คำขอโทษของพ่อ มีหลายเหตุผล ที่ทำให้คนสองคนแยกทางกัน ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม สรุปคำตอบออกมาง่ายๆคือ ความไม่พึงพอใจของทั้งสองคนที่มีให้กันและกัน เป็นปกติของชีวิตคู่ หลายคู่อยู่ด้วยกันจนตายไปข้างหนึ่ง และมีไม่ใช่น้อยที่ต้องแยกทางกันไป มีทั้งจากกันด้วยดี และจากกันด้วยอารมณ์แห่งความโกรธแค้นโกรธเคือง เหตุผลแยกย่อยของการแยกทางกันผมจะไม่กล่าวถึงมากนัก แต่ที่ผมอยากกล่าวถึงคือผลลัพธ์ที่เกิดจากการแยกทางกัน ผลก็คือลูกๆขาดการดูแลอย่างครบถ้วน ทำให้เกิดปัญหาครอบครัว ปัญหาสังคม ครอบครัวของผมก็มีปัญหาเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นเพียงเศษเถ้าถ่านของปัญหาสังคม ก็เป็นอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ครอบครัวผมไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ ซ้ำยังตกต่ำลงไปอีกต่างหาก บรรดาลูกๆขาดการควบคุม พ่อไปมีครอบครัวใหม่ แม่ต้องค้าขายทำงานหาเงินจนไม่มีเวลาอบรมลูก เพราะไม่มีพ่อช่วยทำมาหากิน ผลที่ตามมาก็คือพี่ชายทั้งสามคนของผมไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งรวมถึงผมด้วย พี่ชายคนโตออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นนานๆจึงจะกลับ และกลับมาพร้อมกับรอยสักตามร่างกาย เคยติดคุกคดียิงคน เคยติดกัญชา พี่ให้เหตุผลว่าโลกภายนอกเต็มไปด้วยอันตราย ไม่มีพ่อคอยป้องกัน เราต้องทำให้คนอื่นกลัวเราด้วยการสักตามร่างกาย มีปืนไว้ป้องกันตัวและเสพกัญชาตามคำชักชวนของเพื่อน แน่นอนว่าประวัติแบบนี้หางานทำยาก พี่ชายคนที่สองก็ติดสุราเรียนหนังสือไม่จบ ไม่ยอมทำงาน เหตุที่ติดสุราเพราะว่าตอนหัดดื่มใหม่ๆ ต้องการเพียงแค่อยากมีเพื่อนมาแทนพ่อที่ไม่อยู่ ต้องการเป็นที่ยอมรับของเพื่อนฝูง เนื่องจากไม่มีพ่อคอยรับฟังความคิดเห็น เรียนหนังสือไม่จบเพราะเกเรตามเพื่อนเพราะไม่มีใครห้ามปราม ไม่มีใครชี้ช่องทางที่ถูกต้อง ส่วนพี่ชายคนที่สามนี้ลอกเลียนแบบพี่ชายทั้งสองไว้เกือบทุกประการ เคยติดกัญชา ติดสุรา เรียนหนังสือก็ไม่จบ คบเพื่อนเลว มาถึงตัวผมเองถึงแม้จะเรียนจบมีงานทำ ก็มิใช่จะดำเนินชีวิตด้วยความราบรื่นสักเท่าไร เปลี่ยนงานบ่อยเพราะชอบขัดใจกับหัวหน้างานและผู้ร่วมงาน อาทิ เช่น ไม่ยอมโกงกินเป็นทีม ไม่ยอมไปดื่มสุราท่องราตรีด้วยกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมดำรงชีวิตด้วยความยากลำบากในหน่วยงานนั้นๆ จึงทำให้เปลี่ยนงานบ่อย ชอบใช้ชีวิตแบบโดดเดี่ยว ไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่ดิ้นรนที่จะมีครอบครัว เนื่องจากเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ จึงไม่สมควรที่จะนำพาผู้คนมาลำบากกับเราด้วย และที่สำคัญไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกประเภทยานพาหนะ ทั้งสองล้อและสี่ล้อ ไปไหนใกล้ๆก็ใช้วิธีเดินเท้าหรือถ้าไกลก็ใช้บริการของขนส่งสาธารณะ จึงไม่เป็นที่น่าสนใจของผู้คน จึงทำให้โดดเดี่ยวไปโดยปริยาย นี่เป็นการใช้ชีวิตแบบผิดเพี้ยนของผมเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายข้อที่มิได้กล่าวในที่นี้ จึงทำให้เป็นคนขวางโลก ไม่ลื่นไหลไปตามสังคมที่มีการทุจริต ซึ่งผมยังดำเนินชีวิตแบบนี้ต่อไป หลังจากที่แม่ได้เสียชีวิตลง ไม่นานนักพ่อก็ได้บวชเป็นพระ และยังได้ชักนำพี่ชายคนที่สองมาบวชด้วย ซึ่งผมเองก็ยังไม่อยากเชื่อว่าพี่ชายจะทำได้จนกระทั่งเห็นด้วยตาตัวเอง ส่วนพี่ชายคนที่สาม หลวงพ่อ(พ่อ) ท่านก็ดึงเข้ามาเป็นลูกศิษย์วัด ทำให้พี่ชายทั้งสองละทิ้งสิ่งไม่ดีไปโดยสิ้นเชิง เสียดายที่พี่ชายคนโตเสียชีวิตซะก่อน แต่ความดีครั้งสุดท้ายที่พี่ชายได้ทำคือดูแลแม่ที่ป่วยอยู่บนเตียง คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าซักเสื้อผ้า และความดีท้ายสุดในชีวิตของพี่ก็คือนำอุจาระปัสสาวะไปทิ้งในห้องน้ำ ซึ่งกระทำเช่นนี้ทุกวัน แต่วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของพี่ พี่เดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับบ่นว่าเวียนหัวแล้วล้มลงเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก พี่ชายคนโตดูแลแม่จนกระทั่งตนเองเสียชีวิตซึ่ง ณ.เวลานั้นเป็นการทำความดีที่ยิ่งใหญ่ ที่ผมจดจำมาตลอดจวบจนถึงทุกวันนี้ และอีกประมาณหนึ่งปี แม่ก็เสียชีวิตตามพี่ชายไปอีกคน ระหว่างที่แม่มีชีวิต แม่ไม่เคยได้ยินคำขอโทษจากปากของพ่อในเรื่องที่พ่อแยกทางกับแม่ ไม่มีความรับผิดชอบ ทิ้งลูกๆไว้ให้แม่ดูแล และลูกๆก็หลงเดินทางผิดเพราะไม่มีพ่อคอยช่วยดูแล ซึ่งแม่เองก็ดูแลไม่ทั่วถึง จนกระทั่งแม่เสียชีวิต ผมเองก็ไม่เคยได้ยินคำว่าขอโทษหลุดออกมาจากปากของพ่ออีกเช่นกัน แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้ว่าพ่อได้ขอโทษแม่แล้วก็คือ การนำพาตัวเองและพี่ชายที่เหลือเข้าวัดขัดเกลาจิตใจให้เป็นคนดี ซึ่ง ณ. ปัจจุบัน ผมต้องเรียกหลวงพ่อและหลวงพี่ซะแล้วด้วยความเต็มใจและดีใจ เป็นการแก้ไขในสิ่งผิดที่หลวงพ่อได้กระทำไปในครั้งก่อน ผมเองไม่ได้ยินกะหูแต่รับรู้ด้วยจิตใจ ถึงการกระทำของหลวงพ่อว่าได้ขอโทษแม่แล้ว และผมก็เชื่อว่าแม่ก็ได้รับรู้เช่นกัน เหลือแต่ผมคนเดียวที่ยังไม่บรรลุถึงความสำเร็จในชีวิต ยังใช้ชีวิตแบบไม่ลื่นไหลไปตามสังคม ถ้าสังคมมีคนเลวน้อยลงหรือไม่มีเลย มีคนดีมากขึ้น นั่นคือวันที่ผมลื่นไหลไปตามสังคมที่ดี
25 สิงหาคม 2553 14:34 น. - comment id 118850
25 สิงหาคม 2553 14:38 น. - comment id 118851
ขอบคุณสำหรับเรื่องจริงที่เล่าสู่กันฟัง.... ล้านเหตุผลที่ทำให้คนสองคนแยกทางกัน... คนเราเมื่อมีวาสนาต่อกัน..ก็ถือเป็นบุญที่ได้อยู่ด้วยกัน... แต่เมื่อหมดวาสนาต่อกันแล้ว... แม้จะเหนี่ยวรั้งไว้เพียงใดก็ไม่สามารถทำได้... หลวงพ่อท่านเดินทางธรรม .. และยังพาลูกชายไปด้วย.. คิดว่าคุณแม่ของคุณ ท่านคงตาหลับ อย่างไม่เป็นทุกข์... รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ คุณไม่ได้เดินอย่างเดียวดาย... โลกใบนี้มีทั้งคนดี และคนไม่ดี.. เพิ่อเป็นการถ่วงสมดุลย์ค่ะ...
27 สิงหาคม 2553 22:01 น. - comment id 118881
เป็นกำลังใจให้หมึกใหม่นะคะ........ คุณคิดได้(ที่จะเป็นคนดีในสังคม)เชื่อว่าคุณก็ทำได้เช่นกับที่คิดเช่นกันค่ะ........ อย่ามัวเสียเวลาไปโทษโน่นโทษนี่เลยนะคะ เวลาที่ผ่านไปแล้วก็ขอให้ผ่านไป เวลาที่ยังมาไม่ถึงก็อย่าไปกังวลกับมัน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดนะคะ ทุกอย่างก็จะดีเอง......