ลุ่มลึกอิสราวดี. 11

แก้วประเสริฐ


             ลุ่มลึกอิสราวดี  11
      ครั้นชายหนุ่มได้รับฟังจากนางพรายทั้งสอง   กริ่งเกรงว่าร่างของงูยักษ์
จะกลับกายเป็นหินตามคำบอก     เขาจึงได้รีบนำมีดน้อยไปแหวกท้องงูเพื่อ
ค้นหาดวงแก้วพร้อมดีงู   เมื่อแหวะท้องงูค้นหาสักพักหนึ่งก็พบก้อนแก้ว
สองดวง     ขนาดประมาณไข่นกกระทาอาจจะใหญ่กว่าเล็กน้อย  จึงควักนำ
มาวางไว้ข้างๆกาย  แล้วเริ่มค้นหาดีงูซึ่งอยู่ใต้ลงมาอีกเล็กน้อยเป็นถุงน้ำเขียว
ใสคล้ายมรกตจึงได้นำมา    พร้อมเรียกเจ้าขนทองให้เข้ามาใกล้เขาเริ่มใช้มีด
เล็กเจาะโคนถุง     
     สายน้ำเขียวแต่ส่งประกายเจิดจ้าพุ่งออกมา   เขารีบอ้าปากรองรับสาย
น้ำดีแล้วดื่มได้ประมาณค่อนถุงน้ำดี  แล้วรีบนำไปให้เจ้าขนทองดื่มทันที
   เจ้าขนทองทำหน้าเหยเก  ส่วนเขาเองก็รู้สึกว่ารสชาติขมแต่มีกลิ่นหอมๆ
เล็กๆน้อยๆเมื่อน้ำดีไหลลงคอไป   เขารู้สึกว่าคล้ายๆมีความร้อนเกิดขึ้น 
และยิ่งร้อนมากๆขึ้นผสมกับความเย็นซ่านผสมผสานกันไปๆมาตลอดในท้องเขา
จนเขาทนไม่ไหวต้องถอดเสื้อออก
    แต่ก็เป็นเพียงสักครู่เดียวก็ค่อยๆลดทอน
ความร้อนลง   หันไปมองเจ้าลิงขนทอง  มันถึงกับร้องลั่นพร้อมตีลังกาพุ่งออก
ไปยังด้านข้างๆ   แล้วตีลังกาพร้อมทั้งนอนลงดิ้นทีเดียวแต่สักพักมันค่อยๆลุกขึ้น
ค่อยๆย่างเข้ามาหาเขา    เขาส่งสัญญาณมือให้เจ้าขนทองมาช่วยเขาลากซากงูยักษ์
ออกน้ำไปทิ้งยังหน้าผาทันที     เนื่องจากลำตัวมันใหญ่โตพอๆกับต้นซุงต้นหนึ่ง
และมีความยาวมาก       
     จึงต้องค่อยๆหย่อนหัวที่ร่องแล่งลงไป  เมื่อท่อนหัวลงไป
ได้ประมาณครึ่งหนึ่งร่างมันก็ฉุดส่วนหางไหลไปตามหน้าผา   เสียงต้นไม้เล็กที่ไม่
ใหญ่หักโครมครามทันที
     ชายหนุ่มหันไปนำดวงแก้วมาพิจารณาเห็นเป็นก้อนแก้วซึ่งบัดนี้แข็งตัวเต็มที
แล้วประกายส่งแสงนวลใย ภายในรู้สึกว่ามีความเคลื่อนไหวไปๆมาๆเหมือนมีน้ำ
หล่อเลี้ยงไว้      ร่างชายหนุ่มซึ่งยังเปื้อนเลือดตลอดทั้งตัวส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่ว
บริเวณ     เขารู้สึกแปลกใจมากที่เหตุใดฝ่ามือที่เขากำดวงแก้วนั้นหาได้มีเลือดไม่
จึงทดลองนำดวงแก้วดวงใหญ่กว่าอีกดวง     นำมาคลึงไปยังบริเวณร่างกายที่เปื้อน
เลือดปรากกว่า  เลือดได้ซึมเข้าไปยังดวงแก้วทันที     
      ชายหนุ่มดีใจมากที่เขาเองยังไม่รู้ว่าจะไปชำระร่างกาย
ที่เปื้อนเลือดได้ที่ไหนบัดนี้ดวงแก้วนี้กลับมาช่วยชำระ
ล้างเลือดของงูยักษ์มันซึมเข้าไปในดวงแก้ว
      ดังนั้นชายหนุ่มจึงนำดวงแก้วมาคลึงทั่วบริเวณที่เปื้อนเลือดทันที  ไม่ช้าไม่นาน
เขาก็ชำระร่างกายให้สะอาดแต่ทว่าร่างกายเขากลับคล้ายๆมีควันรังสีแผ่กระจายคลุมร่าง
เขาด้วย    
      เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้แล้วจึงได้นำดวงแก้วอีกดวงเข้าไปหาเจ้าขนทองพร้อมทั้ง
ใช้ดวงแก้วที่เล็กกว่ามาคลึงไปตามขนและร่างกายของเจ้าขนทองที่เปื้อนเลือดไม่ช้า
เขาก็ชำระร่างกายเจ้าขนทองได้สะอาดเรียบร้อย       
      แต่เมื่อเขาพิจารณามาดวงแก้วทำให้ขาแปลกใจ       ด้วยดวงแก้วนั้นก่อนที่เคย
สุกใสนวลใยและเห็นคล้ายน้ำขาวใสไปกลิ้งไปกลิ้งมาบัดนี้ภายในกลับ
เป็นสีแดงจางๆสดใสคล้ายๆกับทับทิมซ่อนอยู่ภายในแทนน้ำสีขาวๆใสๆ   แลดูกลับ
สวยงามอีกแบบหนึ่ง ภายนอกนวลใยขาวๆราวไข่มุกแต่ข้างในกลับสีแดงคล้ายทับทิม
ทั้งสองดวง   เขาคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะนำดวงแก้วเล็กมอบให้เจ้าขนทองตามที่นาง
พรายได้บอกไว้
      ครั้นหวนคิดได้ว่าเอ็นเจ้าลิงยักษ์ขนดำยังเหลืออีกจึงได้นำมาถักเพื่อใส่ดวงแก้ว
เมื่อถักเสร็จหุ้มห่อจนแน่ใจว่าดวงแก้วจะไม่หล่นหายไปแน่นอนแล้ว  
เขาจึงเรียกเจ้าขนทองมาแล้วนำดวงแก้ว 
ผูกติดกับคอของเจ้าขนทองทันทีกะพอประมาณว่าจะไม่
ทำให้ดวงแก้วนั้นหล่นหายไปได้     
      ส่วนตัวเขาก็นำดวงแก้วอีกดวงมาสวมใส่ยังคอแทนสร้อยคงงามอีกแบบหนึ่งเขาคิด      
     ฉับพลันเขารู้สึกว่าประกายไออุ่นทั้งร้อนและเย็นซึมซาบมายังร่างกายเขา
สักครู่ก็เกิดความอบอุ่นและรู้สึกเสมือนมีพลังเพิ่มขึ้นมากมาย     
เพื่อความแน่ใจในสิ่งที่เกิดขึ้น     
เขาทดลองเดินไปยังก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งพลางโยกเบาๆ  
     โอ้วๆๆๆๆ!!!!!????...มันช่างโยกง่ายจริงๆ     
จึงลองยกมันขึ้นเหนือหัวเขาทันที
     หินก้อนออกใหญ่โต  เขาสามารถยกได้อย่างง่ายดายนัก    เหมือนกับคำที่นางพรายสาว
แจ้งแก่เขาไม่ผิดสักนิดเดียว     
     เมื่อทดลองจนแน่แก่ใจแล้วเขาและจูงเจ้าขนทอง
ก็พากันเดินสำรวจภายในถ้ำนั้นทันที   มีเหลือบหินซ้อนๆกันหลายๆชั้น 
     แต่ที่สุดเป็นทางตันของปลายถ้ำ    แต่ในเหลือบหินนั้นมีแอ่งน้ำเล็กน้อย
อยู่พอที่จะใช้ดื่มกินได้ เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงคิด
ว่าหากจะพักที่นี่สักพักด้วยภายในถ้ำนี้หากเป็นกลางวัน  
     ก็คงไม่เป็นปัญหาใดๆสำหรับ
นางพรายที่จะออกมาได้ด้วยเป็นความสลัวและมืดพอที่จะให้ออกมา
     เขาคิดว่าที่นี่แหละคงจะเหมาะกับการที่เขาจะให้แม่นางพรายสอนหนังสือแก่เขาที่
เขาต้องการร่ำเรียนรู้จากหนังสือที่นำติดตัวมาตลอดจนการเขียนด้วย
     เพื่อใช้ในการศึกษาต่อไป  หากเหตุการณ์ในวันข้างหน้าหากเขาไม่สามารถกลับไปยัง
ที่พักและจะต้องเดินทางต่อไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้
     เมื่อคิดและตกลงใจแน่วแน่แล้ว  จึงหันไปเรียกนางพรายทั้งสองให้ปรากฏตัวขึ้น  เมื่อ
นางพรายได้รับการเรียกจากเขาแล้ว   ร่างนางทั้งสองก็ปรากฏตัวแต่มาคราวนี้แปลกเขาคิด
ด้วยเสื้อผ้านางทั้งสองได้เปลี่ยนไป   ประกายเสื้อผ้ากับส่ง
ประกายแวววาวสดใสทำให้
หล่อนทั้งสองดูผ่องผาดผุดผ่องยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก      
       
     ครั้นแล้วเขาเมื่อจัดการนำหนังเสือออกมาคลี่เพื่อปูเป็นที่นอนสำหรับ
พักผ่อนคืนนี้แล้ว   แต่แสง
ของโคมไฟที่เขานำไปปักยังซอกก้อนหิน     ยังส่องแสงประกายพอจะเห็นสิ่งต่างๆได้ชัดเจน     จึงกล่าวกับแม่นางทั้งสองทันที
     “เอาล่ะน้องรัก   ที่น้องว่าจะสอนหนังสือที่พี่อ่านไม่ออกให้แก่พี่  ซึ่งพี่เห็นว่าที่นี่
คงจะเหมาะแก่การเล่าเรียนได้  จึงขอความกรุณาให้น้องช่วยเหลือพี่ด้วยเถอะ”
     นางประกายแดงพลันตอบขึ้นว่า
      “จ๊ะพี่ท่าน...ด้วยสถานที่นี้หากเป็นกลางวันน้องก็สามารถปรากฏกายได้ด้วยแสงของตะวัน
ไม่สามารถส่องมาถึง   คงจะเหมาะแก่การสอนเขียนอ่านได้จ๊ะ    เรามาเริ่มกันดีกว่านะพี่ท่าน”
      “จ๊ะน้องพี่...พี่พร้อมแล้วจ๊ะ”  ชายหนุ่มตอบ
     ดังนั้นการเริ่มศึกษาเล่าเรียนก็เริ่มขึ้นด้วยชายหนุ่มมีปฏิภาณไหวพริบและเคยผ่านการ
ศึกษามาขั้นสูงสุดในโลกที่ผ่านมาในอดีต   ด้วยความเฉลียวฉลาดที่เขามีอยู่จึงไม่เป็นปัญหาต่อ
การเรียนภาษาที่เขาไม่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว
     เพียงไม่กี่วันที่พักอยู่ที่นี้เขาก็สามารถอ่านและเขียนได้อย่างรวดเร็วตลอดจนจำได้อย่าง
แม่นยำ    จนแม่นางพรายประกายแดงถึงกับชมเปาะถึงความสามารถของเขา  หล่อนกล่าวว่า
หากเป็นบุคคลทั่วๆไปในแดนนี้ก็ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ   แต่นี่ทำไมถึงเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วนัก
     เมื่อชายหนุ่มสามารถอ่านหนังสือและเขียนได้พอจะคล่องแคล่วแล้ว    จึงหยิบหนังสือ
ที่นำติดตัวมาเริ่มศึกษาค้นคว้าทันที
     เวลาวันเดือนปีลุล่วงไปซึ่งเขาไม่สนใจอยู่แล้วผ่านไปๆ    การศึกษาค้นคว้าหนังสือนี้ก็ทำ
ให้ได้กระจ่าง    รอบรู้สิ่งทั้งปวงส่วนการเรียนเขียนเขาก็ใช้มีดน้อยมาขีดเขียนตามพื้นถ้ำแทน
สมุดดินสอ       ไม่นานนักด้วยความรอบรู้ที่เขาเรียนมาในอดีตไม่ยาก    สำหรับตัวหนังสือ
ตลอดจนการเขียนเหล่านี้   
      ดังนั้นเขาจึงได้เริ่มทำการฝึก การวางค่ายกลต่างๆโดยใช้ก้อนหินมาวางเรียงสร้างเป็นค่าย
กล   ตลอดจนการตั้งรับและการโจมตีประดุจหมากรุกก็ไม่ปาน   ไม่นานนักด้วยสติปัญญาฉลาด
แหลมคมทั้งความทรงจำทำให้เขาคล่องแคล่วในการคิดอ่านตลอดจนนำสิ่งที่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับ
วิชาทหารในอดีตมาผสมผสานลงไปด้วยยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่การเล่าเรียนครั้งนี้  ส่วนเวทย์
มนต์คาถาอาคมนั้น   เขาก็เริ่มทีจะฝึกหัดนั่งสมาธิไปตามขั้นตอนที่บ่งบอกไว้ในหนังสือจนกระทั่ง
เขาสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวจนหมดสิ้น
     เมื่อสำเร็จวิชาต่างๆแล้วเขาก็หันไปขอบใจนางพรายประกายแดง   หล่อนยิ้มให้เขากล่าวว่า
   “ไม่คิดเลยว่าพี่ท่านจะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วตลอดจนเขียนได้ดี   หากเป็นคนทั่วๆไปแล้ว
เป็นว่าคงจะต้องใช้เวลานานมากๆจ๊ะ”
   “พี่เองเห็นว่าภาษาไทยที่พี่เรียนรู้ยังยากกว่านี้มากมายนัก   ด้วยภาษาที่เรียนนี้ไม่มีสระวรรณยุกต์
เพียงเป็นแค่พยัญชนะล้วนๆจ๊ะ”
   “อะไรหรือท่านที่  คำว่าสระวรรณยุกต์”   นางพรายถาม
   “คำสระและวรรณยุกต์ นั้นคือคำที่ผสมกับภาษาทำให้อ่านออกเสียงและทำนองได้ไพเราะและ
สามารถผสมผสานกับภาษาอื่นๆได้จ๊ะ   ภาษาที่น้องสอนพี่นั้นมีลักษณะคล้ายกับภาษาอังกฤษที่มีสระ
เพียงห้าตัวเท่านั้น  ดังนั้นทำนองเสียงจึงมักจะออกเสียงห้วนๆ เหมือนภาษาที่น้องสอนพี่จ๊ะ”
ชายหนุ่มกล่าว
   “งั้นก็แปลว่าภาษาที่ท่านพี่เรียนรู้มานั้นยากกว่าภาษานี้ใช่ไหมท่านพี่”   นางพรายถามด้วยความสงสัย
   “ใช่แล้วจ๊ะตลอดจนการเขียนด้วยก็ยากกว่ากันมากนะ”    ชายหนุ่มกล่าว
    “เดี๋ยวพี่จะท่องบทกลอนให้น้องฟังและอ่านด้วย   น้องลองเอามาเปรียบเทียบการร้องเพลงของน้องนะ”
ชายหนุ่มกล่าว  แล้วก็ท่องบทกลอนให้พรายทั้งสองฟัง
    “  อันภาษาไทยนั้นบรรเจิดยิ่ง
รวมทุกสิ่งประยุกต์ปลุกเกษมสาน
ท่วงทำนองรองรับขับเบิกบาน
ดุจวิมานชั้นฟ้ามหาพรหม
    ถ้อยน้ำเสียงล้ำเลิศประเสริฐนัก
ดุจพิณจักสานเสียงเคียงผสม
กังวานก้องลอยล่องคล้องสายลม
สรรค์ระทมเป็นสุขคลุกภายใน
    อันเสียงสูงแลต่ำย้ำพยัญชนะ
ทำนองปะคละคลุ้งจรุงใส
ไล่จากต่ำมากลางสร้างสูงไป
ตวัดไล้ลงกลางพลางต่ำมา
    จึงเกิดเป็นสำเนียงภาษาไทย
เข้ากับได้ทุกชาติและศาสนา
หากฝึกฝนคล่องแคล่วแนวรจนา
ก็นำพาดุจเพลงบรรเลงพิณ.”
    ชายหนุ่มเอื้อนร้อยกรองให้นางพรายทั้งสองฟัง  อันทำให้นางพรายสาว
ถึงกับเหม่อลอยหลับตาพริ้ม   ถึงกลับเผลอตัวเข้ามาหายชายหนุ่มแล้วสวมกอด
พลางทั้งสองนางต่างก็จูบบนใบหน้าชายหนุ่มที่รกรุงรังด้วยหนวดเคราโดยที่ไม่
รังเกียจ    เล่นเอาชายหนุ่มถึงกับตะลึงซาบซ่านเข้าสู่ใจและพลางโอบนางทั้งสอง
อย่างลืมตัว
    เมื่อรู้สึกตัวได้หน้าชายหนุ่มก็แดง พร้อมกับกล่าววาจาขอโทษนางทั้งสอง
       “  พี่ขอโทษน้องทั้งสองด้วยนะ  พี่ลืมตัวไปชั่วขณะจ๊ะ”
       “ หามิได้มิเป็นไรดอกท่านพี่  น้องเองเมื่อได้รับฟังเสียงร้องของพี่ท่านก็ยังอดที่จะลืมตัวไป    ด้วยช่างเป็นภาษาที่อ่อนไหวเร้าใจยิ่งนัก   จริงซินะพี่ท่าน 
      ที่พี่กล่าวเป็นภาษาที่ไพเราะมากกว่าภาษาท้องถิ่นในที่นี้เสียอีก”    นางพรายสาวทั้งสองกล่าว.....
                *  แก้วประเสริฐ.  *

n016.gif				
comments powered by Disqus
  • โคลอน

    6 กุมภาพันธ์ 2553 15:05 น. - comment id 114267

    41.gif41.gif41.gif
    
    สนุกค่า
    
    สนุกกว่าปลาบู่ทองตอนเช้าๆที่เค้ายืดเนื้อหาเปลี่ยนใหม่จนไม่เหลือเค้าเดิมอีกแน่ะค่ะ...
     อิอิ30.gif
  • แก้วประเสริฐ

    6 กุมภาพันธ์ 2553 15:18 น. - comment id 114268

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  โคลอน
    
          นี่ผมถึงแต่เสร็จนะคุณฝน  ส่วนเรื่อง
    ในโทรทัศน์บอกตรงๆว่าไม่เคยดูสักเรื่องเดียว
    มานานเป็นปีแล้วล่ะครับ ผมไม่ชอบเพราะดูไป
    แต่ละเรื่องผมเดาได้เกือบหมดเชียวละไม่ใช่โม้
    นะครับสรุปได้เลยว่าเรื่องนี้ตอนจบเป็นอย่างไร
    ผมเคยพูดให้เขาฟัง  แต่ตอนหลังเขามาบอกว่า
    รู้ได้อย่างไรกันเพราะเหมือนผมบอกไม่ผิดเชียว
          ผมเองก็บอกไม่ได้ครับหรือเป็นเซนต์ของ
    ผมเองกระมังครับ อิอิ  รักเสมอ
    
           16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ฉางน้อย

    6 กุมภาพันธ์ 2553 15:51 น. - comment id 114271

    41.gif41.gif41.gif..........ลุ้นจัง..........
  • แก้วประเสริฐ

    6 กุมภาพันธ์ 2553 16:07 น. - comment id 114272

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ฉางน้อย
    
          ยายฉางนุ้ย...อุ๊ยๆ  ยายฉางน้อยหลานเลิฟ
    คิดว่าเรื่องนี้ยาวๆแน่นอนแหละขนาดเริ่มต้นไป
    ไม่เท่าไหร่ ลุงก็โม้ไปแล้วล่ะอ้อเนื่องจากจะมาเล่น
    ทางนี้คิดว่าจะแต่งเรื่องยาวๆสักเรื่องหนึ่ง ส่วนทาง
    โน้นปล่อยให้ศิษย์ลุงเล่นไปแต่ก็แว๊ปๆไปดูบ้างจ๊ะ
    รักหลานเรามากเสมอ
    
             16.gifแก้วประสริฐ.16.gif
  • คมดาบนารี

    6 กุมภาพันธ์ 2553 17:00 น. - comment id 114273

    62.gif62.gif..แอบมีโรแมนติดตอนท้ายด้วย..อิอิ..27.gif
    
    สนุกค่ะ....คุณลุงเมื่อยอ๊ะป่าวค้าๆๆ  เป็นห่วงจ้า...11.gif6.gif4.gif
  • แก้วประเสริฐ

    6 กุมภาพันธ์ 2553 19:23 น. - comment id 114274

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  คมดาบนารี
    
          ผมสอดแทรกอารมณ์ต่างๆไว้ตามลักษณะ
    ของเนื้อเรื่องครับ  ให้คนอ่านที่ได้ติดตามได้เกิด
    เหมือนจริงจังคล้อยตามไปครับ ตามความคิดผม
    นะครับเนื้อเรื่องผมค่อยผสมผสานเว้นวรรคไว้
    แล้วเข้าสู่การตื่นเต้นสลับกันไปจะได้ไม่เบื่อ โดย
    จะไม่รวบรัดมากนัก ขอบคุณรักเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แขกประจำบ้านกลอน

    6 กุมภาพันธ์ 2553 23:12 น. - comment id 114277

    เปิดใว้ตั้งแต่บ่ายอ่านไม่ทันจะจบ
    ก้เลยมาอ่านใหม่อีกรอบนะคะ
    มาถึงตอนนี้แล้วพะเอกยัง
    อยากหาทางกลับบ้านอีกเหรอคะ
    ครูแก้ว เขียนบทได้ขนาดนี้ยังตกงาน
    แล้วคนอ่านอย่างดิฉันงานนอกบ้านไม่มีทำ
     อิอิ 
    ขอบคุณมากนะคะ 36.gif36.gif36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    7 กุมภาพันธ์ 2553 11:41 น. - comment id 114283

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แขกประจำบ้านกลอน
    
         ครับจริงๆนะครับ งานเขียนผมก็แค่สมัคร
    เล่นเพื่อเพลิดเพลินไม่ต้องคิดมากเท่านั้นเองครับ
    หาได้ยึดเป็นอาชีพอย่างไรไม่ ก่อนนั้นก็มีคนหลาย
    คนเขาบอกให้ผมส่งไปสำนักพิมพ์เพือขาย ต้องได้
    รับการพิจารณาแน่นอน  ผมไม่เอาด้วยคิดแค่
    สนุกๆเท่านั้นและฝีมือยังไม่เข้าขั้นนะครับ แต่เอา
    เถอะแค่เล่นเพื่อคลายสมองและฝึกให้สมองมัน
    ทำงานไม่ต้องเบลอเท่านั้นครับ  หวังว่างาน
    เขียนผมซึ่งจะไม่เลียนแบบใครและเหมือนใคร
    อาจจะคล้ายๆกันบ้างก็ช่วยไม่ได้เพราะส่วนมาก
    จะเป็นเช่นนี้เสมอ  แต่งานผมคิดเองแต่งเอง
    ครับ   ขอบคุณมากที่ติดตามเสมอและคอมเม้นท์
    ให้กำลังในการเขียนของผมครับ ขอบคุณรักเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • กิ่งโศก

    9 กุมภาพันธ์ 2553 13:59 น. - comment id 114367

    กลับมาติดตามต่อครับครูแก้ว...ด้วยผมไปต่างจังหวัด มาครับ..เสาร์ อาทิตย์ และ จันทร์..
    ..คอมเม้นที่ครูตอบ..ในตอนๆต้น ผมอ่านแล้วครับ..
  • แก้วประเสริฐ

    9 กุมภาพันธ์ 2553 15:14 น. - comment id 114375

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
        ศิษย์รักเรา ให้อ่านที่ครูตอบปรางทิพย์ไว้
    ด้วยนะ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าในการต่อไป
    รักศิษย์เราเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน