มิติรัก...ใต้เงาจันทรา ฉบับปรับปรุง ตอนที่9
ส.ธนาศิษฏ์
แม่หญิงเจ้าคะสายแล้วตื่นเถอะเจ้าค่ะ เสียงบ่าวเรียกแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วแต่เช้า หล่อนตื่นมาด้วยความรู้สึกงวยงง
ทำไมเรายังอยู่ที่นี่อีกล่ะ เราน่าจะกลับไปยังโลกของเราได้แล้วนะหล่อนนึก จิ๊บจิ๊บจิ๊บเสียงนกร้องดังกึกก้องในขณะที่ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มมองไม่เห็นอะไร หล่อนเดินมาพร้อมกับบ่าวไพร่อีกสามสี่คนตรงมายังท่าน้ำท่ามกลางอากาศที่มีแต่หมอกขาว ๆ ปกคลุมไปทั่ว เสียงบ่าวไพร่หัวเราะกันดังกึกก้องไปหมด
เงียบ ๆ หน่อยได้ไหมเสียงดังออกไปหลายคุ้งหลายแควแล้ว อ้าวอาบน้ำให้เสร็จก่อนพระเคาะระฆังนะเจ้าเดี๋ยวจะไม่ทันใส่บาตร เสียงเจ้าคุณย่าตะโกนดังมาแต่ไกล บ่าวไพร่ต่างพากันเงียบไปหมด น้ำผึ้งแก้วขึ้นจากน้ำแล้วกลับไปยังเรือนเพื่อแต่งตัวเตรียมเข้าวังแต่เช้าเพราะหล่อนลาออกมาได้เพียงวันเดียวเท่านั้น
ใส่บาตรก่อนไปเสียด้วยเจ้า ย่าเตรียมของไว้ให้เสร็จแล้ว
เจ้าค่ะ แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วเดินตรงมายังท่าน้ำเพื่อมาหาเจ้าคุณย่าที่ยืนรออยู่ หล่อนค่อย ๆ คลานเข้าไปหยิบข้าวของที่วางอยู่แล้วก็รอเรือของพระสงฆ์ที่กำลังพายมาแต่ไกล เมื่อพระมาถึงหล่อยจึงหยิบอาหารใส่ลงบาตรแล้วรอรับศีลรับพร
เจ้าคุณย่าเจ้าคะ หลานลาแล้วเจ้าค่ะ อีกสองปักษ์หลานจะกลับนะเจ้าคะ
แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วลาเจ้าคุณย่าก่อนที่จะลงเรือเรือลอยลำไปไกลมาก หล่อนมองเห็นบ้านเรือนและผู้คนมากมายที่กำลังพายเรือเพื่อไปจับจ่ายซื้อของแต่เช้าตรู่ เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องท้องน้ำก็ค่อย ๆ มองเห็นได้ชัดขึ้น หล่อนมองเห็นมือใครคนหนึ่งที่โผล่ออกมาจากใต้น้ำอยู่หลายครั้งหล่อนจึงพยายามจ้องมองมือของใครคนนั้นด้วยความรู้สึกหวั่นใจ
พี่ไม ฉันว่ามันคงมีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้วละ
อะไรรึเจ้าคะแม่หญิง
เดี๋ยวนะขอฉันเถอะ
แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วคว้ามีดปลอกหมากของไมพี่เลี้ยงคนสนิทมาถือเอาไว้แน่น ประจวบเหมาะกับตอนที่หล่อนเล็งเห็นว่ามือของใครคนหนึ่งพยายามเกาะเรือเพื่อให้เรือล่มนั้นหล่อนจึงเอามีดเฉือนไปที่มือของใครคนนั้นทันที ทำให้บาดแผลลึกมาก เลือดไหลอาบลงผืนน้ำเต็มไปหมด แต่เจ้าของมือคู่นั้นก็หารู้ไม่ว่ามือของเขาบาดเจ็บ เขากลับโครงเรือจนล่มลงในที่สุด
ช่วยด้วยเจ้าค่ะ.แม่หญิงตกน้ำ.ช่วยด้วยบ่าวว่ายน้ำไม่เป็นเจ้าค่ะ.!!!!!!!
เสียงตะโกนโหวกเหวกของพี่ไมดังลั่นพร้อมกับทิ้งร่างดิ่งลงไปในน้ำและทะลึ่งขึ้นมาอยู่หลายครั้ง มือของใครบางคนพยายามกอดรัดตัวแม่หญิงและบ่าว
ตูม!!!! เสียงของใครคนหนึ่งกระโดดลงน้ำจนแตกกระเซ็นเป็นฟอง
จ๋อมจ๋อมจ๋อม เขาว่ายน้ำมากอดตัวแม่หญิงไว้และพาขึ้นฝั่งทันที ส่วนพี่ไมบ่าวของแม่หญิงนั้นมีคนมาช่วยไว้ทันจึงขึ้นจากน้ำได้โดยปลอดภัย
คุณหลวง!!!!
แม่หญิงโผกอดคุณหลวงบดินทร์นฤบาลทันที หล่อนไม่รู้สึกเลยว่าจะละอายกับสิ่งที่กระทำลงไปเพราะหล่อนรู้สึกว่าหล่อนเองมิใช่คนโบราณอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างน้อย ๆ จิตใต้สำนึกของคนในโลกปัจจุบันที่ยังคงฝืนตัวเองได้ก็แสดงออกมาได้เป็นบางครั้งบางคราว หล่อนรู้สึกตัวว่าหล่อนรักผู้ชายในคราบคุณหลวงอย่างชู้สาว มิใช่อย่างอาหลานเสียแล้ว เพราะหล่อนได้ก้าวกลับมาในอดีตหล่อนจึงได้รู้ว่าตนเองเคยชอบพอกับคุณหลวงอยู่ หล่อนจึงกล้าที่จะกอดเขา
ปล่อยเถอะเจ้า อายเขา คุณหลวงบดินทร์นฤบาลเอ่ยขึ้น น้ำผึ้งแก้วจึงละมือออกพร้อมทั้งแสดงอาการขวยเขิน
กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะเจ้า
จับได้ไหมเจ้าคะ
คนล่มเรือน่ะรึ!!!
เจ้าค่ะ
ไม่ได้ดอกเจ้าแต่อย่างน้อย ๆ ก็คงจะได้บทเรียนไปอีกนาน เพราะพี่เห็นเจ้านั่นมีแผลที่มือข้างขวาลึกขนาดนั้น
อิฉันเอามีดกรีดเองเจ้าค่ะเพราะเกรงว่าเรือจะล่ม
คุณหลวงพายเรือพาแม่หญิงและบ่าวกลับมาที่เรือนของตนเองที่อยู่ใกล้ ๆ กับคุ้งป่าหวาย เขาสั่งให้ผ่าวสองสามคนไปจัดเครื่องแต่งตัวมาให้แม่หญิงและบ่าวเปลี่ยน จากนั้นก็พายเรือไปส่งที่ท่าขุนนางเพื่อให้หล่อนเข้าวัง
น้ำผึ้งแก้วเดินเข้าประตูวังจนลับสายตาไปแล้วคุณหลวงบดินทร์นฤบาลจึงพายเรือกลับไป
แม่หญิงเจ้าคะ บ่าวว่าคุณหลวงท่านใจดีเหลือเกินเจ้าค่ะ
ใช่คุณหลวงใจดี
เอ๊ะ!!!! แล้วแม่หญิงว่าคุณหลวงท่านมองแม่หญิงแปลก ๆ หรือไม่เจ้าคะ
ก็ไม่นี่อย่าคิดมากน่า ไป!!!! ไปกราบเสด็จฯ ท่านก่อนเพราะวันนี้เรามาสายมากแล้วเดี๋ยวจะกริ้วไปกันใหญ่
น้ำผึ้งแก้วเดินมาถึงพระที่นั่งสุทธาสวรรย์หล่อนค่อย ๆ เดินขึ้นตำหนักช้า ๆ เมื่อเห็นใครคนหนึ่งกำลังเดินออกมาด้วยสีหน้าท่าทางอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างรุนแรง หล่อนรู้ทันทีว่านั่นคือใครจึงหมอบกราบทันที
หมอบเร็วพระปีย์มา หล่อนบอกให้บ่าวหมอบกราบ เมื่อพระปีย์เสด็จออกไปได้ครู่หนึ่งแล้วหล่อนจึงค่อย ๆ คลานเข้าไปหาสมเด็จฯ ท่านช้า ๆ และหมอบกราบทันที
มาช้าเชียวนะเจ้าเอ้า!!! หล่อนรับผ้าผืนนั้นมาและนำมาเช็ดพระบาททันที
รู้หรือไม่ว่าอ้ายค่อม อ้ายเตี้ยลูกข้ามันดื้อนัก
หล่อนเงียบไม่ตอบอะไร
บ๊ะ.!!!!
หล่อนถึงกับสะดุ้งโหยงทันทีทำให้เสด็จฯ ท่านพร้อมทั้งนางในหลายคนหลุดหัวเราะออกมา หล่อนจึงก้มลงกราบเนื้อตัวสั่น และรีบตอบเพราะรู้สึกกลัวเกรงความผิด
หม่อมฉันมิทราบดอกเพคะ แต่หม่อมฉันรู้ว่าพระปีย์ทรงโปรดการดนตรีมากกว่าตำรับตำรา หม่อมฉันคิดว่าพระองค์น่าจะค่อย ๆ ปราณีประนอมนะเพคะ
บ๊ะ!!!! อีนี่มึงรึจะสอนกู บังอาจนักนะ ทรงสรวนดังลั่นตำหนัก หล่อนรีบหมอบกราบเพราะกลัวว่าพระองค์จะทรงกริ้วเรื่องที่หล่อนกล้าต่อปากต่ำคำกับท่าน แล้วเจ้ารู้มั๊ยว่าก่อนน่าหนี้อ้ายเตี้ยมันเป็นบุตรผู้ใด
ทำไมทรงถามเช่นนี้ล่ะเพคะ
เขาลือกันทั่ววังว่าเจ้าน่ะรอบรู้ไปทุกเรื่อง ไหนจงเร่งตอบมาอย่าช้านักเจ้า หากตอบไม่ถูกข้าจะให้หวายเป็นรางวัลสถานที่บังอาจสอนข้า...! สมเด็จฯตรัส
บุตรของขุนไกรสิทธศักดิ์เจ้าค่ะ ต่อไปจักมีเรื่องร้ายแก่พระปีย์ในปางหน้า โปรดให้ทหารชั้นเอกรักษาองค์พระปีย์ด้วยเพคะ
มึงว่าการใดข้างหน้างั้นรึ...บ๊ะอีนี่! หากเจ้าเป็นชายข้าจะส่งไปเรียนกับพระโหราฯเสียกระมัง ทรงพระสรวญดังขึ้นอีกครั้ง
ฝ่าบาทเพคะ น้ำผึ้งแก้วเอ่ยต่อ ขอได้โปรดเถอะเพคะ ถึงแม้นว่าหัวขาดเกล้ากระหม่อมก็ต้องพูดให้จงได้ เสด็จพยักหน้ารับ กาลเก่าพระศรีสิงห์ราชโอรสบุญธรรมเคยคิดขบถซ่อน ศาตราอาวุธข้างที่พระบรรทมไม่ใช่หรือเพคะ การนั้นทรงเงื้ออาวุธขึ้นจะฟันแต่ก็มิได้ให้ลงโทษเพราะทรงเห็นว่าพระศรีสิงห์ยังเยาว์มีพระชนม์พรรษาเพียง 15 ปีเท่านั้น ทั้งเป็นพระราชภาคิไนยอันสนิท เมื่อพระเชษฐายังมีพระชนม์อยู่นั้นได้ทรงฝากฝังไว้ว่า หนักหน่อยเบาหน่อยก็ขอให้ทรงพระกรุณาตามสมควร แต่กาลหน้าไซร้พระศรีสิงห์จักมิเพียงแค่คิดนะเพคะ หากแต่จะขบถจริง วันพรุ่งพระองค์จะเสด็จออกพระที่นั่งตำหนักดิน พระศรีสิงห์จะถือพระแสงของพระมหินทร์ดักคอยจะทำร้ายอยู่ทางประตูวังข้างทิศใต้ ทรงอย่าเสด็จออกทางนั้นนะเพคะ ขอทรงโปรดเชื่อกระหม่อม โปรดเสด็จออกทางพระตูด้านทิศเหนือเถอะ หล่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง สีหน้าของหล่อนำให้เสด็จฯฉุดคิดขึ้นมา
หากมึงพยากรได้อย่างนั้นรึ ไหนมึงบอกกูสิว่ากูจักมีโอรสสืบราชสมบัติหรือไม่
มีเป็นแน่แท้เพคะ พระโอรสที่เกิดจากพระสนมกุสาวดี ราชธิดาในพญาแสนหลวงเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ให้ประสูติการาชโอรสใต้ต้นมะเดื่อในขณะที่ทั้งพระองค์ พระมหาอุปราชสุรสีห์ และพระนางกุสาวดีเดินทางไปนมัสการพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ ที่วัดพระศรีมหาธาตุเมืองสองแควไงเพคะ อีกหน่อยจะได้เป็นหลวงสรศักดิ์ และจากนั้นจะเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีชื่อเสียงในทางร้าย ชาวบ้านกลัวเกรงบารมี เรียกว่าพระเจ้าเสือเพคะ
บังอาจนักอีนี่...! ทรงตวาดดังขึ้น หากเจ้ามิใช่เด็กกูคงโบยมึงหลังขาดให้ตายเสียตรงนี้เป็นแน่ มึงหยุดว่าความแล้วออกไปให้พ้นหน้ากูเสีย ทรงกริ้วอย่างรุนแรงทำให้น้ำผึ้งแก้วก้มกราบเนื้อตัวสั่น
ตื่นสิ...ตื่น ๆ ตื่นได้แล้ว นี่เรากำลังฝันอยู่ไม่ใช่เหรอ ตื่นเดี๋ยวนี้...หล่อนพยายามปลุกตัวเองให้ตื่นด้วยการตบหน้าตัวเองอยู่หลายครั้ง
แวบหัวใจแทบหยุดเต้น ใจสั่นระรัวแวบไปหยุดไหลวนทั่วท้องและไหลลงไปถึงตาตุ่ม...
ผึ้งน้ำผึ้ง!!!!!
หะ.!!!!
น้ำผึ้งสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงใครคนหนึ่งเรียกเธอในกลางดึก เธอหันกลับมามองเสียงชายคนที่เรียกทันที
ผู้หมวด!!!
เธอเรียกเสียงหลงเพราะไม่คิดว่าเขาจะมายืนที่พระที่นั่งเย็นในกลางดึกอย่างนี้
คิดอะไรอยู่เหรอ
เปล่าค่ะ เธอตอบทั้ง ๆ ที่เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ และเห็นอะไรอยู่ เธอไม่กล้าตอบออกมาเพราะกลัวว่าเขาจะหาว่าเธอบ้า สติไม่ดี เธอจึงได้แต่ยิ้ม ๆ เท่านั้น
แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ นายตำรวจหนุ่มถามเธอด้วยท่าทางงวยงง เธอก้มลงมองตัวเองแล้วก็แปลกใจเพราะตัวเธอเองกำลังสวมใส่เสื้อผ้าอย่างคนโบราณ เธอไม่รู้จะตอบอย่างไรเพราะตัวเธอเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน
สายลมโชยมาเอื่อย ๆ เธอรู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วร่าง เธอจึงเดินกอดอกคุยกับนายตำรวจหนุ่มด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอมใจทำให้นายตำรวจหนุ่มต้องถอดเสื้อนอกออกมาคลุมให้เธอทันทีเพราะกลัวว่าเธอจะหนาวไปมากกว่านี้
เสื้อคุณอุ่นดีจังเลยค่ะขอได้ไหมคะ
ให้ได้ตลอดชีวิตเลยละ
หะ!!!! เธอตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ เธอรู้สึกคุ้น ๆ กับคำพูดประโยคนี้มากแต่เธอก็ไม่รู้ว่าเคยได้ยินที่ไหน ทำให้เธอยืนงงอยู่ นายตำรวจหนุ่มจึงเดินเข้ามาโอบไหล่เธอและพาไปขึ้นรถเพื่อพาไปส่งที่บ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
เดี๋ยวค่ะ นายตำรวจหนุ่มกำลังจะสตาร์ทรถ เขาถึงกับหยุดทันทีและหันกลับมาคุยกับเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
มีอะไรเหรอ
ทำไมถึงรู้ว่าผึ้งอยู่ที่นี่ล่ะคะ
สัญชาตญาณมันบอก
และพี่ทำไมถึงมาตามผึ้งล่ะ
พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่ามีเสียงใครบางคนคอยกระซิบข้าง ๆ หูพี่ตลอดเวลาว่าให้มาเพราะถ้าไม่มาจะไม่เจอผึ้ง
เธอนั่งงง ๆ อยู่ในรถพร้อมทั้งแสดงสีหน้าที่สงสัยเพราะจู่ ๆ ทำไมเขาถึงมาตามหาเธอทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลย
เสียงเหรอ ใครกันนะ!!!! เธอนึก
อืม...ทีหลังไม่ต้องเรียกพี่ว่าผู้หมวดนะ มันดูห่างเหินน่ะ เรียกพี่ว่าพี่เอกนะ เขาเอ่ยขึ้น
พี่เอกคะ เสียงเหรอคะ เมื่อกี้พี่จะบอกว่าผีกระซิบบอกหรือไงคะ เธอรีบเปลี่ยนเรื่องพูดพร้อมกับดึงมือออกจากมือของเขาที่กุมมือเอไว้แน่น
บ้าน่าแต่ก็ช่างเถอะพี่รู้ละกันว่าเธออยู่ที่นี่
นายตำรวจหนุ่มนั่งหัวเราะแล้วก็หันมาขยี้หัวเธอ ทำให้เธอยกมือขึ้นไปจับมือของเขาออกมาจากหัวและเอามาแนบไว้ที่แก้มทันที เธอหลับตาพริ้มพร้อมทั้งสูดลมหายใจลึก ๆ ทำให้นายตำรวจหนุ่มรู้สึกแปลกใจ
พี่เอกเชื่อเรื่องอดีตชาติไหมคะ
ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ
นายตำรวจหนุ่มขับรถมาส่งเธอที่บ้าน เขาเดินลงมาส่งเธอ ครู่หนึ่งเสียงวอวิทยุดังอยู่หลายครั้งเขาจึงขอตัวลากลับก่อน
ทำไมเราถึงมายืนอยู่ที่พระที่นั่งเย็นได้นะ ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้เรายังอยู่ที่พระตำหนักในวังนารายณ์อยู่เลย น้ำผึ้งนึก
เธอผวาสุดตัวอีกครั้ง เหงื่อกาฬผุดขึ้นเต็มหน้าไปหมด เธอมองไปรอบ ๆ ตัวแล้วโล่งใจ
ฝันร้ายเหรอ ส้มเอ่ยถาม
ก็คงทำนองนั้นแหละ ผึ้งตอบพร้อมกับฟุบตัวลงนอนต่อ ...ทำไมเราต้องฝันถึงเขา ทำไมเราต้องเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ไม่มีใครฝันหรือเห็นแบบเราเลยเหรอ?...เธอนึก
..9.
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ