สภาพที่เป็นหวัด น้ำมูกไหลซู๊ดจนทำให้รู้สึกแสบจมูก มันน่าเบื่อนะ หนำซ้ำยังต้องทนรำคาญแขนซ้ายที่จะต้องสะพายผ้าคล้องห้อยเผือกอ่อนอีกชั้น โคตร.. เบื่อ ตัวเองจริง ๆ
. บ่ายวันก่อน ฉันหนีอาการคัดจมูกอย่างแรงโดยการเดินออกไปนอกสำนักงาน แล้วไปซื้อไอศกรีมมานั่งละเลียดลิ้มตรงบันไดทางเข้าแผนกที่ทำงาน ใครต่อใครที่เดินผ่านไปผ่านมา คงมีคำถามอยู่ในใจ ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างนั้น สำหรับฉันเอง ฉันก็สังเกตุเห็นบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนอื่น ๆ เช่นกัน ระหว่างชั้นขั้นบันได จะมีมุมสำหรับตั้งแทงค์น้ำดื่ม เอ ! เขาเรียกว่าไงนะ .. คูลเลอร์ !!
. ผู้หญิงคนแรก เดินไปพูดไปคนเดียว (อ้อ ! ที่แท้ คุยโทรศัพท์ทางสาย) เดินมากรอกน้ำ " น้ำหมด !! " ...... ไม่รู้ว่า บอกฉัน หรือ บอกอีกคนที่อยู่ในสายโทรศัพท์ แล้วก็เดินกลับโต๊ะทำงานอย่างหงุดหงิด ผู้หญิงคนถัดไป สองมือพะรุงพะรัง มีทั้งแก้วน้ำสองใบและกระติกน้ำใบย่อม "ว้า ! เป็นอย่างนี้ทุกทีสินั่น ต้องมาหมดตอนนี้ด้วย" แล้วหล่อนก็เดินย้อนกลับไป สองมือก็ยังพะรุงพะรังเหมือนเดิม คราวนี้เป็นผู้ชาย อารมณ์ดีเชียวนะ ฉันได้ยินเสียงผิวปากก็เลยหันควับไปมอง " เฮ้ย ! หมดอีกล่ะ เมื่อเช้าก็ยกขึ้นไปแล้ว พวกนี้ ดีแต่กิน ทีตอนยก อะไร ๆ ก็กู" ดันชำเลืองมามองฉันอีกต่างหาก ก็ยังดีนะที่ปากฉันไม่ว่าง ว่าจะถามเหมือนกันว่า "แล้วมันเกี่ยวกับกูตรงไหนวะเนี่ย เสือกส่งสายตาอำมหิตซะขนาดนั้น" ผู้หญิงคนต่อมา ถือแก้วน้ำมาตรงจุดเดิม ก็คงจะกรอกน้ำเหมือนอย่างคนอื่น ๆ เงียบ... หลังจากที่เธอเผลอถังคูลเลอร์แล้ว น้ำมันขอดซะขนาด แต่ก็ .. เงียบ เชียบ ฉันก็รออยู่ว่า เธอจะบ่นหรืออุทานคำใดออกมา เปล่าเลย เงียบสนิท แล้วเธอก็เดินลงบันไดไป เข้าใจว่าไปข้างนอก สักพัก ถือเป๊บซี่กระป๋องเดินยิ้มกริ่มมา แหม วุ๊ย ลงทุนขนาดหนัก
. ไอศกรีมหมดแล้ว.. ฉันยังไม่อยากลุก เอาน่า รอ .. อีกสักคนสองคน ไม่รู้เหมือนกันว่า รอ..ทำไม เพราะฉันไม่อยากให้ความรู้สึกบางอย่างค้างคานี่นา แม่บ้านใส่ฟอร์มชุดเหลืองเดินผ่าน เราต่างส่งยิ้มให้กัน แม่บ้านถามฉันว่า .. "ทำไมมานั่งตรงนี้ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ" (คงคิดว่าฉันเดินไม่ไหว เป็นลม หรือเป็นอะไรสักอย่างเลยมานั่งพัก ???) ฉันก็ตอบไปว่า .. "เป็นหวัด รู้สึกคัดจมูกเลยออกมานั่งตรงนี้" แม่บ้านหยอกฉัน .."กินไอศกรีม หรือคะ แล้วหวัดจะหายได้ไงคะคุณ" ฉันอ้อมแอ้มตอบ .. " แหะ แหะ แม่นแหล่ว จั๋งซี้มันต้องถอน" พอฉันจะลุกขึ้น (รู้สึกเขิน เพราะถูกจับได้ว่ากินไอศกรีมตอนเป็นหวัด) แม่บ้านก็รีบทำท่าเข้าประคอง แต่ฉันก็ปฏิเสธความหวังดีนั้นไป โธ่ ! บาดเจ็บที่แขน แต่ขาสองข้างยังดีอยู่ เดินได้อยู่น่า ฉันรีบบอกแม่บ้านว่า "ไหวน่า เดินได้ เดินได้" แต่ฉันก็เดินไปได้ไม่ไกล และต้องหันกลับมาตรงคูลเลอร์น้ำอีกที แม่บ้านคนนั้น กำลังยกคูลเลอร์ถังที่ไม่มีน้ำออกจากแทงค์ของมัน และยกคูลเนอร์ที่มีน้ำวางขึ้นแทน ฉันน่ะ ก็อยากจะช่วย แต่สังขารของตัวเองสิ ไม่ไหว ถ้าไม่ติดที่เฝือกอ่อนก็คงจะยกตั้งแต่แรกแล้ว พอแม่บ้านจัดการเรียบร้อย กำลังจะเดินลงไป ก็คงจะรู้สึกว่าถูกมองอยู่มั๊ง จึงแหงนขึ้นมาสบตาฉัน ฉันยิ้มให้ และกล่าวคำขอบคุณ ส่วนแม่บ้านคนนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร นอกเสียจากยิ้มตอบ
. ฉันเดินช้า ๆ ( ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรนี่ เพราะอยู่ในสภาวะที่ อู้งานได้ ) ที่จริง ฉันสามารถเดินตรงไปยังห้องทำงานของฉัน แต่ตอนนี้ ฉันอยากอ้อมโลกนิดหน่อย เหอะน่า ก็มันน่านักนี่ .. " แฮ่ม !! มีน้ำดื่มแล้วนะ รอดตายแล้วคร๊าบพี่น้องทั้งหลาย พอดี นางฟ้าชุดเหลืองยกคูลเลอร์น้ำให้ " หลายคนส่งสายตามาให้ด้วยความงง แต่ช่างมัน มีคนงงบ้างก็ไม่แปลก เพราะฉันรู้ว่า อย่างน้อยก็มี 4 คน ที่ไม่น่าจะงง ไม่รู้ล่ะ .. ฉันไม่อยู่รอวงค้อนขวับของใครหรอก พูดเสร็จก็เดินเข้าห้องไปซู๊ดน้ำมูกต่อ อะ ฮ่า ... อย่างน้อยฉันควรทำอะไรสักอย่างในวันที่น่าเบื่อของฉันบ้างล่ะ
. ปล. 1. ในเมื่อพวกเขาต้องการน้ำดื่ม แล้วทำไมไม่ยกคูลเลอร์น้ำ (วะ) 2. ถ้าบรรดาเธอและเขามาอ่านในเรื่องสั้นนี้ ฉันจะโดนดักตีหัวไหม (วะ) 3. ช่างมัน ถ้าเป็น ข้อ 2. ฉันจะเอาขี้มูกป้ายหน้าซะให้เข็ดเชียว เหอะ เหอะ
28 มิถุนายน 2553 10:56 น. - comment id 117716
เข้าใจว่าไม่สบาย หายไวๆนะคะ
28 มิถุนายน 2553 10:59 น. - comment id 117717
ไม่ได้เจียมสังขารเลย..ผ่าสิ!
28 มิถุนายน 2553 12:26 น. - comment id 117722
ขอให้คนเปื่อย เอ้ย คนป่วยหายไวๆค่ะ เรื่องน้ำดื่มที่บริษัทก็มีปัญหาค่ะ เนื่องจาก พนักงานเป็นหญิงล้วน มีพนักงานชาย แต่ก็มาบ้าง ไม่มาบ้าง วันไหนเขาไม่มา เหล่าบรรดาหญิงๆ ก็ต้องออกแรงกลิ้งถังน้ำ จากชั้นสาม ลงมาชั้นล่าง สงสัยมั้ยคะ ว่าทำไมต้องบนจากล่าง.. ไม่บอกหรอกค่ะ ปล่อยให้สงสัยต่อไป555 หายไวๆนะคะ
28 มิถุนายน 2553 12:56 น. - comment id 117723
อ่านจั่วเรื่อง...กิ่งโศก รีบตอบในใจก่อนเลยว่า.. มนุษย์นะเข้าใจเฉพาะ ตัวเอง เท่านั้น คนอื่นมักจะไม่ค่อยเข้าใจ หุหุ .อ่านเนื้อเรื่อง ดูเป็นเรื่องปกติ ของคนเมืองนะครับ..ที่ออฟฟิต ก็เป็นบ่อย บางคนเดินไปเจอว่าน้ำหมด แกล้งเดินผ่านเลยไปห้องน้ำซะ (อยุ่ติดกัน) ต้องรอแม่บ้าน..มายกให้เสมอเช่นกัน คงนึกว่า นั่นไม่ใช่งาน ตรู อิอิ กิ่งโศก ยกบ่อยแหละ..และ มันมักจะหมดตอนเราไปทุกทีเสียด้วย หุหุ หายไวๆ นะ ( ไหวัดนะครับ)
28 มิถุนายน 2553 12:57 น. - comment id 117724
คุณจอบอ .. เชื่อดิ นี่ก็เป็นอีกวิธีที่เรียกร้องความสนใจอ่ะ ฮา .. คุณกุ้งหนามแดง .. อ้าว ! แล้วกัน ก็ไม่ได้ท้าชกใครนะ อันที่จริง มันก็ตลก ๆ อยู่นะ พฤติกรรมของมนุษย์เนี่ย เรียนรู้ไม่รู้จบจริง ๆ คุณแก้วประภัสสร .. เหตุที่ต้องกลิ้งถังคูลเลอร์จากชั้น 3 มายังชั้นล่าง เพราะว่ามันน่าจะลำบากน้อยกว่า จากแบกถังคูลเลอร์จากชั้นล่างมายังชั้น 3 หรือไง ? นะ ... ฮ้า ! ไรนะ ... ไม่ได้ยินเลย
28 มิถุนายน 2553 13:12 น. - comment id 117725
คุณกิ่งโศก .. จากที่เคยพบหน้าค่าตากันเป็น ๆ แล้ว คุณกิ่งโศกคงพบเห็นแล้วว่า อัลมิตราไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เลย .. ดังนั้น บทยก บทแบก บทหาม จึงมีบ่อย นาน ๆ จึงจะวานเพื่อนผู้ชาย แต่ส่วนใหญ่จะโดนวานจากเพื่อนผู้หญิงเสียมากกว่า (หรือว่า พวกหล่อนไม่ยักจะมองว่า อัลมิตราก็คือสุภาพสตรีผู้อ่อนแอคนหนึ่ง) การที่มีเวลาว่าง (อย่างที่เขียน เพราะว่าอยู่ในสภาวะที่อู้งานได้) ทำให้จับตามองคนอื่น จากนั้นก็ได้พบได้เห็นในบางพฤติกรรม ที่ชวนให้เกิดความคิดแตกยอดออกไป ขณะเดียวกัน ก็วกถามตัวเองว่า " ในสถานการณ์ปกติ เราก็ประพฤติเช่นนั้นด้วยหรือเปล่า" มันคงดูแย่นะ หากเราเป็นเช่นนั้น , มันคงไม่ดีนะ ถ้าเรายังคงเป็นอย่างนั้น ดูเขา แล้วก็ต้องไม่ลืม ดูตัวเอง ... :) ขอบคุณค่ะ ที่เป็นห่วงสุขภาพ ตอนนี้ยังสนิทกับหวัดอยู่
28 มิถุนายน 2553 13:40 น. - comment id 117727
เคยอยู่กับเจ๊คนหนึ่ง แก่แล้ว น้ำอยู่เกือบเต็มถัง แกจะใช้เด็กยกไปเติมให้เต็ม แกทำแบบนี้บ่อยมากจนเราทนไม่ไหว ไปต่อว่าแก ให้น้ำมันใกล้หมดก่อนแล้วค่อยเติม เด็กแบกหนักนะเจ๊ แกก็บอกว่า เออจริงสิ ไอ้เราก้สงสัยทำไมไม่มีใครกล้าบอกแกทำกันอยู่ได้ หลายคนบอกเราว่า'' แกบ้าไม่มีใครอยากมีเรื่องกะแก '' อ้าวแล้วทำไมเราถึงไปยุ่งกับคนบ้า หรือเราบ้ากว่า อิอิ เรื่องจริงที่ผ่านมาค่ะ
28 มิถุนายน 2553 15:26 น. - comment id 117739
หวัดดีจร้า...คุงอัลฯ อ่านเรื่องนี้.... ทำไมนึกถึง...ลูกสาวกำนัน...ก็ม่ายรู้....อิอิ
28 มิถุนายน 2553 16:03 น. - comment id 117741
คุณใจปลายทาง .. ต้องเอาแปะก๊วยให้อาเจ๊คนนั้นกิน เผื่อว่าอาการจะดีขึ้นนะ คุณkirati .. ลูกสาวกำนัน เอ !! ประเภทจอมยียวนก่อเรื่องใช่มั๊ย เรื่องนี้น่ะ จารุณีเคยเกือบตายตอนอยู่บนเรือหางยาวมาแล้วนะ ต่างจากอัลมิตราที่มีตั้งหลายช็อตเกือบตาย แบบไม่ต้องใช้สแตนด์อิน น่ะ
28 มิถุนายน 2553 16:14 น. - comment id 117742
โลกแห่งความเป็นจริง สาระมันอยู่ที่ท่านต้องกระทำไปตามกฎเกณฑ์ที่กฏหมายและสังคมกำหนด ............... เข้าใจหรือไม่ ไม่ใช่สาระขอรับ
28 มิถุนายน 2553 16:19 น. - comment id 117743
งานเข้าแล้วเจ้าค่ะ น้องที่ทำงานหนู แอบย่องเข้ามาอ่าน.. "เจ้ .เอาฟามลับบริษัทมาเปิดเผย อายยเค้ามั้ยนั่น " 555555 เอิ๊กๆ
28 มิถุนายน 2553 16:54 น. - comment id 117757
วันหลังซื้อที่ปั๊มน้ำ แบบเวลาเราเปลี่ยนน้ำตู้ปลาอ่ะ ไปแขวนไว้ดิ อัลมิตรา
28 มิถุนายน 2553 20:51 น. - comment id 117773
คุณ BRAD PEACE .. หากเข้าใจตั้งแต่ต้น การปฏิบัติตามโดยไม่มีเงื่อนไขก็จะปรากฏ แต่ถ้าไม่เข้าใจตั้งแต่เริ่มต้น ก็มักจะมีกำแพงข้อขัดแย้งเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ นะ คุณแก้วประภัสสร .. แล้วกัน โล่งโจ่งเลยสิ ทีนี้ คุณโคลอน .. เรื่องตู้ปลานี่ ใครอยากได้ช่วยมาขนไปทีเหอะ เกะกะระเบียงบ้านชะมัดเลย
28 มิถุนายน 2553 22:57 น. - comment id 117775
เข้าใจแล้วค๊า.....
29 มิถุนายน 2553 10:12 น. - comment id 117785
คุณเทียนหยด .. ดี ๆๆๆ แล้วเจอกันนะ ศูนย์ประชุมสิริกิติต์ วันที่ 3-4 หาให้เจอ นะ ฮา
29 มิถุนายน 2553 11:31 น. - comment id 117797
จริง ๆ เค้าคงคิดว่าไม่ใช่หน้าที่น่ะ หน้าที่ของพวกเค้า คือ กดน้ำไปดื่ม แต่ลืมไปว่า หน้าที่ น้ำใจ แบ่งปัน มัน ต้องอยู่คู่กัน อิอิ...ที่นั่งกินไอครีมเหมาะ ทำให้เห็นอะไรอีก วันหลังจะฟังที่นั่งใหม่ ว่าคุณอัลมิตราเห็นอะไรอีก ขอให้หายหวัดเร็ว ๆ นะคะ
29 มิถุนายน 2553 12:00 น. - comment id 117798
คุณปรางทิพย์ .. ใช่แล้ว ในที่สุดก็มีคนเข้าใจคำว่า "น้ำใจ" หวัดยังทรงตัวอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้ลางานนะ กินยาเปลี่ยนเป็นขนานที่ 3 แล้ว
29 มิถุนายน 2553 22:23 น. - comment id 117818
ดีนะคุณอัล ยังใช้คำว่ามนุษย์ พักผ่อนมากๆค่ะ
30 มิถุนายน 2553 06:47 น. - comment id 117821
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณแจ้น เมื่อวานหลับตั้งแต่ทุ่มนิด ๆ ตื่นมาก็ฟ้าสางแหล่ววววว เต็มตาทีเดียวค่ะ
1 กรกฎาคม 2553 01:03 น. - comment id 117832
มนุษย์จริง ๆ ด้วยสิ อิอิ
1 กรกฎาคม 2553 06:51 น. - comment id 117837
อืมม .. แค่มนุษย์ ไม่ใช่ยอดมนุษย์ hero ปราบเหล่าร้าย ก็ดีถมเถแล้วล่ะ