย์รุ่นพี่รุ่นแรกของครู เองจ้า แก้วประเสริฐ.
19 พฤศจิกายน 2553 12:32 น. - comment id 120076
คุณ ช่ออักษราลี ศิษย์ที่รักยิ่ง ครูเองลืมบอกไปด้วยเธอ บอกว่าเครียดจนไมเกลขึ้น สิ่งเดียวจะช่วย ได้คือ การฝึกสมาธิเท่านั้น การฝึกสมาธิไม่ จำเป็นต้องนั่งทำหรอก ยืน เดิน นอน ทำได้ เสมอๆ ให้สังเกตุองค์ภาวนามันเป็นเฉพาะ บุคคล บางคนใช้คำสั้นๆได้ผล คำยาวๆไม่ ได้ผล ต้องเลือกเอาในบทที่อาจารย์วิปัสสนา กล่าวไว้คือ บทสวดก่อนสวดมนต์ใดๆ ทั้งสิ้น ให้เลือกเอาคำๆทดลองใช้หาก จิตสงบด้วยคำใดให้ถือเอาคำนั้นเป็นบท องค์ภาวนาประจำตัวเรา บทนี้คือ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ บางอาจารย์ใช้ พุทโธ เป็นส่วนมาก หายใจด้วยพุท หายใจออกด้วยโธ หรือบางอาจารย์ใช้ อะระหัง บ้าง สัมพุทโธบ้าง สัมมาอะระหังบ้าง แล้วแต่อาจารย์ นั้นๆเป็นต้น หากใช้ สามคำ เช่น อะระหัง อะหายใจเข้าถึง สะดือ หายใจออก ระอยู่ที่ทรวงอก หังอยู่ ที่ปลายจมูก แต่อย่าส่งจิตให้ออกนอก กายเรา เพราะจะทำให้จิตเตลิดไปเรื่อยๆ ส่วนครูเองใช้ หายใจเข้าพุทธัสสะอยู่ ที่ทรวงอก อะระหังอยู่ที่ปลายจมูกจ๊ะ บางครั้งใช้ภะคะวาแทนอะระหังแทนหาก จิตไม่สงบ ก็ต้องเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่ใช้ อะระหัง สัมพุทธัสสะ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงค์ เรียกว่าพุทธัสสะ อะระหัง คือผู้ปราศจากกิเลสทั้งปวง ภะคะวาคือผู้เป็น พระภาคเจ้าจ๊ะ การหัดเขียนนั้นดีแล้วได้ประโยชน์ หลายๆอย่าง ใช้ในการทำงานเราก็ได้ ใช้แต่งกลอนหรือนิยายได้ทั้งสิ้น แต่ควร ทำให้เรื่องนั้นยาวๆไว้ จะเป็นประโยชน์ มากแต่ไม่ใช่ยาวด้วย น้ำท่วมทุ่งผักบุ้ง โหรงเหรง นะ อ้อ อนงค์นางคือศิษย์ผู้น้อง ของเธอจ๊ะ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
22 มกราคม 2554 16:12 น. - comment id 121671
มาฝากรอยยิ้มให้เจ้าค่ะ คุณชาย