อทิสมานกาย

แก้วประเสริฐ

76.gif
                                                            อทิสมานกาย ๑
     เสียงรถเก่าปุเรทั่งดังสนั่น บางครั้งดังปุ๊ดๆครืดๆคราดๆ วิ่ง ขโยกเขยกมาตามถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นสีแดง
กระจายฟุ้ง   ซ้ำควันดำปนขาวพวยพุ่งออกมาจากท่อไอเสียเป็นควันออกมาคล้ายลำทางยาวๆทอดตามหลัง
    รถวิ่งไปตามถนนดินแดงที่เล็กแคบๆคดเคี้ยวไปมาตลอดระยะทาง ถนนพอที่จะรถสวนกันได้เท่านั้น 
สองข้างทางพุ่มไม้ ต้นไม้ใหญ่เกาะเต็มไปด้วยผงฝุ่นสีแดงดุจฉาบไปด้วยสีฝุ่นมิปาน
     บรรดาผู้โดยสารที่นั่งทั้งหญิงชายต่างวัย บ้างก็เอาผ้าปิดจมูก บ้างก็ไม่ปิดแต่ที่เหมือนๆกันคือ บนหัวเต็ม
ไปด้วยฝุ่นสีแดงประหนึ่งดั่งถูกย้อมด้วยสี  ทุกๆคนนั่งสั่นคลอนไปๆมาๆตลอดระยะทางที่นั่งบนรถดังกล่าว
รถคันคันนั้นวิ่งผ่านถึงหมู่บ้านแล้วหยุดส่งผู้โดยสาร แล้ววิ่งต่อไปเช่นนี้หมู่บ้านแล้วหมู่บ้านเล่า บ้างขึ้นเขา
ลงเขาทั้งสองด้านหนึ่งของเขาเป็นหุบเหวลึกเต็มไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด ทั้งต้นเล็กต้นใหญ่สลับไปตาม
ภูมิประเทศนั้นๆ
     บนรถโดยสารมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านท้ายสุดของตัวรถ ใบหน้า คมสัน สูงโปร่งค่อนข้างลำสันกำยำ
นั่งหลับตาสัปหงกโดยมิคำนึงสิ่งที่เกิดขึ้น  รถวิ่งคดเคี้ยวไปคดเคี้ยวมาจนมาถึงหมู่บ้านหนึ่ง หน้าทางเข้าหมู่บ้าน
เขียนว่า บ้านโคกอีแร้ง  เสียงเด็กกระเป๋ารถ เข้าไปสะกิดร่างชายหนุ่มดังกล่าวให้รู้สึกตัวว่าถึงจุดหมายปลายทาง
แล้วชายหนุ่มพลันลืมตามอง พลางสะบัดหัวเบาๆ   
หยิบกระเป๋าเดินทางใบย่อมๆขึ้นสะพายบนบ่าแล้วก้าวลงจากรถออกมายืนริมทาง
      รถคันดังกล่าวก็วิ่งต่อไปทอดทิ้งควันพวยพุ่งออกมาเป็นทางยาว  ชายหนุ่มยืนอยู่บนถนนพลางมองรถคันนั้น
จนหายลับไปตามโค้งของพุ่มไม้บดบังคงได้ยินแค่เสียงค่อยๆจางหายไป  ชายหนุ่มซึ่งพึ่งตื่นนอน พลาง
บิดตัวไปๆมาๆ  แล้วหันไปมองทางเดินซึ่งเต็มไปด้วยหลุมขรุขระทางเล็กๆ  เขาแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้า
ตะวันจวนจะลับขอบพุ่มไม้ไป ซึ่งตกเป็นเวลาเย็นมากแล้ว    ดังนั้นเขาคิดว่าต้องอาศัยเดินเท้าเข้าบ้านเขา และ
     กว่าถึงหมู่บ้านคงจะค่ำมากซินะ  ชายหนุ่มรำพึงกับตัวเอง    มิรอช้าเขารีบออกเดินทางอย่างรวดเร็ว หลบหลุม
ที่เต็มไปด้วยแอ่งน้ำ   มองไปข้างหน้าซึ่งเป็นทางคดเคี้ยวไปมา  ครั้นเขาเดินทางมาได้ครึ่งทางความมืดก็เข้าปกคลุม
ทางเดินเสียแล้ว  ชายหนุ่มปลดกระเป๋าที่สะพายบนบ่าออกมาเปิด นำเอาไฟฉายขนาดย่อมๆออกมาแล้วปิดกระเป๋า
ยกขึ้นสะพายบ่าทั้งสองข้างสัมภาระอยู่ด้านหลัง  
พลางเปิดไฟฉายส่องทางออกเดินทางต่อไป  เสียงจิ้งหรีด จักจั่นตลอดจนสัตว์นาๆชนิดส่งเสียงดังเป็นระยะๆ 
 เขาก้าวหน้าเดินต่อไป แสงจันทร์เริ่มส่องสาดแสงสีนวลใยพอจะมองเห็นทางแต่เป็นบางช่วงเท่านั้น   ชายหนุ่ม
แหงนหน้ามองท้องฟ้า ซึ่งมีดวงจันทร์ดูค่อนข้างเสี้ยวหมายถึงว่าเป็นข้างแรมต้นๆ  ปลายขอบฟ้ามีดาวระยิบระยับ
ประชันแสงส่อง     เสียงร้องโหยหวนของเหล่าหมาดังขึ้นอย่างโหยหวน เสียงมันทอดเป็นระยะๆขณะที่เขาเดินทาง
       โบ๊วๆๆๆ  หอนทอดเป็นระยะๆในระหว่างร่างเขาหลบหลุ่มที่เต็มไปด้วยน้ำ
 ร่างชายหนุ่มชะงักนิดหนึ่งแต่อาศัยที่เขาเกิดที่นี่เคยคลุกคลีกินนอนเคยมาอาศัยเรียนหนังสือกับพระจากในวัด
จึงทราบว่านี่ ใกล้หมู่บ้านแล้ว   ด้วยเสียงนี้คงดังมาจากหมาภายในวัดโคกอีกแร้ง ซึ่งวัดนี้ไม่ห่างไกลจาก
หมู่บ้านเท่าใดนัก   เขารีบเร่งเดินทาง ระหว่างทางเดินที่แสนขรุขระปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาพันธุ์ด้วย อาศัย
เป็นคนถิ่นนี้โดยกำเนิดจึงไม่เกรงกลัวต่อเสียงหอนเท่าใดนัก  
     ชายหนุ่มเมื่อเรียนจบจากรร.ใกล้ๆหมู่บ้านก็ไปต่อที่ในจังหวัดแล้วก็สอบชิงทุนไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เขาจากไป
เสียนาน จนกระทั่งเป็นหนุ่มมิเคยกลับบ้านเลยเป็นเวลาหลายปี   บัดนี้เขาได้ทำงานที่ดีและคิดถึงครอบครัวที่จากไป
เสียนานจึงกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด     ไฟฉายได้ส่องทาง  เขาเริ่มเร่งการเดินทางด้วยนี่ก็จวนสองทุ่มแล้วเมื่อ
เขายกนาฬิกาขึ้นมองเวลา   บัดดลเสียงทักทายดังขึ้นมาริมข้างทางใกล้ต้นไม้สูงใหญ่   
       จะรีบไปไหนจ๊ะ???...  เสียงเรียกช่างเยือกเย็นจับใจเสียเหลือเกิน     เขาหันไปมองแต่เพียงเห็นแค่เลือนรางเท่านั้น
     ไฟฉายได้ส่องไปยังเสียงเรียกเขาทันที    สิ่งที่พบคือร่างของหญิงสาวแต่เขาไม่เห็นใบหน้า ไฟฉายเพียงจับแค่ร่าง
ของหล่อน ครั้นฉายไปยังใบหน้า เขากลับแลไม่เห็น  รู้เพียงว่าเป็นหญิงสาวค่อนข้างจะสวยงามแต่งกายแบบโบราณ
ห่มผ้าสไบเฉียงสีเขียวขลิบลายดอกไม้   นุ่งผ้าซิ่นขลิบทองจับจีบไว้ข้างหน้า ผมสยายยาวจนเกือบจดเอว 
ทรวดทรงอ้อนแอ้น ได้สัดส่วน    ทำให้เขานึกฉงนใจทันทีว่าดึก
ปานนี้เหตุใดจึงมีหญิงสาวมายืนอย่างโดดเดี่ยวคนเดียว
     เขาฉายไฟฉายไปยังต้นไม้ใหญ่หากไม่ผิดมันคือต้นตะเคียน หรือว่า !!!!?????........   ชายหนุ่มไม่อยากคิด
รู้สึกเพียงร่างกายเย็นเยือกขึ้นมาอย่างกะทันหัน  เขาสะดุ้งในใจแต่เนื่องจากตั้งแต่เล็กเขาคลุกคลีกับวัดจึงมิได้
เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น  แม้แต่คนตายก็ยังเคยช่วยสัปเหร่อยกเข้าโลงเสมอๆ เรื่องผีสางนางไม้ก็ยังไม่เคยพบเห็นเลย
แต่นี่ๆๆ....ทำไมร่างเขาจึงเริ่มจะมีอาการสั่นขึ้น  ความหนาวเย็นเข้ามาจับหัวใจกะทันหัน พอตั้งสติได้เขาจึงกล่าวว่า
         ฉันๆฉานๆ... ด้วยเสียงกระเส่า อ้าๆ...พึ่งกลับมาเยี่ยมบ้านจ้า  อ้าวแล้วเธอมายืนทำไมคนเดียวล่ะ???...
         ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวจ้า!!!!!.....อยู่มานานแสนนานแล้วพึ่งพบเธอนี่แหละเห็นแปลกหน้าและเร่งรีบก็เลยถามดู
          รถพึ่งจะมาถึงเมื่อตอนใกล้ค่ำนี่เอง  แต่ที่นี่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยน๊ะ!!!
          จ๊ะ!!!!  ยังเหมือนเดิมทุกอย่างเลย  อ้อ บ้านเธออยู่ที่ไหนหรือว่าอยู่ในหมู่บ้าน โคกอีแร้ง????....
          ใช่แล้วจ้า  บ้านฉันอยู่ที่นี่แหละ อีกไม่ไกลเท่าใดหรอก นี่ก็ใกล้วัดแล้ว อยู่ด้านหลังวัดนี่แหละ...
           หรือ???แล้วหายไปไหนมาล่ะ  ถึงได้พึ่งจะมา  ฉันก็พึ่งเคยเห็น คนในหมู่บ้านฉันเห็นมาเกือบทุกๆคนแหละ!!!
         อ้อๆ.....ฉันไปเรียนที่กรุงเทพฯและทำงานที่นั่น พึ่งได้ลาพักร้อนหลายๆวันก็เลยคิดถึงครอบครัวจ๊ะ
ไม่ได้พบกันเสียหลายปีแล้วล่ะ........
              อ้าว!!!!....คิดถึงเมียและลูกหรือไงจ๊ะ????....
             เปล่าหรอก.....ฉันคิดถึงพ่อแม่เท่านั้นท่านก็แก่มากแล้ว  เพียงแค่ส่งเงินมาให้ใช้ จะมาก็ไม่มีเวลาด้วยงาน
มันมากจ้า.....
             แล้วทางกรุงเทพฯเมียไม่ว่าหรือไงล่ะ????....
            ฉันยังไม่มีลูกมีเมียหรอกจ้า ลำพังตัวคนเดียวก็จะแย่อยู่แล้ว  เศรษฐกิจกรุงเทพฯมันของแพงๆทั้งนั้น ไม่เหมือน
บ้านเรา   มีเงินหรือไม่มีก็อยู่ได้จ้า...อ้อๆ...  แล้วเธอล่ะไม่กลัวสามีจะตามมาหรือ  เอ๊ะแต่งกายแปลกๆคล้ายพวกยี่เกนะ
            ฮิฮิๆๆๆ...  ใครบอกเธอล่ะ พึ่งจะมาก็ทำเป็นรู้ไปได้  แปลกคนเสียจริงนะคุณ.....
            เปล่าหรอก ฉันเดาเอาเห็นว่าเป็นคนสวยคงจะมีครอบครัวแล้วและอีกอย่าง  ฉันนึกว่าทางหมู่บ้านคงจะมียี่เก
 และเธอก็เล่นยี่เกด้วย บ้านอยู่ใกล้ๆคงจะมาหาลูกหาผัวจึงได้กลับมาคนเดียวสามีเธอ
หายไปไหนล่ะทิ้งไว้ในที่มืดๆคนเดียว???....ไม่ยักกับมาส่งเมียเสียอีก...????
           ฮ่าๆๆๆๆ....ฉันอยู่ตัวคนเดียวมานานแล้ว อ้อฉันชอบแต่งตัวแบบนี้แหละ ยังไม่มีใครสนใจฉันเลย  ถึงมีแต่ฉัน
ไม่สนใจหรอก???...
          งั้นหรือ!!!!....จะให้ฉันไปส่งบ้านเธอก็ได้นะ  ส่งเสร็จก็จะได้รีบกลับบ้านนี่ยังไม่ดึกเท่าไหร่หรอก
          ขอบใจมากจ้า....บ้านฉันอยู่แถวนี้แหละเดี๋ยวก็กลับได้แล้วล่ะ   ฉันจะคอยดูแลเธอให้นะจะคอยไปเป็นเพื่อน
เธอ  เธอรู้ไหมว่าแถวนี้เวลาค่ำคืน  มีอันตรายมากเสียด้วยซิ  ยิ่งเธอจากไปนานๆคงจะไม่มีใครรู้จักเธอหรอก ที่ฉัน
จะไปส่งเธอ   เห็นเธอเป็นคนดีมีน้ำใจจ๊ะ....
          ขอบใจมากจ้า   ฉันเองคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกข้าวของเงินทองก็มีไม่เท่าไหร่  หากจะมาปล้นหรือจี้ก็
คงได้ไม่เท่าไหร่ฉันไม่ค่อยชอบพกเงินต้ิดตัวมากๆเพราะอันตราย
         ฉันไม่ได้หมายถึงพวกนั้น แต่หมายถึงอย่างอื่นนะ???...แล้วเสียงหล่อนก็อ้ำอึ้งๆไปไม่กล่าวต่อ เพียงแค่มองหน้าแล้วอมยิ้ม
      ยิ่งทำความสงสัยให้แก่ชายหนุ่มมากยิ่งขึ้นไป  จึงกล่าวว่า
          ในเมื่อไม่ใช่พวกปล้นจี้จะมีใครอีกเล่าจ๊ะ????....
           หากฉันไม่ไปเป็นเพื่อนเธอ  ก็จะอันตรายนะ???....
           ขอบใจเธอมากจ้า  อย่าดีกว่าเพียงแค่น้ำใจเธอ  ฉันก็ซาบซึ้งแล้วล่ะ  งั้นฉันไปก่อนนะ นี่ก็รู้สึกว่าจะดึกมากแล้ว
พลางยกนาฬิกาเอาไฟฉายส่องเวลาดู
           ตามใจเธอนะ ขอให้ปลอดภัยนะจ๊ะ......เสียงนั้นแสนไพเราะแต่เหตุไฉนช่างยานเยือกเย็นนัก????.....
 
     แต่ชายหนุ่มไม่คิดอะไรมาก หลังจากสนทนากับหญิงสาวแล้ว เขาก็หันหลังก้าวเดินอย่างรวดเร็วโดยใช้ไฟฉาย
ส่องทาง สักครู่หนึ่งก็ถึงวัด ทางเข้าบ้านต้องเดินผ่านเคียงวัด   เสียงหมาเจ้ากรรมก็ยัง หอนอย่างโหยหวน ไม่ยอมหยุดหอน
ใกล้ๆวัดมีต้นกอไผ่ขึ้นเรียงรายไปรอบๆข้างทางเดิน   เขามองไปภายในวัดเห็นปิดไฟเงียบ พระท่านคงจำวัดหมดแล้ว
จะมีก็แถวปลายป่าช้าที่ใช้ฝังศพ ยังมีกระท่อมเปิดไฟอยู่แต่คงเป็นแสงเทียนด้วยแสงมันวับๆวอมๆแวมๆพลิ้วไปมา คงเป็นบ้านของสัปเหร่อ
ประจำวัด
   ไฟฉายถูกส่องนำทางเดิน เขาก้าวย่างไปเรื่อยๆ บางครั้งก็หลบหลุมที่มีน้ำขังไว้  แต่ทันใดนั้นเอง ลมไม่พัดแรงเลย
แต่กอไผ่ทั้งกองทั้งสองข้างกลับเอนลงมาขวางยังถนน    ชายหนุ่มชะงักทันทีเขามองไปยังต้นไผ่ต้นอื่นกลับยังยืนอยู่
เพียงแต่สั่นไหวไปๆมาๆ  ส่วนกอที่เอนลงมาทาบกับทางเดินซ้ายขวากลับไม่ได้หักกลางปล้องเลย เขาแปลกใจนัก
หรือว่าเขาถูกสิ่งที่มองไม่เห็นจะลองดีกับเขาแล้ว
     ชายหนุ่มใจสั่นทันทีนึกถึงพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณทันที  พลางสวดมนต์บทสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้าด้วยเสียง
ดังๆ  แล้วกล่าวแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายทันที   เขาไม่ได้เรียนเวทย์มนต์คาถาใดๆถึงแม้ว่าอาจารย์ที่วัดท่านจะ
เชี่ยวชาญแต่สมัยเด็กๆจนหนุ่มก็ไม่ได้สนใจ  เพียงแต่สวดมนต์ได้เป็นบางบทเท่านั้นเอง คงได้ยินท่านมักกล่าวกับ
พวกที่มาทำบุญในวัดว่า โยมควรจะสวดมนต์และต้องแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ด้วยเสมอๆทุกๆครั้งนะ หรือว่าเดินทาง
หากพบสิ่งใดให้สรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้าแล้วแผ่เมตตา  เขาจำได้แค่นี้  
        แต่บัดนี้เขามาพบแล้วแต่เนื่องจากท่องมาจนขึ้นใจสมัยคลุกคลีกับวัดจึงไม่ลืมแม้จะจากไปเสียนานก็ตาม แต่ก็หา
ได้ทำให้ก่อไผ่นั้นกลับคืนก็หาไม่   เขาเริ่มตัวสั่นใจสั่นขาสั่นทันที  ครั้นจะวิ่งหนีเข้าวัดก็วิ่งไม่ออก รู้สึกว่าขาทั้งสอง
ข้างแข็งก้าวขาไม่ออก  เขายืนตะลึงมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น หลับตาก็แล้วนึกว่าตาฝาดไป พอลืมตาก็เห็นเหมือนเดิมอีก
ทำให้นึกถึงคำหญิงสาวที่กล่าวไว้ว่าจะมาส่ง แต่เขาปฏิเสธหล่อน  ตอนนี้เขานึกถึงหล่อนทันที แต่ใจหนึ่งว่าหล่อน
จะมาช่วยเขาได้หรือ ในเมื่อเขาจากมาไกลแล้วและไม่คิดเป็นอื่นนอกจากหญิงสาวธรรมดาเท่านั้น
        เสียงกรี๊ดๆๆร้องลั่นอย่างโหยหวน  เสียงนั้นเย็นยะเยือกเข้าไปจับใจเขา  ดวงตาเขาเบิ่งมองเสียงนั้นทันทีมันยืน
อยู่หลังกอไผ่ ร่างมันสูงๆและสูงขึ้นเรื่อยๆ  พลางหันหน้ามาทางเขาตาแดงพองโตใหญ่เท่าไข่เป็ดหรือไข่ไก่เห็นจะได้
ปากเล็กนิดเดียว  ใบหน้าเล็กมากผิดกับรูปร่างที่สูงชะลูดร่างผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก 
 ชายหนุ่มตกใจตัวสั่นหลับตาทันที แต่ลืมตามองไปยังทางเดินที่กอไผ่ล้มขวางทาง
แต่มันแปรเปลี่ยนไปกลายสภาพเหมือนร่างของผีร้ายสองตัวที่ยืนอยู่นอนขวางทางเขาไว้
ผมบนหัวเขาตั้งชันทันทีแม้แต่ขนตามร่างกายก็ลุกชัน ร่างกายเขาค่อยทรุดลงกับพื้น
     ทันใดนั้นมืออันน่าเกลียดน่ากลัวยาวเอื้อมมือมายังร่างที่นั่งกับพื้นมาหาเขาทั้งสี่ตน   ชายหนุ่มร้องเสียงหลงคล้าย
คนขาดสติไปทันที   เมื่อมืออันน่าเกลียดมีแต่หนังหุ้มกระดูกยื่นกางนิ้วมือเข้ามาเพื่อจะคว้าร่างเขาไว้  ใจชายหนุ่มคิด
อยากจะวิ่งหนีออกจากที่นั่น   แต่เขาทำไม่ได้มันช่างอ่อนล้าสิ้นเรี่ยวแรงไปหมด  ลมหายใจชักจะติดขัด ทำท่าจะเป็นลมไปเสียให้ได้  ความหวาดกลัวเข้าสิงสู่ในใจเขา  ในชีวิตเขาไม่เคยเจอมาเลยถึงแม้จะเคยพบศพและช่วยเหลือ
พวกสัปเหร่อก็ตามที  เขาคิดว่าเห็นที่คงจะต้องตายแน่ๆเสียแล้ว
                                            * แก้วประเสริฐ. *

Cartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus
  • อนงค์นาง

    25 ตุลาคม 2553 22:41 น. - comment id 119600

    สวัสดีค่ะครู 
    
    กำลังสนุก ตื่นเต้นเลยค่ะครู ศิษย์ชอบอ่านเรื่องผี ทั้งที่เป็นคนกลัวผีที่สุด 
    รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
    
    36.gif36.gif36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    26 ตุลาคม 2553 14:14 น. - comment id 119618

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ อนงค์นาง
    
              การเล่นร้อยแก้วก็เป็นอีกแบบหนึ่ง
    ที่ช่วยในการร้อยกรองได้นั่นคือการใช้อักษร
    นั่นเองจ้า  ซ้ำยังได้ประโยชน์ในการเขียน
    รายงานในการทำงานของเราอีกทางหนึ่ง
         ครูเขียนเพื่อแค่เพียงสนุกๆเท่านั้น
    เองจ้า รักศิษย์เรามากเสมอ
    
                  16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประภัสสร

    26 ตุลาคม 2553 14:16 น. - comment id 119620

    อ่านไป ก็กลัวไปด้วยค่ะ อิ
    
    เสียงของกอไผ่ดัง  เอี๊ยด..อ๊าด...
    ท่ามกลางความเงียบ
    
    เมื่อผู้คนได้ยินเสียง ก็มักจะจิตนาการค่ะ
    
    หนูก็กลัวนะคะ เวลาเดินผ่าน 
    เพราะเด็ก ผู้ใหญ่มักจะบอกว่า มีผี
    
    
     46.gif29.gif29.gif36.gif
  • เพียงพลิ้ว

    26 ตุลาคม 2553 16:22 น. - comment id 119624

    น่ากลัวเชียวค่ะคุณลุง
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • แก้วประเสริฐ

    26 ตุลาคม 2553 23:43 น. - comment id 119637

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แก้วประภัสสร
    
             ศิษย์รักครู  นี่เป็นครั้งแรกในการเขียน
    ของครู ที่เกีี่ยวกับเรื่องผี  คุยกับช่ออักษราลี
    ว่าจะเขียน  เมื่อคุยเสร็จก็เลยมานั่งเขียนนี่
    เสียเลย ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย
    ก็ไม่รู้ ไม่เคยเลย  ไม่เคยจริงๆนอกจาก
    เขียนแบบง่ายๆเท่านั้น เรื่องนี้ต้องใช้ สติ
    จินตนาการมากจริงๆนะ ตอนต่อไปยังนึก
    ไม่ออกเลยล่ะ แต่คิดว่าคงจะพอจะทำได้
    นะ  รักศิษย์เรามากเสมอ
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    26 ตุลาคม 2553 23:45 น. - comment id 119638

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เพียงพลิ้ว
    
           หลานรักของลุง มันเป็นเรื่องแรกใน
    ชีวิตของลุงเลยล่ะที่เขียนแนวนี้ เกี่ยวกับผี
    ยังไม่รู้เลยว่าจะไปอย่างไรดี ต้องใช้จินตนาการ
    มากๆเสียด้วย  รักหลานเรามากเสมอ
    
                    16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • cicada

    27 ตุลาคม 2553 09:53 น. - comment id 119641

    แซมหลงมาอ่านตอนดึกๆ กลัวแทบแย่  วิ่งหนีไปนอน ทั้งๆที่คอมฯ ไม่ได้ปิดเลยค่ะ..
    นอนๆ อยู่คิดว่า เอ๊ะไม่ปิดคอมฯ เดี๋ยวนางไม้คนสวยโผล่ออกมาเดินเพ่นพ่านจะทำไง...เอาผ้าคลุมโปงไปปิดคอมอีก.. ทีนี้ไม่อ่านดึกๆ แล้วค่ะ...น่ากลัวจริงๆ...17.gif17.gif
    
    แซมค่ะ
  • (น้ำตาลหวาน)

    27 ตุลาคม 2553 11:30 น. - comment id 119645

    จบดี้อๆเลย กำลังลุ้นตัวโก่งเลยค่ะ 46.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    27 ตุลาคม 2553 13:22 น. - comment id 119646

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  cicada
    
              ศิษย์รักยิ่ง  การเล่นไม่ว่าร้อยกรอง
    ร้อยแก้ว ต่างมีประโยชน์มาก ร้อยแก้วนั้น
    หากเขียนดีๆแล้วจะได้อักษรคำมากกว่า
    ร้อยกรองจ๊ะ แล้วยังนำไปใช้ในการทำงาน
    ด้วย สมัยก่อนครูเคยเขียนตำราว่าด้วยการ
    ทำงานให้หัวหน้าเขา จนเอามาใช้แล้วก็เลิก
    ลาไป แต่ไม่ยักมีชื่อครูเป็นผู้เขียนเลยล่ะ
    พอมาให้ทำใหม่อีกครูบอกว่าเขียนไม่ได้
    แล้ว ความรู้ไม่ดีพอจะเขียนจ๊ะ  ครูสมัย
    เป็นนักเรียนมัธยมสมัยก่อนก็เคยหั้ด
    เขียนส่งให้เพื่อนๆอ่าน มันบอกให้ส่งไป
    ขายซิจะได้เงิน แต่นิสัยครูไม่ชอบพันธะ
    ผูกพัน การเขียนส่งหนังสือพิมพ์สมัยก่อน
    นั้นได้เงินก็จริง แต่ต้องส่งทีละสองตอน
    โดยเอาต้นฉบับไปอ่านก่อน มันบอกว่า
    ครูนั้นผ่านแน่นอน  เราสนุกกันในการ
    เขียนมากจ้า ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง
    พอจบมาไปเรียนต่อด้านวิชาชีพด้วยครู
    จน ทานข้าวยังต้องห่อข้าวกับใบตองไป
    ผูกด้วยเชือกกล้วย อาหารหลักคือไข่
    เจียวใส่ใบต้นหอม ไข่ต้ม จนบัดนี้ยังติด
    อยู่เลยล่ะ   เรื่องค่อนข้างยาว หากมีเวลา
    ก็ลองเข้าไปอ่าน เรื่องทัศยุราชันย์ หรือ
    แนวประวัติศาสตร์ก็เรื่อง ลุ่มลึกอิสราวดี
    ดูจ๊ะ เรื่องผีนี้เป็นเรื่องแรกจริงๆจ๊ะ รัก
    ศิษย์เรามากเสมอๆ
    
               16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    27 ตุลาคม 2553 13:25 น. - comment id 119647

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ น้ำตาลหวาน
    
              ยังไม่จบหรอกจ้า ลองย้อนไปดูหัวข้อ
    ซิว่า มีเลข ๑ หมายถึงตอนที่ หนึ่งจ้า นี่เป็น
    เรื่องแรกในการเขียนแนวผี  คอยสักพักจะ
    ได้ติดตามอ่านต่อไปจ้า ไม่ได้จบแบบนี้
    หรอก  รักเสมอ
    
                 16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • กิ่งโศก

    27 ตุลาคม 2553 15:01 น. - comment id 119648

    มาศึกษา แนวทางครับครู พร้อม อ่านนิยาย 
    ปกติผมสะสมหนังสือนิยายเป็นร้อยๆเล่ม ครับ
    อ่านเอาสนุก และศึกษารูปแบบ ของนักเขียนเก่าๆ..ดูสำนวน เขาด้วย  
    
    มาติดตามตอนต่อไปครับครู
  • แก้วประเสริฐ

    27 ตุลาคม 2553 17:52 น. - comment id 119652

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
            ศิษย์รักยิ่งของเรา  การอ่านหนังสือ
    นั้นไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรื่องใดๆหรือเกี่ยวกับ
    อะไรๆก็ตาม ย่อมให้ประโยชน์ ผู้ที่ฉลาด
    ย่อมจะเรียนรู้หลักเอาไว้ เพื่อประโยชน์ใน
    การทำงานของเราเป็นหลัก ครูเองอ่าน
    หนังสือเกือบทุกรูปแบบมามาก อ่านช้าๆ
    อ่านไปทำความเข้าใจรู้แนวการเขียนอย่างไร
    เมื่อเราเรียนรู้หลักการเขียนแล้ว ก็สามารถ
    ที่จะทราบได้ว่าเขาจะมาในรูปแบบไหนๆ
           การเขียนที่ดีต้องให้ผู้อ่านนั้นจะคาด
    เดาการเขียนเราไม่ได้ หรือเดาการเขียน
    เราไม่ออก นั่นแหละคือการประสบความ
    สำเร็จขั้นหนึ่ง เมื่อเราอ่านจนรู้แล้ว หาก
    ไปดูละครเรื่องใดๆ เราก็สามารถจะทราบ
    ได้ทันทีว่าจะเป็นอย่างไร แล้วก็จะจบใน
    ลักษณะใด  ครูเองที่ไม่ดูละครเลยสัก
    เรื่องเดียว ก็ด้วยพอดูไปสักหน่อยก็สามารถ
    เดาออกเลยว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี่
    ได้ เลยทำให้ไม่อยากดู
           แนวการเขียนหนังสือขายนั้นเขาจะ
    ขายเนื้อเรื่องไม่เท่าไหร่ แต่เขามักจะขาย
    ในบทสนทนากันเป็นหลัก  อย่างนักเขียน
    ทมยันตรี พนมเทียน(ศิษย์โรงเรี่ยนเดียว
    กันกับครู) ฯลฯ  ก็จะออกแนวการสนทนา
    เป็นหลัก ด้วยเหตุใด ก็เพราะเขาขายกัน
    เป็นบรรทัดหรือเป็นบทๆหนึ่ง  ในเมื่อ
    ใครสามารถสอดแทรกคำพูดในแนวที่
    สร้างการทะเลาะวิวาทได้มากเท่าไหร่
    งานเขียนก็จะยาวมากเท่านั้น หน้ากระดาษ
    ฟุัตแก๊ป เนื้อเรื่องไม่เท่าไหร่แต่การ
    สนทนาแปดสิบเปอร์เซ็นต์ สนทนาบท
    หนึ่งก็ขึ้นบรรทัดใหม่ของแต่ละตัวละคร
    นั้นๆ จึงทำให้เรื่องนั้นยาวๆจ๊ะ นี่คือหลัก
    ของนักเขียนนิยายทั่วๆไป
             ส่วนการเขียนเรื่องสั้นนั้นจะเน้น
    เนื้อเรื่องมากกว่าการสนทนาและหามูล
    เหตุสำคัญของเรื่องเกี่ยวกับพวกเรือน
    เครื่องใช้ไม้สอยจึงยากกว่านิยายมากนัก
    เพราะต้องพบของจริงและมานั่งใช้จินตนาการ
    และความคิดเสริมแต่ง  จึงยากกว่ากัน
    นี่เป็นแนวความคิดครูนะที่เคยผ่านการ
    อ่านหนังสือมามากๆ ครูเป็นคนชอบ
    สังเกตุงานของแต่ละคนหาจุดเด่นของ
    แต่ละคนเป็นสำคัญ  ฉนั้นงานครูจึงมัก
    จะไม่เหมือนใครจะค่อนข้างละเอียดละออ
    มากจ้า  นี่คือแนวทางในการเขียนร้อยแก้ว
       การใช้อักษรคำนั้นสำคัญมาก ยิ่งเป็น
    คำคมด้วยแล้วยิ่งสำคัญที่สุด งานที่ดีต้อง
    มีคำคมประกอบเสมอๆ เอาเท่านี้ก่อนนะ
    เดี๋ยวคนอื่นจะหมั่นไส้เอา
    
              รักศิษย์เรามากเสมอๆ
    
                 16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • เทียนหยด

    31 ตุลาคม 2553 22:13 น. - comment id 119760

    หวัดดีค่ะครู    29.gif
    
    ครูเปลี่ยนมาเขียนแนวนี้ได้น่ากลัวดีจังค่ะ
    
    21.gif46.gif
  • แก้วประเสริฐ

    1 พฤศจิกายน 2553 11:39 น. - comment id 119771

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เทียนหยด
    
            สวัสดีจ้าศิษย์รัก   ครูชอบทำอะไร
    แปลกๆจ๊ะ และนี่เป็นครั้งแรกในการเขียน
    ในแนวทางนี้นะ นั่งเทียนก็แล้วดำน้ำก็แล้ว
    ไม่รู้ว่าจะโผล่อย่างไรกัน อิอิ ต้องฝึกไว้ให้
    เป็นหลายๆอย่างจ้า การเขียนร้อยแก้วได้
    ประโยชน์ในการทำงานด้วยนา  หัดไว้บ้าง
    ส่วนการเขียนในแนวสิ่งที่เห็นนั้นไม่ลำบาก
    หรอกเพราะพบเห็น แต่เขียนในแนวนิยาย
    นั้้นลำบากมากกว่า ด้วยต้องมีประสบการณ์
    และจินตนาการประกอบไปด้วย มีสิ่ง
    หลายๆอย่าง  ควรหัดไว้บ้างนะรักศิษย์
    เรามากเสมอ
    
                   16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • คิดถึงเสมอ

    25 ธันวาคม 2553 10:43 น. - comment id 120760

    ตื่นเต้นค่ะ
    
    36.gif36.gif29.gif
  • ทา

    6 มกราคม 2554 10:20 น. - comment id 121079

    ถ้าคุณชายฯไม่เขียนข้าพเจ้าคงไม่ได้อ่าน..
    
    ยังไม่ชมนะคะขออ่านไปเรื่อยๆก่อน..
    
    36.gif36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน