ลุ่มลึกอิสราวดี 24

แก้วประเสริฐ


                  ลุ่มลึกอิสราวดี  24
      เมื่อทั้งหมดอำลาท่านผู้เฒ่าแล้วก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปทางภูเขาเบื้องหน้า
ด้วยเจ้าลิงขนขาวนั้น      ชำนาญทางภูมิประเทศแถบนี้มากมันจึงออกนำหน้า
ติดตามด้วยเจ้าขนทองในระยะห่างกันพอสมควร   ทั้งหมดผ่านป่าไม้ที่อุดม
ไปด้วยความสมบูรณ์ต้นไม้ใหญ่น้อยต่างเขียวชอุ่ม  บางต้นออกดอกสีสวยงาม
       กล้วยไม้หรือก็ออกดอกงามย้อยระย้าสะพรั่งตามคาคบไม้สูงๆสีสันงามแปลก
ตา  บ้างสีเหลือง บ้านชมพูอมขาว  บ้างสีค่อนข้างแดงอมชมพู หลายหลากสี
ทั้งหมดต่างมุ่งหน้าเดินไปข้างหน้า    ยามพักผ่อนจากการอ่อนล้าชายหนุ่มก็เรียก
เจ้าลิงขนขาวมาเพื่อฝึกปรือวิชาการต่อสู้   แต่เนื่องจากมันเป็นลิงที่ฉลาดและผ่าน
การฝึกฝนจากท่านผู้เฒ่ามาบ้างแล้ว    จึงไม่ยากนักที่เขาจะอบรมสั่งสอน  
       ชั่วระยะไม่นานนักด้วยเวลาผ่านมาหลายวันทำให้บังเกิดความใกล้ชิดสนิทสนม
มากยิ่งขึ้น   เจ้าขนทองและเจ้าขนขาวต่างก็เข้ากันได้ด้วยดี   ส่วนหน้าที่การหาอาหาร
นั้นเจ้าขนทองถือตัวเองว่าเป็นคนก่อนเก่า  จึงตกเป็นหน้าที่ของเจ้าขนขาวที่ต้องไป
เที่ยวเก็บผลไม้ต่างๆ    มาให้พวกเขาทานกันความเฉลียวฉลาดที่ชายหนุ่มสักเกตุดู
ว่ารู้สึกเจ้าขนทองจะมีมากกว่าเจ้าขนขาวด้วยลักษณะการกระทำของมันทั้งสอง   
         เขาให้มันทั้งสองต่อสู้กันเพื่อฝึกฝนวิชาการต่อสู้   ที่เขาได้ถ่ายทอดออกมาให้
ต่างเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและฝีมือเจ้าขนทองจะเหนือกว่าเจ้าขนขาวมากนัก   
จนบัดนี้การขว้างปาด้วยก้อนหิน การใช้ไม้แทนอาวุธต่างคล่องแคล้วว่องไวมาก  
 ปกตินิสัยของลิงย่อมว่องไวอยู่แล้วเมื่อได้รับการฝึกฝนยิ่งบังเกิดความรวดเร็วมาก
ขึ้นกว่าเดิม   การเคลื่อนไหวประดุจดังสายลมแทบจะมองไม่เห็นในการหลบหลีก
การหนีการเข้าต่อสู้การออกมาเพื่อต้านรับนั้นผสมผสานกันอย่างดีและอีกสิ่งหนึ่งที่
เขายังได้รับความรู้จากเจ้าขนขาวด้วยวิชาที่มันนำมาใช้ซึ่งได้รับการอบรมสั่งสอนมา
จากท่านผู้เฒ่าอีกด้วย     
         ดังนั้นเขาจึงนำวิชาของเขากับของท่านผู้เฒ่ามาผสมผสานกันจนคล่องแคล้ว
ด้วยการที่เขาฝึกปรือก่อนจะถ่ายทอดให้มันทั้งสอง    เวลาผ่านไปค่ำไหนก็นอนนั่น
จนกระทั่งมาถึงช่องแคบไม่ใหญ่มากนัก   ทั้งหมดก็พ้นบริเวณหุบเขาผ่านออกมากสู่
อีกด้านหนึ่ง     ชายหนุ่มแลไปเห็นเป็นที่โล่งเตียนและเต็มไปด้วยฝูงสัตว์น้อยใหญ่
ต่างเดินเพ่นพ่านหาอาหารเป็นพวกๆ   มีทั้งควายป่า   กวาง เก้ง หมาป่า  ช้างสูงใหญ่
ตลอดจนเสือ สิงห์และเหล่าสัตว์อีกมากมายนัก    
       ซึ่งพวกเขาจำต้องออกเดินทางผ่านฝ่าฝูงสัตว์เหล่านี้ไปด้วยเป็นบริเวณ
ที่ปราศจากต้นไม้ใหญ่  จะมีบ้างก็ไม่กี่ต้น      แต่ก็เป็นบางแห่งที่มีต้นไม้
ขึ้นเป็นหย่อมๆไป    เขาเองก็สงสัยเหมือนกันว่าเหตุใดพวกมันถึงไม่เข้าไปภายใน
บริเวณหุบเขาที่เขาผ่านมาซึ่งอุดมไปด้วยพืชพันธุ์นานานัปการ   กลับมาอยู่ในบริเวณ
ที่แห่งนี้ทั้งหมดที่มีแต่วัชพืช     จึงเกิดการเข่นฆ่ากันจากพวกกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร 
      ดังนั้นพวกมันจึงต่างมีความหวาดระแวงกันต่อกันต้องระวังภัยที่จะมาถึงเมื่อใดก็ได้
เหตุดังนี้มันถึงอยู่รวมๆกันเป็นพวกๆ   ชายหนุ่มมองหาหนทางจะหลีกเลี่ยงเจ้าพวกนั้นแต่
ก็ไม่มีที่จะหลบเลี่ยงไปได้นอกจาก    ฝ่าไปยังฝูงกวางเท่านั้นแต่ทว่าบริเวณนั้นกว้างขวาง
มากยากจะหลีกไปซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์นานาชนิด
     
      เมื่อเป็นเช่นนี้เขาคิดว่าคงจะรอให้ตกเย็นสักหน่อยเพื่อให้สัตว์ทั้งหลายหากินแล้วต่างก็
จะกลับไปสถานที่มัน    จึงจะออกเดินทางไปด้วยมิอยากจะฆ่าสัตว์เหล่านี้เพราะเขาไม่มี
ความต้องการจะกินเนื้อพวกมัน  จนบัดนี้เขาเว้นจากการกินเนื้อสัตว์มานานแสนนานแล้ว
นั่นเองกินแต่พวกผลไม้     แต่เรื่องนี้ซิมันจะสร้างปัญหาให้เขาด้วยจึงจะต้องรีบหาหนทาง
เพื่อผ่านทุ่งบริเวณเหล่านี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  ในที่ไกลตานั้นเขามองเห็นมีแนวป่าอยู่
ขึ้นเขียวๆใกล้ๆกับภูเขาแต่เอ๊ะเขาฉงนในใจ  เหตุใดหรือพวกมันถึงไม่ไปหากินแถวๆนั้น
หรือว่าจะมีสิ่งที่น่ากลัวสำหรับพวกมันอาศัยอยู่    แต่ช่างเถอะเมื่อเหตุการณ์มาถึงตอนนี้แล้ว
เขาก็ผ่านสิ่งร้ายๆมามากพอสมควรจึงมิได้หวั่นเกรงแต่ประการใดไม่    
        จึงนั่งพักผ่อนกับเจ้าสองตัวในช่วงที่เว้นว่างเช่นนี้เขาไม่มีอะไรจะทำจึงนึกได้ว่า  ถ้าหาก
เขาจะทำย่ามอีกสักสองใบเพื่อให้เจ้าลิงทั้งสองใช้จากหนังกระทิงที่พอจะทำได้ ซึ่งไม่ได้ใช้
อะไรมาทำก็จะเหมาะ   ดังนั้นจึงนำเอาหนังกระทิงมาตัดเป็นย่ามร้อยด้วยเอ็นจนเป็นย่ามได้
สองใบ  เสร็จแล้วจึงเรียกเจ้าทั้งสองเข้ามาพร้อมนำมาคล้องสะพายให้กับเจ้าทั้งสองแล้ว
ส่งสัญญาณให้มันรับรู้การใช้และไปหาอาหารมาตุนไว้   เจ้าทั้งสองรับรู้ในการส่งสัญญาณมือ
ของเขาแล้วทั้งสองก็หันหลังกลับพุ่งร่างทะยานไปในป่าเบื้องหน้าทันที
       ชายหนุ่มรอจนกระทั่งเจ้าขนทองปรากฏกายขึ้นพร้อมในย่ามเต็มไปด้วยผลไม้นาๆชนิด
สักพักเจ้าขนขาวก็กลับมาพร้อมผลไม้เต็มย่ามเช่นกัน   ทั้งหมดก็ลงมือกินอาหารทันทีสำรอง
ไว้เพื่อจะออกเดินทางต่อไปยามอากาศตกเย็นจวนใกล้ๆค่ำ   ครั้นได้เวลาแล้วจึงนำเจ้าทั้งสอง
ออกเดินทางฝ่ากลางทุ่งที่ยังร้อนระอุอยู่มุ่งหน้าตรงไปอย่างรวดเร็ว  ด้วยบรรดาสัตว์น้อยใหญ่
ต่างกลับกันคงเหลือเพียงส่วนน้อยเท่านั้น   ซึ่งมีพวกหมาป่ากำลังกัดแทะเนื้อที่เหลือจากเสือ
กินทิ้งไว้   เขาเดินหลีกเลี่ยงพวกมันหมายมุ่งไปยังแนวป่าที่มองเห็นว่าไม่ไกลนักแล้ว  ยิ่งใกล้
เข้าไปยิ่งแปลกใจมากเพราะหาได้มีสัตว์อื่นๆจะเข้ามาใกล้เลยสักตัวเดียว
       ครั้นผิดสังเกตเช่นนี้จึงตบไปยังไหล่ของเจ้าลิงทั้งสองเสมือนจะเตือนภัยให้แก่มัน  และมัน
เหมือนจะรู้ตัวเหมือนกัน ด้วยขนของมันต่างพองไปทั้งลำตัวหันหน้ามองมาทางเขา    ชายหนุ่ม
จึงลูบหัวทั้งสองเบาๆคล้ายจะปลอบใจมัน  แล้วก็มุ่งหน้าไปเข้าแนวป่าทันที     เสียงดังแซดๆๆ
ดังขึ้นชายหนุ่มชักดาบออกมาถือ    พร้อมกับได้ยินนางพรายกระซิบเตือนข้างหูเขาว่าให้ระวัง
ไว้มีสัตว์ประหลาดกำลังจะมาทำร้ายเอา    
       ในท่ามกลางอากาศที่ยังสลัวๆนั้นเขาเห็นสิ่งหนึ่งมองดูคล้ายเถาวัลย์แต่แปลก
ที่ปลายมันมีสองแฉกสีแดงเข้มพุ่งมายังพวกเขาแต่ไม่ถึง กลับหดหายไปอีก   
เมื่อเขาเดินล่วงหน้าไปเสียงดังโครมครามของต้นไม้ที่หักดังเข้ามา   ปลายคล้ายเถาวัลย์สีแดง
ก็พุ่งเข้ามาอีกคราวนี้มันตวัดมายังร่างเขาทันที    ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบตีลังกา
ถอยหลังพร้อมกับฟันดาบใส่ยังคล้ายเถาวัลย์สีแดงทันใด    สายเถาวัลย์นั้นก็ขาดออกมา
          พร้อมกับเลือดพุ่งฉีดใส่  ชายหนุ่มรีบหลบสายเลือดนั้นทันที   เสียงร้องกึกก้องดังกังวาน
ทันใดหัวของสัตว์ประหลาดได้โผล่หน้าออกมา   นี่เพียงแค่ท่อนหัวมันเท่านั้นยังกับภูเขาลูก
ย่อมๆทีเดียว   แล้วร่างมันพร้อมขาก็โผล่ออกมาใบหน้ามันแหลมเสี้ยมมีหนามแหลมคม
ตลอดด้านหลังมันซึ่งโผล่มาแค่ครึ่งตัวร่างมันช่างใหญ่โตนัก   หัวมันผงกๆไปๆมาๆส่ายสายตา
เมื่อแลเห็นเขากับเจ้าลิงทั้งสองมันก็แลบลิ้น  แต่ทว่าลิ้นที่เขาเห็นเป็นเถาวัลย์สีแดงนั้นเหลือ
แค่เพียงครึ่งเดียวเลือดไหลหยดเป็นทางริมปากมันก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของมันเอง   แล้วมัน
         พุ่งร่างเข้าใส่เขาพร้อมเล็บหน้าที่แหลมคมทั้งสองทันที   ชายหนุ่มรีบกระโดดหลบไปข้าง
ต้นไม้ใหญ่  ส่วนเจ้าลิงทั้งสองต่างกระโจนเข้าใส่สัตว์ร้ายร่างยักษ์นั้นทันที     ตัวหนึ่งขึ้นไปบน
หัวมัน อีกปลายหนึ่งหายไปคิดว่าไปยังด้านหางของมันด้วย   เขาพึ่งสังเกตเห็นว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้ดุจ
คล้ายกิ้งก่ามาก    แต่ผิดกับว่าตัวมันใหญ่โตเท่านั้นเอง   นั่นซิจึงทำให้พวกสัตว์ต่างๆไม่กล้าเข้ามา
ในดงไม้นี้ด้วยเกรงภัยจากมัน    หัวมันยังส่ายไปส่ายมาแล้วย่างเข้าหาร่างชายหนุ่ม   เขาได้ล้วง
หยิบก้อนหินสีแดงออกมาแล้วขว้างไปยังดวงตามันทันที   ผลว่าหินทั้งสองหายวับไปในดวงตา
มันเลือดทะลักไหลแดงฉาน    มันตาบอดเสียแล้วพร้อมส่งเสียงร้องก้องคำรามลั่นสนั่นไปทั่ว
บริเวณนั้นด้วยความเจ็บปวด   พร้อมร่างมันก็พุ่งออกมาจนพ้นแลเห็นทั้งตัวหางมันยาวมากๆ
ส่วนเจ้าขนทองกำลังกัดเนื้อท่อนหัวมันจนเป็นแผลเหวอะหวะ  ส่วนเจ้าลิงขนขาวก็กัดฝังเขี้ยว
มันไปยังท่อนก่อนปลายหาง   ส่วนหางมันฟาดไปยังบรรดาต้นไม้เล็กๆหักสะบั้นทันที
เสียงร้องของมันทำให้พวกสัตว์ทั้งหลายต่างหนีกันกระเจิงไป  นกบินว่อนหนีไปแต่มันหาได้
        ลดทอนความดุร้ายมันก็หาไม่เสมือนมันยังได้กลิ่นของเขาอยู่   จึงอ้าปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยว
แหลมคมที่เรียงรายเต็มปากมัน  เข้างับมายังชายหนุ่มมันที   ต้องทำให้เขารีบกระโดดหลีกไป
อีกต้นหนึ่ง  ต้นไม้ที่เขาใช้หลบภัยนั้นต่างหักคาปากมันทันที   คราวนี้ชายหนุ่มปลดคันธนูพร้อม
หยิบลูกธนูที่มีประกายแวววาวสดใสออกมา   แล้วยิงไปยังหัวมันตรงแสกหน้ามันลูกธนูส่งเสียง
หวีดหวิวๆพร้อมพุ่งเข้าเสียบยังแสกหน้าจมหายไปเกือบหมด  ร่างมันหยุดชะงักลงพร้อมทั้ง  
        ร่างเจ้ากิ้งก่าก็ดิ้นพลาดๆทันที    ส่วนเจ้าลิงทั้งสองที่ต่างกัดร่างมันจนเหวอะหวะไป
 ต่างกระโดดหนีออกจากร่างมันพุ่งตัวไปยังกิ่งไม้พลางแกว่งร่างไปตามต้นไม้เพื่อเข้าต่อสู้อีก
   แต่ทว่าร่างเจ้ากิ้งก่ายักษ์นั้นกับดิ้นพลาดๆเป็นบริเวณกว้าง ทำให้บรรดาต้นไม้เล็กใหญ่ต่าง
หักล้มลงส่งเสียงดังสนั่นไปทั่ว   แล้วร่างของมันก็หงายท้องทุกส่วนร่างของมันกระตุกๆเบาๆ
แล้วก็หยุดเงียบไป  ชายหนุ่มเดินเข้าไปดูเห็นเลือดและสมองมันไหลออกมามากมาย
เขาดึงลูกธนูที่ปราศจากเลือดติดมาเสียบยังกระบอกไม้ที่เดิม
         ครั้นเจ้าลิงทั้งสองเหมือนจะรู้พุ่งกายลงมายืนอยู่ใกล้ๆร่างชายหนุ่ม  พร้อมขย่มตัวมันร้อง
เสียงดัง คงจะแสดงถึงชัยชนะที่มีต่อเจ้าสัตว์ประหลาดนี้กระมัง   แล้วนำดาบออกมาชำแหละยัง
ดวงตากลมโตใหญ่คว้านหาก้อนหินสีแดงสองลูกนำออกมาเก็บไว้ใช้ต่อไป   พอจัดการกับเจ้า
ร่างยักษ์แล้ว  ก็ออกเดินทางมุ่งต่อไปยังภูเขาที่อยู่เบื้องหน้า   เพื่อค้นหาสถานที่พักผ่อน 
  การค้นหาผ่านไปสักพักก็พบโพรงถ้ำกว้างใหญ่มากทั้งโพรงปากถ้ำก็สูงใหญ่เช่นเดียวกัน  
        จึงเดินเข้าไปสำรวจภายในโดยจุดคบเพลิงส่องนำทางเพื่อความไม่ประมาท  ค่อยๆเดินเข้าไป  
เกรงว่าภายในคงจะมีสัตว์ร้ายอาศัยแต่ไม่พบสิ่งใด    หรือว่านี่คือสถานที่เจ้ากิ้งก่าคงใช้อาศัยอยู่เหตุ
ไฉนจึงมีร่อยรอยคล้ายๆจำนวนมากอาศัยอยู่    เขาคิดว่ามันจะต้องมีสองตัวหรือมากกว่านั้นอีก
 หรือว่ามันแยกย้ายไปหาอาหารกัน ซึ่งภายในเป็นโพรงถ้ำที่สูงกว้างขวางนัก
   ครั้นสำรวจแล้วไม่เห็นมีสัตว์ร้ายใดๆแม้กระทั้งงูก็ไม่มี  มีแต่หินย้อยบางแห่งหักแตกตกลงมา
       ดังนั้นชายหนุ่มจึงนำคบเพลิงไปหาที่พักแล้วใช้หนังสัตว์ทำความสะอาดบริเวณ
พอที่จะอาศัยได้เท่านั้น   ร่างนางพรายทั้งสองก็ปรากฏกายขึ้นพลางยิ้มให้แก่ชายหนุ่มแต่ยิ้มหล่อนดู
ค่อนข้างแปลกๆกว่าเก่ามากนัก     ต้องทำให้ชายหนุ่มจ้องมองดูแม่นางพรายทั้งสองทันที  
 สังเกตเห็นว่าคราวนี้หล่อนช่างผิดกับคราวก่อนมากคือมีใบหน้าแดงซ่านและค่อนข้างตะลึงเอียงอาย
เมื่อยามจ้องมองมายังร่างของชายหนุ่มมองหล่อนพิจารณาอย่างละเอียดกิริยาท่าทางจะเอียงอายนิดๆ    
        ดังนั้นจึงถามแม่นางทั้งสองไปว่า
      “น้องเราเป็นอะไรไปหรือเปล่า   พี่เห็นหน้าน้องดูแปลกๆนะ”
       “หามิได้พี่ท่าน  เราทั้งสองไม่เป็นอะไรหรอกแต่ชมดูการต่อสู้ของท่านพี่เท่านั้นเอง”  นางพราย
แดงกล่าวเหมือนจะเลี่ยงๆไป  แต่ท่าทีแสดงอาการขวยเขินนัก
        “อ้าวแล้วทำไมอากัปกิริยาจึงไม่เหมือนเดิมล่ะ????....”         ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย
   คราวนี้ทั้งสองอ้ำอึ้งๆไปต่างมองหน้ากัน   นางพรายเขียวตอบทันที
         “ก็พี่ท่านทำไมช่างหล่อเหลานักนะซิ  ไม่คิดว่าพอท่านพี่โกนหนวดเคราและจัดระเบียบผมแล้ว
รูปร่างจะเปลี่ยนไปเช่นนี้  พวกน้องคิดไม่ถึงจริงๆจ๊ะ”    นางพรายตอบด้วยสีหน้าแดงระเรื่อๆ
         “โถๆๆแค่นี้เองหรอกหรือ  พี่ยังนึกว่าน้องคงจะไม่สบายเสียอีก”    ชายหนุ่มกล่าว
        “ไม่เห็นแปลกอะไรเลย ก่อนนั้นพี่เองก็เป็นแบบนี้แหละ  ผิดก็เพียงแต่ทรงผมเท่านั้นเองจ๊ะ”
        “สมแล้วที่มีคนคอยคำนึงถึงไม่ยอมสร่างซาเลย”   แล้วทั้งสองก็หัวร่อต่อกระซิกต่อกัน
         “ใครหรือน้องเราที่เฝ้ารอคอยพี่นะ????....”    คราวนี้ชายหนุ่มยิ่งสงสัยมากยิ่งขึ้น
          “น้องเองก็บอกท่านพี่ไม่ได้หรอกจ๊ะ”        นางพรายแดงกล่าว
          “ลำบากแก่ใจน้อง  พี่ก็ไม่ถามอีกแล้วล่ะ งั้นพี่จะขอพักผ่อนหน่อยนะ”  ชายหนุ่มกล่าวทั้งที่
ยังสงสัยในคำพูดของแม่นางพราย  และอากัปกิริยาของนางทั้งสอง
         “จ๊ะท่านพี่ตามสบายเถอะ   เดี๋ยวน้องจะออกไปดูนอกถ้ำหน่อย  ส่วนแม่ประกายเขียวจะคอย
เฝ้าดูแลท่านพี่ที่นี้จ๊ะ”  นางพรายประกายแดงกล่าวแล้วลอยละล่องออกจากถ้ำไปทันที
              
     จวบฟ้าใกล้สางค่อนรุ่งนี้ย่างกรายเข้ามาอีก  อากาศภายในช่างเย็นนักหากยังมีแสงเพียงแค่สลัวๆเท่านั้น
แต่ภายนอกลมพัดเอื่อยๆหอมกลิ่นของดอกไม้ลอยมากระทบจมูกชายหนุ่มช่างหอมชื่นใจนัก  
 เขาพึ่งสังเกตว่าปากถ้ำนี้ก็มีวัชพืชคลุมอยู่มีดอกเริ่มบานสะพรั่งและโชยกลิ่นหอมแปลกประหลาดนัก
เขาที่เคยสงสัยแต่เมื่อแลเห็นก็หายสงสัย  กลิ่นนี้นี่เองยามลมโชยเข้ามาจึงหอมละมุนยิ่งนักชายหนุ่มคิด
      เขาหันไปมองเจ้าสองตัวเห็นมันตื่นตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้แต่ด้วยสัญชาติฌานสัตว์ย่อมไม่ตื่นนอนสายอยู่
แล้วนั่นเอง  แต่มันไม่ไปไหนเพียงแต่นั่งเฝ้าคอยดูแลเขา   ดังนั้นชายหนุ่มจึงเดินไปยังภายในถ้ำซึ่งอาจจะ
มีน้ำที่หยดไหลจากหินย้อยบ้างตามที่เคยปรากฏเสมอๆที่เขาเข้าพักตามถ้ำผ่านมา   แล้วก็จริงดังนั้นจึงรีบ
ชำระล้างใบหน้าให้สะอาดพร้อมทั้งลูบไล้ตัว  และเรียกลิงทั้งสองมาให้ดื่มกินพร้อมเติมน้ำในกระบอก
เก็บน้ำให้เต็มไว้เพื่อจะได้เดินทางต่อไปไม่ต้องขาดน้ำอีก   ทันใดนั้นเองแม่นางพรายแดงก็เข้ามาหาเขา
พลางกล่าวแก่เขาทันที่ว่า............
              *  แก้วประเสริฐ.  *

				
comments powered by Disqus
  • โคลอน

    19 กุมภาพันธ์ 2553 16:52 น. - comment id 92500

    11.gif11.gif11.gif
    
    ได้ที่นั่งแถวแรก อิอิ 30.gif
  • แขกประจำบ้านกลอน

    19 กุมภาพันธ์ 2553 22:44 น. - comment id 92505

    มาติดตามเช่นทุกวันคะ
    ขอบคุณมากนะคะครูแก้ว
    36.gif36.gif36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    20 กุมภาพันธ์ 2553 10:06 น. - comment id 92509

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
         ขอบคุณมากคุณฝน  แถวแรกไม่ต้องมีคน
    แย่งด้วยจ๊ะ รักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    20 กุมภาพันธ์ 2553 10:07 น. - comment id 92511

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แขกประจำบ้านกลอน
    
         ขอบคุณครับเป็นอย่างไรบ้าง  แต่งเรื่องนี้
    พอจะไปวัดไปวากับเขาได้ไหมครับ ขอบคุณรักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประภัสสร

    20 กุมภาพันธ์ 2553 11:13 น. - comment id 92512

    แล้วว่ายังไงต่อคะคุณครู
    นึกภาพเจ้าสัตว์ประหลาดตนนี้
    เหมือนในหนังฝรั่งเลยค่ะครู ตัวเขียวๆ
     ก้ามโตๆ มีเขี้ยวแยกออกมานะค่ะ
     
    ครูแก้วฯสบายดีนะคะ 
    รักษาสุขภาพด้วยค่ะ 
    36.gif36.gif29.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    20 กุมภาพันธ์ 2553 13:48 น. - comment id 92528

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  แก้วประภัสสร
    
         ศิษย์รักยิ่งของครู  พยายามฝึกฝนกลอน
    ให้เชี่ยวชายและโคลง กาพย์ด้วยนะ  ครูที่มา
    เล่นทางนี้ก็ปล่อยโอกาสให้พวกเราได้เล่นตามใจ
    จะได้ไม่ต้องกังวลครู   และก็สนุกๆดีด้วยล่ะมัน
    คนละแบบกันจ๊ะ  ส่วนที่เธอเล่ามาครูไม่รู้เรื่อง
    เลย  เรื่องดูหนังตามโรงนั้นแม้กระทั่งซีดีครูก็
    ไม่ได้ดูเลย เพราะเบื่อๆจ๊ะ  สุขภาพครูเอง
    ก็ลุ่มๆดอนๆแหละ ตามประสาคนแก่นะ
    นี่พึ่งแต่งเรื่องต่อเสร็จจ๊ะ กำลังตรวจทานดูเห็น
    ว่าไม่ผิดอักษร หรืออาจพลาดก็คงจะน้อยกระมัง  แล้วก็จะส่งอยู่จ๊ะ รักศิษย์เราเสมอ
    
           16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • กิ่งโศก

    20 กุมภาพันธ์ 2553 14:36 น. - comment id 92529

    ตามอ่านครับครู..มีตอนใหม่รออยู่ด้วย  ดีจังครับ
  • แก้วประเสริฐ

    20 กุมภาพันธ์ 2553 14:50 น. - comment id 92530

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
         ศิษย์รักยิ่ง  ครูจะเขียนส่งทุกๆวันแหละพอ
    เขียนไปสมองครูมันก็เกิดสิ่งใหม่ๆขึ้นมาเสมอๆ
    ด้วยครูชอบแต่งแบบสดๆ  เหมือนกับกลอนนั่น
    แหละจ๊ะ  รักศิษย์เราเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน