ลุ่มลึกอิสราวดี 42

แก้วประเสริฐ


             ลุ่มลึกอิสราวดี  42
               พลันชายหนุ่มยิ้มพลางแล้วกล่าวขึ้นว่า
  “ต่อไปข้าเองจ๊ะเรียกท่านว่าน้องจันทิราก็แล้วกันนะ  แต่บอกก่อนเสียว่าหากยามใดที่ข้าออกศึก
ให้น้องเราติดตามเราอย่าได้ห่างจากตัวเราเป็นอันขาด ท่านจะรับปากเราได้หรือไม่ล่ะ”
ครั้นนางได้ยินกล่าวเช่นนี้ก็แสนจะดีใจจึงเอ่ยขึ้นว่า
     “หากเป็นความประสงค์ของท่านพี่แล้ว  น้องเองก็ไม่ขัดข้องและกล้าขัดคำสั่งหรอกเจ้าค่ะ”
   “ ดีแล้วล่ะเราจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก  นี่หากน้องไม่ใช่บุตรีของท่านที่ปรึกษาใหญ่แล้วพี่
เองเห็นจะไม่รับไว้หรอก”
      จันทิราได้ฟังดังนั้นก็ลอบยิ้มในใจว่า  ดูต่อไปเถอะจะได้เห็นฝีมือของเราแล้วความห่วงใยก็จะ
หายไป  แต่ก็ยิ้มพลางเอ่ยว่า
     “น้องจะไม่ทำให้พี่ท่านต้องเป็นห่วงมากหรอก ด้วยวิชาความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์
และท่านพ่อเห็นว่าคงจะสามารถเอาตัวรอดได้เจ้าค่ะ”
             ชายหนุ่มไม่ได้ว่าอะไรอีกหันไปทางท่านที่ปรึกษาใหญ่พลางนำแผนที่มากางแล้วบอกว่า
      “ข้าเองเห็นทีจะจัดส่งกำลังเข้าตีเมืองซิตวา  ส่วนแคว้นอีกสิบกว่าแคว้นนั้นเห็นจะต้องดำเนิน
การเหมือนเดิมเสียแล้ว  เพื่อตัดกำลังและเสบียงอาหารก่อน  ดังนั้นจำเป็นต้องให้ทหารแฝงตัวเข้า
ไปยังบรรดาแว่นแคว้นต่างๆเพื่อจะได้ไม่เป็นที่สงสัยของฝ่ายข้าศึก พร้อมกับชี้มือไปยังแผนที่ที่
ท่านมหาอำมาตย์ที่ปรึกษาทำไว้ ซึ่งบัดนี้เขาเข้าใจแจ่มแจ้งหมดแล้ว ตลอดแนวเขาต่างๆ  ท่านพ่อลุง
จะเห็นเป็นประการใดล่ะ”
       มหาอำมาตย์ใหญ่ที่ปรึกษาใหญ่พลันกล่าวขึ้นว่า
       “หากจะใช้กลยุทธ์เดิมอีกเห็นที่ฝ่ายแคว้นยะไข่ก็จะรู้ตัวตระเตรียมกำลังไว้   ให้เราทำเป็นจะเข้า
ตียังแคว้นมอญซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับแคว้นยะไข่   แต่เราจะไม่เข้าตีแคว้นมอญ  แต่เป็นระยะทางไกล
กว่าแล้ววกเข้าตีบรรดาแว่นแคว้นต่างๆของยะไข่ให้หมดเสียก่อนถึงจะเข้าตีเมืองซิตเวทีหลัง  ด้วย
ทางเมืองซิตเวก็จะยกกำลังมาช่วยบรรดาแว่นแคว้น  ในช่วงระยะนั้นเราก็ตีกองทัพเมืองซิตเวให้ขาดจาก
กันแล้วหวนกำลังพลส่วนหนึ่งเข้าตีเมืองซิตเวก็คงจะง่ายกว่านะ”
      “ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าท่านลุงจะนำพลทั้งหมดตีเลียบแคว้นมอญใช่ไหมล่ะค่อยไล่ตีแว่นเคว้น
ต่างๆ  ด้วยการยกไปทั้งหมดเพื่อข่มขวัญแล้วค่อย แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไว้รอโอกาสตีทหารเมืองซิตเวด้วย
ก็จะทำให้แคว้นมอญเสริมกำลังพล  ส่วนทางด้านตองอูพึ่งคิดจะแยกตัวออกก็จะพลอยชะล่าใจไม่ต้อง
พะวงเมืองมะละแหม่ง ถูกไหมท่านพ่อลุง”   ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
      “ใช่แล้ว....หากเราวางกลลวงไว้เช่นนี้ก็ทำให้เมืองซิตเวค่อยคลายกังวลไม่ห่วงใยกลับเป็นห่วงบรรดา
แว่นแคว้นต่างๆที่ส่งเสบียงอาหารแก่เมืองซิตเวย่อมจะส่งทหารออกมาช่วยรบด้วย  ในตัวเมืองมันเองก็
จะมีคนจำนวนน้อย ด้วยนึกว่ายามใดที่ยังไม่เสียแว่นแคว้นไปย่อมสามารถรักษาตัวเมืองไว้ได้พ่อหลานชาย”
ท่านที่ปรึกษาใหญ่กล่าวขึ้น  
       “แต่ในทำนองเดียวกันอันเมืองมะละแหม่งกับเมืองตองอูมีแม่น้ำคั่นกลางอยู่  ก็ให้เมืองฮะคาที่เราให้ต่อ
เรือไว้รีบส่งเรือมาโดยปรับปรุงเป็นเรือสินค้ามาทำการค้าขายกับเมืองตองอู   แต่ให้คอยดูจังหวะหากมีโอกาส
เราอาจจะได้เมืองตองอูซึ่งตอนนี้พึ่งตั้งตัวใหม่ๆอยู่  มังสุรินทราเจ้าเมืองตองอูซึ่งต้องการอาวุธการค้านี้ให้นำ
อาวุธเป็นสินค้าทำทีไปส่งขายแก่เมืองตองอูซึ่งสั่งอาวุธจากเมืองฮะคาอยู่ก่อนแล้วนะ”
       “หากเป็นไปตามพ่อลุงก็จะดีซิเมืองตองอูก็จะได้ไม่ต้องระแวงด้วยศึกครั้งนี้อยู่ห่างไกลกับเมืองตองอูนัก
หมายถึงว่าพ่อค้าลูกเรือทั้งหลายล้วนเป็นทหารเมืองฮะคาใช่ไหมท่านพ่อลุง”
        ทีปรึกษาใหญ่พลางหัวร่อกล่าวขึ้นว่า
      “ท่านมหาอุปราชช่างมีความคิดละเอียดลึกซึ้งยิ่งนัก  หากได้โอกาสก็ให้ทหารเมืองฮะคายึดเมืองตองอูไว้เสีย
ทางเราหลังจากยึดแคว้นยะไข่ได้แล้ว  ก็จะอาศัยตีโอบล้อมรัฐมอญตีเมืองมะละแหม่งที่เจ้าสมิงนราบดินทร์ครอง
เมืองอยู่ในคราวเดียวกันเสียเลย  ด้วยบรรดาของเราระหว่างนี้กำลังห้าวหาญการศึกยิ่งนัก”
       พร้อมทั้งชี้ปักธงไปตลอดเส้นทางการเข้าโจมตีครั้งนี้ให้ชายหนุ่มดู  พร้อมกล่าวว่า
     “ขอให้พ่อหลานชายจงเรียกแม่ทัพนายกองทั้งหลายมาประชุมให้เป็นความลับอย่างได้แพร่งพรายให้
เหล่าทหารทั้งหลายได้รู้  เมื่อเข้าตีแว่นแคว้นต่างๆได้ส่วนมากอาจจะมีการอ่อนน้อมยอมรับแก่พวกเราด้วย
นิสัยของพวกยะไข่นั้นเจ้าเล่ห์ย่อมจะหาทางเอาตัวรอด  บางครั้งอาจจะไม่ต้องเสียกำลังพลไปมาก อาจจะได้
กำลังเสริมขึ้นแล้วค่อยมาดำเนินการแก่บรรดาเจ้าเมืองทั้งหลายต่อไปนะ”  ท่านมหาอำมาตย์ที่ปรึกษากล่าว
    “เวลามิอาจจะล่าช้าได้แล้วล่ะเห็นว่าพวกเราจะเริ่มแผนการก่อนที่ข้าศึกทั้งหลายจะมีกำลังเพิ่มมากขึ้นนะ”
           ระหว่างที่ทั้งสามปรึกษากันอยู่นั้นทหารหน้าห้องก็เข้ามารายงานว่า  เจ้าเมืองปะอานขอเข้าพบ 
ดังนั้น
ชายหนุ่มจึงเก็บแผนที่ไว้แล้ว บอกทหารให้เชิญเจ้าเมืองเข้ามาได้    เมื่อทหารออกไปแจ้งแก่เจ้าเมืองปะอาน
แล้วสักครู่  เจ้าเมืองซึ่งได้รับนามว่าอลองสินธูแห่งราชวงศ์อลองสินธูบดินทร์ ก็ก้าวเข้ามา 
 
         ครั้นมาถึงก็น้อมกายลงถวายคาราวะแก่ชายหนุ่มทันที    ชายหนุ่มก็เชิญให้นั่งยังโต๊ะซึ่งตั้งอยู่เบื้องหน้า
ครั้นอลองสินธูหรือกะมังกะยอนั่งเรียบร้อยแล้ว   เจ้าเมืองใหม่แห่งปะอานก็กล่าวขึ้นว่า
       “บัดนี้ข้าพระองค์ได้รวมรวมทหารที่คัดเลือกไว้แล้วทั้งแม่ทัพนายกองเพื่อเข้าร่วมกับฝ่าพระบาทแล้ว
ประมาณสี่หมื่นคนพระเจ้าข้า  ส่วนข้าพระองค์และท่านแม่ทัพใหญ่มุสะกะยะก็จะขอเข้าร่วมในศึกครั้งนี้
ด้วยพระเจ้าข้า” 
  
        เมื่อชายหนุ่มได้รับฟังเช่นนั้นก็บังเกิดความยินดียิ่งนัก แต่กลับกล่าวว่า  
     “อันตัวท่านเองนั้นไม่จำเป็นต้องไปด้วยกับเราหรอก ด้วยหน้าที่ในการปรับปรุงภายในเมืองยังมีอีกมากมาย
นัก หากมาในศึกร่วมกับเราครั้งนี้อาจจะทำให้ข้าเก่าของพวกเจ้าเมืองและมหาอำมาตย์เก่าจะกำเริบเสิบสาน
ขึ้นได้อีก  ฉะนั้นเพียงได้แม่ทัพใหญ่ไปกับเราก็เพียงพอแล้ว ส่วนทางควบคุมทัพให้ท่านคัดเลือกผู้ที่เหมาะสม
รักษาการแทนไปพลางๆก่อนก็แล้วกัน”
      “หากเป็นพระประสงค์ของพระองค์เช่นนั้น  ข้าพระพุทธเจ้าหวังจะสนองพระเดชพระคุณด้วยที่ได้ครอบ
ครองเมืองก็ด้วยพระองค์  หากไม่ไปด้วยตนเองก็จะไร้ซึ่งน้ำใจพระเจ้าข้า”  เจ้าเมืองปะอานกล่าว
     “ข้าเองได้ยินเช่นนี้ก็ให้ซาบซึ้งแก่ใจข้ายิ่งนัก ขอบใจเจ้ามากนะ เอาอย่างนี้ดีกว่าให้ท่านกะเกณฑ์ทหารมาฝึก
ฝนเตรียมพร้อมไว้   หากวันใดข้าต้องการใช้ก็จะให้ท่านยกทัพเข้าจู่โจมยึดแคว้นบางแคว้นแก่ข้าก็เพียงพอแล้ว
อนึ่ง ภายในเมืองให้ใช้พระคุณเป็นที่ตั้งส่วนพระเดชนั้นให้ใช้ไปตามความเหมาะสมแต่ต้องเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็น
ใครก็ตาม  บางครั้งความเมตตาก็พาเราอับจนได้นะท่านเจ้าเมือง”
       “นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ตัวข้าพระพุทธเจ้ามาก  ข้าพระองค์จะน้อมรับคำดำรัสไปปฏิบัติตามทุกๆ
ประการพระเจ้าข้า”
        ชายหนุ่มหัวร่อพลางเดินไปตบไหล่  เขาเชื่อมั่นว่าเจ้าเมืองปะอานลักษณะใบหน้าสี่เหลี่ยมเช่นนี้เป็นคนที่
ซื่อสัตย์นักและมีความรู้ความสามารถต่อไปจะเป็นกำลังสำคัญแก่เขามากทีเดียว  ที่เขากล่าวเช่นนี้หวังจะให้
เจ้าเมืองปะอานนี้แหละเข้าตีเมืองอิสราวดีล่วงหน้าก่อน  ด้วยการเดินทัพกว่าจะมาคงจะไล่เลี่ยกันเพื่อลวงล่อ
แก่เมืองอิสราวดีต่อไป  
  หลังจากสนทนากันเป็นที่ถูกใจกันครั้นถึงเวลาเจ้าเมืองปะอานก็ขอลากลับเมืองด้วย
ต้องไปดำเนินวางแผนการต่างๆที่ชายหนุ่มมอบหมายไว้เตรียมในกาลต่อไปข้างหน้า   ครั้นเจ้าเมืองปะอาน
กลับไปแล้วเขาก็แจ้งแก่แม่ทัพใหญ่มุสะกะยีจัดหาที่พักให้แก่เหล่าทหารไม่ต้องสร้างเป็นค่ายใหญ่นักด้วย
อีกวันสองวันเราก็จะต้องออกเดินทาง 
         พรุ่งนี้เช้าให้เข้ามาร่วมปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับการรบพุ่งอีกครั้ง  ครั้นแม่ทัพใหญ่เมืองปะอานน้อมรับ
บัญชาแล้วก็ออกนำทหารไปเลือกที่พักพร้อมสั่งรองแม่ทัพและนายกองทหารอย่าได้ส่งเสียงดังมากนัก
ครั้นได้เวลาเข้าประชุมเหล่าแม่ทัพนายกองทั้งหลายก็เข้าไปยังห้องประชุมใหญ่ในค่าย ซึ่งนั่งด้วยชายหนุ่ม
และท่านที่ปรึกษาใหญ่ บนโต๊ะยาวจัดวางเรียงแผนทีตลอดจนธงเล็กๆปักเรียงรายไปทั่ว   ชายหนุ่มให้แม่ทัพ
เข้ามาล้อมดู แล้วจัดแบ่งหน้าที่ให้แก่เหล่าแม่ทัพนายกองทั้งหลาย  อธิบายการเข้าโจมตีแคว้นต่างๆ จากใกล้ๆ
ไปหาไกลยังบรรดาแว่นแคว้นให้แบ่งกำลังออกเป็นสามฝ่ายทันที ฝ่ายหนึ่งรุกหน้ายึดแคว้นต่างๆ   
       ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งเลียบแม่น้ำที่คั่นระหว่างเมืองมะละแหม่งทำเป็นล้อมเมืองแต่ห้ามตีเมืองจนกว่าจะได้รับ
คำสั่ง  สร้างค่ายรายล้อมไว้หากมีทหารเมืองมะละแหม่งออกมานอกเมืองเพื่อต่อสู้ให้จัดกองกำลังเข้าสู้รบเมื่อ
ได้รับชัยชนะแล้วห้ามยกพลตามเข้าไปในเมืองเด็ดขาด ให้ย้อนกลับค่ายพักจนครบกำหนดแล้วให้ถอนค่ายออก
เดินทางไปยังแคว้นในครอบครองยะไข่  ให้เข้าโจมตีโอบด้านข้างแว่นแคว้นยะไข่ทันที เพื่อล่อลวงเมืองมอญ
ให้เชื่อว่าการยกทัพมานี้หาได้ประสงค์โจมตีแคว้นมอญไม่  หากยึดเมืองแคว้นต่างๆได้แล้วให้นำกำลังพลไปรวม
ตัวยังเมืองซิตเวทันที     ส่วนอีกทางหนึ่งให้รอกำลังพลที่จะมาในเรือสินค้าที่ทำการค้าขายกับเมืองฮะคาซึ่งจะนำ
ทหารซุกซ่อนมาด้วยแต่จะลงในระหว่างทางก่อนจะถึงเมืองตองอู 
  
         พวกฮะคาจะแยกย้ายกันซุกซ่อนในป่าหากพบให้ส่งสัญญาณโดยนำธงเป็นสัญลักษณ์แสดงเสีย  ทางทหารฮะคาก็จะเข้าใจและการครั้งนี้เราจะนำทัพไปเองหากตีเมืองตองอูได้แล้ว  เราจะเดินทัพไปตีเมืองหงสาต่อไปเพื่อ
โอบล้อมเมืองซิตเว  ส่วนทหารด้านอื่นๆหากเมืองแว่นแคว้นใดยังตีไม่ได้  ทัพที่ตีได้ให้พากันไปช่วยเหลือ
ด้วยกัน   หากสามารถยึดบรรดาแว่นแคว้นต่างได้แล้วให้รวบรวมพลทหารแว่นแคว้นต่างๆไว้เป็นพวกให้มากๆ หากเจ้าเมืองใดไม่ยินยอมให้ฆ่าทิ้งเสียแล้วจัดตั้งเจ้าเมืองใหม่คัดเลือกตามที่พวกเจ้าเห็นสมควร  การแบ่งกำลังนี้
ออกเป็นสามฝ่ายนั้น  ฝ่ายแรกที่เข้าตีหน้าด้านเราแต่งตั้งให้ท่านมังกะยะเป็นแม่ทัพใหญ่ ส่วนท่านมังสุระเป็นรอง
แม่ทัพ เป็นทหารฝ่ายแรกที่ยกตีแคว้นเมืองยะไข่ไปเรื่อยๆ  
        ส่วนท่านแม่ทัพมังสีหะให้เป็นแม่ทัพใหญ่ ให้ท่านมุสะกะยีเป็นรองแม่ทัพในการนำพลทั้งหมดรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเลียบไปตามลำน้ำแคว้นมอญแล้วเสแสร้งว่าจะยกไปตีเมืองมะละแหม่งแต่เราจะไม่ตีเมืองอาศัยเป็น
ทางผ่านเข้าโอบล้อมแว่นแคว้นยะไข่ช่วยเหลือท่านมังกะยะ  ด้วยเมืองมะละแหม่งนั้นติดกับแม่น้ำใหญ่อิสราวดี
 ห้ามเด็ดขาดมิฉะนั้นจะทำให้กองทัพเราทั้งหมดล่มสลายได้ในพริบตา และอย่าได้ดูถูกฝีมือศัตรูอย่าได้ตั้งโดย
ความประมาททุกๆครั้งให้ร่วมปรึกษาบรรดาแม่ทัพนายกองทุกๆนายทุกๆครั้งสรุปเสียงส่วนใหญ่ในการเข้าโจมตี
ฝ่ายศัตรูเป็นที่ตั้งถึงแม้ว่าแม่ทัพใหญ่ก็ควรจะรับฟังเหตุผลต่างๆให้รอบคอบด้วย
เพื่อหาข้อดีข้อเสียชัยภูมิ  
ให้ตรวจสอบดูชัยภูมิประเทศเป็นหลักสำคัญอย่างได้ถือความเก่งของตัวเองว่าต้องเหนือกว่าพวกเดี่ยวกันหาได้
ยินยอมรับฟังเสียงส่วนใหญ่ มิฉะนั้นหากทราบถึงเราจะลงโทษทันที ตลอดจนหาลู่ทางต่างของฝ่ายศัตรูด้วย
          ขอให้พวกเราใช้วิจารณาญาณไหวพริบสติปัญญาอย่าได้มีอารมณ์โกรธเป็นที่ตั้ง ในกรณีฉุกเฉิน
หากเกิดการผิดพลาดก็ให้ท่านทั้งสองแต่งตั้งรองแม่ทัพอื่นๆทำการแทนอย่าได้ละทิ้งหน้าทีเป็นอันขาด
ห้ามเด็ดขาดอย่าได้ให้เสียกำลังใจถอยทัพหนีกลับย่อมจะทำให้แผนการเราพินาศสิ้นทั้งหมด    หากไม่พร้อม
อย่างน้อยให้ตั้งมั่นยึดชัยภูมิเพื่อรอกำลังเสริมจากแม่ทัพของพวกเราที่โจมตีและให้ต่างแจ้งให้ทราบซึ่งกันและกัน
ทุกๆระยะทางที่โจมตีได้  หากเหลือกำลังให้รีบขอกำลังเสริมต่อทันทีอย่าได้ล่าช้าเด็ดขาด
        ส่วนทางเราก็จะเข้าโจมตีเมืองตองอูร่วมกับทหารเมืองฮะคาหากยึดได้ก็จะมุ่งสู่เมืองหงสาอันเป็นเมืองพึ่งตั้ง
ใหม่เช่นเดียวกับเมืองตองอู  หากเรายึดเมืองเหล่านี้ได้แล้วจะยกเข้าสู่เมืองซิตเวทันทีไปคอยรอทัพท่านทั้งหลายไว้
หากโอกาสเป็นของพวกเรา  เมื่อยึดเมืองยะไข่ได้ก็จะหวนกลับไปยึดแว่นแคว้นมอญทันที  อ้อๆๆหากสามารถยึด
แว่นแคว้นยะไข่ได้แล้วให้จัดกำลังพลไว้เป็นระยะทางเข้าแฝงตัวรวมกับชาวบ้านแห่งแคว้นมอญในลักษณะใดๆ
ตามที่ท่านเห็นสมควรพร้อมทั้งให้จัดทำถนนหนทางต่างๆเป็นแผนที่ส่งมาให้พวกเราทราบต่อๆไปด้วย
       เพื่อหลังจากเราสามารถยึดเมืองซิตะเวได้แล้ว  จึงจะอาศัยแผนที่บรรดาแว่นแคว้นของเมืองมะละแหม่ง
เพื่อจะได้เข้าโจมตีแว่นแคว้นเมืองมะละแหม่งต่อไป  ส่วนพลที่เหลือจากทิ้งไว้ให้นำกำลังพลมายังเมือง
เข้าโจมตีเมืองมะละแหม่งต่อไป  หากได้เมืองมะละแหม่งซึ่งขาดความช่วยเหลือจากบรรดาแว่นแคว้นต่างๆก็
คงจะง่ายด้วยเป็นทีราบซึ่งทหารพวกเราชำนาญยิ่งนักหากได้แล้ว   เราจะแจ้งแก่พวกพันธมิตรของเราให้ยกพลโอบล้อมเมืองอิสราวดีทันที ส่วนแว่นแคว้นของเมืองอิสราวดีท่านไม่ต้องมีปัญหา เพราะเราจะติดต่อกับแม่นาง
กษัตริย์ของเมืองอิสราวดีซึ่งเราจัดหาที่พักไว้ให้แล้วอย่างปลอดภัย  เพื่อออกมาทำหน้าที่ให้เข้ามาเกลี้ยกล่อมชาว
แว่นแคว้นต่างๆเองในด้านนี้คงจะไม่มีปัญหากับเรา  หากยังมีแว่นแคว้นใดยังเป็นพวกของกบฏอยู่เราจะจัดการ
ให้เรียบเป็นหน้ากลองเอง  ส่วนพวกท่านให้ไปรายล้อมเมืองอิสราวดีไว้แต่อย่าได้เข้าโจมตีเป็นอันขาด
       ด้วยไอ้กบฏมันมีอาจารย์ที่มีอิทฤทธิ์เรืองเวทย์มนต์ยิ่งนักพวกท่านมิอาจจะเข้าต่อสู้กับอำนาจไสยดำได้หรอก
ขอให้เป็นหน้าที่ของเราเองที่จะทำลายเวทย์มนต์   ข้าจึงถึงได้ปล่อยไว้เป็นเมืองสุดท้ายด้วยโดนตัดแขนขามันออก
แล้วเมืองมันย่อมเดือดร้อนเรื่องเสบียงอาหารที่บรรดาแว่นแคว้นต่างๆส่งส่วยให้แก่มัน
   เมื่อชายหนุ่มสั่งการแล้วก็ให้นายทัพนายกองทั้งหลายแยกย้ายเข้าควบคุมทหารมะรืนนี้เราจะทำการใหญ่ต่อไป
       บรรดานายทัพนายกองครั้นได้รับฟังคำสั่งพร้อมได้รับแผนที่ย่อยต่างๆไว้ต่างก็แสดงความเคารพแก่ชายหนุ่ม
พร้อมออกไปจัดการทหารและบรรดาอาวุธยุทโธปกรณ์  แต่ไม่ลืมนำสิ่งที่ชายหนุ่มประดิษฐ์มอบให้แก่นายทัพ
นายกองทุกๆนาย ตลอดอาวุธที่ใหญ่ใช้สำหรับทำลายประตูเมืองและกำแพงเมืองในเมืองเพื่อสร้างความโกลาหล
แก่บรรดาทหารและชาวบ้านทั่วๆไป  สั่งให้ทหารเตรียมพร้อมไว้พร้อมจะออกเดินทางในวันมะรืนนี้ ข้างขึ้นเดือน
หกแรมสิบห้าค่ำพอดี   ครั้นบรรดาทหารทั้งหลายเมื่อทราบจากนายทัพนายกองก็แสดงความยินดียิ่งนักด้วยทุกๆคนผ่านการศึกสงครามมาล้วนแล้วแต่ได้รับชัยชนะทั้งสิ้นทำให้ขวัญกำลังใจทหารทุกๆคนดีเยี่ยม ต่างกระเหี้ยน
กระหือในการรบพุ่งต่อไป หากได้มีความเกรงกลัวความตายใดๆไม่
       ครั้นชายหนุ่มสั่งการทหารทั้งหลายให้รู้หน้าที่แล้วก็กลับยังค่ายใหญ่  เข้าพักผ่อน แม่นางพรายทั้งสองก็พลัน
ปรากฏกายทันที   แม่นางทั้งสองยิ้มแล้วกล่าวชมเชยชายหนุ่มพลางกล่าวว่า
      “ พรายประกายแดงไม่เคยคิดเลยว่าท่านพี่นี้ทำไมจึงทราบเกี่ยวกับการปกครองวางแผนด้านการรบจึงได้รู้
รอบคอบละเอียดไปหมด หรือว่าท่านพี่เป็นท่านมหาอุปราชจริงๆกระมัง”
        “นั่นซิ”  นางพรายประกายเขียว
ก็กล่าวเสริมว่า“อันแม่นางจันทิราก็สวยคงจะถูกใจท่านพี่
กระมังนะ
  “พี่ประกายแดงท่านพี่เราถึงให้เคียงข้างรบด้วย”
        ชายหนุ่มหัวร่อหันมายั่วเย้าว่า   
        “หรือว่าหึงพี่แล้วหรือน้องพี่ที่รักทั้งสอง “ 
ฮ่าๆๆๆ.............
                 * แก้วประเสริฐ. *  

Cartoon_Animation_08.gifn016.gif				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    9 มีนาคม 2553 19:48 น. - comment id 115644

    สวัสดีค่ะลุงแก้วฯ 
    
    สหายฝนฝากบอกว่า ช่วงนี้กำลังยุ่งๆนิดหน่อยคะ
    
    ว่างเมื่อไหร่จะมาแฮ๊บไข่ของลุง เอ้ย จะมาแฮ๊บไข่เพื่อนๆตามปกติคะ
    
    ........11.gif46.gif65.gif
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    9 มีนาคม 2553 22:43 น. - comment id 115667

    มีคนมาติดต่อซื้อเรื่องไปทำละครบ้างหรือยังครับป๋า
  • แก้วประเสริฐ

    10 มีนาคม 2553 11:17 น. - comment id 115716

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ฉางน้อย
    
        หลานรักของลุง  บอกยายฝนด้วยนะยุ่งเรื่อง
    แฟนหรือการงานนั้นเขาเก่งอยู่แล้วคงไม่เป็นปัญหา
    หรอก จริงไหมหลานรักของลุง  อิอิ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    10 มีนาคม 2553 11:21 น. - comment id 115717

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ฤกษ์ ดอกคูณ
    
         ฮ่าๆๆ หาเรื่องขำให้ผมหัวร่อเสียแล้วเร๊อะ
    ผมแค่สนุกๆไปวันๆหนึ่งเท่านั้นเองแหละ ฝึกสมอง
    ไว้ไม่ให้มันเสื่อมเร็วกว่าปกตินะ เรื่องที่ว่าไม่ต้อง
    เอ่ยกันเลย งานเขียนโหลยโท๊ยแบบนี้ใครเขา
    จะมาสนล่ะ นอกจากพวกเราบางคนมาอ่านสนุกๆ
    เท่านั้นเอง  แต่คนที่ไม่ชอบอ่านยาวๆก็เบื่อนอก
    จากพวกหนอนหนังสือเท่านั้นจ๊ะพ่อรูปหล่อแห่ง
    เวปไทยกลอน  รักเสมอ
    
           16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แขกประจำบ้านกลอน

    10 มีนาคม 2553 11:41 น. - comment id 115719

    หวัดดีนะคะ ครูแก้ว
    ตามไม่ทันแล้วหละคะ
    คงจะต้องกลับย้อนไปอ่านต่อ
    ตั้งแต่
    บทที่ 28 ก็คงใช้เวลาหลายวัน
    มัวแต่ไปท่องเที่ยวแดนอิสาน 
    ขอบคณมากนะคะครูแก้ว
    36.gif36.gif36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    10 มีนาคม 2553 11:49 น. - comment id 115720

    36.gif16.gif36.gif
    ่คุณ แขกประจำบ้านกอลน
    
         ขอบคุณครับแฟนคลับประจำสงสัยเหมือนกัน
    ว่าคงจะไม่อยู่ด้วยหายไปหลายวัน ตอนนี้ทางนั้น
    ร้อนมากๆเชียวนะครับ โอ้โหคงจะตามหลายๆวัน
    เชียวครับแต่ไม่เป็นไร  ผมดีใจมากที่ได้พบคุณ
    อีกครั้งครับ รักเสมอๆครับ
    
           16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • โคลอน

    11 มีนาคม 2553 13:15 น. - comment id 115734

    4.gif โห โดนพาดพุงเปงระยะ 65.gif
    
    มาแว๊วค่า อิอิ
    
    ตอนนี้เนื้อหาไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ อิอิ
    
    ยิ่งตอนท้ายๆนางพรายทั้งสองได้โผล่มาแระ...อิอิ
    
    คงทำให้คนที่รอฉากกุ๊กกิ๊กยิ้มออกเชียวค่ะ 44.gif
  • แก้วประเสริฐ

    11 มีนาคม 2553 15:55 น. - comment id 115742

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
        คุณฝนการศึกไม่สงบการรบรักก็ย่อมที่หลัง
    จริงไหมครับ อิอิ รักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน