มิติรัก...ใต้เงาจันทรา ฉบับปรับปรุง ตอนที่8
ส.ธนาศิษฏ์
บ้านเรือนไทยหลังเดิมที่เธอเห็นครั้งแรกตอนที่มาลพบุรี บ้านหลังนี้ติดป้ายประกาศอีกครั้งหลังจากที่เธอหมดความหวังไปแล้วว่าจะซื้อบ้านหลังนี้ เธอโทรติดต่อเจ้าของบ้านทันที
ผึ้งมาตามที่นัดเจ้าของบ้านคนเก่าเอาไว้ เธอคิดว่าผู้หญิงที่ขายบ้านหลังนั้นเป็นคนหนุ่มคนสาวที่ไม่รู้จักคุณค่าของบ้านเรือนไทยเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อมาพบกลับกลายเป็นหญิงชราอายุราว ๆ 70 ปีเห็นจะได้ ผมหงอกขาวโพลน ผิวหนังเหี่ยวย่นแต่ยังคงลุกเหินเดินไหว
นั่งสิจ๊ะหนู คุณยายท่านนั้นเอ่ยชวนให้เธอนั่ง หนูสนใจบ้านหลังนี้แน่เหรอ ไม่มีใครอยู่ทนสักคนเลยนะ
หนูชอบค่ะ และไม่ว่าบ้านหลังนี้จะล่ำลือว่าเฮี้ยนขนาดไหนหนูก็จะอยู่ที่นี่ค่ะ เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านในฝันของหนูเลย หนูมองบ้านหลังนี้มาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งย้ายไปอยู่ที่อื่น กลับมาอีกทีบ้านหลังนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ขายให้หนูเถอะนะคะคุณยาย เธออ้อนวอน
เอาสิ...ถ้าภายใน 3 เดือนหนูอยู่ได้ยายจะยอมขายให้ในราคาถูกเลยเอ้า หนูจะเอามั๊ยล่ะ คุณยายท่านั้นพูดพร้อมกับอมยิ้ม
เงาดำทะมึนยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขา กระจกร้านอาหารสั่นสะเทือนราวกับจะหลุดออกมา น้ำในแก้วสั่นเป็นวงกลม ไฟดับวาบชั่วครู่ สงสัยไฟจะตก ส้มเปรยขึ้น
คุณยายจะขายให้เท่าไหร่ดีกว่ามั๊ยคะ แต่อย่าแพงนะคะ เงินเดือนหนูน้อยค่ะ พ่อแม่หนูก็เสียไปหมดแล้วด้วย หนูไม่มีถุงเงินถุงทองที่เป็นที่พึ่งแบบนั้นอีกแล้วนะคะ หนูมีเพียงคุณย่าคนเดียวในชีวิตเอง คุณย่าก็ไม่มีเงินถุงเงินถังให้หนูกู้ซะด้วยสิ... เธอพูดพร้อมกับหัวเราะขึ้น
เอาละถ้าหนูอยู่ได้ตามที่ยายบอก ยายจะยอมขายบ้านหลังนั้นแค่ 3 แสนเท่านั้น
หา....! ผึ้งร้องด้วยความตกใจ
ไม่ต้องตกใจหรอก ยายพูดจริง แล้วก็หุบปากได้แล้วเดี๋ยวแมลงวันก็เข้าไปอาศัยอยู่หรอก คุณยายท่านนั้นเอ่ยพร้อมกับหัวเราะเยาะ ทั้งสองคนเซ็นสัญญากันเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีพยานอีก 2 คนคือส้มและผู้หมวดสุเมธ ทุกคนร่วมทานอาหารกันและแยกย้ายกันไป ผึ้งกับส้มย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านเรือนไทยหลังนี้โดยไม่รอช้า โดยมีผู้หมวดสุเมธช่วยขนของไปส่ง...
ไอ้เพื่อนทรยศ! เสียงนี้ดังก้องหูนายตำรวจหนุ่ม เขารีบกลับทันทีหลังจากช่วยเธอทั้งคู่จัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้ว
กลางดึกอันเงียบสงัดผึ้งเดินออกมาที่ถนนหน้าบ้าน เธอเดินเลาะทางไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเดินมาถึงพระที่นั่งเย็นหรือที่เรียกว่าพระที่นั่งไกรสรสีหราชนั่นเอง เธอมองไปรอบ ๆ ก็เห็นต้นโพธิ์ต้นใหญ่ และซากโบราณสถานที่ยังคงเหลือไว้ให้ลูกหลานได้ชมกันทุกวันนี้
สายลมยะเยือกเข้ามาที่รูขุมขน เธอรู้สึกหนาวสะท้านไปทั่วร่าง เสียงใครคนหนึ่งกึกก้องร้องเรียกเธออยู่ตลอดเวลา น้ำผึ้งแก้วน้ำผึ้งแก้วน้ำผึ้งแก้ว เธอเดินตามเสียงนั้นไปจนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็เห็นตัวเองยืนอยู่ที่โรงช้าง เธอเห็นช้างมากมายหลายเชือก ล้วนแล้วแต่เป็นช้างเผือกที่แต่งองค์ทรงเครื่องอย่างสวยสดงดงาม เธอรู้สึกแปลกใจมากหันกลับมายังซากโบราณสถาน พอมองไปก็เห็นเป็นหมู่ตึกที่สวยงามท่ามกลางทะเลสาบชุบศร
นี่มันอะไรกันนี่!!!!
เธอรู้สึกตกใจและหวาดกลัวมาก เพราะคราวนี้เธอมาที่นี่ทั้ง ๆ ที่ยังมีสติอยู่ เธอเดินมายังพระตำหนัก เธอเห็นนางในมากมายกำลังจัดพระแท่นบรรทมอยู่ เธอจึงเดินเข้าไปดู
แม่หญิงวันนี้วันพุธนะ ยังไม่กลับบ้านอีกรึ เดี๋ยวคุณท้าวเยาวลักษณ์ก็มาว่าอิฉันหรอกไปรีบเก็บข้าวของและกลับบ้านได้แล้ว เห็นว่าท่านเจ้าพระยาธรรมรัตน์ส่งคนมารับนี่
เจ้าพระยาธรรมรัตน์เหรอ? ใครกันไม่เคยได้ยินเลย เธอถามอย่างงง ๆ เธอนั่งลงกับพื้นแล้วก็คลานเข้าไปใกล้ ๆ คุณท้าวรัญจวนผู้ที่ดูแลเรื่องพระแท่นบรรทมของสมเด็จฯ ท่าน ชุดที่เธอสวมใส่เป็นชุดโบราณ ซึ่งเธอก็แปลกใจอยู่แล้วกับการมาโดยไม่ได้ตั้งใจของเธอ แล้วนี่ยังจะต้องเดินทางไปกับใครก็ไม่รู้ จะต้องไปที่ไหนเธอก็ยังไม่รู้เลย
กระไรกันเจ้ามิรู้รึ เจ้าคุณพลเทพบิดาของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีอย่างไรเล่า
คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีหรือเจ้าคะ!!!! เธอถามอย่างงง ๆ เพราะชื่อนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เธอนั่งอยู่ครู่หนึ่งนางในคนหนึ่งก็วิ่งพรวดเข้ามาพร้อมกับห่อผ้าสัมภาระ
อีไม!!!! มึงนี่นะ อยู่ในรั้วในวังมาตั้งนมนานยังไม่รู้จักวางกิริยามารยาทอีก มันน่าส่งไปอยู่ล้างขี้ช้างดีไหมล่ะ
คุณท้าวรัญจวนพูดด้วยความโมโห เธอจ้องมองบ่าวคนนั้นแล้วก็ทำหน้าเครียด เมื่อบ่าวคนนั้นทำหน้าเสียคุณท้าวรัญจวนก็หัวเราะพร้อมทั้งเอามือปิดปากทันที สร้างความขบขันให้กับนางในทุกคน เพราะทุกคนเห็นท่าหวาดกลัวของบ่าวคนนั้นเป็นเรื่องตลกไปเสียแล้ว
บ่าวเอาข้าวของมาให้เจ้าค่ะแม่หญิงคนเรือรออยู่นะเจ้าคะ
น้ำผึ้งแก้วกราบคุณท้าวรัญจวนแล้วก็คลานออกจากตำหนักด้วยความระมัดระวัง เธอเดินออกมายังท่าน้ำของชาวฝรั่งเพราะที่นี่มีอยู่ท่าเดียว เธอมองเห็นเรือสำเภาน้อยใหญ่ที่จอดอยู่ รวมทั้งเรือของชาวฝรั่งทำให้เธอยิ้มไม่หุบปากทีเดียว
แม่หญิงคะสำรวมกิริยาด้วยเจ้าค่ะ
น้ำผึ้งแก้วหุบปากทันที เธอเดินมายังเรือที่จอดรอรับอยู่ เธอทำท่าเหมือนจะลงเรือแต่ก็กวักมือเรียกเรือจ้างที่อยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้นทันที เรือลำนั้นพายมาเทียบท่า น้ำผึ้งแก้วลงเรือแล้วก็หันไปยิ้มให้กับคนเรือของเจ้าคุณพลเทพกับบ่าวที่ชื่อไม บ่าวรับใช้ของคุณประยูรบุตรีของเจ้าคุณพลเทพที่อยู่ในวังมาก่อนหน้าหล่อนทันที
ไปบ้านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์ราชนฤบาล อยู่ตรงคุ้งน้ำด้านหน้า
คนเรือพายเรือตรงไปยังท่าน้ำหน้าบ้านอย่างเร่งฝีพาย ส่วนคนเรือของเจ้าพระยาธรรมรัตน์ก็พายเรือตามมาอย่างเร่งด่วน ไมบ่าวของคุณประยูรตะโกนโหวกเหวกให้เรือลำที่น้ำผึ้งแก้วนั่งมาจอด แต่คนเรือไม่หยุดจอดเลยสักนิด น้ำผึ้งแก้วขึ้นจากเรือพร้อมทั้งหยิบอัดมาจ่าย หล่อนเดินตรงมายังเรือนของเจ้าคุณพ่อพร้อมทั้งหยิบข้าวของที่อยู่ในห่อผ้าออกมาดู
ในนี้มีอะไรนะหล่อนนึก หล่อนเห็นเพลงยาวที่มีคนเขียนมาให้หล่อนถึงสองฉบับ ฉบับหนึ่งเป็นของคุณหลวงบดินทร์นฤบาล อีกฉบับเป็นของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรี หล่อนหยิบเพลงยาวของคุณหลวงบดินทร์ขึ้นมาอ่านก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วก็เก็บไว้ใต้หมอน ส่วนของคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีนั้นหล่อนหยิบไปใส่ในกระบอกไม้ไผ่แล้วให้บ่าวที่ชื่อปลิกนำไปส่งให้กับคุณช้อยบุตรสาวบ้านเจ้าคุณพลเทพและคุณกรองทองเชื้อสายจีนขายข้าวสารห้างร้านตลาด เพราะหล่อนรู้ว่าแม่หญิงช้อยก็งามมีน้ำใจน่าจะคู่ควรกับคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรี
นี่เราทำอะไรของเราอยู่นะ รู้สึกฝืนตัวเองไม่ได้ทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่าเรากำลังทำเรื่องที่ผิดมาก ๆ แต่เราก็ห้ามตัวเองไม่ได้ เรารู้ได้อย่างไรว่าคุณช้อยชอบคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีทั้ง ๆ ที่เราก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ น้ำผึ้งนึก
น้ำผึ้งแก้วนั่งคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่งบ่าวก็มาเรียกให้ไปเรือนเจ้าคุณย่า
แม่หญิงเจ้าคะคุณท่านเรือนใหญ่ให้หาเจ้าค่ะ
น้ำผึ้งแก้วเดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง หล่อนข้ามสะพานซึ่งเชื่อมกับบันไดบ้านไปยังเรือนของเจ้าคุณย่าที่อยู่ไม่ห่างไกลนัก เมื่อมาถึงระเบียงกลางหล่อนเดินอย่างพญาหงส์และค่อย ๆ คลานเข่ามาหาเจ้าคุณย่าอย่างระมัดระวังกิริยาจากนั้นก็กราบเจ้าคุณย่าและหันมาไหว้เจ้าพระยาธรรมรัตน์และคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีทันที
งามเหลือเกินแม่..
เจ้าพระยาธรรมรัตน์เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งส่งสายตาเจ้าชู้ไก่แจ้กับน้ำผึ้งแก้วทำให้เจ้าคุณย่ารู้สึกขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมากจึงเคี้ยวหมากจับ ๆ กระแทกแรง ๆ ด้วยความโกรธ ส่วนน้ำผึ้งแก้วนั้นวางกิริยาราวกับเป็นหุ่น หล่อนนั่งนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หล่อนมองตรงไปข้างหน้านั่งตัวแข็งทำให้เจ้าคุณย่ารู้สึกพอใจที่หลานสาวไม่ตอบโต้สิ่งใดกับเจ้าพระยาธรรมรัตน์เหมือนเมื่อคราวที่ตอบกับคุณหญิงเลี่ยมแม่ของคุณหลวงบดินทร์นฤบาล
มีธุระอันใดหรือพ่อ เจ้าคุณย่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เก็บอารมณ์
กระผมอยากจะมาพูดจาตามประสาคนคุ้นเคยเท่านั้นแหละขอรับ
เหตุใดจึงต้องเรียกหลานของอิฉันมาด้วยในเมื่อจะมาคุยกันตามประสาแต่เอเมื่อก่อนนี้ไม่เห็นว่าท่านเจ้าพระยาจะมาคุยบ้างเลย อิฉันว่าเจ้าคุณพูดมาตรง ๆ เลยดีกว่าไหม
กระผมขอพูดตามตรงเลยนะขอรับ กระผมอยากจะให้เด็กสองคนรู้จักกัน
อ้าวลูกเอ๊ย!รู้จักกันหรือยังเล่า เจ้าคุณย่าหันมาถามน้ำผึ้งแก้วแล้วก็ยิ้มเยาะ
รู้จักเจ้าเจ้าค่ะเจ้าคุณย่า งั้นหลานขอตัวกลับเรือนก่อนนะเจ้าคะเพราะไม่มีกิจจะคุยด้วย ก็ฝ่ายนั้นบอกให้หลานรู้จักแล้วหลานก็อยู่แค่รู้จักนี่แหละเจ้าค่ะ
เจ้าคุณย่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับเอื้อมมือไปจับแขนน้ำผึ้งแก้วเบา ๆ ก่อนที่หล่อนจะค่อย ๆ คลานลุกหนีไปเพราะไม่อยากจะคุยกับสองพ่อลูกนั่น
เจ้าพระยาธรรมรัตน์ถึงกับอึ้งพูดไม่ออกทีเดียว เขานั่งเคี้ยวหมากด้วยความโกรธ
ไป!!!!กลับ!!!!!
เจ้าพระยาธรรมรัตน์แสดงท่าทางโกรธราวกับยักษ์คลั่ง เขาคว้าไม้ตะพดหัวงูเห่าซึ่งทำมาจากเขากระทิงด้วยท่าทางที่หุนหันแล้วก็หันมาไหว้เจ้าคุณย่าจากนั้นก็เดินกระแทกเท้าลงจากเรือนไป
คุณพ่อขอรับกระผมว่าอย่าเพิ่งโกรธเลยนะขอรับ หล่อนยังเด็กนักคงจะไม่รู้ประสีประสาเท่าไรนัก
ใช่หล่อนยังเด็กแต่หยิ่งยโสโอหังเหลือเกิน พ่อว่าเจ้าอย่ายุ่งกับคนบ้านนี้เลยดีกว่า เจ้าก็รู้ไม่ใช่รึว่าคนบ้านนี้เป็นพวกเจ้า ๆ นาย ๆ ไหนเลยจะมาคบกับคนอย่างเรานึกว่าตัวเองใหญ่โต สักวันหนึ่งเถอะจะได้รู้กัน!!!!
คุณพ่อจะทำอะไรหรือขอรับ
เดี๋ยวก็รู้.ไปกลับ!
เจ้าพระยาธรรมรัตน์ลงเรืออย่างรีบร้อนจนเรือเกือบจะคว่ำ บ๊ะ!!!! อ้ายตะไลมึงนี่ทำเรือเกือบร่ม มึงระวังตัวไว้เถอะอ้ายฉิบหายกูจะแพ่นกระบานมึงโทษฐานที่จับเรือไม่แน่น
คุณพ่ออย่าพาลคนอื่นสิขอรับ ดูสิอ้ายมิ่งมันกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้ว
เรือของเจ้าพระยาธรรมรัตน์พายออกมาได้ครู่หนึ่งคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีก็เห็นเรือของคุณหลวงบดินทร์นฤบาลซึ่งมีแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วนั่งอยู่ด้วย หล่อนยิ้มอย่างไม่ระวังกิริยา
คุณพ่อขอรับ. คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีเรียกให้เจ้าพระยาธรรมรัตน์ดูเรือของคุณหลวงบดินทร์นฤบาล
มิน่าล่ะ เจ้าพระยาธรรมรัตน์พูดพร้อมกับตบหน้าขา
ทำไมหรือขอรับ
ก็แม่หญิงมีใจให้คุณหลวงบดินทร์ฯ ไงล่ะ แม่หญิงถึงได้ไม่สนใจเจ้าไป!!!! ไปได้แล้ว
ไม่ขอรับกระผมจะขอดูอีกหน่อย
จะดูให้มันเจ็บใจไปใยพ่อว่าเรามาหาทางทำยังไงแม่หญิงถึงจะได้มาเป็นของเจ้าดีกว่านะ
แต่กระผมขออยู่อีกแป๊ะเถอะขอรับ
เจ้าพระยาธรรมรัตน์จึงอยู่ดูคุณหลวงบดินทร์นฤบาล สองพ่อลูกคิดแผนการที่จะให้แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วมาร่วมเรียงเคียงหมอนให้ได้ เขารู้สึกเจ็บแค้นที่สองย่าหลานได้กระทำให้อับอายจึงคิดอยากจะเย้ยให้สาใจเพราะถ้าหากแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วออกเรือนไปกับลูกชายของตัวเองแล้วตนเองจะแกล้งให้สาแก่ใจเลยทีเดียว
อุ๊ย!!!! น้ำเย็นนะเจ้าคะ อิฉันว่ากลับกันเถอะค่ะเพราะเดี๋ยวเจ้าคุณพ่อจะว่าได้
คุณพี่ไม่ว่ากระไรดอกเจ้า
คุณหลวงบดินทร์นฤบาลเอามือจ้วงน้ำและดีดใส่แก้มของแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วทำให้หล่อนขวยเขินและแอบอมยิ้มอยู่บ่อย ๆ
พี่มีอะไรจะให้เจ้า
อะไรหรือคะ
หลับตาก่อนสิ
แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วหลับตาลง คุณหลวงบดินทร์นฤบาลจึงนำดอกบัวมาทัดที่ใบหูของหล่อน หล่อนจึงลืมตาขึ้นแล้วก็หยิบดอกบัวดอกนั้นออกจากหูทันที
สวยจริงเจ้าค่ะ คุณหลวงเด็ดมาจากตรงไหนหรือคะอิฉันไม่เห็นคุณหลวงเด็ดเลยเจ้าค่ะ
ก็ตอนที่เจ้ามัวหันไปดูทางอื่นอย่างไรเล่าพี่จักพาไปดูผ้าในตลาดเจ้าจักไปหรือไม่
อย่าเลยเจ้าค่ะนี่ก็มากันนานแล้วเดี๋ยวเจ้าคุณพ่อจะว่าได้นะเจ้าคะ
คุณพี่ไม่ว่ากระไรดอกเชื่อพี่เถอะเจ้า
คุณหลวงพายเรือไปเรื่อย ๆ และก็ชี้ชวนให้แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วดูนกดูไม้ข้างทางด้วยความสุขที่เปี่ยมล้นอยู่ในหัวใจอันเข้มแข็งของทหารผู้กล้า
กลิ่นดอกไม้ใดฤๅหอมเท่ากลิ่นเจ้า พี่อยากแนบเคล้าคู่ชื่นรื่นนาสา กลิ่นอบร่ำอันอบอวนเหมือนวาจา น้องนั้นหนาน่าเชยชิดสนิทแนบในฤทัย
คุณหลวงเจ้าคะอิฉันไม่อยากฟังเพลงยาวดอกเจ้าค่ะ มีอะไรก็พูดตรง ๆ เถอะอย่ามัวอ้อมค้อมเลยเห็นทีว่าจะค่ำเป็นแน่ หากแต่เอ่ยวาจาเพียงประโยคสองประโยคอิฉันก็เข้าใจแล้วละเจ้าค่ะ เพราะเดี๋ยวใครเขาจะครหาเอาได้ว่าอิฉันมาเที่ยวค่ำมืดมันไม่ดีดอกเจ้าค่ะ
คุณหลวงนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ยิ้มเป็นเชิงว่าแม่หญิงนั้นยังคงเป็นเด็กอยู่ดี ไม่รู้จักขวยเขินเสียเลยทั้ง ๆ ที่มีชายหนุ่มนั่งเกี้ยวขนาดนี้ยังไม่รู้เรื่องอีก หล่อนกลับนั่งนิ่งแล้วก็พูดด้วยสีหน้าธรรมดา ๆ จนดูแล้วรู้สึกได้ว่าหล่อนเป็นคนที่พูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมดูแล้วรู้สึกสบายใจ
คุณหลวงจับมือแม่หญิงขึ้นมาและนำแหวนที่ถอดออกจากนิ้วก้อยนั้นสวมไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของหล่อนทันที
วันนี้พี่ขอจับจองเจ้าได้หรือไม่
อิฉันมิใช่ของตลาดนะเจ้าคะที่จะจับจอง
พี่ขอจองเจ้าก่อนที่จะหาผู้ใหญ่มาสู่ขอเจ้าพี่กลัวว่าชายใดจะมาเห็นดอกไม้งามในสวนหลวงอย่างเจ้ารักษาตัวครองรักไว้รอพี่เถอะเจ้า พี่จะเร่งให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอเจ้าโดยด่วน
แม่หญิงก้มลงกราบคุณหลวงบนเรือ หล่อนน้ำตาซึมแล้วก็เงยหน้าขึ้น คุณหลวงจึงเอื้อมมือไปเช็ดหน้าให้หล่อน
เป็นอะไรหรือเจ้า
รีบเถอะเจ้าค่ะคุณหลวงก่อนที่จะสายเกินไป
ทำไมหรือเจ้า
วันนี้เจ้าคุณพลเทพและคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีมาที่เรือนเจ้าคุณย่าพูดคุยอะไรกันก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ แต่เจ้าคุณย่าเรียกอิฉันกลับจากวังและให้มาหาเรื่องนี้ อิฉันสังหรใจเหลือเกินเจ้าค่ะ
คุณหลวงถึงกับทำตาโตทีเดียว เขารีบพาแม่หญิงกลับบ้านและรีบไปคุยกับเจ้าคุณย่าที่เรือนใหญ่ตามลำพังทันที น้ำผึ้งแก้วนั้นนั่งซึมอยู่ในห้องของตัวเอง หล่อนรู้สึกสับสนทำอะไรไม่ถูก จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที
8
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ