รู้ไหมวันหนึ่ง ยามแสงสว่างแห่งอัสดงอ่อนๆฉายส่อง ณ เปลวไหวของปลายม่าน คราบน้ำตาที่เหือดแห้งในวงแก้ม ความยิ้มแย้มที่ห่างหาย จากความจริงอันแสนหวาน ในท่ามกลางความขมขื่น หวลนึกถึงวันวาน จากจุดเริ่ม ณ แรกหลง ผ่านวันคืนได้เจอะเจอ มอบความรักคอยบำเรอ รู้เปรียบเหมือนเธอหนึ่งดวงใจ จนครานี้เธออยู่ไกลแสนไกล นานเพียงไหนที่ไร้ซึ่งการติดต่อ อันเธอนั้นจากไปโดยไม่ร่ำรา แต่ทว่าฉันนั้นรู้ดี ว่าเธอนี้ไม่ตั้งใจให้เป็นเช่นเพียงนี้ เกิดซึ่งเพราะทางบ้านของเธอนั้น ย้ายแหล่งหลักเหมือนพลิกรัก จนเเป็นเหตุให้ยากนัก ที่จะเจอะเจอ แต่กลับเยอะเสียเหลือเกินด้วยความคิดถึง รำพึงรำพันว่าตัวฉันนั้นรักเธอมากเพียงไร ความจริงภายในใจมันหลั่งไหลจากใบหน้าเป็นธาราสู่ผืนดิน นับวันมิจบสิ้น ดุจสายน้ำแห่งนั้นไม่มีวันเหือดแห้ง มีเพียงสายนํ้าที่กัดเซาะให้เนินแห่งความอ่อนไหวนั้นหม่นหมอง อยู่เรื่อยไป ทุกยามค่ำคืน ความมืดมิด แสงดาวที่แม้เพียงเล็กน้อยที่จะเห็น ภายในเมืองแห่งความสับสน มันเปรียบเหมือนระยะห่างระหว่างเรา ดวงเดือนส่องแสงสีครามอ่อนๆดูเหงาเศร้า มุมมองสีดำยิ่งทำให้ดวงดาวและดวงเดือนนั้นโดดเด่น ในมุมมองแห่งนี้มีหลากหลายซึ่งความรู้สึกที่แอบแฝงและเปิดเผยบ้างก็เหงาเศร้า บ้างก้อคิดถึง บ้างก้อรำพึงรำพันมันเป็นความรู้สึกที่ยากที่ใครจะสามารถทำความเข้าใจในตัวของเรานั้น ก็เช่นกัน ความห่างไกลก็ยิ่งทำให้ความคิดถึงนั้นหลั่งไหล จริงหรือที่ว่า หากแม้จะรักใครสักคนนั้นแสนยาก แต่การจะรักษาเขานั้นไว้ยิ่งยากกว่า คงจะจริงสำหรับคำพูดนี้ มีความสุขกับใครคนนั้นที่ได้เคียง แต่ทุกข์ยิ่งกว่าเมื่อจากลาหรือสูญเสีย ความฝัน ยามดึกดื่น คืนหนาว เจ็บปวดรวดร้าว ราวกับความฝัน แต่ฉันใดใคร่ฉันนั้น อันความจริง ความเหงา ยามโดดเดี่ยว เดียวดาย ไร้ซึ่งคู่เคียงกาย แสนเสียดาย ด้ายลิขิต ชีวิตที่ว่างเปล่า ความรัก ล้อมจิตใจ ให้รุ่มร้อน เปรียบความรัก กับไฟฟอน เหมือนภาพหลอน ในใจคน ความคิดถึง ระลึก รำพัน แม้นอนฝัน นานวันผ่านพ้น คนเคยใกล้ ครั้นห่างไกล ใจหวั่นไหว ความจริงใจ เพราะรัก ที่เหนือกว่า อาจเรียกว่า ความถ่องแท้ ที่มอบแก่ แค่บางคน ความหวาน ส่งผ่านใจ ไปถึงใจ ไม่มีลด หรือหมดไป ให้รักไซร้ ต่อไปชั่วนิรันดร์ เพลานี้ก็เหมือนฉันคนนี้ ทุกนาทีที่พ้นผ่าน ทุกหยาดหยดที่เสียไป คงมิอาจทำให้หวลกลับมา เหมือนสายน้ำไม่มีวันจะไหลย้อนกลับ วันเวลาเดินไปอย่างไม่เคยเหน็ดเหนื่อย แต่ตัวฉันนั้นคงหมดอายุขัยไปตามกาล ตลอดเวลาที่เส้นตรงสองเส้นที่เดินทางเข้าหากันจนประสานเป็นหนึ่งเดียวและเดินทางต่อไปด้วยกันจนวันหนึ่งจึงได้พบกับกำแพงที่ขวางกั้น จึงทำให้เส้นตรงเส้นนั้นต้องแยกออกเป็นสองเส้นในทิศที่ตรงกันข้าม ได้เพียงภาวนาให้กำแพงแห่งนั้นได้พังทลายลง ให้เส้นตรงที่ถูกแยกออกจากกันได้กลับมารวมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง แต่ ณ เวลานี้สิ่งที่คาดหมายคงไม่มีหนทางที่จะก่อเกิดได้อีกแล้ว วันเวลาสุดท้ายที่เทียนเล่มนี้จะดับแสง เปลวที่พริ้วไหวใกล้จะถึงจุดหมายของการดับสิ้น สิ่งสุดท้ายที่จะระลึกขึ้นภายใต้ดวงจิตอ่อนๆดวงสุดท้าย คือความผูกพันธ์ที่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ซึ่ง ณ เวลานี้มิอาจที่จะบอกกับคนที่ตนรักได้ก้อตาม แต่แม้หากเธอนั้นได้รับรู้ "ความคิดถึงนี้จะยังคงอยู่คู่สายลม ผืนดิน และจิตใจอีกหนึ่งดวง"
19 กรกฎาคม 2546 16:08 น. - comment id 69246
แง่ว ตอนแต่งไว้มันลงวรรคไว้เรียบร้อย พอก๊อปมาลงมันเว้นวรรคซะงงเลยอ่ะ วรรคสองเริ่มตรง ทุกยามคํ่าคืน วรรคสุดท้ายตรง เพลานี้ก็เหมือนฉันคนนี้ บอกไว้จะได้อ่านง่ายขึ้นครับเพราะมันเป็นเรื่องสั้นที่แยกและเรียงร้อยข้อความมาเรียบร้อยแล้ว รอคอยเพียงเพื่อนำไปตีพิมพ์เพียงเท่านั้นเอง
19 กรกฎาคม 2546 16:37 น. - comment id 69248
พี่พุดมาอ่าน และมีความซึ้งใจมากค่ะ จะรออ่านอีกนะคะ
19 กรกฎาคม 2546 17:54 น. - comment id 69250
ค่ะ. . . ความคิดถึงเป็นส่วนหนึ่งของความรัก =^______^=
20 กรกฎาคม 2546 01:18 น. - comment id 69254
การรักใครสักคนนั้นยาก แต่การจะรักษาเขาไว้ยากกว่าแต่อย่างน้อยก็เป็นสุขใจที่มีคนที่เรารักอยู่ในใจเรา ถึงแม้เขาจะรู้หรือไม่ก็ตาม .....
20 กรกฎาคม 2546 10:10 น. - comment id 69256
คิดดูแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้จะดูสั้นเกินไปสักหน่อย คงจะต้องแต่งเสริมจากเดิมให้ดูยาวขึ้นมาอีกพอประมาณครับ จะได้เหมาะที่จะลงตีพิมพ์ซึ่งสั้นไปก้อดูเหมือนจะลงแค่หน้าเดียวเองควรจะสามารถแต่งให้ลงซัก3หน้าดีกว่าเป็นมาตราฐานของเรื่องสั้นเลย รอซักหน่อยครับจะไปปรับปรุงใหม่ไม่นานจะมาเปลี่ยนนะครับ
20 กรกฎาคม 2546 19:38 น. - comment id 69260
อ่ะมาอ่านแล้ว นะ ยาว..................มาก ดีค่ะเขียนแยะๆๆนะ จาเปนกามลัง ให้
21 กรกฎาคม 2546 09:17 น. - comment id 69266
เดินทางกลับมาจากขอนแก่นมาอ่านเจอใน mail และในนี่... เป็นความยินดีอย่างยิ่งครับ...สำหรับเพื่อนใหม่ ส่วนเรื่องสั้นและบทกลอนนั้นช่วงนี่ผมกำลังวางโครงหนังสือไว้คราว ๆ ครับ แต่ยังไม่รู้จะออกไปแนวไหน แต่อยากให้เป็น \"รวมเรื่องสั้น\" มากกว่าตั้งใจไว้แต่แรกจะขอผลงานของเพื่อนคนละชิ้น (ที่สนิทกันมาก)มาลงหนังสือ ส่วนเงินไม่มีให้!!! แต่...อาจจะมีน้ำใจเล็กน้อย (อาจจะเป็นหนังสือดี ๆ สักเล่ม ฯลฯ) ในส่วนนี่ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะถูกมองในแง่ร้ายเกินไป แต่เมื่อรวมเรื่องสั้นเล่มที่แล้ว (หญิงสาวผู้ตามหาพระเจ้า) ก็ได้ขอเรื่องสั้นจากเพื่อนคนหนึ่ง \"พรร ณ ศิริ\" เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากจึงไม่เป็นปัญหาในส่วนนั้น นี่แหละครับ คือปัญหา... สำหรับคุณโจ (หรือโจ้ ถ้าจำไม่ผิด) อยากจะร่วมในส่วนนี่ได้ครับ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าที่ทำเพื่อต้องการให้งานที่ตนมี อยู่ให้ออกไปสู่วงกว้าง มิใช่ทำด้วยเรื่องเงินทองหรือสิ่งใดทั้งนั้น... หนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มใหม่คงจะทิ้งระยะไว้อีกสามสี่เดือนจึงจะออก (ถ้าไม่มีอะไรมาขัดไว้) อย่างไรเสียงานที่คิดว่าจะเอาลงหนังสือก็คงเป็นงานที่คุณเคยเขียนลงในเว็ปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นงานใหม่ หรืออะไรทั้งสิ้น ครับ...ติดต่อผมได้ครับที่ noparut_h@hotmail.com และ add คุยได้ที่ MSN นะครับ ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ มิตรภาพจะมีแด่เรา แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
21 กรกฎาคม 2546 15:10 น. - comment id 69273
ทุกๆค่ำคืนก็ยังคงคิดถึง ...... เหงาๆ อย่างไง บอกไม่ถูก ลืมวันเก่าๆ ยากจริง
21 กรกฎาคม 2546 15:51 น. - comment id 69274
อืม อ่านแล้วนึกถึงอนาคตตัวเองอยู่หรัดๆ
21 กรกฎาคม 2546 17:21 น. - comment id 69277
: ) กำลังตกอยู่ในอารมณ์นี้
21 กรกฎาคม 2546 18:05 น. - comment id 69278
อืม อ่านแล้วกินใจ และดีน่ะ วันลังถ้ามีก็ส่งให้อ่านอีกน่ะ ชอบครับโจ้
22 กรกฎาคม 2546 12:58 น. - comment id 69283
ตั้งใจดีนะคะ ไว้จะรออ่านผลงานต่อไปค่ะ
24 กรกฎาคม 2546 08:47 น. - comment id 69294
นําตามันไหลออกมา เหมือนว่าถูกสั่งให้หลั่งรินออกมาอย่างนั้น
24 กรกฎาคม 2546 09:46 น. - comment id 69295
อืม เรื่องสั้นเรื่องแรกที่เอาลง จะถูกใจใครหายคนแค่ไหนกันน้า แต่เรื่องต่อๆไปจะพยายามให้เข้าถึงอารมณ์ของผู้อ่านให้มากกว่านี้นะครับ
24 กรกฎาคม 2546 12:19 น. - comment id 69299
เหอๆๆ จาพูดไงดีอ่ะ ก้อเข้าท่าดีกับรักที่อ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย เหงาจังเยย แง๊อยากร้องให้
25 กรกฎาคม 2546 19:43 น. - comment id 69314
ถึงแม้ชีวิตจะตายไป แต่ความรู้สึกไม่ได้ตายตามไปด้วย แต่ยังคงล่องลอยต่อไปจนกว่าใครคนนั้นจะได้รับรู้
29 กรกฎาคม 2546 11:52 น. - comment id 69325
อ่านแล้วรู้สึกได้สัมผัสกับความรักในอีกมุมนึงค่ะเป้นกำลังใจให้ค่ะ
29 กรกฎาคม 2546 12:45 น. - comment id 69327
เห็นคนดูเยอะมากเลย เลยขอเข้ามาเชยชมมั่ง ก็อ่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย เพราะสงสารจังเลยอ่ะ หากในชีวิตจริงเจอแบบนี้เข้าเสียล่ะก็ เราคงจะตายตาไม่หลับแน่ๆเลยล่ะ แต่เราชอบกลอนเธอจัง ยืมไปใช้หน่อยละกัน ^______^
1 สิงหาคม 2546 10:08 น. - comment id 69336
อยากแต่งได้แบบนี้มั่งอ่ะค่ะ ต้องเริ่มต้นไงอ่า
12 สิงหาคม 2546 11:12 น. - comment id 69387
อ๋อเรื่องมะกี้มันต่อจากอันนี้นี่เอง ถึงว่าชื่อคล้ายๆกัน ^o)
20 สิงหาคม 2546 12:41 น. - comment id 69426
ความรักเป็นเพียงแค่ช่วงชีวิตหรือว่าเสี้ยวเดียวของเราเท่านั้น แต่ทำไมเราจะต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตของเราเพื่อลืม ลืม ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา ในเมื่อเราลืมเขาคนนั้นไม่ได้เราก็เก็บเขาไว้ในใจเราสิ เรามีความสุขที่มีคนที่รักอยู่ในใจของเรา แล้วทำไมเราจะต้องทุกข์ใจเมื่อต้องเผชิญกับความอ้างว้าง ความเดียวดาย \"การที่เราจะรักใครสักคน เราอาจจะใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที ....แด่การที่เราจะลืมใครสักคนหนึ่งเราอาจใช้เวลาทั้งชีวิต\" ....รักเพราะอยากจะรัก ... ......รักเพราะอยากมีความสุข.... .....แต่อย่ารัก....เพียงเพราะอยากมี...แฟน...นะค่ะ...
23 สิงหาคม 2546 17:44 น. - comment id 69452
เพียงแค่หนึ่งปฐมบท ของจิตใจสู่ข้อความที่สร้างสรรค์ให้เกิดความคล้อยตาม ใช่จะยึดมั่นถือมั่นดุจความจริงเสียไม่ ขอเพียงวิจารณญาณของคุณ อย่ายึดติดกับมันมากจนเกินไปเลย