บางรอยทางในรอยธรรม
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ในเสาร์ที่แล้ว ข้าพเจ้าเองได้ไปเก็บข้อมูลวิจัย เรื่อง ศึกษาสภาพและปัญหาการทำวัตร สวดมนต์ ซึ่งก่อตั้งเป็นชมรมคนสวดมนต์วันเสาร์ วัดพระแก้ว เชียงรายซึ่งก่อตั้งมาแต่ปี 2547 มีแต่กิจกรรม คือ สวดมนต์ นั่งสมาธิ พระอาจารย์ บรรยายธรรม แต่ ยังมีคนมาทำต่อเนื่อง เฉลี่ยราว 130 คน ทุกครั้งจากการเก็บงานวิจัย
ในผู้คนเหล่านี้ จะมี นาง มากที่สุด รองลงมา นางสาว นาย
และ ตามด้วย ด.ช. ด.ญ.
ใบหน้า แต่ละคน อิ่มแย้มแจ่มใส และ มิตรไมตรี บางท่านมีบ้างที่พูดคุย เรื่องการเมือง ในช่วงการเมืองร้อนระอุ ก่อนเวลาสวดมนต์
พระอาจารย์ดร.สมพงษ์ ท่านได้แต่บอกว่า อาตมา ช่วงนี้ จะไม่ดูข่าว และรับรู้ อะไรเลย ญาติโยมมีหน้าที่อะไรก็ทำไปตามหน้าที่เราให้ดีที่สุดดีกว่า
พระมหาสมชาย ท่านบรรยายธรรมะเรื่อง พระสารีบุตร
แล้วเล่าว่า การให้คนมานั่งสมาธิวิปัสสนากรรมฐานนั้นต้องดูจริตด้วย
เหมือนเราจะเอาหลักธรรมไปสอนใคร
ไม่ว่าสอนด้วยวิธีใด แบบไหน แต่คนอีกคน ไม่เปิดรับ พระอาจารย์ จะเลือก วิธี เฉย
เหมือนโยมแม่ พระอาจารย์ ให้นั่งสมาธิ นั่งได้แป๊บเดียว แต่ถ้าพาไปทำบุญ วัดโน้น วัดนี้ ชอบ แล้วถ้าให้เลี้ยง อาหารปลา ยิ่งชอบใหญ่
ไม่ยอมกลับ มีความสุข
อาจารย์ สราวุฒิ ท่านจะยิ้ม อารมณ์ดีตลอดเวลา จึง เป็นอีกท่านหนึ่ง ที่น่ายกย่อง ท่านสอนโดยไม่รับค่าจ้าง ในการสวดมนต์วันเสาร์ทุกครั้งท่านจะพิมพ์ คือ นิทาน ธรรมบท ครั้งละเรื่อง
แล้วจะเล่านิทานธรรมบทที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา ก่อนจะเริ่มการสวดมนต์ที่นำโดย พระมหาดร.สมพงษ์
เคยสนทนา กับท่าน ในบางครั้ง เพราะ ท่านเป็นผู้อำนวยการ ห้องเรียน วัดพระแก้ว
ว่า ตัวเองไม่เข้าใจเลย ทำไม ต้องมี เสื้อเหลือง เสื้อแดง และทำไมต้องมีฝ่าย เห็นด้วยและเห็นต่างทำไมคนไทยไม่เป็นสีเดียวกัน
ท่านว่า เขาถูกกำหนด ให้เป็นมาแบบนี้
ทำให้นึกถึงเพื่อนสนิทในบางคน เป็นครูที่จังหวัดพิจิตร จึงจะเป็นทอม แต่จิตใจ ดีมากทีเดียว มีรถยนต์ มีมอเตอร์ไซด์ แต่ไม่ขับ ไปโรงเรียน แต่ขี่จักรยาน ไปทุกวัน
เฮ้ย ....แก... ซื้อรถยนต์ทำไมไม่ขับหล่ะ...
ขี่จักรยานทุกวัน แล้วนี่ ให้ฉันช่วยเก็บขวดเปล่า กระป๋อง น้ำอัดลม กระดาษหนังสือพิมพ์ไว้ เอาไปทำอะไร
เสียงหัวเราะดัง กำนันต่าย ช่วยเพื่อนแค่นี้บ่น ฉันจะเอารายได้ตรงนี้
ไปผ่อนรถยนต์สิ ไว้พานักเรียนที่โรงเรียน ไปแข่งกีฬา
อ้าว...ก็เห็นเก็บมาหลายปีแล้วนี่ ยังส่งไปหมดอีกเหรอ...ข้าพเจ้าถามกลับไป
ฉันจะเก็บเงินส่งหลานเรียน เราต้องดูแลคนในบ้านให้ดีก่อน ก่อน ไปดูแลคนอื่น แต่ว่า วันนี้มาเดินเก็บ ขวด ในวัด แบบนี้ แก ไม่อายเค้ารึไง แกรู้จึงคนเยอะนี่นา
เยอะสิดี จะได้ ขอ ได้เยอะ อายทำไม มีเหมือนอย่างแก ภูมิใจชะมัด ไม่ได้ไปปล้นจี้ใครสักหน่อย
ผู้คนที่มอง แต่ภายนอก จะมอง ว่า เพื่อนคนนี้ ขี้เหนียว ทำตัวไม่เหมาะสมกับอาชีพครู บางครั้งข้าพเจ้าเองก็ถูกนินทาไปด้วย
เลือก ที่จะใช้วิธี เงียบดีที่สุด ความคิดคนเราห้ามไม่ได้
ก็เหมือนคนที่ให้หมานอนหลับกับเด็ก ขอทานตามงานเทศกาลต่างๆ ผู้คนหลายคน ผ่านไป ผ่านมา ก็ไม่พอใจ รุม ด่าว่า แต่ พอออกรายการ เรื่องจริง ผ่านจอ บอกถึงสาเหตุ ว่า ต้องการเงิน ไปรักษาลูก และ ไม่เคยใช้ยานอนหลับกับหมา แต่อย่างใด ใช้ฝึกและสอนให้หมานอนหลับเอง
คนเรา ถ้ามอง ในมุม ความไม่ชอบ ไม่พอใจ ตั้งค่าในใจความคิด เสียก่อนแล้ว อคติก็เดินนำหน้า
การสอน ให้คิดดี ธรรมดี ถ้าไปปฏิบัติ คงไม่ได้ผล
ข้าพเจ้าเอง ตั้งหัวข้อ... ข่าวด่วน ...พระเล่ามา...ไม่บอกไม่ได้แล้ว...
มีเป็นพันคนเปิดออกอ่าน มีคอมเม็นต์8 คอมมเม็นต์ ที่ให้ความเห็น
ในส่วนมาก มองในมุม หัวเราะ สบายๆ มีความสุข และ บางคนขอส่งต่อ ซึ่งข้าพเจ้าก็ยินดี เพราะ ทำให้ผู้คนมีความสุข คิดว่า ผู้เขียน และ ผู้ที่ส่งมาให้ก็ต้องการ เช่นนั้นเช่นกัน
มีสองคอมเม็นต์ ที่ชี้แนะ ว่า ไม่ควรใช้คำว่า ข่าวด่วน
ข้าพเจ้าไม่ได้มีอารมณ์ใดๆที่คนเปิดอ่านเท่าไร คอมเม็นต์เท่าไร
แต่ดีใจ ที่มีคน มาชี้แนะ
เพราะว่า มันบอกได้ว่า สื่อ และการพาดหัวข้อ การเสนอ มีผลต่อ ความคิด ของมนุษย์มากทีเดียว
โลกวุ่นวาย เพราะ คนหลายคน ต้องการวิถี ทาง แบบตนเอง
แต่นั่นเอง มนุษย์ ยังต้องอยู่ในกรอบ และกฎ ไม่งั้น ประเทศจะวุ่นวาย และ สิ่งสำคัญ ต้องยอมรับ เหตุผล และเคารพในความคิด
ของคนอื่น
สิ่งที่อยากเห็นตอนนี้คือ สื่อ ทางโทรทัศน์ บอกเรื่องราวดีๆของเมืองไทยบ้าง เช่น สถานที่ ที่ไหนสวย ชุมชนบางชุมชนอยู่อย่างไรที่มีสงบ และ งาม
คิดถึงภาวะจิตใจของคนหลายคน ที่ต้องเสพ แต่เรื่องแบบนี้ ทั้งวัน ความเครียด ตามมาแน่นอน เลย คิดว่า น่าจะทำ เพราะ เห็นหลายอย่างที่แต่พูด
สมัยเด็กๆประมาณอยู่อนุบาล ข้าพเจ้า เคยตามพ่อเข้าวัด ทุกวันพระ หลวงพ่อท่านบรรยายธรรมข้าพเจ้าจะเห็นรูปพระพุทธเจ้าทุกครั้งที่ไป
วันหนึ่ง ทนไม่ไหว ลุกขึ้นถาม หลวงพ่อคะ หนูอยากรู้ ว่า ปุ่มๆๆที่อยู่บนหัวพระ คือ อะไร
ผลปรากฏว่า หญิงวัยกลางคน ดุข้าพเจ้าว่า เป็นผู้หญิงทำอย่างนี้ไม่ได้น่ะหนู ไม่ดี แล้วบอกว่า กับพระกับเจ้าต้องระวังใส่บาตรก็อย่าให้ถูกตัวท่าน ตักข้าวใส่บาตรก็อย่าให้ทัพพีถูกบาตรจะตกนรก
เห็นหนูแล้วว่าจะเตือนหลายครั้งแล้ว
หลวงพ่อท่านว่า ไม่เป็นไรหรอกโยม ยังเด็กนัก
ไม่ได้คะ เดี๊ยวจะเคยตัว
ข้าพเจ้าไม่ไปวัด ไม่ใส่บาตรอีกเลย ช่วงนั้น รู้สึก พระ เป็นสิ่งน่ากลัว นั่นก็ไม่ได้ นี่ ก็ไม่ได้
จนหลวงพ่อถามหา ว่า ข้าพเจ้าหายไปไหนเพราะอะไร
พ่อ ต้องอธิบาย และหว่านล้อม ให้ข้าพเจ้าไปเหมือนเดิม
หลวงพ่อท่านใจดี มีเมตตา มีขนม ฝาก มีนิทานแบบง่ายๆเล่าให้ฟัง
ความรู้สึกและมุมมองที่ดีจึงกลับมา
ในบางครั้งความรู้สึก อารมณ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราต้องตามมันให้ทัน ความโกรธก็เช่นกัน
ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรสักนิด
คำถามในวัยเด็กของข้าพเจ้า เรื่องราวของข้าพเจ้า ถูกเขียนเป็นตัวอักษรด้วยความรัก จากบันทึกของพ่อ
พ่อบอกว่า ข้าพเจ้ามักมีคำถามแปลกมาให้คิดและหาคำตอบเสมอ
ก็สงสัยหลายเรื่อง จนเดี๊ยวนี้
ว่า เมืองไทยเป็นประเทศที่สาม แล้วประเทศที่สองคือประเทศไหน
ด้วยความอยากรู้ว่า ต้องทำยังไงจะได้เป็นที่สอง ต้องดู คนอื่นก่อน แล้วค่อย ไปอันดับหนึ่ง
เหมือนการสอบนั่นแหละ
จนปัจจุบันก็ยังไม่รู้
ก็คิดไปอีกว่า ถ้า ผู้ใหญ่ตอบปัญหาเด็กไม่ได้ แล้วจะถามกับใคร
เหมือนเรื่องการเมือง คิด วิเคราะห์ หาทางออกกันมากมาย
แต่ไม่ปฏิบัติคงเป็นแค่ทฤษฎี
ในการแก้ปัญหาขอเพียงทุกคนมุ่งมั่น มีธรรมะ ร่วมมือกัน เสียสละ
ไม่แบ่งแยกความเป็นไทย ด้วยสี ไม่กี่สี แต่ใช้หัวใจในความรักประเทศไทย ร่วมกัน ประเทศไทยคงเป็นประเทศที่ลือนาม
สยามเมืองยิ้มตลอดไป
พระอาจารย์สมชาย เจ้าอาวาสวัดโกฎแก้ว
พระมหาดร.สมพงษ์ ผ.อ. ห้องเรียนวัดพระแก้ว
อาจารย์ สราวุฒิ ผู้บรรยายและพิมพ์นิทาน ธรรมบทมาแจก เป็นธรรมทาน
ในวันเสาร์ ครั้งละหนึ่งเรื่อง
และเป็นอาจารย์พิเศษ สอน เกี่ยวกับวิชาพุทธศาสนา ให้กับ พระนิสิต
และนิสิต ฆราวาส โดย ไม่เคยรับค่าตอบแทน
สมาชิกชมรมสวดมนต์วันเสาร์วัดพระแก้ว
ผู้ช่วยตัวน้อย ด.ญ. น้ำหวาน
ผู้ช่วยตัวใหญ่มาอีกนิด
น้องลูกตาว
มีผู้ช่วยที่สำคัญและเก่งมากๆ
คือ พระนิสิต
พระธนากร
กำลังเก็บข้อมูลให้ลงชื่อ เพศ อายุ เพื่อให้รู้ว่าในสี่เดือน ต่อคนมาปฎิบัติธรรมวันเสาร์ กี่ครั้ง