ลุ่มลึกอิสราวดี 22 ครั้นหลังจากที่ต่างชำระล้างเลือดสะอาดดีแล้ว ชายหนุ่มก็ขึ้นจากแอ่งน้ำ พร้อมกับเจ้าขนทอง ส่วนเจ้าขนทองก็สะบัดน้ำให้หลุดจากขนมันพร้อม กับตีลังกาไปหลายๆรอบ ชายหนุ่มรีบแต่งตัวเพื่อจะออกเดินทางต่อไป อากาศช่วงนี้ค่อนข้างเย็น ด้วยก้อนเมฆมาบดบังดวงอาทิตย์ทำให้ร่มรื่น ภายหลังจากที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็มาทานผลไม้ร่วมเจ้าลิงขนทอง ซึ่งเขา เองยังไม่รู้ว่าหนทางจะไปทางใดเพียงแต่คิดว่าจะหาทางออกจากป่าเขาดงดิบ ซึ่งอุดมไปด้วยภูเขามากมายนัก จึงได้ชวนเจ้าขนทองเดินเลียบไปทางเชิงเขาผ่านหน้าผาที่ทอดเป็นทางเป็น ระยะ บ้างก็เรียบบ้างก็ขรุขระ ชายหนุ่มมองไปยังอีกด้านหนึ่งของภูเขาที่ใกล้ๆ กันเห็นมีสะพานไม้เก่าๆทอดเรียงรายไปตามไหล่เขา คิดว่าคงจะเป็นการสร้าง โดยน้ำมือของมนุษย์แน่นอน แต่สะพานดูช่างเก่ามากๆเสียด้วยจะใช้การได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ ดังนั้นเขาจึงต่างพากันเดินเลียบหน้าผาไปเพื่อหมายค้นหาทาง ซึ่งเขาคิดว่า ในเมื่อมีสะพานทอดของอีกเขาลูกหนึ่งแล้วก็คงจะมีการเชื่อมต่อกัน ระหว่าเขาต่อเขาแน่ แต่อยู่ที่ใดล่ะชายหนุ่มรำพึงกับตัวเอง จวบจนตะวันเริ่มสูงขึ้นอากาศก็เริ่มจะ ร้อนอบอ้าว ชายหนุ่มมองไปยังเบื้องล่างเห็นเป็นลำธารสายน้ำเล็กๆที่ทอดยาวเหยียด แต่กับมีควันลอยเป็นกลุ่มๆคล้ายหมอกจนไปสิ้นสุดทางที่คดเคี้ยวลับเหลี่ยมเขา หากว่าเขาไม่ได้เดินอยู่บนหน้าผาที่เป็นทางเดินแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะข้ามลำธารนี้ได้อย่างไรกัน น้ำในลำธารคงจะร้อนมากและจนปรากฏหมอกควันขึ้น ไอของหมอกยามเมื่อมากระทบผิวกายเขายังรู้สึกว่าค่อนข้างแสบร้อน เมื่อเป็นเช่นนี้เห็นว่าจะต้องอาศัย สะพานหากมีข้ามไปยังภูเขาอีกลูกหนึ่งที่เรียบชัน หาทางไต่เกาะได้ยากยิ่งนักอีกหมอก ควันก็เกิดละอองจับยังหินผาย่อมจะลื่นมากๆเสียด้วย ชายหนุ่มสอดส่ายสายตาไปข้างหน้าแล้วเดินทางไปเรื่อยๆ คิดหวังว่าโอกาสที่จะพบสะพานก็คงจะมี ครั้นเดินทางไปตามเรียบผสมขรุขระ แล้วก็เป็นอุโมงค์ที่ถูกเจาะทะลุให้เป็นทางเดินต่อไป จึงได้เดินตรงไปแล้วลอดช่องลอดที่เป็นทางเดิน ใช้เวลานานพอประมาณจึงพ้นจากอุโมงค์นั้น เพื่อพ้นปากทางออกของอุโมงค์ เบื้องหน้าเขาก็พบสะพานทอดไปสู่ยังภูเขาอีกลูกหนึ่ง ชายหนุ่มดีใจมากจึงได้รีบจูงมือเจ้าขนทองให้เร่งการเดินทาง เพื่อให้ถึงสะพานดังกล่าว พอถึงสะพานที่ทำด้วยไม้แต่ทว่ามันผุมากจะใช้ได้หรือเปล่า เชือกเถาวัลย์ที่ใช้ใน การผูกมัดก็ค่อนข้างเก่า ชายหนุ่มเกิดความลังเลใจทดลองเขย่าสะพานดูเห็นว่าพอจะใช้ งานได้ในบางช่วง ฝ่ายเจ้าขนทองเห็นดังนั้นมันพุ่งร่างไปยังสะพานก่อนชายหนุ่มซึ่งยัง เกิดความลังเลใจ มันซึ่งบัดนี้มีรูปร่างใหญ่โตมากจริงๆ หัวมันสูงเทียมกับไหล่ของเขาแต่ น้ำหนักคงจะมากกว่าเขามากนัก มันรู้โดยสัญชาติฌานมันว่าคงเป็นหน้าที่ของมันที่จะ ทดสอบสะพานนี้ก่อนชายหนุ่ม ร่างมันเดินไปขย่มสะพานไปเรื่อยๆจนถึงกลางสะพาน ไม้ที่ผุบางอันร่วงหล่นไปยังพื้นที่มีน้ำในลำธารรองรับ ชายหนุ่มมองตามลงไป เขารู้สึกตกใจด้วยเห็นไม้ที่แห้งผุนั้นเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นทันที หากแม้นเป็นเขาและเจ้า ขนทองก็อย่าหมายมีชีวิตรอดไปได้ ด้วยน้ำในลำธารมีความร้อนสูงหรืออาจจะเป็นกรด ที่ทำลายทุกๆสิ่ง เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้พอเหลือบสายตาไปก็เห็นเจ้าขนทองไปอยู่ยังอีก ฟากหนึ่งของภูเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงค่อยๆย่างเท้าหยั่งลงไปและจับเชือกที่ทำถ้วยเถาวัลย์ ค่อยๆเหนี่ยวไว้ ก้าวไปทีละก้าวๆจนเกือบถึงปลายสะพานทันใดนั้นเอง เชือกที่ผูกสะพานก็ ขาดออกจากกัน ด้วยรับน้ำหนักเขาไม่ได้ด้วยเจ้าขนทองล่วงหน้าไปแล้วทำให้เชือกเกิดการผุ กร่อนมากยิ่งขึ้น สะพานได้ขาดแยกจากกันทันที ชายหนุ่มคว้าเชือกที่มีกระดานผุๆนั้น เชือกและกระดานหล่นฟาดกับผนังของภูเขาทันที เสียงดังโครมของเศษไม้สะพานที่ผุ ร่วงหล่นไปยังสายน้ำทันทีเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ส่วนร่างของเขาห้อยต่องแต่งอยู่ปลายสะพานที่ขาดจากกัน เขาปล่อยร่างที่เคว้งคว้างปลาย สะพานที่ห้อยอยู่ เสียงเจ้าขนทองขู่ร้องเจี๊ยกๆๆดังลั่นไปทั่วมันแสดงอาการเหมือนจะมาช่วยเหลือเขา มันยืนอยู่หน้าผาของภูเขาที่มีสะพานเชื่อมต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้นชายหนุ่มค่อยๆไต่เชือกและเหยียบบนไม้ที่ห้อยร่องแร่ง ค่อยๆไต่ขึ้นมาทีละน้อยๆ พอพ้นเชือกที่เขาเหยียบพ้นแล้วก็ขาดร่วงหล่นไป เขาค่อยๆรีบไต่ขึ้นมาจนถึงหน้าผาที่เจ้าขนทอง มันรีบเอื้อมมือมาฉุดร่างเขาทันที อาศัยเจ้าขนทองทำให้ชายหนุ่มพ้นจากสะพานไม้ที่ห้อยอยู่ได้ เมื่อพ้นเหตุการณ์ร้ายผ่านไปเขาถึงกับทอดหายใจเฮือกใหญ่และนั่งลงทันทีบนสะพานไม้ ที่ทอดยาวเหยียดไปข้างหน้า เขารู้สึกอ่อนล้าแขนทั้งสองข้างที่เกร็งดึงร่างไว้ตลอดเวลาในระหว่าง ที่เหนี่ยวไต่ขึ้นมา พอพักสักครู่หายเมื่อยล้าแล้วก็ชวนเจ้าขนทองออกเดินทางไปตามสะพาน ที่ทอดยาวไกล ชายหนุ่มลังเลสงสัยว่าจะไปทางใดดี ด้วยทั้งสองด้านนั้นถูกเขาบดบังไปเสีย สิ้นเห็นแต่เพียงสะพานสองฟากเท่านั้นเอง ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้วเขาจึงตัดสินใจออกเดินทางไปทางที่ยังมองเห็นต้นไม้ที่เขียวขจี ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้นไม่มีต้นไม้เลย ดังนั้นชายหนุ่มจึงชวนเจ้าขนทองเดินไปทางด้านขวามือค่อยๆ ย่างทดลองไม้สะพานไปเรื่อยๆ ด้วยบทเรียนที่ข้ามสะพานระหว่างเขาต่อเขานั้นทำให้ชายหนุ่มต้อง ระมัดระวัง นี่ขนาดเขาระมัดระวังแล้วยังเกิดปัญหาได้ด้วยความเก่าของไม้ เขาคิดว่ามันคงจะสร้าง มานมนานแล้ว หาได้สร้างไม่นานความเก่าตลอดจนเถาวัลย์ที่ใช้ผูกมัดบ่งบอกอายุของมันให้รู้ได้ เมื่อทั้งสองเดินทางมาสิ้นสุดยังปลายสะพานเห็นเป็นทางเรียบๆทอดลงสู่เบื้องล่างของขุนเขา ซึ่งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่ล้อมรอบไปหมด ต้นไม้นาๆชนิดขึ้นแต่เขามองไปข้างหน้ากับเห็นซากของ ปราสาทหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ไกลๆ อายุอานามคงนานมากๆด้วยบางแห่งก็ยังดูดีแต่บางแห่งก็ เป็นซากปรักหักพังตามที่สายตาเขามองเห็นแต่ไกลๆ จึงชวนเจ้าขนทองเดินฝ่าดงไม้มุ่งหน้าหมาย ที่จะไปดูยังปราสาทนั้นทันที พอเดินไปอีกไม่เท่าไหร่เขาก็พบบรรดางูต่างๆพันอยู่ตามกิ่งไม้และพื้นดิน แต่ยามที่เขาเดินไป นั้นบรรดาอสรพิษทั้งหลายต่างรีบหนีหลบไปเสียสิ้น คงเหลือไว้แค่ทางเดินให้เขาและเจ้าขนทองเท่านั้น เขามองไปรอบๆล้วนแล้วแต่อสรพิษทั้งสิ้นส่วนที่ไกลหน่อยก็แผ่พังพานขู่เสียงฟู่ฟ๊อดๆๆ ได้ยินมาถึงเขาแต่มันไม่กล้าเข้ามาใกล้ๆ เพียงแค่ส่งเสียงขู่เท่านั้น เสียงร้องของนกดังมากๆเขารีบแหงนหน้ามองดูบนท้องฟ้า เห็นบรรดานกที่เขาไม่เคยเห็นมา ก่อนในชีวิตตัวมันช่างใหญ่โตมาก หัวมันมีหงอนสีแดงปากงองุ้มปกคอมันออกสีขาวเหลือบทอง ลำตัวมันสลับไปด้วยสีต่างๆ แลดูสวยงามยิ่งนักยามกระทบกับแสงของดวงอาทิตย์ มันมากันเป็นฝูงๆ เขากะราวประมาณเกือบสิบกว่าตัวเห็นจะได้ มันส่งเสียงร้องประหลาดนักผิดกับบรรดานกทั่วๆไป เสียงร้องของมันกับทำให้บรรดาอสรพิษทั้งหลายต่างหนีลงพื้นดินแล้วหนีหายไปทันทีด้วย ความเกรงกลัวยามได้ยินเสียงร้องของนกประหลาดนี้ มีตัวหนึ่งบินถลาปีกลงมาหาเขา โอ้โฮๆๆร่างมันขนาดเท่าสุ่มที่ใช้ขังไก่แต่หางมันกับยาวมากหลากสี กรงเล็บมันกางออกเห็นความ แหลมคมของมันได้อย่างชัดเจน ชายหนุ่มรีบดึงมือเจ้าขนทองหลบไปข้างต้นไม้ใหญ่ทันที เสียงลมกระพือของปีกมันช่างรุนแรงนักบรรดาต้นไม้เล็กต่างลู่เอนตามแรงกระเพื่อมของปีกมัน แล้วร่างมันก็ถลาขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง แต่คราวนี้มันร้องเสียงแปลกประหลาดบรรดานกที่แยกกัน แต่เป็นฝูงต่างพุ่งร่างมันถลาลงมาหาเขาแทบหมดทุกๆตัว ชายหนุ่มรีบมองหาสถานที่จะหลบมันแต่ ทว่าไม่มีที่จะหลบได้นอกจากเหล่าต้นไม้ใหญ่เท่านั้น บัดนี้เกิดแรงลมคล้ายพายุพัดกระหน่ำจนกิ่งไม้ บางกิ่งหักสะบั้นทันที ขอนไม้ของกิ่งหักหล่นมาเกือบจะถูกตัวเสียงโครมสนั่นลั่นไปหมด เมื่อหาทางหนีไม่ได้เช่นนี้เขาจึงจำเป็นต้องต่อสู้กับมันอีกด้วยความจำเป็นทั้งที่เขาไม่อยากจะต่อสู้ กับมันด้วยเรือนร่างขนมันช่างสวยงามยิ่งนัก แต่เมื่อจำเป็นเช่นนี้เขาจึงล้วงไปในย่ามหยิบก้อนหินสีแดง ออกมาหลายๆก้อน เมื่อนกประหลาดตัวหนึ่งถลาปีกพร้อมกางเล็บใกล้เข้ามา เขาขว้างก้อนหินใส่ในตัวมันทันที ผลปรากฏว่ามันร้องดังลั่นพร้อมทั้งบินขึ้นไปบนฟ้าอีกคราหนึ่ง และแล้วมันก็หุบปีกถลาลงไปยังอีกฟากหนึ่งของชายป่าดงดิบ เสียงดังโครมครามๆเหล่าแมกไม้แตกกระจายไปด้วยแรงดิ้นของมัน เมื่อบรรดานกประหลาดเห็นเช่นนี้ ต่างก็รีบหุบปีกถลาเข้าใส่ชายหนุ่มทันทีส่วนเจ้าขนทองรีบไปแอบ ยังด้านหลังของชายหนุ่ม เมื่อได้ระยะก็ขว้างก้อนหินสีแดงเลือดงูยักษ์ใส่บรรดานกทั้งหลายด้วยความแม่นยำ เสียงร้องอย่างโหยหวนดังลั่นป่า ร่างนกประหลาดหลายๆตัวถูกก้อนหินสีแดงขว้าง ต่างก็ร่วงหล่นตายไปเกือบหมดสิ้น คงเหลือเพียงบางตัวเท่านั้นที่มันไม่กล้าเข้ามาด้วย คงเห็นพวกมันต่างหล่นตายไป และแล้วมันก็ร้องก้องสะท้านท้องฟ้า เหลือประมาณสองสามตัวรีบบินหนีหายไปกับท้องฟ้าฝ่าก้อนเมฆหายไป หลังจากนั้นชายหนุ่มเมือเห็นบรรดาเหล่านกประหลาดหนีหายไปหมดแล้ว จึงได้เดินไปดูซากร่างนกประหลาดตัวมันช่างใหญ่โตมากๆ แต่สีมันช่างงดงามอะไรเช่นนี้เขาจึงทดลองถอนขนมันขึ้นมาขนที่นิ่มๆน่ารัก ทำให้เขานึกได้ว่าเขาเองไม่มีเสื้อใส่ หากนำขนนกนี้มาจัดทำเป็นเสื้อก็คงจะดี เมื่อมีความคิดเช่นนั้นจึงได้ถอน นกทันทีเลือกเอาที่พอจะทำเสื้อใส่ได้ เขานั่งจัดระเบียบขนแล้วใช้เอ็นร้อยผูกมัดพร้อมใช้มีดน้อยที่แสนคมตัด ให้เป็นรูปร่างพอจะสวมใส่ ดูไปก็คล้ายๆเสื้อม่อฮ่อมของชาวเชียงใหม่ไม่ผิดแต่ความละเอียดนั้นไม่มีเพียงแค่ พอสวมใส่ได้เท่านั้น แต่สีสันมันยามกระทบกับแสงอาทิตย์ช่างส่งประกายแวววาวสดใสหลากสีสวยงามนัก ครั้นจัดการกับขนนกประหลาดแล้วเขาก็นำมาสวมใส่ ทำให้ร่างกายเขาแลดูสง่างามประกอบกับใบหน้า ที่คมขำเรียกว่าหล่อก็ไม่ปาน เข้ากับเคราหนวดที่เขียวครึ้มผมที่ถูกมัดยาวไว้เบื้องหลัง แปรเปลี่ยนสภาพเขาไปเสียสิ้น เมื่อทุกอย่างพร้อมเรียบร้อยแล้วจึงออกเดินทางต่อเจ้าขนทองมองร่างเขาด้วยความประหลาดใจนัก พลางออกนำหน้าลัดเลาะผ่านทางเดินที่คล้ายๆกับมีคนทำทางไว้ให้แล้ว เพื่อมุ่งสู่ปราสาทที่แลเห็นแต่ไกล อากาศเริ่มเย็นขึ้นด้วยเวลาตกล่วงบ่ายไปแล้ว พระอาทิตย์ส่งแสงเหนือยอดเขาไม่มากนัก หากยังไม่ถึง ปราสาทเห็นทีจะต้องหาที่พักแล้วออกเดินทางต่อไป ดังนั้นจึงรีบเดินทางแต่ไม่ค่อยจะรีบร้อนสักเท่าไหร่ ส่วน เจ้าขนทองก็พุ่งหายไปสักพัก พร้อมกลับมาด้วยผลไม้แปลกๆที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลยแต่คิดว่าคงจะกินได้ ด้วย เจ้าขนทองเป็นสัตว์ที่แสนฉลาดย่อมจะล่วงรู้ว่าผลไม้ใดกินได้หรือไม่ได้จึงไม่ค่อยสนใจมากนัก ครั้นตกเวลาเย็นเขาก็มาถึงที่บริเวณปราสาท หน้าปราสาทเป็นลานกว้างๆบริเวณเป็นกำแพงกั้นล้อมรอบ แต่ทว่าแตกหักทะลายไปทั่ว และบริเวณปราสาทซึ่งบางส่วนหักพังไปตามกาลเวลา แต่ยังมีส่วนหลงเหลืออยู่ บ้าง แต่เขาต้องชะงักทันทีด้วยหน้าปราสาทส่วนที่ดีและยอดปราสาทกับมีบรรดาลิงจำนวนมากมายนัก ดังนั้นเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้ๆนักได้แต่ยืนมอง ทันใดนั้นเหล่าลิงเมื่อเห็นร่างชายหนุ่มพร้อมเจ้าขนทอง ต่างก็วิ่งพรูกันเข้ามาแยกเขียวบ้างตีลังกาทะยานตัวนำหน้ามา เจ้าขนทองเห็นเช่นนั้น ก็พุ่งร่างทะยานใส่ทันที พร้อมแยกเขี้ยวแก้วมันออก แสงของเขี้ยวแก้วกระทบกับแสงอาทิตย์ส่งประกายใสแวววาวทำให้บรรดาเหล่า ลิงที่เฝ้าปราสาทอยู่ต่างชะงักไปหมดสิ้น เสียงขู่ที่คำรามกึกก้องต่างหยุดชะงักมันมองมายังเจ้าขนทองร่างมัน ทั้งหมดเล็กกว่าเจ้าขนทองมากนัก พากันตีลังกาถอยหลังไปทันที เมื่อเป็นเช่นนั้นชายหนุ่มเห็นเจ้าขนทองกู่ก้องพลางขย่มร่างมันไปๆมาๆ ยิ่งทำให้บรรดาลิงทั้งหลายต่าง ก็รีบเผ่นหนีทันที ชายหนุ่มอดหัวร่อออกมาเสียมิได้เนื่องจากเห็นอาการลิงเหล่านี้ต่างแสดงอาการดุร้ายแต่พอ พบเจ้าขนทองกับกลัวเจ้าขนทองเผ่นหนีไปละทิศละทางจ้าละหวั่น เหลือจะเป็นด้วยอำนาจของมันสู้เจ้าขนทอง ไม่ได้จึงเกรงกลัว สักครู่ใหญ่ๆก็มีเสียงดังกังวานขู่ของลิงเข้ามาจากภายในปราสาทร่างที่ปรากฏเป็นร่างลิง ขนาดพอฟัดพอเหวี่ยงกับเจ้าขนทอง แต่ทว่าขนทั้งตัวมันเป็นสีขาวเป็นสำลีส่งประกายแววสดใสมันพุ่งร่างเข้าหาเจ้าขนทองทันที เหล่าบรรดาลิงทั้งหลายต่างๆก็ขย่มร่างขู่ด้วยพอเห็นเจ้าลิงขนสีขาว ชายหนุ่มคิดว่าคงจะเป็นหัวหน้าของบรรดาเจ้าลิงทั้งหลายเหล่านี้แน่นอน พอร่างเจ้าลิงขาวทะยานมาถึง ก็พุ่งร่างเข้าใส่ร่างเจ้าขนทองทันที เจ้าขนทองหาเกรงกลัวใดไม่ต่างตัวต่าง ฟัดกันต่อสู้กันชุลมุนไปหมด แต่ร่างเจ้าลิงขาวนั้นรู้สึกจะเสียเปรียบเจ้าขนทองเล็กน้อยพละกำลังเจ้าขนทอง มีมากกว่าเจ้าลิงขาว ด้วยเหตุที่เจ้าขนทองกินดีงูยักษ์เข้าไปทำให้เกิดพละกำลังมหาศาลความได้เปรียบเสีย เปรียบสักครู่ใหญ่ ก็ปรากฏผลแพ้ชนะขึ้นด้วยร่างเจ้าลิงขาวปะทะสู้เจ้าขนทองไม่ได้ถูกเจ้าขนทองกัดและ สะบัดร่างมันกระเด็นยามปะทะกันทุกๆครั้งไป จนร่างสีขาวมันเปื้อนเลือดแดงปนขาวไปทั่ว ทางด้านเจ้าขนทองหาได้มีบาดแผลแต่ประการใดไม่ ชายหนุ่มบังเกิดความสงสารเจ้าลิงขาวขึ้นมา ก็เรียกเจ้าขนทองให้กลับมา ไม่เช่นนั้นเห็นทีเจ้าลิงขาวก็คงจะต้องจบชีวิตภายใต้เขี้ยวแก้วแน่นอน เมื่อเจ้า ขนทองได้ยินเสียงเรียกเช่นนั้น มันก็พุ่งทะยานเข้ามาหาเขาทันทีแต่ยังส่งเสียงขู่คำรามเหมือนจะบอกเจ้าลิง ขาวว่าหากชายหนุ่มไม่เรียกก่อนมึงตายแน่ ชายหนุ่มคิดพลางหัวร่อ ทันใดนั้นเสียงตวาดดังกึกก้องของชายร่างชราที่ปรากฏร่างก้าวออกมาเรียกเจ้าลิงขาวทันทีเจ้าลิง ขาวครั้นได้ยินเสียงเรียก ก็หันหลังพุ่งร่างมาหาชายชราที่มีใบหน้าอิ่มเอิบและเคราหนวดผมเป็นสีขาวโพลน ไปทั่วศีรษะ พลางลูบไปยังหัวเจ้าลิงขาวพลางหลับตาร่ายมนต์เป่าไปยังร่างเจ้าลิงขาวทันที บาดแผลต่างๆ ของเจ้าลิงขาวก็รู้สึกว่าจะหายไปหมดสิ้น ครั้นแล้วชายชราก็เขม่นมองมายังชายหนุ่มทันที เมื่อชายชรา มองเห็นร่างชายหนุ่ม ดวงตาของชายชราคนนั้นก็พลันเบิกโพล่ง พร้อมกล่าวคำอุทานออกมา.......... * แก้วประเสริฐ. *
17 กุมภาพันธ์ 2553 14:23 น. - comment id 83812
ตามมาอ่านค่ะ
17 กุมภาพันธ์ 2553 16:02 น. - comment id 83838
กำลังสนุกครับ
17 กุมภาพันธ์ 2553 19:15 น. - comment id 83839
ชวนให้ตามติด ติดตามอีกแล้วคะ ขอบคุณมากนะคะครูแก้ว
18 กุมภาพันธ์ 2553 12:50 น. - comment id 92443
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รัก ไม่แต่เธอสนุก ครูเองก็สนุกด้วยในการเขียนเรื่องนี้จ๊ะ รักศิษย์เรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 กุมภาพันธ์ 2553 12:51 น. - comment id 92444
คุณ แขกประจำบ้านกลอน ผมรับรองว่าสนุกแน่ๆครับเรื่องนี้ นี่ขนาด แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์นะครับ ยังต้องผจญภัยอีก นานกว่าจะออกจากป่าครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 กุมภาพันธ์ 2553 12:54 น. - comment id 92445
คุณ โคลอน คุณฝนครับขอบคุณผมจะสลับไปบ้างครับ ด้วยไม่อยากจะให้ผู้ที่อ่านเครียดมากๆครับรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 กุมภาพันธ์ 2553 12:57 น. - comment id 92446
คุณ คมดาบนารี ขอโทษด้วยนะครับที่ข้ามไปด้วยผมแต่ง เรื่องต่อไปครับเลยเบลอๆไปหน่อย ด้วยผมจะ แต่งวันต่อวันครับ หวังว่าไม่โกรธ ผมนะครับ ติดตามต่อไปนะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 กุมภาพันธ์ 2553 12:48 น. - comment id 92579
คุณ กระต่ายน้อยฯ จ๊ะหากติดตามไปเหมือนอ่านนิยายเรื่อง หนึ่งนะครับผมพยายามจะเขียนให้ดีครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 กุมภาพันธ์ 2553 09:39 น. - comment id 92770
ไม่ได้ติดตามมาพักนึงเลยอ่ะค่ะ..ไว้จะมาติดตามใหม่นะคะ..... ....ด้วยความเคารพค่ะ....
18 กุมภาพันธ์ 2553 10:52 น. - comment id 92816
โห ใกล้จะอยู่ในช่วงไคล์แม๊กซ์แล้ว ลุ้นๆค่ะ