ฟ้าเพียงดิน (๙) ชายหนุ่มมองทั้งสองสามารถเข้ากันได้อย่างรวดเร็วรู้สึกต่างสนิทสนมกันยิ่งนัก ทำให้ชายหนุ่มอมยิ้ม พลางนึกในใจว่า อันคำโบราณกล่าวไว้ไม่ผิดเลยว่า “ คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา” อันที่จริงเพื่อนคนนี้ก็ใช่ว่าจะด้อยในความรูปหล่อก็หาไม่ บรรดาแอร์โฮสเตรทต่างพากันหลงใหลเกือบ ทั้งสิ้น แต่เจ้ากนกมันหาได้สนใจไม่ มันกล่าวไว้ว่าเป็นโสดนั้นดี สามารถไปไหนมาไหนได้คล่องตัว ไม่อยากหาห่วงมาคล้องคอมันเหมือนหมาที่ถูกจูงไป ถ้าจะจริงของมันแล้วพลอยคิดไปถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่น่าสงสารนัก ใบหน้ารูปไข่ค่อนข้างกลม แก้มสองข้างบุ๋มเป็นรอยเห็นได้ชัด ผมยาวที่ถูกมัดบ้างถักเป็นเปีย บ้างรวบแล้วมัดเป็นพวงเดียวกัน ป้ายมาข้างด้านหน้าของหล่อน ใบหน้าหาสิ่งแต่งเติมด้วยเครื่องสำองค์ไม่มีเลยด้วย ความสวยแบบธรรมชาตินี่เองทำให้ความงามไปอีกรูปแบบหนึ่ง ชายหนุ่มซึ่งเป็นคนที่ชอบในสิ่งที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เขาก็พลอยนึกถึงสาวๆในต่างประเทศ ในระหว่างศึกษาและท่องเที่ยวไปในอเมริกายุโรป บรรดาสาวพอแรกเริ่มเป็นสาวก็ล้วนต่างน่าตาสวยๆ แต่ก็ใช้เครื่องสำอางเสริมใบหน้าอีกแทบทั้งสิ้น เป็นเกือบทุกๆคน บางคนใบหน้าตกกระตั้งแต่สาวๆแต่ บางคนก็ไม่เป็น และแก่เร็วเสียด้วยพออายุย่างเข้ายี่สิบสามสิบร่างกายก็เปลี่ยนแปลงไป ผิวหนังก็หยาบกร้านเป็นรอยตกกระหาที่จะแนบเนียนเหมือนสาวชาวเอเชียไม่ได้เลย จะเป็นด้วยดินฟ้าอากาศที่สร้างไว้ให้ก็ได้ ฉะนั้นพวกหล่อนจึงชอบอาบแดดกันนั่นเอง เขาสะบัดศีรษะเบาๆเพื่อขจัดสิ่งเหล่านี้ออกไป พร้อมกล่าวกับคุณพิมพ์และเพื่อนว่า “ขอโทษนะเพื่อนและคุณพิมพ์ ผมขอพักผ่อนหน่อย ด้วยไม่ได้นอนหนุนตักแม่มานานแสนนานแล้ว” พอกล่าวจบก็ล้มตัวลงนอนหนุนตักแม่แย้มทันทีแสร้งเป็นหลับในตาแต่ความคิดอ่านของเขากลับหวนไป ยังบ้านหลังน้อยที่เขารัก ป่านฉะนี้สาวใบหน้าน่ารักจะทำอย่างไรบ้าง ฝ่ายแม่แย้มเมื่อเห็นลูกชายที่หล่อนเลี้ยงดูมาทำเหมือนเด็กๆสำหรับเธอ ก็ยกมือพลางลูบไล้ไปบนใบหน้า ย้อนนึกอดีตเก่าๆ เด็กคนนี้หล่อนเองเลี้ยงมาตั้งแต่ยังแบเบาะอยู่อบรมสั่งสอนสิ่งต่างๆจนเติบใหญ่ ไม่คิดเลย ว่าตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศร่างกายจะใหญ่โตเช่นนี้ไปได้ผิดพ่อผิดแม่ไปหมด จนกระทั่งเด็กคนนี้เรียก หล่อนว่าแม่มาตั้งจำความได้มาตลอดไม่เคยห่างกันเลยไปไหนไปด้วยกันเสมอ แต่พอไปเรียนต่อยังต่างประเทศหล่อนถึงได้กลับมายังสวนเมืองนนท์ ทุกๆคืนหลังจากสวดมนต์ไหว้พระหล่อนจะขออำนาจคุณพระรัตนตรัยให้ช่วยปกปักรักษาชายหนุ่มตลอดมา มิเคยขาด ถึงจะไม่ใช่ลูกของตัวก็เหมือนลูกของตัวเอง ดังนั้นหล่อนจึงมอบความรักทั้งหมดให้แก่ชายหนุ่ม จนหมดไม่เหลือไว้เลย ในระหว่างการเลี้ยงดูเด็กคนนี้มีคนมาชอบพอแกก็หลายๆคนล้วนแล้วแต่ฐานะดีหาใช่คน ขี้ริ้วขี้เหล่แต่ประการใด หล่อนเองก็หาใช่ไม่สวยจัดได้ว่าเป็นคนสวยคนหนึ่งหล่อนและคุณอัศวโรจน์เป็นลูกพี่ ลูกน้องกัน ดังนั้นชายหนุ่มที่นอนบนตักแกนี้จึงมีสายเลือดเหมือนกัน สมบัติพัสถานในสวนนี้แกได้ทำมรดกไว้แล้วมอบให้ชายหนุ่มเพียงผู้เดียวโดยไปจ้างทนายความไว้เป็นพิเศษ ด้วยแกครองโสดหาญาติอื่นอีกไม่ ฉะนั้นความรักทั้งหมดจึงมอบให้แก่ชายหนุ่มนี้ แต่ชายหนุ่มที่นอนนี้ก็หาได้ สร้างความผิดหวังให้แก่แกไม่เลย เชื่อฟังอยู่ในคำสั่งแก่เสมอจนไปต่างประเทศพึ่งกลับมาทำตัวเสมอต้นเสมอ ปลาย เรียกแก่ว่าแม่ทุกๆคำพูด พลางมือก็เสยผมบนศีรษะชายหนุ่มขยี้เบาๆลูบไล้ไปตามใบหน้าด้วยรอยยิ้ม แสดงความภาคภูมิใจต่อชายหนุ่มนัก การกระทำนี้หาได้รอดพ้นจากสายตาหญิงสาวไม่ แม้แต่เจ้ากนกก็ไม่กล้าที่จะเรียกเพื่อนให้ขึ้นมาร่วมกิน เหล้าด้วยกัน จึงหันไปคุยกับคุณพิมพ์ต่อไป “คุณพิมพ์ครับ...คุณดูซิไอ้กานต์มันออเซาะแม่มันจังน่าถีบนะคุณ” หญิงสาวยิ้มแล้วเอ่ยว่า “อ้าวคุณก็เขาเป็นแม่ลูกกันนี่นา นานๆจะเจอกันสักทีก็เป็นอย่างนี้แหละ สังเกตว่าคุณกานต์จะรักแม่แกคนนี้ มากเสียด้วยนะ” “เห็นมันเคยพูดเหมือนกันว่า มันมีแม่สองคนรักทั้งคู่ ตอนแรกผมนึกว่าพ่อมันมีเมียน้อยเสียอีก ครั้นมาทราบ และได้มาสวนนี้ตอนสมัยเรียนมหา’ลัยกับมันนั่นแหละถึงได้รู้ว่าเป็นแม่นมมันเอง แต่เขาเป็นญาติกันนะครับ” “หรือค่ะ พิมพ์เองก็พึ่งรู้ ตอนแรกคิดว่าป้าแย้มก็เป็นโสดตัวคนเดียวไม่มีญาติ ยังสงสัยเลยว่าทำไมเนื้อที่สวน ก็มีมากแต่กลับซื้อที่เพิ่มเติมมากแทบจะมากกว่าใครๆในแถบนี้เสียอีก” หญิงสาวกล่าว “พิมพ์มองดูสภาพคนทั้งสองช่างน่ารักบริสุทธิ์จริงๆนะค่ะ เอ....คุณกานต์เรียนจบอะไรมาหรือค่ะคุณกนก” “มันเรียนเก่งจริงๆนะครับคุณพิมพ์ จบสองอย่างเลยล่ะ ด้านวิศวกรรมและฝ่ายธุรกิจรวมถึงการปกครองด้วย แถมมันยังได้รับประกาศนียบัตรเกียรตินิยมมาเสริมอีกด้วยซิ” ชายหนุ่มกล่าว “ถ้าอย่างงั้นก็จบปริญญาเอกทั้งคู่ซิค่ะ” “ครับมันได้ปริญญาเอกและเกียรตินิยมทั้งคู่ แต่นิสัยมันแปลกๆไม่ค่อยเหมือนใครหรอก ผู้หญิงฝรั่งติดมัน เกลียวแต่มันคบแค่เพื่อนเท่านั้นหาได้เป็นหลักใดๆไม่ บ้างยั่วมันต่างๆนาๆ ตอนที่ผมไปเยี่ยมมันหลังจากบินไป ถึงได้เวลาพักผ่อนสองวัน ก็เลยแวะไปที่บ้านพักมันที่พ่อมันซื้อไว้ให้อยู่ ขนาดหญิงฝรั่งมันปล้ำมันสวยทั้งสวย มาก แต่มันกลับไล่ให้ออกจากบ้านไป ทำให้สาวนั้นโมโหใหญ่ หอบเสื้อผ้าหนีไปแทบไม่ทันพอดีผมไปเจอเข้า พอดีเลยครับ” หนุ่มกนกกล่าวตอบ “และมันก็ชอบแต่งตัวบ้าๆบอๆเสียด้วย มันจึงเข้ากับพวกพั้งได้ พวกนิโกรมันก็เข้าไปเที่ยวบาร์นิโกรได้ด้วย ทุกๆคนรักมันหมด มันจึงอยู่บ้านได้สบายๆโดยไม่มีใครกล้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องขโมยของในบ้านเลย เพราะมัน เป็นพวกกับนิโกร คุณก็รู้ว่ามันร้ายขนาดไหนยังยอมมันเลยล่ะ” ชายหนุ่มกนกแจ้งให้หล่อนทราบทันที “นับว่าแปลกนะคุณ ปกติคนมีเงินระดับนี้น่าจะวางตัวมากกว่านะ พิมพ์เห็นมามากขนาดมีเงินไม่เท่าไหร่ แต่งตัวโก้วางอำนาจจนน่าหมั่นไส้เลย” หญิงสาวเอ่ย “คุณยังไม่รู้อะไรคุณพิมพ์ ตอนมันกลับมาแขกเหรื่อนั่งรถแต่งตัวประชันความร่ำรวยกัน มันแต่งตัวอย่างไร คุณพิมพ์ลองบอกให้ผมฟังหน่อยครับมันแต่งตัวอย่างไร” ชายหนุ่มกนกหัวร่อเบาๆ “ไม่รู้ซิค่ะ พิมพ์ไม่ได้ไปในงานด้วยท่านผู้บริหารใหญ่ก็บอกให้ไปแต่พิมพ์บอกว่าทางเข้าบ้านอยู่ในสวนลึก อันตรายมาก ท่านจึงอนุญาตให้ค่ะ” “มันไปที่บ้านผมแม่บ้านดูแลบ้านบอกว่า มันไปเอาเสื้อผ้าผมที่ขาดๆเก่าผมใส่เล่นด้วยรักเสื้อกางเกงทั้งสองมากแต่มันเก่าๆมาก มันไปเอามาใส่แล้วทิ้งเสื้อผ้ามันไว้ที่นั่น แล้วลากรองเท้าฟองน้ำมาถึงงาน รปภ. ไม่ยอมให้มันเข้ามาในงานเลย” กล่าวจบชายหนุ่มก็หัวร่อดังลั่นจนแม่แย้มหันไปมองตาเขียวทันที นั่นแหละเจ้ากนกถึงยกมือไหว้ขอโทษเบาๆ แม่แย้มก็ฟังชายหนุ่มกล่าวกับหนูพิมพ์ด้วยความสนใจเช่นกัน แต่ที่ทำตาเขียวเพราะชายหนุ่มกนกหัวร่อดังไป กลัวจะทำให้ลูกของตัวที่นอนอยู่คุดคู้เหมือนเด็กๆจะตื่นขึ้นมา แล้วแม่แย้มก็ขอร้องให้ชายหนุ่มเล่าต่อพลางกล่าวว่า “ แม่ก็อยากจะรู้เหมือนกันแต่พ่อกนกพูดเบาๆหน่อย เดี๋ยวลูกกานต์จะตื่นตกใจจ๊ะ” หญิงค่อนข้างชราเอ่ยขึ้น “ครับแม่” แล้วชายหนุ่มก็เล่าต่อทันที มันแต่งตัวเหมือนคนบ้าๆ นั่งรถแท็กซี่ผ่าเข้ามากลางงานเล่นเอา บรรดาเพื่อนคุณพ่อมันและคุณหญิงคุณนายทั้งหลายตระหนกไปตามๆกัน มันทำเป็นไม่สนใจก้าวลงจากรถแล้ว จ่ายเงิน มันจะเดินเข้าไปในบ้าน หากคุณแม่มันไม่เรียกก่อนมันคงไม่เข้ามา คุณเอ๋ย หัวมันฟูเสื้อผ้าเก่าๆลากรอง เท้าแตะฟองน้ำเดินไปหาคุณหญิงแม่มัน ยกมือไหว้แล้วเดินไปหาคุณพ่อมันกอด เล่นเอาคนในงานตลึงกันไปหมด ผมอยู่ยืนคุยกับเพื่อนๆแต่ทุกๆคนรู้นิสัยมันดีต่างอมยิ้มไปตามๆกัน แต่พวกคุณหญิงคุณนายพาลูกสาวมาเพื่อจะคิดใคร่ผูกพันใจมัน ต่างอ้าปากค้างไปตามๆกัน ไม่แค่อย่างนั้นนะคุณมันยังพาคุณพ่อมันออกมาเต้นจังหวะลาตินอเมริกันอีกด้วย คราวนี้ทั้งคุณพ่อคุณแม่มัน ก็พากันเต้นกันใหญ่ ทำเอาพวกคุณหญิงคุณนายทั้งหลายเหมือนตกกระไดพลอยโจน รวมทั้งลูกสาวๆทั้งหลาย พากันเข้าร่วมด้วยเลย ทำเอาพวกผมหัวร่อกันใหญ่ ไอ้พวกผมรวมทั้งผมด้วยก็หาทางได้โอกาสก็ได้รู้จักพวกหล่อนๆ ที่ทำไปนั้นต้องการทราบความจริงว่า เรื่องราวเป็นอย่างไรถึงได้รู้ได้ยิน สาวๆพวกนั้นมันก็เรียนจบจากมหา’ลัยเดียวกัน แต่ต่างคณะกันครับ ตอนเรียนกันอยู่นั้น พวกสาวๆนั้นเรียกไอ้กานต์ว่า “ ไอ้ตี๋หน้าจืด “ มันโมโหใหญ่จนทุกวันนี้ไอ้กานต์มันก็ไม่ลืมเลยครับ เมื่อเล่าจบทำเอาคุณพิมพ์และแม่แย้มต่างหัวร่อร่วนๆไปตามๆกัน พอพวกลูกคุณหญิงคุณนายมาหามัน มันไม่สนใจเลยจนคุณแม่มันต้องขอร้องนั่นแหละมันถึงจะเข้าไปพูด ด้วย หากคุณไม่เชื่อผม คุณพิมพ์ลองเรียกไอ้กานต์ซิว่า “ ไอ้ตี๋หน้าจืด” ซิครับ ชายหนุ่มเล่าจบก็หัวร่อใหญ่ “จ๊ะบ้าหรือคุณเขาเป็นเจ้านายพิมพ์นะ เดี๋ยวเขาโกรธพิมพ์ก็แย่ซิ” หญิงสาวหันไปค้อนวงใหญ่ “ผมว่าสำหรับแม่คงไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะมันพูดให้พวกผมฟังเสมอๆครับ” แม่แย้มได้ยินก็หัวร่อแต่ไม่ได้กล่าวอะไร พลางหันไปลูบแก้มชายหนุ่มเบาๆ ทันใดนั้นร่างของชายหนุ่มชื่อกนกก็กระเด็นไปติดซี่ลูกกรงดังโครมทันที เล่นเอาชายหนุ่มชื่อกนกร้องลั่น บ้านทันที “ไอ้เห้????....หรือไม่จริงว๊ะ ไอ้ห่ากูนึกว่ามึงนอนหลับไปเสียอีก” กล่าวจบพร้อมหัวร่อ ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งทันที พร้อมยกมือทั้งสองลูบเสยผมให้เรียบร้อย หันไปไหว้แม่แย้มทันที “กานต์ขอโทษแม่นะ ไอ้ห่านี้เล่าซะหมดเปลือกเลยล่ะแม่” ชายหนุ่มกล่าว “ไม่เป็นไรนี่ลูก สนุกดีซะอีก” แม่แย้มเอ่ยขึ้น “สำหรับแม่ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอายคุณพิมพ์เขา ไอ้ห่านี้เสือกเล่าซะหมดทีตอนดีๆไม่เล่า สมควรแล้ว” “ตอนไหนว๊ะที่มึงบอกว่าดี ส่วนใหญ่ระยำทั้งนั้น” หนุ่มกนกกล่าว “อ้าวก็ตอนที่กูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเล่าทำไมไม่เล่าด้วยล่ะว๊ะ” ชายหนุ่มเถียง “อ้อๆๆ????....นี่หรือดีของมึงมันก็ไอ้สัปปะรังเคคล้ายๆกันแหละว๊ะ” หนุ่มกนกเถียง “เออๆๆใช่แต่ไม่เหมือนเดิมหรอกโว้ย” “พอๆๆเถอะลูกทั้งสอง ทะเลาะยังกับเด็กๆไปได้” แม่แย้มกล่าวแล้วหัวร่อที่เห็นเถียงกันเรื่องนิดๆเท่านั้น “เอามึงไม่ต้องไปจีบคุณพิมพ์ให้มากไปหรอก มาๆๆรินเหล้าให้กูหน่อยโว้ย” ชายหนุ่มกล่าว เล่นเอาชายหนุ่มชื่อกนกใบหน้าเจื่อนๆไปทันที “เดี๋ยวพิมพ์รินให้ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวกล่าวขึ้นพลางหยิบขวดเหล้านำน้ำแข็งใส่แก้วทันที “ไม่ต้องหรอกครับคุณพิมพ์ ผมจะให้ไอ้หนกมันรินให้ครับ โทษฐานปากหมา” “มาๆๆเอามาครับคุณพิมพ์ แล้วอย่าเสือกบ่นอีกล่ะ คราวนี้กูเอาเหล้าสาดหน้ามึงแน่ๆ” กล่าวจบก็หยิบ เหล้าและแก้วใส่น้ำแข็งมา พร้อมเทเหล้าเกือบครึ่งแก้วพร้อมรินโซดาใส่ทันที เล่นเอาหนุ่มกานต์นัยน์ตา เหลือกทันที “เฮ้ยๆๆๆ!!!!....มึวางยากูหรือว๊ะไอ้เห้....” “แน๊ะๆๆไอ้ห่านี่ กูรินให้แล้วเสือกบ่นอีก” พร้อมหนุ่มกนกก็รินเหล้าในแก้วใส่ลงแก้วตัวเองพร้อมผสม โซดาทั้งสองแก้ว แล้วยื่นส่งให้ชายหนุ่มทันที “ยังงี้ซิว๊ะถึงได้รักกันจริงนึกว่ามึงจะมอมกูเสียอีก” “ไอ้เห้...ทำดีเสือกจะไม่ได้ดีซะแล้วซิ อนาถใจกูจริงๆนะ” แล้วหนุ่มกนกก็ยกเหล้าดื่มรวดเดียวหมดแก้ว “ทีนี้มึงบ้างล่ะเมื่อกี้นี้ถีบกูไม่ไว้หน้าสาวๆเลย หากไม่หมดกูลุกขึ้นเตะมึงแน่ๆโว้ย” หนุ่มกนกกล่าวพร้อม ลุกขึ้นยืน ครั้นชายหนุ่มเห็นดังนั้นจำใจยกขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว แล้วพอวางลง คุณพิมพ์ก็หยิบแก้วทั้งสองมา จัดการผสมให้ใหม่แล้วไปวาง ที่เบื้องหน้าหนุ่มทั้งสองพลางอมยิ้ม หล่อนคิดในใจว่าทั้งสองคนนี้ช่างรักใคร่กัน จริงหนอ หล่อนเห็นมามากๆแล้วไม่เหมือนคู่นี้ที่หยอกกันแรงๆก็ไม่ถือสาโกรธกันเลย แม่แย้มก็ลุกขึ้นบอกว่าเดี๋ยวจะไปหากับแกล้มให้ยายแจ่มทำเพิ่มอีก ชายหนุ่มยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วเอ่ยว่า “ไม่ต้องหรอกแม่ แค่นี้ก็พอแล้วนี่ก็จวนจะมืดค่ำแล้วเดี๋ยวก็คงจะกลับหรอก แหม๋แม่ครับเหล้าแก้วนี้หวาน อร่อยหอมหวนจริงๆนะครับแม่” กล่าวเสร็จใบหน้าหันไปทางแม่แย้มแต่สายตามองไปยังเพื่อนดูอาการมัน “แม่ๆๆๆไอ้ห่ากานต์โกหกหน้าด้านๆเลยแม่ มันยังไม่ได้จิบเหล้าแก้วที่คุณพิมพ์รินให้เลย เสือกรู้ว่าหวาน หอมแล้ว” “อ้าวก็จริงๆนี่หว่า กูเห็นมึงจิบไปยิ้มหวานทางคุณพิมพ์กูก็รู้ว่า เหล้าคงหวานหอมนะซิโว้ยไอ้เห้...” คราวนี้เหล้าที่ยกขึ้นดื่มของหนุ่มกนกก็เกิดอาการสำลักพรวดทันที........... * แก้วประเสริฐ.*
23 มีนาคม 2553 19:41 น. - comment id 116096
23 มีนาคม 2553 23:50 น. - comment id 116101
คุณ ฉางน้อย สงสัยหลานเราต่อมทอมซิน ทานยานะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 มีนาคม 2553 09:54 น. - comment id 116102
คุณชายฯ เครื่องสำอางค์ทั้งสองคำเลยนะคะ ขอโทษนะคะ....แสงดาวก้อเป็นแบบนี้ เหมือนกัน บางครั้งมีเพื่อนมาบอกค่ะ @เคารพค่ะ@
24 มีนาคม 2553 11:43 น. - comment id 116103
คุณ ทางแสงดาว เป็นเรื่องจริงนะครับ เฉพาะตัวผมเองนั้น เคยเห็นมาแล้วครับ ตอนใช้เครื่องสำอางค์นั้นดู สดสวย วันหนึ่งผมไปเจอตอนเขากำลังแปรงฟัน อยู่ นี่พูดถึงสมัยก่อนนะครับ มักจะไม่มีห้องน้ำ เวลาอาบน้ำจะอาบกลางแจ้งกัน ผมเจอทีจำไม่ได้ เลยครับ จนเขาเงยหน้ามาทักนั่นแหละถึงได้รู้ เพราะแก่ไปมากจริงๆ การใช้เครื่องสำอางค์นั้นหากพอประมาณ ก็ไม่เป็นไร หากมากไปจะทำให้ใบหน้าย่นเหี่ยว กระด้างไม่ชุ่มชื้นผิวหนังบนใบหน้าจะขาดการ เปลี่ยนแปลงที่เป็นไปตามธรรมชาติ ระหว่าง คนใช้เครื่องสำอางค์กับคนไม่ใช้วัยเดียวกัน พออายุล่วงเข้าวัยกลางคนจะแตกต่างราวฟ้าดิน เชียวครับ คุณหญิงหากใช้ก็เพลาๆลงบ้างค่อยๆ ปรับแล้วเลิกเสียก็จะดี คนเราหากสวยแล้ว ไม่จำเป็นในเรื่องเครื่องสำอางค์ แต่หากทำงาน นั้นก็ควรจะมีบ้างแต่ให้เพียงเบาบางไว้ ด้วย เหตุนี้ ผมเป็นคนที่ชอบสังเกตุจึงทราบทั้งๆที่ เป็นผู้ชาย แต่ความละเอียดรอบคอบผมมักจะ มีเสมอ เหตุด้วยผมตอนเด็กๆมักถูกรังแกจึง คบเพื่อนแต่เป็นหญิงทั้งสิ้น ฉนั้นผมถึงได้รู้ จิตใจอุปนิสัยผู้หญิงมากกว่าชายครับ นี่ผม รักนะถึงบอกให้ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 มีนาคม 2553 13:07 น. - comment id 116104
คุณชายฯ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่แสงดาวบอก ชัดเจน คือแสงดาวอยากให้คุณกลับ ไปดูคำว่าเครื่องสำอางค์น่ะค่ะ......... คุณชายเขียนตกไปบางตัว..... เคารพค่ะ
24 มีนาคม 2553 13:12 น. - comment id 116105
คำที่ตก ...มาแก้ค่ะ... จากชัดเจน ...เป็นไม่ชัดเจน... เคารพค่ะ
30 มีนาคม 2553 12:30 น. - comment id 116175
คุณ ทางแสงดาว คุณหญิง ขอบคุณครับ ผมยอมรับเพราะไม่ ใช่คำแก้ตัวนะครับ คือว่าตาผมลายตอนนี้สายตา ไม่ค่อยจะดี เวลาเขียนสมองผมจะสั่งการก่อนมือ ครับ ด้วยผมจะพิมพ์แบบสัมผัสไม่ได้มองคำ บาง ครั้ง หลายๆครั้งถึงจะถูกผิดไปครับ อย่างไรขอ โทษด้วยก็แล้วกัน ดีแล้วครับผมจะได้จดจำไว้ ครับ เวลาเขียนผมจะใส่อารมณ์เข้าไปในเรื่องทุกๆ เรื่องครับ นึกออกก็รีบเขียนครับ ขอบคุณคุณ หญิงมากครับ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 มีนาคม 2553 12:33 น. - comment id 116176
คุณ ทางแสงดาว คุณหญิงไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองผิดเสมอๆ แต่ก็พยายามจะแก้ตัวยังผิดอีกครับ ระยะนี้ผมเอง ไปงานหาประสบการณ์ ไม่ต้องบอกนะครับงานอะไร คุณก็คงจะทราบดี เก็บเกี่ยวในสิ่งที่เราไม่รู้ให้รู้ไว้ ครับ ด้วยสมัยหนุ่มๆผมไม่เคยพลาดนี่อาจจะเป็น วาระสุดท้ายก็เลย หาประสบการณ์ไว้ครับ ขอบคุณรักคุณหญิงมากเสมอ แก้วประเสริฐ.