ลุ่มลึกอิสราวดี 13

แก้วประเสริฐ


           ลุ่มลึกอิสราวดี  13
    “เอาล่ะพ่อหนุ่ม    ข้าเห็นทีจะต้องกลับเสียแล้วล่ะ”   พญางูในร่างชายชรากล่าว
     ชายหนุ่มก้มลงกราบชายชราอีกครั้ง
     “ขอให้จำเริญๆเถอะนะ ทำการใดจงสำเร็จตามปรารถนาทุกประการ  สหายน้อย
ในอดีตของข้า”   
      ชายชรากล่าวเสร็จพลางลุกขึ้นยืน   พลางก้าวเดินออกไปร่างพลัน
กลับกลายเป็นกลุ่มควันแล้วกลายเป็นแสงพุ่งหายไป
      ชายหนุ่มก้มหยิบกระบองสีดำสนิทขึ้นมาพิจารณา
เห็นเป็นประดุจแท่งหิน  จึงทดลองนำไปฟาดกับก้อนหินใหญ่ข้างๆ  
ปรากฏแสงประกายขึ้นมาทันทีแล้วก้อนหิน
ใหญ่นั้นก็แตกกระจายไป  เขานำกระบองมาตรวจดูว่าจะมีรอยบิ่นอีกหรือไม่   กลับพบว่าไม่มีร่องรอยบิ่นหรือรอยข่วนแต่อย่างไร
     ชายหนุ่มทดลองจนแน่แก่ใจแล้วกล่าวกับกระบองว่า  “นาคราช” เจ้าจงเล็กๆลงซิ
     ทันใดกระบองนั้นก็หดตัวลงทันที  และเล็กลง ชายหนุ่มนึกว่าให้เหลือขนาดยาวแค่คืบ
หนึ่ง   กระบองนั้นก็หดตัวจนเหลือเพียงแค่คืบหนึ่งตามใจชายหนุ่มทันที
    เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงเรียกเจ้าลิงขนทองมาแล้วพลางกล่าวกับกระบองว่า 
         “นี่แน๊ะ!!!...กระบองนาคราช ข้าจะมอบเจ้าให้กับเจ้าประกายทอง
ลิงน้อยตัวนี้นะขอให้เจ้าจงเชื่อฟังเขา  หากข้าเรียกเจ้าเมื่อใดให้เจ้าถึงจะกลับมาหาข้านะ”
  
    เสมือนกระบองจะรับรู้เจตนาของชายหนุ่ม   ชายหนุ่มรับรู้ได้จากความรู้สึก
ว่ากระบองนี้ดิ้นได้และสั่นเล็กน้อย   
 ชายหนุ่มจึงมอบกระบองนี้ให้แก่เจ้าขนทองแล้วสั่งว่า
    “นี่แน๊ะเจ้าประกายทอง  เจ้าจงรักษากระบองนี้ประดุจพี่น้องของเจ้านะ
  อีกประการหนึ่ง
เจ้าจงหาทางเก็บรักษาไว้ให้ดีเพื่อใช้ในการป้องกันตัวต่อไป”   
    ชายหนุ่มกล่าวขึ้น
    เจ้าขนทองแสยะยิ้มแล้วยื่นมือมันมารับกระบองทันที   
เมื่อมันได้กระบองเสมือนมันจะถูกใจมาก  มันตีลังกาโลดแล่นออกนอกถ้ำทันที
    เขาเห็นมันร่ายรำควงกระบองเสียเร็วจี๋สอดส่ายผสมผสาน
กับท่าร่างที่เขาสอนไว้ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว   
แล้วพุ่งกายมาหาเขาหันมากอดเขาไว้เหมือนแสดงความขอบคุณที่เขามอบสิ่งถูกใจ
ให้แก่มันรู้สึกว่ามันจะดีใจมากที่ได้อาวุธคู่กายมัน    
    ชายหนุ่มหัวร่อพลางตบหัวมันเบาๆ 
แล้วหันไปกล่าวกับแม่นางพรายทั้งสองว่า  
    “คงจะได้เวลาพวกเราออกเดินทางได้แล้วนะน้องเรา”
    “จ๊ะท่านพี่....นี่ก็สายแล้ว  อ้าวแล้วสิ่งที่ท่านพี่ลงอาคมขีดเส้นไว้นะไม่ลบเสียหรือ
    “ไม่หรอกจ้าน้องรัก  พี่คิดว่าต่อไปอาจจะเป็นประโยชน์แก่เราหรือคนดีอื่นๆได้  
หากไม่ก็จะได้ป้องกันพวกภูตพรายต่างๆหรือสัตว์ร้ายที่จะเข้ามาอาศัยอยู่  
หากเป็นสัตว์ที่ดุร้ายอาจจะเป็นเภทภัยต่อคนที่เข้ามาอาศัยก็ได้จ้า   
ยกเว้นคนที่มีจิตใจไม่ดีงามก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้จ๊ะ”  ชายหนุ่มกล่าว
    “อืมมๆๆ...พี่ท่านช่างคิดการณ์ไกลจริงๆนะ”  พรายสาวกล่าวขึ้น
     เมื่อทั้งหมดออกเดินทางออกจากถ้ำเพื่อจะกลับไปยังเบื้องล่าง   
เจ้าลิงน้อยออกเดินนำหน้าเขา
แต่แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจ   ด้วยมีเส้นทางให้เดินลงไปข้างล่าง  
     ชายหนุ่มพิจารณาดูถึงทราบได้ว่าทางที่เห็นนั้นก็คือซากของงูยักษ์
ที่กลายร่างเป็นหิน  ที่เขากับเจ้าลิงน้อยขนทองผลักให้ตกหน้าผา
แต่หางมันยังพาดอยู่ริมหน้าผา  ร่างอันใหญ่โตของมันกลายเป็นทางเดิน
ให้พวกเขาโดยไม่ต้องปีนป่ายลงไปเหมือนเดิมอีก
     ระหว่างนั้น เขาเห็นก้อนหินสีแดงๆกระจายทั่วๆไป  จึงก้มลงหยิบมาพิจารณา
มันช่างมีน้ำหนักเบายิ่งนัก    เสียงแม่นางพรายกระซิบข้างหูเขาว่า
     “พี่ท่านนี่คือเลือดของงูยักษ์ที่กระเซ็นออกมาแล้วกลายเป็นก้อนหินไปแล้ว  
หากพี่ท่านเก็บไว้แทนก้อนหินเดิมก็จะดีสามารถใช้แทนอาวุธที่พี่ท่านถนัด
ในการขว้างปาและมันมีอำนาจทำลายสูงกว่าก้อนหินธรรมดาจ๊ะ”
    “เหรอๆงั้นก็ดีซิ”   ชายหนุ่มตอบ
     เขาจัดการเทก้อนหินที่คัดเลือกไว้ในการขว้างออกเททิ้ง  
แล้วเดินเก็บก้อนหินเลือดสีแดงๆรวบรวมมาเก็บใส่ถุงย่ามที่เขาทำขึ้นภายหลัง
  เจ้าขนทองเห็นเขาทำเช่นนี้ก็รีบเข้ามาช่วยเก็บด้วย
     ครั้นเขาเก็บได้เกือบเต็มย่ามแล้วก็หยุด  ชั่งน้ำหนักดูว่าเขาพอจะนำไปได้หรือไม่ 
 แต่ปรากฏว่าสามารถนำไปได้    ด้วยก้อนหินสีแดงมันมีน้ำหนักเบามาก   
ดังนั้นเขาจึงทดลองหยิบก้อนหินสีแดงนี้
จากพื้นดินมาก้อนหนึ่ง  แล้วทดลองขว้างทดลองระยะดู
     ฉับพลันก้อนหินที่เขาขว้างไปยังกิ่งไม้ที่ไกลที่สุดเท่าที่จะขว้างได้  
แต่ด้วยความเบาของก้อนหินและแรงขว้างซึ่งบัดนี้เขามีพละกำลังมากผิดกว่าเก่า
จึงไปได้ไกล    ปรากฏว่ากิ่งไม้ขนาดท่อนแขนเขาหักสะบั้นลงทันที        
     ชายหนุ่มอุทานออกมาด้วยความดีใจ  หากเป็นก้อนหินธรรมดาระยะไกลขนาด
นี้เขาคงอาจจะไม่สามารถทำลายกิ่งไม้ให้หักลงได้แน่นอนเขาคิด 
 เมื่อจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงจูงเจ้าขนทองออกเดินไปตามทางตะปุ่มตะป่ำ
ที่เป็นเกล็ดงูแต่กลายเป็นหินไปแล้ว  ซึ่งทางลาดบ้างโค้งบ้าง
จนในที่สุด      เขาก็ลงมายังพื้นดินได้
     ชายหนุ่มมุ่งหน้าไปยังซอกหินที่เต็มไปด้วยพายุและหมอกควันหนาทึบ  
 ที่นางพรายกล่าวว่าเป็นพิษเขาให้เจ้าขนทองยืนอยู่ก่อน   
ส่วนตัวเขาค่อยๆย่างก้าวเข้าหากลุ่มควันที่หนาทึบนั้นทันที  เมื่อร่างชายหนุ่ม
มาถึงยังกลุ่มควันและพายุที่พัดจนหมุนวนไปๆมาๆ       
ผลปรากฏว่ากลุ่มควันและพายุสงบทันทีและแตกออกเป็นช่องทางให้เขาเดินไป
     หรือว่าเป็นอำนาจของก้อนแก้วที่เขาสวมคล้องคอไว้ดังที่แม่นางพรายสาว
กล่าวไม่ผิด
     เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาก็เรียกเจ้าลิงน้อยขนทองให้เข้ามาหาเขาทันที     
เจ้าลิงขนทองได้ยินดังนั้น   ก็พุ่งทะยานมายืนข้างกายเขา    
แล้วทั้งสองก็เริ่มออกเดินทางฝ่าหมอกควันพิษไปยังอีกด้านหนึ่งของภูเขาสองลูกทันที
     กลุ่มหมอกควันก็แตกและหุ้มห่อร่างทั้งสอง    มิอาจกรายเข้ามายังร่างได้
     ชายหนุ่มมองทางไม่เห็น  จะเห็นก็เพียงแค่ระยะทางที่เป็นช่องว่างเท่านั้น
   ทันใดเสียงสวบๆๆใกล้เข้ามา ๆ     เขาชะงักร่างทันทีนึกในใจว่าเสียงอะไร
หรือเป็นสัตว์ร้ายกระมัง  แต่ทำไมมันถึงฝ่าดงควันพิษเข้ามาได้   
ยังไม่ทันนึกได้เท่าไหร่    ปรากฏเสียงคำรามหวีดหวิวซึ่งเขาไม่เคยได้ยินเลย  
   เสียงมันร้องสนั่นลั่นมากจนรู้สึกว่าแสบแก้วหูเขาทั้งสอง ส่วนเจ้าขนทองก็
ยกมือทั้งสองมันปิดหูมันทันที
   ในท่ามกลางกลุ่มควันที่ตอนนี้เริ่มเจือจางลงไปมาก  หรือว่ามันจะมีกำหนด
เวลาที่ให้คนหรือสัตว์ผ่านไปได้   สิ่งที่เขาพบสิ่งรอบข้างบรรดาต้นไม้ต่างๆนั้นกลับ
เป็นสีเหลือง  บางต้นก็มีลักษณะไหม้คล้ายถูกไฟไหม้ก็มิปาน    
   ครั้นหมอกควันเจือจางจนแทบหมดสิ้นแล้ว   นี่หากเราไม่มีลูกแก้วของงูยักษ์ที่
มีอำนาจขจัดพิษแล้ว  เห็นทีร่างเขาคงจะต้องตายภายใน ณ ที่นี้แน่นอน   ชายหนุ่มคิด
   ภายใต้หมอกควันเจือจางเขาเห็นร่างสัตว์ประหลาดจะว่า เป็นแมงป่องก็ไม่ใช่
จะว่าเป็นตะขาบก็ไม่เชิง  ด้วยลักษณะมันคล้ายๆกับตะขาบแต่ตรงท้ายหางมันกลับ
มีลักษณะหงอนชูลักษณะเหมือนแมงป่องชูแกว่งไปๆมาๆ   ปลายหางมันกลับเป็น
สีดำคล้ำปนม่วง   ลำตัวมันกะประมาณขนาดต้นตาลเห็นจะได้  มันส่งเสียงคำราม
ดังฟอดๆๆ    พุ่งร่างมายังชายหนุ่มกับลิงขนทองทันที 
   ทันใดนั้นเจ้าขนทองก็ดึงกระบองที่มันเหน็บไว้ที่เอ็นงูที่เขาถักเป็นที่หุ้มดวงแก้ว
ออกมา   เสมือนกระบองจะรู้ใจเจ้าลิงใหญ่กระบองพลันขยายใหญ่และยาวขึ้นทันที
เขาเห็นเจ้าขนทอง  ควงกระบองพุ่งทะยานเข้าใส่ร่างสัตว์ประหลาดนั้นพร้อมทั้งฟาด
กระบองไปยังร่างของเจ้าสัตว์ประหลาด  เสียงดังแก๊งๆยามที่กระบองกระทบกับร่าง
เจ้าสัตว์ประหลาด   ทำเอามันหยุดชะงักได้พักหนึ่ง  แล้วหันหัวขวับมาทางเจ้าขนทอง
    เจ้าขนทองมิรอช้ามันกระโดดหลบไปหลบมาแล้ว   กระโจนขึ้นไปขี่บนหลัง
เจ้าสัตว์ประหลาด  ทันทีที่ร่างเจ้าขนทองขึ้นไปยังหลังมัน   หางที่คล้ายแมงป่องก็
สะบัดพุ่งเหล็กแหลมที่มีสีน่ากลัวทิ่มแทงมายังเจ้าขนทองทันที   เจ้าขนทองก็สะบัด
กระบองขึ้นรับ และหมุนร่างมันพลางสะบัดกระบองที่มีปลายแหลมแทงไปยังหาง
ก่อนจะถึงสีม่วงคล้ำปนม่วงทันที   คราวนี้ผลปรากฏเลือดสีดำๆพุ่งตามกระบอง
ที่ปลายเป็นแก้วแวววาวใส    ครั้นเลือดสีดำกระทบกับแก้วปลายแหลมนั้นมันก็กลับ
เป็นสีแดงฉานทันที   
    เจ้าสัตว์ประหลาดแสดงอาการเจ็บปวดร้องเสียงแซดๆ แล้ววกหัวกลับมาจะกัด
เจ้าขนทอง  แต่ด้วยสัญชาติฌานมันล่าช้ากว่าลิงมากมายนักถึงแม้ว่าเจ้าลิงจะมีร่างกาย
ใหญ่โตก็ตาม     แต่ความว่องไวหาได้เป็นปัญหาใดๆกับมันไม่  ร่างมันตีลังกาลงมา
ยังพื้นดิน  แล้วกลับทะยานฟาดกระบองที่มีหัวเป็นพญานาคเจ็ดเศียรทันที    แต่คราวนี้
เศียรพญานาคเจ็ดเศียรซึ่งมีพลอยแดงเป็นนัยน์ตามันก็มีลำแสงพุ่งออกมาเข้าสู่ร่างของ
สัตว์ประหลาดทันที     
     เสียงดังฉี่ๆ  นัยน์ตาของเจ้าสัตว์ประหลาดทะลุทันทีเลือดสีดำๆพุ่งออกมา   
ชายหนุ่มยืนมองดูการต่อสู้ทั้งสอง   เขาไม่นึกเลยว่าอำนาจกระบองที่ตรงหัวมีเศียร
พญานาคจะมีฤทธิ์เดชเช่นนี้   เมื่อหัวกระบองเศียรเจ็ดเศียรกระทบกับหัวของสัตว์
ประหลาด     หัวของเจ้าสัตว์ประหลาดก็แยกแตกออกทันที เขารีบกระโดดหลบ
สายเลือดและสมองมันที่กระเซ็นออกมา  เลือดมันเมื่อกระทบกับต้นหญ้าที่เขา
ยืนอยู่ก็เกิดเป็นควันไหม้ขึ้น   นี่หากเขายืนอยู่ที่เดิมก็คงจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้เขาคิด
     เมื่อร่างของเจ้าสัตว์ประหลาดสิ้นหัวแล้ว  ร่างมันก็ดิ้นและฟาดทุรนทุราย
ร่างของมันฟาดไปตามต้นไม้เล็กๆต่างๆทำให้   ต้นกิ่งก้านหักสะบั้นเป็นวงกว้าง
เจ้าขนทองได้ทีก็กระโดดหนีห่างออกมาแล้วก็ทะยาน  ไปที่หางคล้ายๆหางแมงป่อง
ฟาดกระบองท่อนหัวออกไปที่ร่างเจ้าสัตว์ประหลาด  ซึ่งส่ายไปส่ายมาพร้อมร่าง
ที่ดิ้นรน อยู่      
      พลันเจ้าขนทองก็ฟาดกระบองท่อนหัวใส่ยังหางมันทันที   หางของเจ้า
สัตว์ประหลาดก็ขาดจากกัน   ยังกับถูกมีดดาบคมกริบตัดขาดจนในที่สุดร่างมันก็สงบนิ่ง
      เจ้าขนทองแสดงอาการดีใจแล้วรีบเก็บกระบองสีดำสนิทดูเหมือนกระบองนั้น
จะเข้าใจจิตใจเจ้าขนทองก็กลับเล็กลงเท่าเดิม   มันรีบนำมาสอดกับเอ็นลิงที่หุ้มห่อแก้ว
ซ่อนไว้ทันที    แล้วมันก็ตีลังกาพุ่งร่างมาหาชายหนุ่ม.........
               *  แก้วประเสริฐ.  *

n016.gif				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    8 กุมภาพันธ์ 2553 14:02 น. - comment id 114323

    ตื่นเต้นดีนะคะคุณลุง
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • โคลอน

    8 กุมภาพันธ์ 2553 18:31 น. - comment id 114339

    จินตนาการตามสัตว์ประหลาด 23.gif
    
    เจ้าลิงน้อยเก่งมากๆ เลยค่ะ46.gif
  • แขกประจำบ้านกลอน

    8 กุมภาพันธ์ 2553 18:42 น. - comment id 114340

    ฮั่นแน่บทเจ้าลิงน้อยไม่ใช่ย่อยๆๆ
    นะคะครูแก้ว
    ขอบคุณมากนะคะ 
    36.gif36.gif36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    8 กุมภาพันธ์ 2553 21:19 น. - comment id 114342

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เพียงพลิ้ว
    
          หลานรักลุงก็สนุกๆไปเรื่อยๆแหละจ้า
    รักหลานเราเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    8 กุมภาพันธ์ 2553 21:21 น. - comment id 114343

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
         คุณฝนครับผมดำเนินไปทั้งสองฝ่ายแหละ
    ครับ  ด้วยต้องการให้ผู้แสดง  แสดงความสามารถ
    แต่ละตัวจ๊ะ  รักเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    8 กุมภาพันธ์ 2553 21:23 น. - comment id 114344

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แขกประจำบ้านกลอน
    
         ครับผมเองก็พยายามหามุมต่างๆมาเพื่อทำ
    ให้คนอ่านได้เกิดอารมณ์เร้าใจครับ ขอบคุณครับ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    9 กุมภาพันธ์ 2553 14:08 น. - comment id 114368

    อ่านไปตื่นเต้นไปลุ้นไปค่ะลุง11.gif36.gif
  • กิ่งโศก

    9 กุมภาพันธ์ 2553 14:45 น. - comment id 114371

    อิอิ..เจ้าเห้งเจีย   เริ่มเป็นผู้ช่วยพระเอกได้ดีแล้ว..46.gif
  • คมดาบนารี

    9 กุมภาพันธ์ 2553 23:07 น. - comment id 114384

    เห็นด้วยกะพี่กิ่งโศก...นึกถึงหงอคงค่ะ อิอิ..27.gif...36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    10 กุมภาพันธ์ 2553 10:50 น. - comment id 114391

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กระต่ายน้อยฯ
    
         ลุงเองหาความสนุกเพลิดเพลินไปเรื่อย
    แหละจ้า  เขียนหนังสือสนุกกว่ากลอนแต่ก็ว่า
    เถอะคนละแบบกัน รักหลานเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    10 กุมภาพันธ์ 2553 10:53 น. - comment id 114392

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
          ครูเองตั้งใจว่าจะหาอาวุธให้กับเจ้าขนทอง
    เลยนึกได้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือกระบองปลายแหลมนะ
    แต่ไม่ได้คิดถึงเห้งเจียหรอก  แต่พอเดินเรื่องไป
    ถึงได้นึกออก  พยายามจะไม่ให้เหมือนใครกับ
    ไปคล้ายกันได้จ๊ะ รักศิษย์เราเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    10 กุมภาพันธ์ 2553 11:02 น. - comment id 114393

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ คมดาบนารี
    
          ตอนแรกผมก็ไม่ได้นึกหรอก  แต่พอ
    แต่งแล้วถึงนึกได้ว่า ตอนต้นนึกไม่ออกหรอก
    ด้วยเพราะมัวแต่แต่งนึกจะหาอะไรให้เจ้าขนทอง
    เป็นอาวุธลิงมันต้องคู่กับกระบอง ทีแรกจะหามีด
    ให้มันก็นึกว่าคงจะไปคล้าน หนุมาน เข้าก็เลย
    เปลี่ยนลืมนึกว่ามันมีเห้งเจี่ยด้วยจ๊ะ  เอาล่ะไหน
    ให้มันแล้วนี่นา ดีนะที่หัวเป็นพญานาคปลายแหลม
    ไม่เหมือนกับเห้งเจี่ย  แต่ช่างเถอะสมัครเล่น
    ก็แบบนี้แหละพลาดกันง่ายๆโดยไม่ตั้งใจจ๊ะ
    รักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน