ฟ้าเพียงดิน (๗)

แก้วประเสริฐ


                   ฟ้าเพียงดิน  (๗)
   ยามชายหนุ่มเจ้าของบ้านเดินออกจากห้องน้ำก้าวลงมาชั้นล่าง   ครั้นมองไปยังชายหนุ่มนามพีระกานต์
เขาก็ร้องลั่นทันใด
    “ เฮ้ยๆ???...ไอ้ห่ากานต์ไหนว่าจะมาแดกกันที่นี่นี่หว่า  ไปไหนของที่มึงนำมายังไม่ให้ยายพริ้งจัดการอีก?
    “ใครบอกมึงว่ากูจะมาแดกที่นี่ล่ะไอ้หนก  กูจะมาชวนมึงไปแดกในสวนกับกู  เรื่องโทรบอกเพื่อนๆกูไม่ได้
โทรไปบอกใครทั้งนั้นแหละโว้ย....
    หนุ่มชื่อกนกเกาหัวหยิ๊กๆๆ....
    “แล้วเสือกไม่บอกแต่แรก กูนึกว่ามึงจะมาแดกกันที่นี่เสียอีก  งั้นมึงคอยกูแต่งตัวก่อนนะโว้ย รอแป๊บเดียว
ว่าแล้วไอ้หนกก็ก้าวย้อนกลับขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง
      พอมันลงมามันแต่งตัวเสียโก้ กลิ่นน้ำหอมฟุ้งไปทั่วๆห้องเชียว   
   “มึงไม่ต้องเสือกแต่งตัวเสียโก้แบบนี้ก็ได้นี่หว่า แหม๋กางเกงเอยเสื้อผ้าเอยกลีบโง้งเชียวนะมึง”
   “แล้วมันหนักกระบาลมึงหรือ ปกติกูก็แต่งแบบนี้เวลาออกจากบ้านทุกๆทีแหละว๊ะ”
   “เอาล่ะโว้ย!!!....ไปๆๆๆกันเถอะเดี๋ยวนี้ นี่มันบ่ายโมงกว่าๆแล้วล่ะ”
      ครั้นแล้วหนุ่มทั้งสองก็เดินออกจากบ้านพร้อมทั้งหิ้วของพะรุงพะรังเดินกันไป   ไอ้หนกมันยังไปตะโกนสั่ง
     “แม่พริ้งๆๆ...ดูบ้านด้วยนะไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่....”
     “จ๊ะๆคุณชาย”   เสียงดังลอดออกมาจากห้องครัวไม่ต้องล๊อกประตูนะ  ล๊อกประตูหน้าประตูบ้านก็พอฉันเอา
กุญแจมาด้วยแล้ว”
     “เหมือนเดิมจ้าคุณชาย”
 แล้วทั้งสองก็เดินไปที่รถของชายหนุ่มกานต์ทันใด  แล้วสตาร์ทรถออกไปทันที ชายหนุ่มขับรถด้วยความเร็วจน
เพื่อนเขาถึงกับห้ามปรามไว้
    “ไอ้ห่าๆ....ไม่ต้องรีบร้อนนักหรอกเดี๋ยวก็ไปแดกกับยมบาลหรอก  มึงบอกว่าจะไปแดกกันที่สวน
นะสวนไหนหรือว๊ะ”
    “เดี๋ยวมึงก็รู้หรอกน่า  เสือกถามอยู่ได้เดี๋ยวโดนถีบหรอก”
    “ฮั่นแน่ๆ...ขับรถยังถีบกูได้หรือ  “
    “ทำไมจะไม่ได้โว้ยรถกูมันอัตโนมัตินี่หว่าตีนกูยังว่างข้างหนึ่ง”
        ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆรถก็มาถึงเมืองนนทบุรี เขาเลี้ยวผ่านเลี้ยววงเวียนริมแม่น้ำเจ้าพระยากลับรถแล้วเลี้ยว
ซ้ายมือทันที   สักครู่ใหญ่ๆก็เข้าซอยวกไปวกมา   จนไอ้หนกชักสงสัย
       “กูนับดูมึงวกไปหลายวกจริงๆนะไอ้กานต์”
       “อ้าวก็มันอยู่ในสวนนี่นา แต่นี่ดีนะเดี๋ยวนี้เป็นถนนถึงหน้าบ้านแล้ว  มิฉะนั้นกูต้องพามึงแต่งตัวซะโก้รองเท้า
มันปล๊าบแบบนี้  ฮึๆๆย่ำโคลนกันสนุกเลยโว้ย ฮ่าๆๆๆ”
       “เดี๋ยวพ่อตบกระบาลซะเลยไอ้ห่า กูก็ลืมไปว่ามึงจะพามาสวนจริงๆ  กูนึกว่าสวนสยามซะอีก”
ชายหนุ่มไม่ตอบแล้วเลี้ยวขวามือก็ขับตรงมายังบ้านติดถนน  พลางกล่าวว่า 
        “เฮ้ยมึงไปเปิดประตูรั้วหน่อยโว้ย กูจะเอารถเข้าไปว๊ะ”
ไอ้หนกไม่พูดอะไรเปิดประตูรถแล้ว  เดินไปเปิดประตูรั้วบ้านทันที  แต่ทันใดหมาประมาณห้าหกตัวก็วิ่งมาเห่า
ดังขรม  ไอ้หนกรีบวิ่งมาขึ้นรถทันที พลางร้องด่าทันที
        “ไอ้ห่าเสือกไม่บอกว่ามีหมาซะด้วย  ตัวใหญ่ๆเสียด้วย ไหมล่ะจะให้พระเอกโดนหมากัดซะแล้ว มันพูดไป
หัวร่อไป
        “มึงน่าจะรู้นะโว้ยสวนทุกๆสวนนะเขาเลี้ยงหมาไว้ทุกๆสวนแหละเพื่อป้องกันคนขโมยเก็บผลไม้ว๊ะ”
        “ก็กูไม่เคยอยู่สวนนี่นา”
        “แล้วมึงจำไม่ได้เลยหรือว๊ะ หรือแกล้งถามเมื่อสมัยเราเรียนมหา’ลัยมึงกับพวกเราก็เคยมาติวกันที่นี่นี่นา”
     “เออๆๆๆ....กูลืมไปแล้วว๊ะ มันพูดพร้อมกับเกาหัวแล้วนึกออก”
   สักครู่เมื่อชายหนุ่มบีบแตรรถสองสามครั้ง  ก็มีชายกลางคนรูปร่างแข็งแรงวิ่งเหยาะๆออกมาทันที  ครั้นเห็นเป็น
ชายหนุ่มพลางยกมือไหว้  พร้อมทั้งไล่หมาทั้งหมดให้กลับไป  ชายหนุ่มก็ขับรถเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านสอง
ชั้นเรือนไทยทันที  
      “ใครมาหรือพ่อม่วง  เสียงหญิงชราร้องถาม”
      “คุณชายกานต์มาขอรับ”  นายม่วงรายงาน
      “เหรอะๆๆๆ”  บัดดลแม่แย้มก็รีบมายืนรับหน้าชานเรือนทันที
       ครั้นชายหนุ่มปิดเครื่องแล้วก้าวนำหน้าไอ้หนกเดินออกจากรถทันที  พร้อมถือของพะรุงพะรังเดินขึ้นมาบน
เรือนพร้อมเพื่อน   พลางวางของลงแล้วยกมือไหว้หญิงชราทันที  แล้วหันไปทางไอ้หนก ซึ่งชายหนุ่มยังไม่ทันเอ่ย
ปากมันก็รีบกล่าวทันที
      “สวัสดีครับแม่  จำผมได้ไหมครับ”
      “มึงไม่ต้องเสือกถามแบบนี้หรอกโว้ยกี่ปีมาแล้วมึงก็ไม่เคยมาอีกเลยนับแต่เราเรียน ไอ้ห่า แม่กูจะจำมึงได้หรือ”
      “มารยาทโว้ยไอ้เห้”  ไอ้หนกย้อนตอบ
    หญิงวัยชรากล่าวแล้วเข้ากอดชายหนุ่มทันทีเมื่อทั้งสองขึ้นมาบนเรือนแล้ว
      “ มาเยี่ยมแม่หรือลูก  อ้อๆๆๆนั่นคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นพ่อกนกใช่ไหมหรือว่าจำผิดไป”
      คราวนี้ไอ้หนกหันมาถีบชายหนุ่มทันที พร้อมหัวร่อลั่น
      “ไหนๆๆไอ้ห่า  ว่าแม่จำกูไม่ได้คนหล่อๆอย่างกูหรือจะจำไม่ได้ฮ่าๆๆๆๆ...” มันได้ทีหัวร่อลั่นบ้าน
       เข้ามาข้างในก่อนเถอะลูกๆ
        “นั่นซื้อของอะไรมาตั้งเยอะตั้งแยะนะ????......”  แม่แย้มถาม 
        “ลูกว่าจะมาทานเหล้ากับไอ้หนกมันจ๊ะแม่  แล้วซื้อของที่แม่ชอบมาฝากไว้ด้วย ส่วนอาหารเป็นของสำเร็จ
และของสดไว้ให้แม่ทำอาหารกินภายหลังจ้า”   กล่าวแล้วเขาก็จูบแม่แย้มทันที
        “อิจฉาโว้ย อิจฉาจัง”  เสียงไอ้หนกร้องลั่น
        “ไอ้เห้ๆแม่ลูกเขารักกันนะโว้ยนี่ขนาดกูจูบแม่กูนะอิอิ”  แล้วชายหนุ่มก็หัวร่อ  
       “แม่แจ่มๆๆๆ  อยู่ไหนหรือ”  เสียงแม่แย้มเรียก
        “อยู่เจ้าค่ะ”  พลางร่างหญิงกลางคนก็ก้าวขึ้นบันไดมา
        “แม่แจ่มเอาของไปใส่จานไว้แกล้มเหล้า  แล้วออกไปซื้อโซดาน้ำแข็งให้พ่อม่วงรีบไปรีบกลับมานะเอา
รถเครื่องไปนะจะได้เร็ว”  พูดพลางหันมาทางชายหนุ่มทันที 
       “  แล้วพ่อกานต์จะทานกันตรงไหลล่ะ”
       “ผมว่าตรงระเบียงชานดีกว่าครับแม่  ด้วยจะได้บรรยากาศ  อ้อๆ...เดี๋ยวจะแม่ให้คนไปตามคุณพิมพ์ผกาให้
ด้วยนะว่าผมมาขอเชิญหน่อยนะแม่” ชายหนุ่มกล่าว
        คราวนี้เล่นเอาแม่แย้มงุนงงทันที
      “แล้วลูกรู้จักแม่พิมพ์อย่างไรหรือในเมื่อเขามาลูกยังนอนอยู่นี่นา”
     “เดี๋ยวแม่ก็รู้เองแหละจ้าแม่ “  ชายหนุ่มทิ้งท้ายไว้
     พลางแม่แย้มตะโกนบอกแม่แจ่มตามหลังไปอีกว่าให้พ่อม่วงไปเชิญหนูพิมพ์มาหาฉันหน่อยด้วย
     “เจ้าค่ะ”  เสียงแม่แจ่มขานตอบ
     “แม่ๆบอกว่าลูกชายคุณอัศวโรจน์สำนักงานใหญ่อัศวราชิน ขอพบด้วยนะแม่”  ชายหนุ่มกล่าว
     “ได้ยินไหมแม่แจ่มที่คุณชายบอกเมื่อกี้นี้นะ”  แม่แย้มกำชับ
      “ได้ยินเจ้าค่ะ  จะไปบอกเองเจ้าค่า ส่วนพี่ม่วงนั้นให้ไปซื้อของอย่างเดียวเดี๋ยวแจ่มจะขี่จักรยานไปตามเจ้าค่ะ”
      “จ๊ะขอบใจมาก ให้เร็วๆหน่อยนะ”  แม่แย้มกำชับ
ใครว๊ะไอ้กานต์????....คุณพิมพ์ผกานะ  เออช่างเถอะกูที่นำมึงมาที่นี่จะให้มึงรู้จักกันไว้ ฮ่าๆๆหากมึงเห็นล่ะเฮ้ยมึง
จะลืมไม่ลงเชียวล่ะ  กูคิดจะหาคู่ให้มึงล่ะโว้ย เห็นมึง  เป็นพ่อพวงมาลัยลอยไปลอยมา กูถึงไม่ชวนพวกเรามานะซิ”
   “ไอ้ห่าทำตัวเป็นพ่อสื่อแม่ชักไม่ใช่พ่อสื่อเอาไปแดกก่อนนะโว้ย”  พูดจบมันหัวร่อด้วยความชอบใจ
   “กูไม่เป็นสมภาคแดกไก่วัดหรอกโว้ย  หล่อนเป็นถึงเลขานุการส่วนตัวของคุณพ่อด้วย  กูจะทำได้หรือไอ้เห้...”
      “ในเมื่อมึงติดต่อให้กู  กูเชื่อมึงแล้วจะทำตัวไม่เจ้าชู้อีกต่อไปกูเชื่อตามึงว๊ะคนอย่างมึงถ้าไม่ดีจริงไม่ติดต่อให้
ใครๆหรอก  กูรู้นิสัยมึงว๊ะ”  ชายหนุ่มชื่อกนกกล่าวขึ้น
      หลังจากแม่แจ่มนำเอาอาหารใส่จานพร้อมช้อนส้อมมาวางยังบริเวณพื้นชานเรือนพร้อมปูเสื่อจันทบูรณ์ให้
เพียงแค่ขาดโซดาน้ำแข็งเท่านั้นที่สามีไปซื้อยังไม่มา  หล่อนก็รีบลงไปปั่นจักรยานไปตามหนูพิมพ์ทันที
     สักประเดี๋ยวเดียวนายม่วงก็กลับมาพร้อมนำน้ำแข็งไปใส่กระติกน้ำพร้อมที่เปิดโซดาพร้อมแก้วมาให้ชายหนุ่ม
ทั้งสองทันที  พลางกล่าวว่า
      “ผมจะอยู่ใต้ถุนไม่ไปไหนหากคุณชายต้องการอะไรเรียกได้ทันทีนะขอรับ”
      “ขอบใจพ่อม่วงมากจ๊ะ  แบ่งไปทานบ้างไหมล่ะ อ้อในรถมีอีกนะเดี๋ยวฉันจะไปหยิบให้ “ ว่าแล้วชายหนุ่มก็
ก้าวลงบันไดมาพร้อมติดตามด้วยนายม่วง  บรรดาหมาต่างๆเมื่อเห็นชายหนุ่มต่างก็พากันมาแสดงความดีใจทันที
ชายหนุ่มก้มตัวลูบหัวมันทุกๆตัว  แล้วไปเปิดรถนำเอาเหล้าฝรั่งมาให้นายม่วงหนึ่งขวด  แล้วกล่าวว่า
      “โซดาน้ำแข็งแบ่งไปได้เลยนะไปเอาที่ข้างบนแหละ”
    ชายกลางคนยกมือไหว้ทันที  พลางกล่าวว่า
      “ไม่เป็นไรขอรับ  เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อเอาเอง  ไม่รบกวนคุณชายหรอก แค่นี้ก็ถือว่าเป็นพระคุณยิ่งนักที่ได้
มีโอกาสทานเหล้าฝรั่งกับเขาบ้าง ส่วนใหญ่แล้วยี่สิบแปดขอรับ “ชายกลางคนกล่าวตอบ
     “ไปล่ะตามสบายนะพ่อม่วง เดี๋ยวไอ้เห้มันจะบ่นเอายิ่งปากมันหมาด้วย”
     “เฮ้ยๆๆๆใครว๊ะว่ากูปากหมา  ชักมากไปจะเรียกกูปากสุนัขกูจะไม่ว่าอะไรเลย”  เสียงดังมาจากบนบ้าน
เล่นเอาแม่แย้มหัวร่อร่า  เมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองรักกันนัก
     “เห็นไหมพ่อม่วง  หูมันเสือกได้ยินเราพูดอีก บอกแล้วว่าปากมันและหูพอๆกันแหละ  ไปล่ะตามสบายนะ”
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ก้าวขึ้นไปเห็นแม่แย้มกำลังคุยกับไอ้หนกอยู่
     “ฮ่าๆๆๆวันนี้ตัวเห้....มันนั่งพับเพียบแปลกจริงโว้ย????.......”
คราวนี้ไอ้หนกหันมาพร้อมยกมือไหว้หญิงชราทันที   
    “แม่ๆๆๆฟังไอ้เห้...มันพูดซิ  นิสัยมันระยำจริงๆนะแม่ไม่รู้จักมารยาทเสียเลยเสียแรงไปเรียนเมืองนอกเมืองนา
มาเอานิสัยฝรั่งมาใช้เน๊อะแม่”
    “ผมเองเป็นกัปตันมือสองเวลาไปเมืองมันผมพูดภาษาไทยตลอดมันฟังได้ก็ฟังฟังไม่ได้ก็ช่างหัวมันจ๊ะแม่ ไม่
จำเป็นจะไม่พูดภาษามันหรอก”
     “ไอ้ห่าๆๆๆ......ได้ทีขี่แพะไล่เชียวนะมึง  ฟ้องแม่กูเดี๋ยวเถอะแม่กูไม่อยู่โดนถีบแน่ๆ”   ชายหนุ่มหันไปด่ามัน
ทันที   ทำเอาแม่แย้มหัวร่องอหายทันที  
     “เอาๆๆๆตามสบายกันนะ แม่ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะจะได้ไม่ขัดคอลูกๆ “
     “จ๊ะแม่ตามสบายเถอะ”  ชายหนุ่มทั้งสองกล่าวพร้อมๆกัน
   พอลับหลังชายหนุ่มก็รินเหล้าแจกกันแล้วยกขึ้นชนแก้วแล้วต่างๆก็คุยกัน  เสียงหัวร่อดังลั่นอาศัยเป็นสวนจึงไม่
รบกวนชาวบ้าน  เวลาผ่านไปนาน   จนกระทั่งแม่แย้มจูงหญิงสาวเข้ามา ทั้งสองจึงหยุดด่ากัน แล้วต่างหันไปมอง
ครั้นหญิงสาวแลเห็นชายหนุ่ม ก็รีบก้มตัวนั่งยกมือไหว้แล้วกล่าวว่า
     “ขออภัยค่ะที่มาช้าทำให้คุณชายรอนาน  ที่จริงจะไม่มาแล้วด้วยพึ่งกลับจากงานมาได้ไม่เท่าใดนัก แต่แม่แจ่ม
บอกว่าเป็นคุณชายมาถึงได้รีบมายังไม่ทันแต่งเนื้อแต่งตัวเลย มาแบบชาวสวนเลยล่ะค่ะ”
      “มาแบบนี้แหละดีแล้วล่ะคุณพิมพ์จะได้กันเอง  อ้อนี้ชื่อ กนก  อิศรางกูร ณ ปากหมาครับคุณพิมพ์”  
ชายหนุ่มแนะนำเพื่อนของตัวเองทันที   เล่นเอาเพื่อนถึงกับยิ้มแล้วรีบหุบปากทันทีเมื่อได้ยินมันเอ่ยนามสกุลของมัน
   “ ณ อิศรางกูร ครับคุณพิมพ์  มันปากสุนักข์อย่าถือสาอะไรนะครับคนมันมองๆดูคล้ายๆกันเพราะเวลาผมเข้ามา
เพื่อนมันต้อนรับกันเป็นพรวนว่าพวกมันมาแล้วครับ”
      เล่นเอาหญิงสาวถึงกับยกมือปิดปากทันทีเกรงเสียงหัวร่อจะลอดออกมาเมื่อเห็น เพื่อนคุณกานต์เอ่ยเช่นนี้
    “อย่าถือสามันเลยครับก็คงจะเหมือนมันว่าแหละครับคุณพิมพ์ด้วยมันจำผมได้ 
ด้วยคุ้นเคยกับมันตั้งแต่มันยังเล็กนัก     แต่คุณดูซิครับปากหูมันทำไมมันจึงไปทางหมานัก เหตุใดเป็นคนแท้ๆ
แต่ไหงกับเหมือนพวกไอ้แต้มไอ้แดงไอ้ดำไอ้ขาวและไอ้ด่างก็ไม่รู้  ไอ้หนกมันนั่งยกมือไหว้พวกนี้พอผมห้าม
มันและได้กลิ่นไอ้หนก   มันจึงเข้าไปเลียปากไอ้หนก  ฉนั้นปากมันจึงปากคล้ายหมาๆนั่นแหละครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยตอบทันควัน.............
          *  แก้วประเสริฐ.*

Cartoon_Animation_08.gifn016.gif				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    21 มีนาคม 2553 18:14 น. - comment id 116033

    11.gif36.gif11.gif
  • แก้วประเสริฐ

    21 มีนาคม 2553 19:03 น. - comment id 116038

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ฉางน้อย
    
       หลานเอ๋ยลุงแต่งเรื่องนี้จะออกแนวสนุกๆจะ
    ล้วนเป็นคำพูด ดำเนินเนื้อเรื่องๆไปเรื่อยๆไม่
    เร่งร้อนเท่าไหร่จ้า  รักหลานเสมอ
    
         16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน