หากใครสักคนจะใช้ตะเกียบ คงจะต้องวางเทียบกันดู และจับมายืนคู่กันแล้วเคาะมันกับโต๊ะ เพื่อจะตรวจสอบว่า ตะเกียบคู่นี้สูงเท่ากันไหม...ถ้าไม่เท่ากัน เรามักจะหยิบอันใหม่มา เข้าคู่กับอีกอันทีถืออยู่ในมือ และเลือกสรรไปมาจนกว่าจะได้ตะเกียบ ที่สูงเท่ากัน.. และถ้าจะให้ดีกว่านั้นก็ต้องเป็นคู่ที่เมื่อวางประกบกันแล้วไม่มีช่องว่าง จากอาการโก่งงอขออันใดอันหนึ่ง คือประกบกันได้แนบชิดสนิทแน่น สามารถคีบแผ่นก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ เส้นใหญ่ วุ้นเส้น บะหมี่ได้อย่างถนัด ไม่มีหลุดร่วง ตะเกียบที่ดีจึงควรมีหน้าตาที่ "เหมือนกัน" แต่นั่นมิใช่ลักษณะของช้อนส้อม ไม่เคยมีช้อนส้อมคู่ใดที่หน้าตาเหมือนกัน ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่แน่นอน เพราะขึ้นชื่อว่า "ช้อนส้อม" แต่ใช่ว่ามันจะเป็นสิ่ง เดียวกันเสียเมื่อไหร่ ยังคงเป็น "ช้อน" ยังคงเป็น "ส้อม" อยู่ดังเดิม ช้อนมิได้พยายามทำตัวเป็นซี่ๆ ให้เหมือนส้อม เช่นเดียวกับที่ส้อมก็ไม่เคย ฝนปลายแหลมแล้วทุบตัวเองให้แบนเป็นแผ่นเดียวเพื่อจะให้เหมือนช้อน ช้อนก็เป็นตัวมัน ส้อมก็เป็นตัวเอง ความครื้นเครงจึงบังเกิด ในยามที่อยู่ไกลกันช้อนก็ใช้ชีวิตของมันไปตามปกติ คงมีบ้างที่คิดถึงส้อม "ถ้ามีส้อมเราคงทำอะไรได้ถนัดกว่านี้" แต่ถึงไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ไม่ง้อ แต่ก็สามารถอยู่เดี่ยวๆ ตัวคนเดียวได้ โดยไม่เปลี่ยวเหงา ฝ่ายส้อมก็เช่นกัน ในวันที่ไม่มีช้อน มันไม่เคยเกี่ยงงอนแต่อย่างใด ยังคง ใช้ปลายแหลมหลายซี่ของมันจิ้มลงไปใน ไส้กรอก ลูกชิ้น ให้คนหยิบขึ้นมา กินได้สบายๆ มีชีวิตได้อย่างอิสระและมีคุณค่า ใช่หรือไม่ว่า ทั้งช้อนและส้อมต่างก็มีคุณค่าในตัวเอง ช้อนก็มีคุณค่าในแบบช้อน ส้อมก็มีคุณค่าในแบบส้อม และเมื่อทั้งสองมาอยู่ ด้วยกันก็มีคุณค่าใหม่เกิดขึ้นมา เป็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกัน และใช้สอย เวลาด้วยกันอย่างน่ารัก.. ช้อนเองก็ลดบทบาทลง เอียงตัวเข้าหาส้อมเพื่อให้ส้อมตักอาหารใส่ช้อนได้ สะดวก ส้อมเองก็ลดหน้าที่ตัวเองลง เปลี่ยนมาจิ้มอาหารให้อยู่นิ่งเพื่อให้ช้อน ได้ตักและตัดอาหารได้สะดวกขึ้น ถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่ก้าวก่ายและไม่เรียกร้องให้อีกฝ่ายต้องเป็นเหมือนตัวเอง เคารพในความแตกต่าง เพราะความแตกต่างระหว่างช้อนกับส้อมนี่เองที่ทำ ให้เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมีความหมายมากขึ้น น่าจะดีกว่าช้อนคู่กับช้อน หรือส้อมคู่กับส้อม เมื่อทั้งสองช่วยกันเติมเต็มในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่มี ช้อนไม่มีปลายแหลมไม่มีซี่เอาไว้จิ้มชิ้นเนื้อ และเกี่ยวอาหารชนิดต่างๆ ใน ขณะที่ส้อมเองก็ไม่สามารถตักน้ำแกงขึ้นมาซดได้ ส้อมจึงเบาใจเมื่อมีช้อน เช่นกันกับช้อนที่รู้สึกเหมือนกัน ความต่างที่อยู่คู่กันอย่างน่ารักของช้อนส้อมกระซิบบอกกับเราว่า คู่รักที่น่ารัก ก็น่าจะมีลักษณะคล้ายช้อนส้อมมากกว่าตะเกียบ... คือมิใช่คู่เหมือนกันในทุกรายละเอียด คิดเหมือนกัน รสนิยมเหมือนกัน ชอบอะไรคล้ายๆกัน ซึ่งคู่รักไม่จำเป็นต้อง เป็นแบบนั้นเสมอไป ที่สำคัญ คู่แบบนั้นไม่น่าจะมีอยู่จริง คนเราเกิดมาจากคนละถิ่นที่ มีพ่อแม่คนละคน มีประสบการณ์ภูมิหลังคนละ แบบ ย่อมยากที่จะเหมือนกันไปทุกกระเบียดนิ้ว คู่รักหลายคู่เลิกรากัน เพราะคนหนึ่งเรียกร้องให้อีกคนหนึ่งเหมือนตัวเอง บางคู่เลิกราโดยให้เหตุผลว่า - เราต่างกันเกินไป ต่างกันเกินไป - ย่อมเป็นเหตุผลที่ทำให้คนอยู่ด้วยกันแล้วไม่หนุก ในทาง ตรงกันข้าม เหมือนกันเกินไปก็ทำให้รู้สึกเบื่อ เพราะเหมือนส่องกระจกเห็น ตัวเองอยู่ตลอดเวลา... ความต่างที่พอเหมาะนั่นกระมังที่เป็นเหตุผลที่คน 2 คน ต้องมีกันและกัน และช่องว่างระหว่างความต่างนั้น ต้องอาศัยเวลาในการปรับตัว กว่าช้อนกับส้อมจะรู้จังหวะและวาดลีลาบนโต๊ะอาหารได้อย่างร่าเริงแคล่ว คล้อง ย่อมต้องใช้เวลา แต่เมื่อเข้าขาแล้วก็อยู่กันยาว.. มิใช่ว่าช้อนกับส้อมจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ช้อนส้อมที่ "เข้าคู่" กัน ย่อมมีวัสดุ ลวดลาย และด้ามจับลักษณะเดียวกัน ในความต่างมีความเหมือน ในความเหมือนก็มีความต่าง สิ่งที่อยู่ตรงกลางคือ "ความรัก" ความรัก คือการยอมรับความต่างของคนที่เรารัก และพยายามปรับตัวเอง เข้าหากันและกันโดยมิถือว่า "ตัวฉัน" เป็นใหญ่ เมื่อรักใครสักคน เราย่อมยอมสละความเป็นตัวเองเพื่อเปิดโอกาสให้ อีกฝ่ายได้แสดงความเป็นตัวเขา เช่นกันกับที่เขายอมสะลความเป็นตัวเอง ในบางคราวเพื่อให้เราได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่.. รักคือการผลัดกันเสียสละในจังหวะที่พอดี ถ้าเสียสละมากไปเราก็อึดอัด หากเสียสละน้อยเกินไป อีกฝ่ายก็คงจะลำบากใจ รักอยู่ตรงกลางระหว่างความแตกต่างนั้น และ รักทำให้ "ช่องว่าง" แห่งความแตกต่างได้รับการเติมเต็ม คู่รักจึงคล้ายช้อนส้อมมากกว่าตะเกียบ ทั้ง 2 คนจะมีรูปแบบชีวิต รสนิยม ความชอบอะไรต่อมิอะไรเหมือนกันหรือไม่นั้น ยังไม่สำคัญเท่ากับทั้ง 2 คน ต้องชอบกัน ใช่ "ชอบเหมือนกัน" ไม่สำคัญเท่า "ชอบกัน" เพราะเมื่อชอบกันแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายจะเรียนรู้และทำความเข้าใจในสิ่งที่ชอบ ไม่เหมือนกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป... โดยอาศัย "ความรัก" เป็นสิ่งเติมเต็มให้กันและกัน ภาพประกอบจาก www.photobucket.com
18 มีนาคม 2553 01:23 น. - comment id 115854
......โห เจ้ บอกเค้าน๊าว่า ไปคุยโทร..... ชิๆๆๆ......
18 มีนาคม 2553 01:25 น. - comment id 115855
... ฉางน้อยอาจไม่ใช่ ช้อน พี่เมี่ยวอาจไม่ใช่ ส้อม แม้อาจต่างกันในบางสิ่งบางอย่าง แต่เราพยายามเติมเต็มสวนที่ขาดหายไปให้แก่กันและกัน ...................... ไง ซึ้งม่ะเจ้อ้อย อิอิ
18 มีนาคม 2553 07:17 น. - comment id 115859
ช่วงนี้ ไม่ค่อยใช้ช้อนหรือส้อม แต่ใช้ มือเปิบ ขอบอก ได้รสชาด สุดยอด มาอ่านบทความดีดี จากผู้มีประสบการณ์
18 มีนาคม 2553 08:38 น. - comment id 115863
คห.1 ..ฉาง กรุณาอ่านคำตอบบ้านบน...แฮ่ คห.2...ฉาง ก็ถ้าหล่อนเป็น ส้อม คงไล่ จิ้มพุงพี่เมี่ยงเป็น ว่าเล่นเดะ...55555 คนเราต้องมีส่วนที่ขาดบ้าง ถึงจะดี..อย่าให้ มันเต็มอยู่ตลอดเวลา..เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะไม่รับรู้ถึงความรู้สึกที่เวลามีใครสักคน มาเติมส่วนที่ขาด..ว่ามันมีค่าเพียงใด... เจ๊แกน่ะ..มีสาระก็ได้น๊ะเฟร้ย คห...3 พี่สืบ ที่ว่าได้รสชาดเนี่ย เค็มปะแล่มๆป่ะพี่... และที่ว่าผู้มีประสบการณ์ ถ้าจะหมายถึงคนอ่าน มากกว่าจริงๆน๊ะ...อิฉันมิบังอาจคร่า จิงๆง่ะ
18 มีนาคม 2553 08:50 น. - comment id 115866
"คนเราต้องมีส่วนที่ขาดบ้าง ถึงจะดี..อย่าให้ มันเต็มอยู่ตลอดเวลา..เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะไม่รับรู้ถึงความรู้สึกที่เวลามีใครสักคน มาเติมส่วนที่ขาด..ว่ามันมีค่าเพียงใด... " ชอบคำพูดนี้ค่ะคุณอ้อย..โดนอ่ะ
18 มีนาคม 2553 10:03 น. - comment id 115871
ส้อม เป็นอาวุธได้ ..ส่วนช้อน เป็นอาวุธได้เป่า อิอิ ว่าแต่ทำไมน้องเทียนหยด มาคู่ แค่ หมวยวาละ ป้าโคฯ หายไปไหนนี่ ..ตามมาหน่อย
18 มีนาคม 2553 11:52 น. - comment id 115887
......หากฉางน้อยเป็นส้อม จะไล่จิ้มพุงพี่เมี่ยง ไล่จิ้มพุงเจ้อ้อย ณ.ลิงคลองสานด้วย อิอิ จำไว้เล๊ยยยยยย
18 มีนาคม 2553 11:52 น. - comment id 115888
6........ พี่กิ่งคะ ให้พี่อ้อยมาตอบแล้วกันคะ อิอิ ........
18 มีนาคม 2553 12:15 น. - comment id 115901
ช้อนใช้ใส่ตักอาหาร (บางทีก็ตักดิน อิอิ) ในจานในชามยามหิว มีส้อมช่วยเขี่ยเคลียคิว กินลิ่วเลยอิ่มพอดี .. ฝาหรั่งเขาใช้ส้อมคู่กับมีด ช้อนอยู่โดดเดี่ยวเลยไปคู่กับชาม
18 มีนาคม 2553 12:20 น. - comment id 115907
10..............
18 มีนาคม 2553 14:12 น. - comment id 115919
ขอยืมส้อมไปจิ้มพุงคนแถวบ้านหน่อยค่ะ
18 มีนาคม 2553 16:08 น. - comment id 115923
คห..5 คุณพิม โดน อย่างนี้เขาเรียก โดน..ว่าแต่โดน ตรงไหนง่ะ คุณพิมเจ้าขา คห..6 ปู่กิ่ง จริงๆแล้ว ถ้าจะให้เป็นทั้ง ช้อนและส้อม ก็ได้อยู่นา ศิษย์พี่...ส้อมเป็นอันรู้ มีซี่ๆ เป็นตัวทำลาย..ส่วนช้อนเนี่ย ถึงไม่มีซี่ แต่ยังมีมือที่ถือไง..ฮ่า เขาเรียกว่า "ฝ่ามือพิฆาต" คร๊าบบบบ คห..7 ฉาง ไม่มีคำตอบจาก สวรรค์ เฟร้ยยย คห...8 ฉาง คห..9 ดาวศรัทธา ส้อมคู่มีดต้องซีดแน่ ไร้ทางแก้แลทางหนี โบกมือขอจรลี ช่วยฉันที..คนลี้ภัย ช้อนขนาดโดดเดี่ยวยังหาชามมาคู่ได้อีก... บ๊ะ..มันน่าอายช้อนจังนิ..คริคริ คห..10 ล.ลิง ชิงไข่ แบร่ คห..11 เจ๊แบม ได้เล้ยยย...เต็มที่ จิ้มๆๆๆๆๆ
18 มีนาคม 2553 16:30 น. - comment id 115926
ความรักของช้อนส้อม ป๊าด...คิดได้ไงเนี่ย.. แล้วส้อมกะมีดจะทำไงเนี่ย... ฝาหรั่งฝากถาม อิอิ
18 มีนาคม 2553 16:49 น. - comment id 115931
......แวะมาหาวเฉยๆ ไปแระ หาวเสร็จ สะบัดตรูดเดินจากไป อิอิ
18 มีนาคม 2553 18:55 น. - comment id 115936
เป็นไปได้นะนี่
19 มีนาคม 2553 10:24 น. - comment id 115956
ค.ห.14 แวะมาหาวเฉยๆเนี่ย สามหาวอ่ะป่าว อิอิ อ่ะ.. ล้อเล่งจ้า..น้องวามะสามหาวแน่ๆ
19 มีนาคม 2553 10:29 น. - comment id 115957
ชอบจังเลยอ่ะ
20 มีนาคม 2553 15:42 น. - comment id 115982
คห.13 ยา ไม่ต้องทำไงเลยสหายเอ๊ย...แค่ ทำใจอย่างเดียว...อิอิ คห.14 คุณลิง สามหาวเร้อ..บังอาจ เด่วจับเตะซะนี่ 55555 คห.15 .พี่วิทย์ ชั่วโมงนี้อะไรก็เป็นไปได้หมดหล่ะคร๊าบบ คห.16 คุณพิม แฮ่ คห.17 เฌอ อ๊ะ ยกให้
21 มีนาคม 2553 14:42 น. - comment id 115990
แล้ว "มีด" ล่ะจะคู่ใคร ในเมื่อ "ส้อม" ไปคู่กับ"ช้อน" ซะแล้ว หรือ เราจะมาเป็น กิ๊กกัน (สะกิด ส้อม) ไม่มี มีด จะกินสเต๊กได้เหร๊อ
21 มีนาคม 2553 14:51 น. - comment id 115991
20....... หวายๆๆๆ ไข่ๆๆๆๆ ขอ......ข.ไข่ ของใคร วี๊ดดดด ........วิ้ววววววววว........
21 มีนาคม 2553 16:17 น. - comment id 116018
คห. 19 ...มีดสเต๊ก เหอๆๆ แค่ชื่อก็ไม่กล้าเข้าใกล้แระง่า ตกลงสะกิด "ส้อม" เป็นกิ๊กใช่ป่ะ...เฮ้อ... โล่งจายยย...เพราะเราไม่ใช่ ส้อม ฮ่าๆๆๆ คห...20 คุณลิงเอ้ย
21 มีนาคม 2553 16:34 น. - comment id 116027
เฮ้อ... โล่งอกเหมือนกัน ตกลงเป็น "ช้อน"ใช่ป่ะ จะได้สะกิดถูก เพราะถ้าเป็นกิ๊กกับช้อน คงฟ่าผ่าตายพอดี
21 มีนาคม 2553 17:28 น. - comment id 116030
...... ขอเป็น ตะเกียบ ไว้เสียบตรูดลิงทั้งสอง 5555555
21 มีนาคม 2553 17:33 น. - comment id 116031
^ ^ ^ ย่องมาเจี๋ยน ก่อนจะโดนเสียบ ปล. ลิงเชียงรายฝากฟามคิดถึงมาให้ ลิงสุราด กับ ลิงคลองสาน
21 มีนาคม 2553 18:21 น. - comment id 116034
25.......ระวังลิงที่อื่นมาขอส่วนบุญด้วยล่ะสหาย 5555555555
22 มีนาคม 2553 10:27 น. - comment id 116060
คห.22 มีดสเต๊ก ตกลงทำสัญญากันเลยดีก่า...ต่อหน้าธารกำนัล กล้าไม่กล้า... คห.23 ไอ้ลิงน้อย แน่จิงเสียบตรูด...ลิงเชียงรายก่อนดิฟร่ะ... เหลียวซ้ายแลขวา... ตอนนี้ลิงเชียงรายย มัง จำศีล..ได้โอกาส เล่นมังทีเผลอ..อิอิ . คห. 24 มีดสเต็ก ง้านนนฝากกลับไปบอกลิงเชียงรายด้วยว่า อย่ามาทำเป็นผลุบๆโผล่ๆ เฟร้ยๆๆ คห.25 ลิงเอ๊ย บ๊ะ...กล้ามาก็กล้าให้ฟร่ะ.. เป็นรัยไปเนี่ย ไอ้ลิงสุราดดด พักนี้พิมผิด บ่อยนะย่ะ ก๊ากก