ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ไม่สบายใจอีกแล้วใช่ไหมคะ ดูมีแต่เรื่องเครียดๆ นะจ๊ะวันนี้ boy wear glasses: ... boy wear glasses: หลิวนี่เก่งจังเนาะ แค่การสนทนาในเน็ต ก็รู้แล้วว่าผมไม่สบายใจ boy wear glasses: ไม่อยากจะบอกเลยว่าเป็นเรื่องของเราน่ะ ที่ทำให้รู้สึกไม่ค่อยดี ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ไม่นานหรอกค่ะ เร็วๆ นี้แหละ ดึกแล้วผมยังไม่กลับบ้าน ยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ของผมเอง ที่เปิดเป็นร้านเล็กๆ มุมหนึ่ง ย่านธุรกิจใน กทม. ภายในร้านจัดบริการอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ที่มีออฟฟิศขนาดย่อมอยู่หลังร้าน ที่นี่มีเพียงผมและพนักงานร้านอีกคนหนึ่งเท่านั้น แต่เธอกลับไปนานแล้ว ขณะนี้ผมกำลังสนทนาอยู่กับผู้หญิงผู้ซึ่งวิเศษและเร้นลับที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา จะกล่าวว่าเคยเจอมาก็ไม่ถูกนัก เพราะผมไม่รู้ว่าหน้าตาเธอเป็นอย่างไร แปลกดีไหมที่ผมรู้จักกับเธอในอินเตอร์เน็ต พูดคุยกันมานาน 2 ปีได้แล้วมั้ง ไม่มีสักครั้งที่เธอจะยอมเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง แม้แต่รูป ผมก็ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินแม้แต่เสียง บ่อยครั้งที่ผมให้เบอร์โทรศัพท์เธอไป ทั้งมือถือและเบอร์ที่ร้าน เธอก็ไม่เคยโทรมาและเธอก็ไม่เคยให้เบอร์ ของเธอเลย ยกข้ออ้างเพียงว่า ยังไม่ถึงเวลา แต่ผมก็ยอมรับได้ ขอเพียงเธอยังอยู่และพูดคุยกับผมในเน็ตเท่านี้ก็พอแล้วล่ะ แต่ก็มีหลายครั้งที่ผมคลางแคลงสงสัยว่าเธอเป็นใครกัน ทำไมลึกลับยิ่งนัก มีผมเท่านั้นที่คอยเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เธอรับรู้เพียงฝ่ายเดียว ว่าผมอยู่ที่ไหน ชอบอะไร รักอะไร แต่เธอก็ไม่เคยเล่าเรื่องของเธอเลย รู้แค่เพียงว่าเธอชื่อหลิว ใช้นิคว่า ไซบีเรียน ฮัสกี้ และอยู่ที่ กทม. เหมือนกันกับผมเท่านั้น ผมหลงรักเธอเข้าให้อย่างจัง หลงรักใครก็ไม่รู้ ใยกามเทพช่างเล่นตลกกับผมนัก ที่ยิงศรมาปักอกผมให้ไปชอบผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยพบหน้า แล้วใยเธอผู้นั้นช่างแสนดีอย่างมากมาย ที่คอยพูดคุย ปลอบใจ เป็นเพื่อนที่แสนดีทุกครั้งทุกคราที่ผม connect เข้าสู่อินเตอร์เน็ต ดูเหมือนว่าเธอจะสัมผัสความรู้สึกของผมได้ ว่า ณ ขณะนั้นผมรู้สึกอย่างไร คิดอย่างไร ทำไมช่างวิเศษอะไรอย่างงี้... ตี 2 กว่า ผมต้องกลับแล้ว หลังจากบอกลาเธอในเน็ต ผมก็ขับรถกลับบ้าน เรื่องราวของเธอทำให้ผมครุ่นคิด ไม่นานหรอกค่ะ เร็ว ๆ นี้แหละ เร็วๆ นี้จริงหรือที่เธอจะยอมให้พบ ผมรีบร้อนไปหรือเปล่าหนอ ที่ทึกทักบอกไปว่าอยากเจอเธอสักครั้ง ถึงบ้านแล้ว ความคิดยิ่งฟุ้งซ่านเลยเถิดไปถึงเรื่องราวเมื่อไม่กี่ปีมานี้ หลังจากที่เรียนจบและทำงานบริษัทได้ 2 ปี ก็ต้องมาตกงาน เพราะวิกฤติการทางเศรษฐกิจ นับจากนั้นคนรอบข้างก็เปลี่ยนไป เพื่อนฝูงสรวลเสเฮฮาแต่ก่อนก็ห่างหาย คนรักก็บอกเลิก นี่ละหนาคนเรา สัมผัสจิตใจกันเพียงผิวนอกเท่านั้น ผมมาฟื้นตัวได้จากกิจการร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในเวลาต่อมา ด้วยเงินทุนทั้งหมดของผมและบางส่วนของพ่อ นอกจากนี้ผมยังรับเขียนโปรแกรมด้วย นับแต่นั้นงานก็ไหลมาเทมาไม่หยุด จากที่เคยทำงานตามคำสั่งเจ้านายเหมือนแต่ก่อน ก็กลายมาเป็นเจ้านายเขาแทน ซึ่งต้องรับบทบาทมากมายจนแทบไม่มีเวลา และนั่นก็ทำให้ผมเบื่อหน่ายต่อโลกแห่งความเป็นจริง ที่เห็นหน้าตากันอยู่ทุกวัน แต่ไม่หยั่งรู้จิตใจกันได้เลย ผมจึงหันเหตัวเองเข้าหาเน็ต และได้พบกับเธอ ....... ง่วงเหลือเกิน เป็นอย่างนี้มานานแล้วนับตั้งแต่รู้จักกับเธอผมก็นอนดึกแทบทุกวัน มัวแต่นั่งสนทนาหน้าคอมฯ ในร้านจนลืมเวลา เธอจะเป็นอย่างไรหนอ เฮ้อ! เบื่อตัวเองจัง ท่าจะเป็นเอามาก ก่อนหลับก็ยังไม่วายคิดถึงอีกนั่น แม่สาวชื่อหลิว นามแฝงว่า ไซบีเรียน ฮัสกี้ คนนั้น ที่อยู่เคียงข้างผมเสมอมาไม่ว่าจะเป็นอย่างไร หึหึ แปลกจัง เคียงข้างผมหรือนี่ แต่ไฉนผมจึงไม่เห็นตัวเธอล่ะ ผมตื่นนอนตอน 10 โมงกว่า โอ้! สายมากแล้วหรือนี่ เพราะเมื่อคืนมัวแต่เล่นเน็ตอย่างบ้าคลั่งแน่ๆ สงสัยคงต้องเพลาๆ ลงบ้างซะแล้ว ป่านนี้เจ้าจูน พนักงานที่ร้านคงไปเปิดร้านแล้วล่ะ ผมทำธุระส่วนตัวเสร็จก็บึ่งรถไปร้านเหมือนทุกๆ วัน คนยังแน่นแต่เช้าเหมือนเดิม ใช่ย่อยเลยนะ ฝีมือเราเนี่ย ผมเดินผ่านลูกค้าในร้านเข้าไปยังออฟฟิศอย่างอารมณ์ดี กำลังจะเปิดประตูเข้าไปที่โต๊ะทำงาน พลันเสียงของเจ้าจูนก็แจ้วๆ เรียกชื่อผม พี่เตอร์พอจะว่างไหมคะ" "พอดีมีลูกค้ามาขอให้พี่ช่วยแนะนำเรื่องการเขียน php ค่ะ" "เค้าต้องทำโปรเจ็คส่งอาจารย์ จูนเลยแนะนำให้เค้ามาขอคำปรึกษากับพี่น่ะค่ะ พี่เตอร์พอจะมีเวลาไหมคะ เจ้าจูนผายมือไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งกายในชุดนักศึกษา เธอขยับตัวลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้แล้วยกมือไหว้ และยิ้มให้ผม อ่า.... เรื่องเขียนเว็บพี่ไม่ถนัดน่ะ แล้วพี่ก็ติดงานโปรเจ็คโปรแกรมฐานข้อมูลของลูกค้าอยู่ ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ ผมพูดพลางมองสายตาเธอผู้นั้น ก็พบกับแววตาแห่งความผิดหวังเล็กๆ แต่เธอก็ยังยิ้มอย่างมารยาทดี เจ้าจูนนะเจ้าจูน นี่ก็ตะวันโด่งแล้ว รู้ก็รู้ว่าผมเขียนโปรแกรมอยู่คนเดียวและงานก็เร่งมากด้วย ยังจะหางานมาให้อีก แต่คิดมาคิดไปเราดันมาสายเองนี่หว่า จะว่าไปแล้วเธอคงไม่มีที่พึ่งอื่นแหงๆ ถึงได้มาขอคำแนะนำจากคนที่ไม่รู้จัก ก็คงจะเหมือนๆ กับผมสมัยเรียนอยู่น่ะแหละ งั้น...... ก็ได้นะ เดี๋ยวพี่จะแนะนำให้ เอาเป็นว่าชดเชยให้กับความผิดที่พี่มาสายก็แล้วกัน ผมหันไปพูดกับเจ้าจูนเป็นข้อแก้ต่างค่างๆ คูๆ มาสายแล้วใครเล่าจะหักเงินผม ขอบคุณค่ะ เธอยิ้มให้ผม ผมพอจะมีเวลาซัก เอ่อ! 30 นาทีนะ phpน่ะไม่ได้ใช้เวลาเข้าใจได้เร็วขนาดนั้นหรอกนะครับ ผมสอนไม่เก่งหรอก เอาเป็นว่าไม่เข้าใจอะไรผมจะอธิบายให้ฟังก็แล้วกันนะครับ หลังจากนั้นเธอก็มานั่งตรงหน้าโต๊ะทำงานของผมเพื่อฟังผมอธิบาย ไม่น่าเชื่อว่าผมจะสอนติดลมจนถึงเที่ยง ได้เวลาอันควรเธอก็ขอตัวกลับไปด้วยสายตาที่เป็นประกายยินดีผิดกับตอนมา แต่อีกนัยหนึ่ง แววตาของเธอดูแปลกๆ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ น่ารักดีแฮะ ผมชมเธอในใจ พลางให้คิดถึงชีวิตจริงบ้าง ทำไมถึงไม่เปิดใจให้กับคนอื่นๆ เลยนะเรา คนน่ารักมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องไปคาดหวังกับความรักที่ส่งผ่านมากับสายไฟ สายโทรศัพท์หนอ คนรอบข้างที่พร้อมจะแบ่งปันความรักให้มีอีกตั้งมากตั้งมายนี่นา แต่แล้วผมก็สลัดความคิดพวกนี้ออกไป ยังไม่เข็ดอีกใช่ไหม กับความรักในรูปแบบเดิมๆ น่ะ ที่แล้วๆ มาเป็นอย่างไรเล่า มีสักคนไหมที่สัมผัสตัวตนที่แท้จริงของผมได้ ท้ายสุดแล้วก็ไม่เหลือใคร พอกันทีเถอะ ณ ตอนนี้ผมมีแค่หลิว แม่สาวแห่งโลกออนไลน์คนเดียวเท่านั้น ร้านปิดแล้ว คืนวันนั้นผมยังคงทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ ส่วนเจ้าจูนนั้นก็กลับไปนานแล้ว ผมนั่งทำงานเพื่อฆ่าเวลาไปงั้นๆ แท้ที่จริงแล้วผมรอหลิวอยู่ จนกระทั่งสี่ทุ่มครึ่ง ชื่อ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ก็ปรากฏสเตตัสสีเขียว แสดงสถานะว่าเธอออนไลน์ ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ไงจ๊ะ พ่อหนุ่มนักคอมพิวเตอร์คนดี (ของใครเอ่ย) รอใครอยู่เอ่ย ^_^ boy wear glasses: ไม่หรอกครับ ผมรอหลิวอยู่น่ะ ไซบีเรียน ฮัสกี้ : จ้า เบื่อมั้ย boy wear glasses: หลิวก็น่าจะรู้นะ ว่าผมเบื่อหรือเปล่า น่าจะรู้ว่าผมอยากพบหลิวขนาดไหน ไซบีเรียน ฮัสกี้ : หาเรื่องจัง คนละเรื่องกันแล้ว ยังไม่ได้บอกเลยว่าเบื่ออะไร ท่าทางอารมณ์ไม่ค่อยดีนะคะ เครียดๆ อย่างงี้หลิวไม่อยากคุยด้วยเลย ใจคอไม่ค่อยดี boy wear glasses: ไม่ละหลิว อีก 2 วันก็ถึงวันเกิดคุณแล้ว ไซบีเรียน ฮัสกี้ : รู้ได้ไงเนี่ย boy wear glasses: คุณเซ็ต info ของคุณไว้ไง ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ว้า แย่จัง แล้วยังไงดีเอ่ย boy wear glasses: ผมขออะไรบางอย่างจากหลิวได้ไหม หลิวพอจะทำให้ผมได้หรือเปล่า ไซบีเรียน ฮัสกี้ : อ๊ะ มีงี้ด้วย วันเกิดเราแทนที่เราจะเป็นคนขอนะ boy wear glasses: ขอให้ผมเป็นคนยื่นของขวัญวันเกิดให้คุณ ด้วยมือของผมเองได้มั้ย ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ............... boy wear glasses: ได้มั้ยหลิว ได้โปรด ผมอ้อนวอนแกมตัดพ้อกับเธออย่างมีความหวัง เธอจะรู้สึกอึดอัดมากไหม ที่ผมทำเช่นนี้ แต่ผมก็ต้องทำนะ เพราะอยากพบเธอเหลือเกิน ไซบีเรียน ฮัสกี้ : แล้วหลังจากนั้นล่ะ จะเป็นอย่างไร เราจะเป็นอย่างไรต่อไปล่ะเตอร์ boy wear glasses: เป็นไงเป็นกัน ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ........... เธอไม่ตอบคำถามผมอยู่นาน จนกระทั่ง........ ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ตกลงค่ะ ถ้าเตอร์ต้องการแบบนั้น แต่บอกไว้อย่างหนึ่งว่า ไม่ต้องหวังอะไรมากหรอกนะคะ หลิวอาจจะไม่ไปพบคุณก็ได้ แล้วอย่ามาโทษกันทีหลังล่ะ หัวใจผมพองโต กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจกับข้อความบรรทัดนี้ เธอขอนัดสถานที่และเวลานัดพบเอง แล้วก็ออฟไลน์ออกไปเลย คงจะไม่ค่อยพอใจใช่ไหม อยากบอกเธอจังว่าผมไม่ได้ต้องการทำแบบนี้เลย เหมือนกับบังคับเธอยังไงก็ไม่รู้ ผมแค่อยากจะเริ่มต้นสิ่งดีๆ ระหว่างเรา ด้วยโอกาสพิเศษและขอคบกับเธออย่างจริงๆ จังๆ เท่านั้น ขอโทษนะหลิว มันไม่เลวร้ายอย่างที่คิดหรอก ผมปลอบใจตัวเอง และแล้ว วันเกิดเธอก็มาถึง ผมจัดการเคลียร์งานทางร้านจนเรียบร้อยไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเรื่องหน้าร้านไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเจ้าจูนคนเดียวดูแลได้อยู่แล้ว แม้จะดูบ๊อง ๆ ไปหน่อย แต่ก็เป็นเด็กดีในสายตาผม ผมใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินตามที่บอกกับหลิวไว้ในเน็ต การแต่งกายแลดูพิถีพิถันกว่าทุกวัน กล่องของขวัญและช่อดอกไม้อยู่ในมือผม ดูมันเชยๆ ยังไงไม่รู้ ชายหนุ่มใส่แว่นตา หน้าตี๋ๆ ยืนถือช่อดอกไม้และกล่องของขวัญ หึหึ ตลกจัง อ๊ะ! ไม่สิ น่ารักดีต่างหาก ผมคุยกับตัวเองอย่างอารมณ์ดีขณะเดินไปที่รถแล้วขับออกไป แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะโทรไปบอกเจ้าจูน พี่ติดธุระนะเย็น ๆ จะกลับมา ใครโทรมาหาให้ฝากเรื่องไว้ ถ้าเรื่องจำเป็นก็โทรเข้ามือถือพี่นะ ก่อนเวลานัด 15 นาที ผมก็มาถึงสถานที่นัดพบซึ่งอยู่คนละฝั่งเมืองเลยทีเดียว ที่แห่งนี้เป็นร้านไอศกรีมเล็ก ๆ ชื่อ argosy ซึ่งอยู่ในซอยแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากถนนมากนัก หน้าร้านประดับด้วยผ้าดิบสีขาวที่ขึงไว้กับเชือกในแนวขวางคล้ายใบเรือ ผนังด้านในและอุปกรณ์ในร้านตกแต่งด้วยโทนสีน้ำทะเลเป็นส่วนใหญ่ กลางโต๊ะนั่งมีเสายื่นอยู่ลักษณะคล้ายกระโดงเรือ หลิวช่างเข้าใจเลือกร้านแฮะ ได้บรรยากาศเหมือนชื่อร้านดีจัง หน้าเคาท์เตอร์มีคนขายและลูกค้าอีก 2-3 คน ซึ่งก็รวมทั้งผู้หญิงชุดขาวรัดรูปคนข้างหน้าผมด้วย เธอยืนคุยอยู่กับคนขายผมรู้สึกคุ้น ๆ กับผู้หญิงชุดขาวนี้จัง แต่ก็เห็นหน้าเธอไม่ถนัด เพราะเธอยืนหันหลังให้ ผมไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะตอนนี้จุดประสงค์ของผมมีเพียงสิ่งเดียว เมื่อผมมายืนจ่ออยู่ตรงหน้าเค้าเตอร์ ทั้ง 2 จึงหยุดสนทนากัน คนขายยิ้มให้ผม รับอะไรดีคะ ขอชามะนาวเย็นๆ หรือจะเย็นชาดีเอ่ย ผมเล่นมุขกับเธอ แม้มันจะฝืดก็ตามที เธอยิ้มรับและแนะนำไอศกรีมอีกอย่างสองอย่าง แต่ผมบอกไปว่ามารอเพื่อนเจอกันแล้วค่อยสั่ง ว่าแล้วก็เดินมานั่งตรงมุมกระจกหน้าร้านเพื่อให้สังเกตง่าย ๆ เลยเวลานัดออกไปแล้ว 10 นาทีผมชักใจไม่ดี ยังไม่มีวี่แววของหลิวเลย ผมใช้หลอดดูดชามะนาวในแก้วที่เหลือแต่น้ำแข็งแต่สายตากลับชะเง้อมองหาผู้คนตรงทางเดินเข้าประตู คาดคะเนไปต่างๆ นานา ว่าไหนล่ะหลิว เธอจะจำผมจากรูปที่เคยส่งให้ดูได้ไหมหนอ คิดๆ แล้วก็ไม่แฟร์เลยนะ มีแต่ผมเท่านั้นที่ส่งรูปให้ไป ไม่ยักจะได้รับรูปของเธอบ้าง ขณะที่คิดอยู่นั้น ผมหันไปมองที่เค้าท์เตอร์อีกครั้ง โอ้!...ผู้หญิงชุดขาวคนนั้นผมจำเธอได้แล้ว เธอคือสาวหน้าแฉล้มคนที่ผมเพิ่งสอนโปรแกรม php ไป เมื่อ 2 วันก่อนนี้นี่นา ทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้ เธอจะจำผมได้ไหมนะ เมื่อครู่ก็ไม่เห็นกัน เดินเข้าไปทักจะดีไหม แล้วเธอก็มองมาทางผมพอดีช่วงเวลาที่คนขายไอศกรีมคุยโทรศัพท์ เธอยิ้มให้แล้วเดินเข้ามาหา ใช่แล้ว เธอจำผมได้ ก็นั่งคุยกันตั้ง 2 ชั่วโมงนี่นา จำไม่ได้ก็แปลกแล้ว สวัสดีค่ะ คุณเตอร์ใช่ไหมคะ จำได้มั้ยว่าใคร สวัสดีครับ ผมตาโตหัวใจเต้นตูมตามด้วยความงงงัน โลกแคบจริงๆ นะ เธอแต่งตัวในชุดปกติ สวยขึ้นจนจำแทบไม่ได้เลย ขอบคุณนะคะ ที่วันนั้นช่วยสอน php ให้เปิ้ล ถ้าไม่ได้คุณเตอร์ เปิ้ลคงทำไม่ได้แน่ค่ะ เปิ้ล ผมเอ่ยชื่อที่เธอใช้เรียกตัวเธอเองอย่างงง ๆ ค่ะ บังเอิญหรือเปล่านี่ที่พบคุณ มารอใครเหรอคะ เธอพูดกับผมด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรเหมือนเดิม จริงสินะ เมื่อวันนั้นผมก็ไม่ได้ถามเธอเลยว่าชื่ออะไร แฮ่ะๆ พอดีผมนัดเพื่อนในอินเตอร์เน็ตน่ะครับ เค้ายังไม่มาเลย และผมก็ไม่เคยเห็นหน้าเค้าด้วย โห! มีงี้ด้วย นี่เปิ้ลมาหาเพื่อนน่ะค่ะ มาคุยเรื่องจัดงานวันเกิดวันนี้ เธอผายมือไปที่คนขายไอศกรีมบอกให้รู้ว่านั่นคือเพื่อนของเธอ ดูมันบังเอิญเกินไปเสียแล้ว ทั้งเวลานัดหมาย ทั้งวันเกิด มีเรื่องอย่างงี้เกิดขึ้นกับผมด้วยหรือนี่ เปิ้ล นี่เป็นชื่อเล่นจริงๆ ของเธอหรือเธอโกหกผมกันแน่นะ เธอคือหลิวใช่ไหม หรือหลิวเป็นแค่นามแฝงที่ใช้ในเน็ต แต่ถ้าเธอเป็นหลิวจริงๆ ทำไมถึงไม่เฉลยให้ผมทราบ แล้วเธอจะทำอย่างงี้ไปเพื่ออะไร คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว ผมหยิบช่อดอกไม้และกล่องของขวัญมาวางไว้บนโต๊ะรอดูท่าทีของเธอ งั้นเปิ้ลขอตัวก่อนนะคะ พอดีต้องไปซื้อของมาเตรียมงานน่ะค่ะ ครับผม แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะครับ แหม อยากเป็นคนที่คุณคอยจัง หรือว่าจะเป็นดีเอ่ย นั่นไง ประโยคเด็ด เธอหันมาค้อนแล้วยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย สายตาเธอจ้องมองไปที่ช่อดอกไม้กับกล่องของขวัญแต่ก็ไม่พูดอะไร แล้วก็เดินไปคุยกับคนขายไอศกรีม 2-3 คำ เหมือนกับส่งรหัสอะไรสักอย่าง สักพักก็ผลักประตูออกนอกร้านไป ปล่อยให้ผมนั่งงงเป็นไก่ตาแตก เวลาผ่านไปพอสมควร ผมยังคงนั่งครุ่นคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ เธอมาไม้ไหนล่ะเนี่ยๆ ของขวัญก็ไม่เอา เฮ้อ! ฟอร์มเยอะจริง ๆ นะแม่คุณ ระหว่างที่กำลังทำอะไรไม่ถูกโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ว่าไงจูน เบอร์ที่ร้านเน็ตของผมโชว์ขึ้นที่เครื่อง พี่เตอร์คะ เมื่อตะกี้มีใครก็ไม่รู้โทรมาฝากข้อความว่าให้พี่เอาช่อดอกไม้กับของขวัญไปฝากไว้ที่หน้าเคาท์เตอร์ร้าน เอ่อ! ร้าน argosy น่ะค่ะ แล้วก็วางหูไปเลย จูนงงน่ะค่ะ เค้าบอกแค่นี้ ฮ่าๆๆๆๆ ว่าแล้ว นี่ละน้าคนเรา ทำมาเป็นฟอร์ม โอย! ขำ ผมหัวเราะลั่นกรอกสายโทรศัพท์ไป เจ้าจูนคงจะงงเข้าไปอีก แหม! เธอเข้าใจเล่นจริงๆ นะ บอกว่าไม่แน่ที่จะมาพบ แต่แล้วก็ทนไม่ได้ ซ้ำยังแอบไปหาที่ร้านเน็ตทำเป็นว่าให้ผมช่วยสอนเขียนเว็บอีก เชื่อเค้าเลย เฮ้อ!... ผมกดวางสายขณะที่เดินมาจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์แล้วเอาของขวัญและช่อดอกไม้ไปฝากไว้ที่คนขายไอศกรีม เธอรับไว้ ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ไม่ถามผมซักคำว่าเอาให้ใครเหมือนกับรู้ดีว่าควรทำอย่างไรกับของนี่ แหม เตี๊ยมกันมาดีจังนะ เพื่อนของคุณนี่ร้ายเหลือเกิน ผมแซว แต่เธอไม่ตอบอะไร ได้แต่หัวเราะเบาๆ ผมกลับมาที่ร้านอย่างอารมณ์ดี นึกแล้วยังขำไม่หายคนอะไรฟอร์มร้ายจริงๆ นะ เจ้าจูนกำลังหัวปั่นอยู่กับผู้คนในร้าน ผมเข้าไปช่วยอย่างมีความสุข คนจอมอำเอ้ย ผมพูดกับตัวเองเบาๆ เจ้าจูนได้ยินทำหน้างงๆ อีกตามเคย จูนไม่ได้อำนะคะ มีคนโทรมาหาพี่เตอร์จริงๆ นะ เจ้าจูนปฏิเสธหน้าตื่นผมเห็นแล้วขำ ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกไม่ได้ว่าอะไรเธอ พี่พูดของพี่คนเดียวน่ะ ว่าแต่ว่าจำเสียงได้มั้ย ว่าเป็นคนเดียวกับคนที่พี่สอน php ไปวันนั้นหรือเปล่า ไม่แน่ใจค่ะ เค้าพูดแค่ที่จูนบอกพี่ไป พอจูนจะบอกเบอร์มือถือของพี่เตอร์แก่เค้า เค้าก็วางสายไปแล้วค่ะ ว่าแต่ว่าเรื่องอะไรกันหรือคะ จูนงง ผมไม่ตอบได้แต่ยิ้มๆ แล้วเดินเข้าออฟฟิศมา ปล่อยให้เจ้าจูนอยู่ในโลกแห่งความงวยงงของเธอต่อไป จนดูเหมือนว่าชีวิตนี้เธอเกิดมาเพื่อจะงงอย่างเดียว ผมได้ยินแต่เสียงอุบอิบตามหลัง ขี้โกงๆ ถามอะไรไปก็ยิ้มๆๆ เชอะ และแล้ว เวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง หลังจากทำงานเสร็จก็ล่วงเลยมาจนถึง 4 ทุ่มครึ่ง เจ้าจูนยังไม่กลับบ้าน เพราะติดงานพิมพ์ของลูกค้าอยู่ ผม connect เข้าเน็ตก็พบกับเธอ แม่สาวไซบีเรียน ฮัสกี้ คนดี คราวนี้มาก่อนผมเลยแฮะ เดี๋ยวเถอะ จะดูซิว่าจะมาลูกไม้ไหนอีก boy wear glasses: มารอผมเหรอครับ แม่สาวฟอร์มร้าย นามเปิ้ล เอ้ย! หรือหลิวดีเอ่ย ดีใจที่ได้พบกับตัวจริงของคุณนะ ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ^____^ เช่นกันค่ะ ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ตอนนี้หลิวเลี้ยงวันเกิดอยู่ ยัยเปิ้ลก็อยู่นะ มาไหมคะเตอร์ มาพบกันอีก ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ใส่เสื้อสีน้ำเงินหล่อเชียวนะ เตอร์น่ารักสมคำล่ำลืออย่างที่ยัยเปิ้ลบอกเลยนะคะ ตาหยีๆ ตี๋ๆใส่แว่น สเป็คเลย boy wear glasses: โธ่ เปิ้ลผมรู้ตั้งนานแล้วละว่าคุณเป็นใคร จะอำกันไปถึงไหน เอางี้ละกัน ผมจะเรียกคุณว่าหลิวเหมือนเดิมดีมั้ยเรามาคุยกันดีๆ ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้ คุณเข้าใจผิดอย่างมโหฬารเลยล่ะ ไซบีเรียน ฮัสกี้ : เตอร์เคยคิดไหม ว่าหลิวอาจจะเป็นคนที่อยู่ใกล้ ๆ กับเตอร์ก็ได้ หรืออาจจะเป็นคนที่อยู่ไกลกัน แต่ที่แน่ ๆ คือ เราเจอกันในอินเตอร์เน็ต และคบหากันมานานจนเข้าใจกัน หลิวว่าถึงเวลาแล้วล่ะ ที่หลิวจะบอกความจริงกับคุณเสียที boy wear glasses: หลิวไม่บอก ผมก็รู้อยู่แล้วละครับ ไซบีเรียน ฮัสกี้ : แล้วถ้าไม่ใช่อย่างที่เตอร์คิดล่ะคะ จะว่าไงเอ่ย ^___^ บอกไว้เลยค่ะ ว่าหลิวไม่ใช่เปิ้ล ลองมองไปรอบ ๆ ข้างคุณสิ boy wear glasses: หลิวนี่แปลกนะ จะอำอะไรอีก ผมชักอารมณ์เสีย มาไม้ไหนอีกเนี่ย ผมมองไปทางหน้าร้าน เห็นเจ้าจูนนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ภาพที่เห็นมันทำให้ผมขนลุกเมื่อคิดถึงเหตุและผล เจ้าจูนทำอะไร ระยะเวลา ความลงตัว เหตุการณ์ทั้งหมด ช่างลงตัว ไม่ ๆ ๆ ต้องไม่ใช่แบบนี้ จะว่าไปแล้ว มันก็มีส่วนอยู่มากเลยนี่นาที่จะเป็นเจ้าจูน เธออยู่เคียงข้างผมเสมือนรู้ใจ เธอไม่มาวันเกิดเธอ เพราะต้องเฝ้าร้าน เจ้าจูนเหรอ เจ้าจูน ๆ ๆ ผมลุกพรวดวิ่งตาตื่นออกมาหาเจ้าจูนที่หน้าร้าน เธอกำลังนั่งอยู่หน้าคอมฯ เป็นไปไม่ได้ ๆ ต้องไม่ใช่อย่างงี้แน่ ๆ ๆ มีอะไรหรือคะพี่เตอร์ เธอคือหลิวเหรอ หลิว? พี่เตอร์เล่นอะไรตอนค่ำเนี่ย จูนไม่เข้าใจ เจ้าจูนทำหน้ามึนตามเคย เธอคือหลิวใช่ไหม บอกพี่มาตรง ๆ ไหนดูบัตรประชาชนหน่อย จะดูวันเกิด แอร์ในร้านเย็นเฉียบ แต่ผมเหงื่อแตกพลั่ก พี่เตอร์คะ งานเนี่ยจะเอาไหม จูนไม่รู้ว่าพี่พูดถึงอะไร แต่ที่แน่ ๆ คือตอนนี้จูนยุ่งมากเลยค่ะพี่ จะเอาไปช่วยพิมพ์ไหมคะเนี่ย งานเนี่ย ไม่ฟังเสียง ผมเดินเข้าไปมองหน้าจอมอนิเตอร์เครื่องคอมฯ ของเธอ เธอไม่ได้ใช้เน็ตอยู่นะ งานจูนสุมหัวอยู่เนี่ย จะเอาเวลาไหนมาเล่นเล่า ไม่รู้ล่ะ จ่าย OT. มาเยอะ ๆ ด้วยนะคะ วันเนี้ย โล่งอก เธอไม่ได้เล่นเน็ต และวันเกิดเธอก็เลยมาหลายเดือนแล้ว ผมกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานของผมอีกครั้ง คนอะไร อู้งาน แอบไปหาแฟน แถมขนมก็ไม่ยอมซื้อมาฝาก เชอะ ๆ ๆ เสียงบ่นแจ้ว ๆ ของเจ้าจูนตามหลังมาเหมือนเดิม ผมได้แต่ยิ้ม ๆ แล้วเข้ามาคุยกับหลิวต่อ boy wear glasses: เปิ้ล คุณอย่าหลอกผมให้หัวปั่นอีกเลย บอกความจริงมาเถอะนะ ผมร้อนรนเหลือเกินแล้ว ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ไม่มีใครโกหกคุณหรอกค่ะ สิ่งที่ยัยเปิ้ลคุยกับคุณก็ไม่ใช่เรื่องโกหกนะ ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ยัยเปิ้ลไม่ได้บอกซะหน่อยว่าวันนี้วันเกิดของหล่อน ที่หล่อนพูดว่า มาคุยเรื่องจัดงานวันเกิดวันนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นวันเกิดหล่อนนี่ boy wear glasses: ถ้าไม่ใช่ แล้วคุณเป็นใครกันครับ boy wear glasses: แล้วเรื่องสอน php เรื่องโทรศัพท์ที่โทรมาร้านผมล่ะ แล้วเรื่องที่เราบังเอิญพบกันที่ร้านไอศกรีมล่ะ ผมค่อยๆ นึกเรื่องตามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ไซบีเรียน ฮัสกี้ : หลิวเล่าเรื่องของคุณให้ยัยเปิ้ลฟังและเอารูปในเมล์ให้ดู ยัยเปิ้ลมันขอไปดูตัวจริงของคุณแทนหลิวน่ะค่ะ ว่าเหมือนกับในรูปหรือเปล่า หลิวคงไม่กล้าไปหรอก ประจวบเหมาะกับที่ยัยเปิ้ลกำลังทำโปรเจ็คอะไรของหล่อนที่ ม. หลิวก็เลยแนะนำให้ยัยเปิ้ลไปหาคุณด้วยไง ส่วนเรื่องโทรศัพท์เตอร์ลองคิดดีๆ สิคะ boy wear glasses: งั้นคุณก็คือ......... ผมเริ่มจับเค้าได้แล้ว มันทำให้ผมขนลุกซู่ในสิ่งที่ผมเข้าใจเมื่อเทียบกับความเป็นจริง ไซบีเรียน ฮัสกี้ : ใช่แล้วค่ะ เป็นอย่างที่คุณกำลังคิดน่ะแหละ ^___^ แทบช็อคกับเรื่องราว ผมแยกแยะไม่ออกแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ไม่รอช้ารีบออกจากเน็ตแล้วขับรถไปร้าน argosy แห่งนั้นอีกครั้ง ทิ้งให้เจ้าจูนอยู่ที่ร้านคนเดียว หวังว่างานวันเกิดคงยังไม่เลิกนะ มันค้างใจยังไงก็ไม่รู้ ในสมองตอนนี้แทบระเบิด มวลสารแห่งเรื่องราวไหลเรื่อย ๆ เข้ามาให้สมองประมวลผล มโนภาพตอนหนึ่งที่เธอคุยโทรศัพท์ แล้วคนชื่อเปิ้ลเดินเข้ามาหาผม ไหลผ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นเธอเองหรือนี่ ที่โทรมาบอกเจ้าจูนว่าให้ผมเอาดอกไม้และของขวัญไปฝากไว้ที่หน้าเคาท์เตอร์ เป็นเธอเองหรือนี่ แม่คนขายไอศกรีมคนนั้น ขอให้ผมเป็นคนยื่นของขวัญวันเกิดให้คุณ ด้วยมือของผมเองได้มั้ย ผมเอง ที่เป็นคนยื่นของขวัญและช่อดอกไม้ให้เธอเองกับมือ เธอทำในสิ่งที่ผมบอกทุกอย่างเลย ผมพยายามนึกถึงใบหน้าผู้หญิงผิวขาวหน้าหมวย ๆ คนที่ผมเล่นมุขฝืด ๆ คนนั้น เธอเองหรือ เธอเองหรือ ๆ ๆ ดังก้องอยู่ในหัวผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันทำให้ผมฉนง ปนอึ้ง โดยที่ทั้งหมดนั้นฉาบไปด้วยความสุข รอยยิ้มปริ่มเต็มใบหน้า ผมไม่สนหรอกว่าเธอจะเป็นสาวชุดขาวคนสวย หรือคนขายไอศกรีมหน้าหมวยคนนั้น เอาเถอะนะ ยังมั่นใจอะไรไม่ได้หรอก จนกว่าจะพบกับเธอจริง ๆ อีกไม่กี่อึดใจหรอกนะ รอหน่อยนะเจ้าหัวใจของผม ^_____^ บนถนนเส้นเดิมๆ สิ่งที่อยู่ล้อมรอบตัวเราก็เป็นเหมือนเดิมๆ หลายสิ่งหลายอย่างได้ไปถึง ณ ปลายทางที่ที่มันควรจะไป แต่ความวุ่นวายของผมเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น คุณว่าผมจะพบเจอกับอะไรอีกไหมครับ . .ใครรู้บ้างเอ่ย....
25 กรกฎาคม 2546 17:05 น. - comment id 69311
โห!!. . .ลุ้นตลอดเรื่องเลยอ่า เขียนน่าติดตามดีนะ. . .เขียนดีจัง ชอบ ถ้าเขียนต่อ. . .จาตามอ่าน จริงๆ นะ =^___________^=
26 กรกฎาคม 2546 03:00 น. - comment id 69317
น่ารักจังเลยค่ะ.. ตามอ่านแบบลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (แหะๆเพราะเราก้อเคยเป็นน่ะ) ..เขียนจากชีวิตจริงรึป่าวค่ะ????.. ^ 0^
26 กรกฎาคม 2546 03:33 น. - comment id 69318
สนุกดีนะ เขียนต่อไปล่ะ
28 กรกฎาคม 2546 14:38 น. - comment id 69320
สนุกดี น่าค้นหาคล้าย ๆ เรื่องแนวสืบสวนเลยประทับใจมาก อยากมีอย่างนี้มั้งจัง .....เขียนน่าอ่านม้าก.................มากค่ะ
1 สิงหาคม 2546 03:21 น. - comment id 69334
ดีใจที่ได้รอ รอ เพื่อสิ่งที่ดีๆ
1 สิงหาคม 2546 15:07 น. - comment id 69337
คุณเชื่อไหมฉันเจอผู้ชายคนหนึ่งใน icq ฉันเป็นฝ่ายไปทักทายเขาก่อน ผลัดกันเล่าเรื่องราวของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง ฉันเชื่อเค้านะ ...เพราะฉันก็พยายามค้นหาความจริง และมันก็ตรงกับข้อมูลที่ได้มาเชื่อถือได้ เค้าไม่โกหกฉันแน่นอนและฉันก็ไม่ใช่คนชอบหลอกลวงเช่นกัน และต่อมาเราก็คุยกันเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ ฉันระบายความทุกข์ของฉันให้เขารับฟัง เขารับฟังและให้กำลังใจย่างทีฉันไม่คิดว่าจะได้จากใคร วันที่เค้าไม่สบายใจฉันก็รับฟังเช่นกัน แม้จะทำหน้าที่ที่ปรึกษาได้ไม่ดีเท่าไหร่ เราคุยกันได้ดีนะในความคิดของฉัน แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเค้ารำคาญฉันบ้างไหม ฉันรู้ตั้งแต่แรกว่าเค้ามีคนรักอยู่แล้ว นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะฉันต้องการแค่ใครสักคน เป็นเพื่อนคุย เป็นคนรับฟัง เป็นที่ปรึกษา เค้ามักเล่าเรื่องแฟนของเค้าให้ฉันฟังเสมอ เค้ามีความสุขที่จะบรรยายว่าแฟนเค้าน่ารักเพียงใด ตอนแรกฉันก็เฉย ๆแค่ รู้สึกว่าเค้าเป็นคนที่มั่นคงต่อความรักดี ฉันชื่นชมเค้าเหลือเกิน ...เค้าเป็นคนดีในสายตาฉัน คุณเชื่อไหม...ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน หลัง ๆ เมื่อเค้าเล่าเรื่องคนรักของเขา ฉันเริ่มมือเย็น ใจสั่น และไม่มีแรงคีย์ข้อความตอบ มันไม่ใช่ความปวดร้าว และคงไม่ใช่ความยินดีเหมือนแต่แรก แต่ฉันไม่เคยจะบอกกล่าวความรู้สึกนี้ให้เขารับรู้ มันคงไม่เหมาะหรอก...ที่เขาจะมารับฟังเรื่องนี้ ฉันพยายามจะต้านทานความรู้สึกของตัวเอง แต่ก็นั่นแหละฉันหนีใจตัวเองไม่พ้น มันทรมานเหลือเกิน เชื่อไหม...ฉันไม่กล้าเรียกมันว่าความรัก ฉันคงแค่หวั่นไหวไปกับตัวอักษรที่เห็นเท่านั้น มันคงเป็นแค่ความฝัน...ฉันอยากจะตื่นเหลือเกิน ตื่นจากฝันหวาที่ไม่มีทางเป็นจริง ฉันคงเป็นคนโง่ที่ปล่อยให้ โลกที่ไร้เงาทำร้ายตัวและหัวใจของตัวเอง ไม่รู้ว่าต่อไปจะทำยังไง จะไปคุยกับเขาเหมือนเดิม หรือหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น ใครก็ได้ช่วยตอบฉันที....
2 สิงหาคม 2546 02:06 น. - comment id 69345
เยี่ยมมากเลยฮะ ยังเข้าใจผิดว่าเรื่องจริง เพราะมันสมจริงมาก น่าติดตามดีมากๆเลย ชอบบบ ขอเอาใจช่วยให้คุณสร้างผลงานดีๆออกมาอีกนะครับ
4 สิงหาคม 2546 12:05 น. - comment id 69349
เหนื่อย
4 สิงหาคม 2546 12:06 น. - comment id 69350
อ่านแล้วเหนื่อย
8 สิงหาคม 2546 13:23 น. - comment id 69374
เค้าสามารถทำให้หัวใจคุณพองโตได้ ก็แสดงว่าเค้าเป็นคนพิเศษที่สุดเลยนะคะ ขอให้หัวใจคุณทั้งสองคนพ่องโตกว่านี้อีกนะจ๊ะ
8 สิงหาคม 2546 13:33 น. - comment id 69375
เค้าสามารถทำให้หัวใจคุณพองโตได้ ก็แสดงว่าเค้าเป็นคนพิเศษที่สุดเลยนะคะ ขอให้หัวใจคุณทั้งสองคนพ่องโตกว่านี้อีกนะจ๊ะ จาก : ดอกคิดถึง
14 สิงหาคม 2546 23:25 น. - comment id 69401
ดีจัง น่ารักดีอ่ะ
14 สิงหาคม 2546 23:44 น. - comment id 69402
ฉันกำลังจะเลิกกับแฟน แล้วพี่คนหนึ่งในเน็ต เค้าแสนดีกับฉันมาก จนฉันเกือบจะรักเค้าแล้วติดที่ยังคาราคาซังกับแฟน ที่มีปัญหากันมานาน พอจบกันกับแฟน ฉันเสียใจ (ใครละจะดีใจ) ฉันเลยไปพบกับพี่แสนดีคนนั้น แล้วเค้าก็ข่มขืนฉัน ที่ผ่านที่เค้าดีกับฉัน เค้าต้องการแค่นี้เอง ฉันเพิ่งเข้าใจ หลังจากเหตุการณ์คืนนั้นผ่านไปแล้ว มีแค่เราสองคนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้น ฉันจะจำไว้เสมอ ว่า ผู้ชายดีๆ สูญพันธุ์ไปแล้ว หรือถ้ามีจริง ฉันก็คงไม่ดีพอ
15 สิงหาคม 2546 22:37 น. - comment id 69404
อืมๆ....ถ้าบอกว่ามืออาชีพก็เช่อน่ะนี่เรื่องราวงี้มีเยอะในยุคนี้ค่ะ
17 สิงหาคม 2546 21:16 น. - comment id 69411
สนุกมากเลยค่ะ อยากรู้จังเลยว่าตอนจบเป็นอย่างไร
25 สิงหาคม 2546 17:51 น. - comment id 69463
ก็คงเหมือนกันกับผมน่ะสิตแนนี้ผมหลงรักคนที่คุย msn กันแค่2ครั้งเองทำไงดีเนี่ยปวดใจจังยังไงก็ฝากเรื่องของผมไว้ด้วยนะ
25 สิงหาคม 2546 17:51 น. - comment id 69464
ก็คงเหมือนกันกับผมน่ะสิตแนนี้ผมหลงรักคนที่คุย msn กันแค่2ครั้งเองทำไงดีเนี่ยปวดใจจังยังไงก็ฝากเรื่องของผมไว้ด้วยนะ
26 สิงหาคม 2546 19:32 น. - comment id 69474
เหอะๆ สนุกจังค่ะ! ูู^^
26 สิงหาคม 2546 20:04 น. - comment id 69475
แต่งได้น่าติดตามดีนะครับ เป็นกำลังใจนะ แต่งเรื่องใหม่ๆแล้วจะแวะมาอ่านนะครับ
27 สิงหาคม 2546 13:05 น. - comment id 69476
ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับที่แวะเข้ามา เอ่อ! อยากบอกว่าเรื่องนี้จบแล้วครับ แฮ่ะ ๆ
4 กันยายน 2546 17:58 น. - comment id 69541
อ่านจบแล้วสนุกดี....ทำให้หัวใจเราพองโตไปด้วย..แวะมาทักทายนะ
5 กันยายน 2546 13:57 น. - comment id 69544
ก็สนุกดีนะ คล้าย ๆ เราเลยแฮะ แล้วตอนจบจะเป็นยังไงอะ เหมือนกะเราอะป่าว
2 มกราคม 2547 22:43 น. - comment id 70577
โห! เขียนได้น่าติดตามมาก ลุ้นตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ
6 มกราคม 2547 12:59 น. - comment id 70600
ไม่น่าเลยครับ ลุ้นตลอด มันจะจบอย่างไรเนี่ย