ลุ่มลึกอิสราวดี 5 ร่างชายหนุ่มเดินลดเลี้ยวไปตามทางเนินไหล่เขาทางวัชพืช สองข้างโอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยมุ่งหน้าเข้าสู่ภูเขาลูกใหม่ สิ่งที่ทำให้เขาฉงนใจมากขึ้น ยามเดินไปยิ่งลึกเข้าสู่แนวป่าเท่าไหร่ ต้นไม้ยืนต้นยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้นเท่านั้นเขาสังเกตเห็น แมลงปอ หรือ แมลงต่างๆตัวใหญ่ผิดปกติมีรูปร่างขนาดเท่ากำปั้นมือของเขาเห็น จะได้ ชายหนุ่มชะงักหยุดกับที่และเริ่มพิจารณาสิ่งรอบข้างที่ผิดสังเกตทันที ใช่แล้วมันใหญ่มากจริงๆเสียด้วย สิ่งแวดล้อมรอบข้างเขาช่างผิดกับตอนมามาก นักอะไรเกิดขึ้นหรือ ทำไมสิ่งต่างๆล้วนแล้วแต่ใหญ่โตไปเสียสิ้นแต่เขารู้สึกหนัก มือขึ้นดาบที่เขาถือซึ่งยาวพอประมาณสร้างความตึงมือให้แก่เขา ด้วยเกิดจากความ อ่อนล้าในการถือนานๆและไม่สะดวกในการใช้มือหากมีการปีนป่ายเกิดขึ้นข้างหน้า หากเขาไม่หาวิธีลดทอนลง ดังนั้นเขาจึงค้นหาเถาวัลย์ขนาดเล็ก เพื่อใช้ในการเก็บ ดาบและมีดน้อยมิให้ต้องเกะกะต่อไป เมื่อพบแล้วเขาทดลองดึงทดสอบความเหนียวแน่นของเถาวัลย์นั้น ซึ่งทำความพอใจให้แก่ชายหนุ่ม ดังนั้นเขาจึงนำมีดน้อยออกมาตัด ได้พอขนาดแล้ว นำมันมาพันกับฝักดาบทั้งปลายฝักและก่อนจะถึงตัวดาบ โดยนำเถาวัลย์มาขมวดพันเกลียว ทั้งฝักดาบและฝักมีดน้อยของเขา ส่วนฝักดาบที่มีตัวมีดอยู่เขานำมันขึ้นมาสพายแล่งบนไหล่ด้านขวา ส่วนฝักมีดน้อยเขานำมาร้อยยังผ้าคาดเอวเพื่อป้องกันการสูญหาย หากเบื้องหน้าเขา จะพบสิ่งหรืออุปสรรคใดๆก็จะได้ไม่ต้องล่วงหายไป เขาปรับการจัดการกับดาบและมีด ให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวทดลองดูจนเกิดแน่ใจแล้ว ครั้นชายหนุ่มทำสำเร็จเขาก็ออกเดินทางต่อไป เสียงร้องของพวกแมลงต่างๆ ล้วนแล้วดังก้องกังวานมาก บ่งบอกถึงการบินของมันล้วนแล้วแต่มีขนาดใหญ่ทั้งสิ้น เขาคิดนี่เราหลงเข้ามายังเมืองพวกยักษ์หรือไงนะสิ่งต่างๆจึงล้วนแล้วแต่ใหญ่ไปหมดเขาคิด ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงเหมือนการต่อสู้กันของพวกสัตว์จำพวกค่าง หรือลิง ด้วย เสียงมันบอกถึงลักษณะของสัตว์ต่างๆ เสียงร้องเจี๊ยกๆจ๊ากๆดังระงมไปทั่วบริเวณข้างหน้า ที่เขากำลังจะเดินผ่าน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขาจึงรีบมุ่งหน้าไปยังต้นเสียงทันที สายตาที่แลเห็น คือการต่อสู้ระหว่างลิงสองฝ่ายที่เขาคิดเช่นนั้นด้วยสีของลิงที่มีรูปร่าง ใหญ่โตมากแตกต่างกันมาก คือลิงที่มีขนสีดำสนิทประมาณสักเกือบสิบตัว กับลิงที่มีขน สีทองประมาณห้าหรือหกตัวนี่แหละ ต่างฝ่ายต่างชุลมุนต่อสู้กัน บ้างถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ บ้างตายนอนถูกเขี้ยวของอีกฝ่ายกัดตาย ชายหนุ่มสังเกตเห็นที่ใบหน้ามีเขี้ยวลิงล้วนแล้ว แต่ใหญ่โตทั้งสิ้น ขนาดของลิงสองฝ่ายนั้นไล่เลี่ยกันแต่เขารู้สึกว่าฝ่ายลิงสีดำนั้นจะตัวใหญ่ กว่าลิงขนทอง เขาแอบมองดูยังต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆบริเวณต่อสู้ พลางล้วงก้อนหินมาถือไว้ในมือทั้งคู่ ของเขาด้วยเผื่อหาก พวกใดพวกหนึ่งหลงมาทางเขาและเห็นเขาอาจจะคิดว่าเป็นศัตรูมันและ จะเข้าทำลายเขาจึงเตรียมการไว้ป้องกันตัวก่อน การต่อสู้ผ่านไปนานพอประมาณจน ชายหนุ่มรู้สึกหิวจึง วางก้อนหินไว้อีกมือหนึ่งส่วนอึกมือหนึ่งล้วงหยิบผลไม้ขึ้นมากัดกินแต่ สายตาก็ยังจ้องดูการต่อสู้อยู่ เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆผลแพ้ชนะก็เริ่มจะมองเห็นคือฝ่าย ลิงขนสีดำจะได้เปรียบทั้งจำนวนและที่เหลืออยู่ ส่วนลิงขนสีทองเหลืออีกสองสามตัวแต่ด้วย นิสัยของนักสู้ของลิงขนสีทองที่เห็นพวกมันตายไปก็มิได้เสียกำลังใจแต่ประการใดก็ยังพยายาม เข้าต่อสู้คงคิดว่าจะตายตามพวกมันไป ในจำนวนสองสามตัวนั้นมีลิงตัวเล็กเขาเข้าใจว่าคงจะ เป็นลูกลิงที่กำลังเติบโตอยู่ร่วมด้วย ถึงแม้มันจะตัวเล็กและยังเด็กมากนักแต่ใจจิตมันใหญ่ผิด กับรูปร่างมันและพยายามเข้าช่วยตัวอื่นๆมิได้คิดจะหลบหนีไป จนกระทั่งเหลือเจ้าตัวน้อย เพียงตัวเดียวมันก็พยายามดิ้นรนต่อสู้ต่อไปมิได้คิดกลัวตายแต่ประการใด ทำให้เขาอดสงสารมันมิได้ หากเขาไม่เข้าไปช่วยเหลือเจ้าลิงตัวน้อยนี้เห็นที่จะต้องตายตาม พวกมันแน่นอน ดังนั้นเขาจึงนำก้อนหินที่ถือไว้ในมือก่อนแล้ว เล็งไปยังตัวใหญ่ที่สุดที่เขาคิดว่าคงจะ เป็นหัวหน้าลิงขนสีดำและขว้างก้อนหินไปยังดวงตามันทันที ผลปรากฏว่าลิงตัวใหญ่ที่เขาคิด วางมือจากกระชากร่างลิงเล็กตัวนั้นทันที มันร้องเสียงลั่นพร้อมขู่ดังๆยกมือขึ้นกุมดวงตาทันที แต่กระนั้นสัญชาติฌานมันมิยอมกลับพุ่งร่างเข้าหาเล็กตัวเล็กอีกครั้ง คราวนี้ชายหนุ่มขว้างก้อน หินอีกก้อนเข้าไปยังดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวของมันอีก ร่างของลิงใหญ่ขนสีดำสะดุ้งเฮือก ร้องกังวานลั่นเลือดไหลออกจากดวงตาทั้งสอง สายตามันบอดสนิทแต่ด้วยความดุร้ายกระหาย เลือดของมันได้ส่งเสียงร้องเรียกพวกทันที พวกลิงขนสีดำต่างแยกย้ายกันค้นหาสิ่งที่ทำให้ หัวหน้าได้รับบาดเจ็บทันทีพวกมันเหลือประมาณห้าตัวเห็นจะได้ ชายหนุ่มรีบคว้าหยิบก้อนหิน มาถือไว้อีกแล้วรีบขว้างหินเข้าใส่ยังตัวที่ห่างไกลเพื่อเรียกร้องความสนใจมันให้ไปทางอื่นแต่ กระนั้นก็ยังหาได้ผลไม่ พวกมันมิสนใจตัวที่ได้รับอันตรายและล้มตายไปมันก็แยกย้ายกัน ค้นหาเขาซึ่งพวกมันคิดว่าคงมีสิ่งที่ทำร้ายหัวหน้ามัน มีตัวหนึ่งถลาใกล้เข้ามายังต้นไม้ที่เขา ได้หลบอยู่ ร่างมันใกล้ๆตัวเกินกว่าที่เขาจะขว้างก้อนหินได้ ดังนั้นเขาจึงรีบชักดาบออกมา เสียงดังกังวานทันทีเมื่อตัวดาบกระทบกับฝักดาบหลุดออกมา เขารีบเผ่นทะยานเข้าใส่ร่างมัน ทันทีพร้อมกับยกดาบขึ้นฟาดฟันไปยังร่างเจ้าทโมนไพรสีดำ ด้วยความคมของดาบที่เขามีอยู่ ทำให้ร่างอันมหึมาของลิงร่างยักษ์ขาดกระเด็นออกเป็นสองท่อนทันที เขามองเห็นเกิดความ ได้ใจ จึงพุ่งร่างเข้าไปยังลิงตัวเล็กขนสีทองพลางฟาดฟันดาบในมือของเขาเข้าใส่ยังร่างของ ลิงที่กำลังพันตูกับลิงน้อยตัวนั้น เพียงพริบตาเขาก็สังหารเจ้าร่างยักษ์นั้นลงอีก แต่ลิงที่เหลือ ขนสีดำเพียงสองตัวมันรู้แล้วว่าใครที่ทำร้ายพวกมันแต่ด้วยความอำมหิตในสันดานมันมิได้ กลัวตายพุ่งร่างทั้งสองเข้ามาพร้อมส่งเสียงร้องขู่แล้วกระโจนเข้าใส่เขาทันที ตัวแรกโดนฟัน มือขาดไป แต่มันก็มิได้ลดละยกมือที่เหลือเขาตะกรุยหมายจับ มือเจ้าลิงเฉียดกายเขาไปนิด เดียวด้วยเขาเบี่ยงตัวหลบเสียทัน ชายหนุ่มนึกหากเป็นสมัยก่อนเขาคงจะต้องถูกเจ้าลิงยักษ์ จับตัวได้ แต่บัดนี้เขาได้ฝึกปรือท่าร่างตามภาพวาดในหนังสือมาอย่างเชี่ยวชาญแล้วทำให้ เกิดปฏิกิริยาในการต่อสู้สามารถหลบหลีกหลุดพ้นได้ เขาคว้ามีดน้อยชักออกแทงสวน ใส่ยังร่างเจ้าลิงยักษ์ เสียงมันร้องโหยหวนปรากฏว่าไส้มันทะลักขาดหลุดออกมาจาก ลำตัวมันทันที เสียงร้องลั่นพร้อมสิ้นเสียงร่างมันก็หงายล้มลง อีกตัวหนึ่งที่เหลือชะงักคราวนี้มันมิกล้าเข้ามาใกล้ๆเขาคงเห็นพวกมันล้มตายด้วยสิ่งของ ที่อยู่ในมือเขานั่นเอง แต่มันก็ยังส่งเสียงคำรามขู่หันรีหันขวางเมื่อมันเห็นพวกมันตายด้วย นิสัยสันดานที่เหี้ยมโหดมันได้กระโจนเข้าใส่เขาอีกครั้งหลังจากที่มันลังเลอยู่ ดังนั้นเขาจึง นำมีดน้อยสอดใส่ฝักแล้วรีบหยิบก้อนหินขว้างเข้าใส่ร่างมันทีเดียวสองก้อน หินทั้งสองก้อน ได้เข้าเป้าอย่างจัง ร่างลิงชะงักกลางอากาศทันที ทันใดนั้นร่างสีทองผ่านสายตายเขาไป แว๊ปหนึ่งด้วยความเร็วที่เขาแทบจะมองไม่ทัน เห็นร่างเจ้าลิงน้องขนสีทองทะยานพุ่งเข้า ใส่ร่างลิงขนสีดำที่มือมันทั้งสองกุมอยู่ที่ดวงตาทั้งสองที่มีเลือดไหลออกมามากมาย ร่างเจ้า ลิงน้อยก็ตรงเข้ากระโดดใส่ด้านหลังลิงยักษ์สีดำแล้วแยกเขี้ยวกดลงไปยังต้นคอลิงร่างยักษ์ สิ่งที่เขาเห็นคือประกายสีขาวแวววาววับจากเขี้ยวของเจ้าลิงน้อยที่ฝังลึกเข้าสู่ร่างลิงยักษ์ มันช่างคมอะไรเช่นนั้นเขาคิดปรากฏว่าต้นคอลิงร่างยักษ์ฉีกขาดกระจาย หัวของมันแทบ หลุดจากบ่าด้วยแรงกระชากของลิงน้อยตัวนี้ ภายหลังเสร็จยุทธภูมิลิงสิ้นสุดลงคงเหลือ เจ้าลิงน้อยเพียงตัวเดียว เมื่อเขาเห็นว่าได้ช่วยลิงน้อยที่พึ่งจะเติบโตได้สำเร็จแล้วเขาก็หันหลัง กลับทันที เพื่อจะออกเดินทางต่อไป ทันใดนั้นเขาก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งหนึ่งเมื่อมือข้างหนึ่งของเขาถูกกระชากเบาๆเขาเหลียว หันไปมองเห็นลิงน้อยตัวนี้กุมมือเขาแล้วส่งเสียงร้องเบาๆ เขาหัวร่อด้วยความเอ็นดูสัญชาติฌาน บอกเขาว่าเจ้าลิงน้องคงจะมาทำความสนิทสนมกับเขาแน่ ชายหนุ่มหยุดลงแล้วนั่งลงพลางเอื้อม มือหยิบผลไม้ที่ยังเหลืออีกไม่มากนัก ยื่นส่งให้เจ้าลิงน้อย ทันใดเจ้าลิงน้อยกระโดดโลดเต้นและ เข้ามาหยิบผลไม้ในมือเขาแล้วนำไปกัดกิน ทันทีที่มันอ้าปากเพื่อกัดกินผลไม้นั้นเขาสังเกตเห็น เขี้ยวมันทั้งสองซึ่งผิดแผกกว่าเขี้ยวสัตว์อื่นๆที่มีสีขาวออกเหลืองๆ แต่นี้มันมีประกายคล้ายๆ เป็นแก้วชนิดหนึ่งส่งกระทบแสงแวววามด้วย เขานั่งมองดูมันกินเห็นว่ามันคงจะยังไม่อิ่มจึงได้ จึงหันไปล้วงผลไม้ขึ้นมาอีกและ หยิบผลไม้ทั้งหมดที่เหลือส่งให้มัน คราวนี้มันยื่นมือมารับอีกจนใบสุดท้ายมันกลับยื่นส่ง มาให้เขาบ้าง ชายหนุ่มยิ้มแล้วเอื้อมมือไปรับมากัดกินบ้างส่วนมันเองก็กินพร้อมๆเขา ชายหนุ่ม หัวร่อลั่นด้วยความดีใจ จึงทดลองเอื้อมมือไปลูบหัวมันดูเพื่อทดสองปรากฏว่ามันแสดงอาการ เฉยๆตอบรับการกระทำของเขา ดังนั้นเขาจึงขยี้เบาไปไปยังหัวมันแล้วดึงร่างมันเพื่อเข้ามา กอดปรากฏว่ามันอ่อนตามมือเขาทันที เมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็ดึงร่างมันเข้ามากอดแสดงให้มันรู้ ว่าเขาก็มีความรักต่อมัน ลิงน้อยเขาคิดว่ายังเป็นลูกลิงอยู่ได้ซุกหน้าลงมันหน้าอกเขาพร้อม หลับตาพริ้มแล้วหลับไปแสดงถึงความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าในการต่อสู้ที่ผ่านมาเขาจึงปล่อยให้ มันนอนหลับบนหน้าอกเขานานทีเดียว และในระหว่างนั้นก็คิดไปต่างๆนาๆทันใดนั้นเขานึก ได้ว่าสิ่งที่เขาฝึกฝนมานั้นยังขาดเพียงแค่ฝึกธนูเท่านั้นด้วยในตำราก็บ่งบอกวิธีการซึ่งเขาจำได้ แม่นยำ แต่เขาคิดว่าเขาหัดขว้างก้อนหินแล้วคงไม่จำเป็นต้องใช้ แต่หากระยะไกลๆคงจะขว้าง ไม่ถึงแน่นอนเกินระยะกำลังของเขา หากได้ฝึกไว้ก็คงจะดีแต่อุปกรณ์นั้นหาไม่ได้ซิด้วยไม่ มีคันธนูและลูกธนูใช้ในการฝึกฝน มาบัดนี้เหตุใดทำให้เขานึกขึ้นมา คงจะเป็นการต่อสู้ของลิงสองฝ่ายและที่เหลือจะเข้า มาทำร้ายเขา หากเขาฝึกฝนธนูไว้บ้างก็คงจะไม่ให้พวกลิงสีขนดำเข้ามาใกล้เขาได้แต่นี้การ ขว้างก้อนหินเมื่อหลายๆก้อน แต่ละก้อนล้วนแล้วใหญ่และหนัก ทำให้แขนเขาอ่อนล้าไปมาก และเมื่อเหลือบไปเห็นพวกลิงยักษ์ขนสีดำที่นอนตายอยู่ ทำให้เขานึกได้ว่าหากได้เส้นเอ็น พวกมันมาทำสายธนูก็คงจะดีหรือเอามาแทนเถาวัลย์สำหรับคล้องดาบและมีดน้อยก็จะถาวร กว่า ด้วยเถาวัลย์นั้นพอแข็งตัวก็จะกระด้างไม่สะดวกในการพันและย่อมจะแตกหักไป เมื่อเขาคิดได้เช่นนี้แล้วก็ค่อยๆวางร่างเจ้าลิงน้อยขนทองพลางเอาผ้าคาดเอวเขาหนุนหัว มันไว้ เจ้าลิงน้อยคล้ายๆจะอ่อนเพลียมากนอนคุดคู้หลับใหลไป เขาก้าวพร้อมมีดน้อยส่วน ดาบนั้นเขาสะพายอยู่เบื้องเขาอยู่แล้วย่างเดินไปยังลิงขนสีดำที่นอนตาย เขาใช้เวลาชำแหละ ลอกหนังและดึงเส้นเอ็นที่เขาคิดว่าพอเหมาะในการทำสายคันธนูตลอดจนใช้ผูกด้ามดาบและมีด น้อยของเขา และนำไปตากแดดซึ่งตอนนี้กำลังเที่ยงวันแสงแดดกำลังแรงจ้า พร้อมทั้งจัดการฝังร่างเจ้าลิงที่นอนตายทั้งหลายด้วย เมื่อจัดการกลบฝังร่างทั้งหมดแล้วเขานึกได้ว่าหาก เดินทางต่อไปซึ่งหนทางก็จะลำบากในเรื่องน้ำที่จะใช้ดื่มกิน เขาจึงมองไปยังรอบๆบริเวณนี้ พลันสายตาก็เห็นกอไผ่ขึ้นระเกะระกะ แต่ต้นมันช่างใหญ่โตมากนัก เขาจึงเดินเข้าไปหาเพื่อเลือก ต้นที่พอขนาดจะใช้ทำกระบอกน้ำเพื่อเดินทาง เมื่อค้นลำต้นได้พอขนาดที่ต้องการแล้วเขาจึง ได้นำดาบออกมาตัดระหว่างปล้องข้อที่กั้นลำต้นเป็นท่อนๆมิให้ทะลุ เพียงแต่ใช้มีดน้อยเจาะรูด้านริมของปล้องข้อเพื่อใช้สำหรับดื่มกินน้ำ เอาแค่แค่พอ ใช้เท่านั้นแล้ว และตัดกิ่งไผ่ให้พอเหมาะสำหรับใช้อุดช่องว่างมิให้น้ำไหลออกมาหากเขาได้ใส่น้ำ แล้วจึงไปตัดเถาวัลย์มาพันปลายกระบอกทั้งสองด้าน เพื่อใช้สำหรับสะพายใส่บ่า เขาทำแค่ เพียงสามปล้องเท่านั้นเพื่อเหมาะสำหรับเดินทางไม่หนักเกินไปนัก เมื่อเขาจัดการสิ่งที่ต้องการแล้ว ก็เดินไปยังร่างลิงน้อยที่หลับใหลอยู่เขาปล่อยให้เจ้าลิง น้อยนอนต่อไป ในเมื่อมีเวลายังว่างเช่นนี้เขาก็เที่ยวเดินหาผลไม้มาเก็บตุน ตลอดจนหาแหล่งน้ำและเติมใส่ในกระบอกไม้ไผ่จนเต็ม เพื่อใช้ในการเดินทางต่อไป.... * แก้วประเสริฐ. *
1 กุมภาพันธ์ 2553 13:57 น. - comment id 114052
.........ฉางน้อยตามลุ้นนะเนี่ยะ เฮ้อออออ อ่านพลาง ลุ้นพลางด้วยใจระลึก เอ๊ย ใจระทึก อิอิ ......
1 กุมภาพันธ์ 2553 14:30 น. - comment id 114053
คุณ ฉางน้อย เจ้าฉางเอ๋ย ถึงขนาดนั้นเชียวหรือหาก จะให้สนุกลองเดาความคิดอ่านของลุงดูซิว่าเรื่อง จะดำเนินไปอย่างไรนะ ฮ่าๆๆๆ ลุงตั้งใจว่าจะเขียนส่งทุกๆวันจนกว่าสายตา มันจะไม่ให้เขียนอีกล่ะจ๊ะ เรื่องนี้ลุงตั้งใจว่าจะ เขียนให้สนุกๆนะ รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
1 กุมภาพันธ์ 2553 17:40 น. - comment id 114057
อ่า...ฉากการต่อสู้ของลิงทั้งสองฝ่าย น่ากลัวมากเลยค่ะ มองเห็นภาพชัดแจ๋ว แต่ลิงน้อยน่ารักนะคะ คงจะเป็นตัวคลี่คลายปริศนาในเรื่องไม่มากก็น้อย อิอิ เดาใจคนแต่ง
1 กุมภาพันธ์ 2553 17:40 น. - comment id 114058
ตามมาลุ้นอีกคนคะ ฮือ ครูแก้ว ชำแหละเนื้อ ตอนนี้ได้เพื่อนใหม่ เจ้า น้อย อิอิ
1 กุมภาพันธ์ 2553 21:42 น. - comment id 114073
ฝีกปรืออย่างตัวอย่างภาพวาดในหนังสือเป็นไงอ่ะคุณลุง ตามหลายตอนอ่านไปนึกภาพไป มันเลยซ้อนภาพ น่าจะแบบนี้น่ะ น่าจะท่าทางอย่างนี้เวลาลุงแก้วเขียนน่ะค่ะ
1 กุมภาพันธ์ 2553 21:44 น. - comment id 114074
ขอบคุณน่ะค่ะคุณลุงฺ.....เย้....หนูดีใจจังเลย ด้วยรักและเคารพค่ะ กระต่ายน้อย
1 กุมภาพันธ์ 2553 22:27 น. - comment id 114076
คุณ โคลอน คุณฝนครับ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องสุดท้าย ของเรื่องยาวๆที่ผมจะเขียนกระมัง ด้วยสุขภาพ ไม่ค่อยจะดีทั้งสายตาด้วย เวลาแต่งเรื่องนี้ต้อง แต่งตอนกลางวัน ด้วยชัดเจนหน่อย ครับๆหาก อ่านไปคิดไปด้วยก็จะเกิดอรรถรสมากยิ่งขึ้น เดา ไปก่อนนะครับ ผมเองเขียนไปตามสมองและใจ สั่งการครับ เขียนกันสดๆนี่แหละดีผมจะบอกก็ ไม่ได้ ด้วยอาจจะเปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆครับ ขอบคุณฝนมากนะครับ รับรองว่าสนุกนั้นสนุก แน่ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
1 กุมภาพันธ์ 2553 22:31 น. - comment id 114077
คุณ แขกประจำบ้านกลอน ที่จริงผมก็หาเหตุเขียนไปยังงั้นแหละครับไม่ ได้เจาะจงอะไรไป นึกสิ่งใดได้ก็เขียนเข้าไป เพียงแค่บรรยายตัวเรื่องให้เหมาะสมเท่านั้น แต่คุณเก่งนะครับที่สามารถเดาได้ว่าเขาได้ เพื่อนใหม่ ซึ่งตรงกับใจผมเลยครับหากปล่อย ให้พระเอกอยู่คนเดียวอรรถรสก็ไม่สนุกซิครับ จริงไหมครับ ต้องหาเพื่อนให้พระเอกหน่อยนะ หวังว่าเรื่องนี้คงจะสร้างความสนุกสนานให้แก่ คุณไม่มากก็น้อยนะครับ ขอขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
1 กุมภาพันธ์ 2553 22:35 น. - comment id 114078
คุณ กระต่ายใต้เงาจันทร์ เจ้ากระต่ายน้อย ในเมื่อพระเอกไม่มีอาจารย์ คอยสั่งสอน ก็ต้องฝึกคนเดียวซิจริงไหมน๊ะ เรื่อง นี้ขณะแต่งพอมาถึงตอนนี้พอดี เจ้าหน้าที่ส่งจดหมาย นำจดหมายมาให้ ผมก็เลยนำมาเป็นเรื่องเขียน ซะเลยจ๊ะ เรื่องหน้าเขียวนะไม่หรอกเขียนแบบ ตามสบายอารมณ์ไม่มีอะไรบังคับใจผมได้ สนุก ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ สิ่งประกอบ ด้วยผมเองเป็นคนชอบเที่ยวป่าเขาลำเนาไพร จึงไม่ยากนักที่จะเขียนจ๊ะ รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
1 กุมภาพันธ์ 2553 22:41 น. - comment id 114082
คุณ กระต่ายใต้เงาจันทร์ เจ้ากระต่ายน้อยเอ๋ย ผมคัดให้เอาที่สวย ที่สุดเท่าทีมีให้นะ รู้สึกว่าจะเป็นเนื้อ 3 กษัตริย์ ที่แพงให้ด้วยจ้า ด้วยเห็นมีศรัทธามากๆนะ เช่นงานเขียนทั้งหลายคงเป็นด้วยบารมีท่านด้วย ล่ะผมคิดนะครับด้วยผมนับถือท่านเหมือนกันจ้า เดี๋ยวนี้รุ่นนี้หายากมากๆด้วยล่ะ รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 กุมภาพันธ์ 2553 11:19 น. - comment id 114097
สวัสดีค่ะพ่อ แพรวขอโทษด้วยนะคะที่แพรวส่งเมล์ไปหาพ่อไม่ได้ เพราะตอนนี้แพรวทำงานในโรงเรียนค่ะ เค้าบล๊อกเมล์ คิดว่าคงต้องออกไปใช้เน็ตที่ร้านค่ะ แต่แพรวไม่ได้ลืมนะคะ ยังรอที่จะได้ฟังคำสอนจากพ่อเสมอ เพียงแต่ตอนนี้ค่อนข้างยุ่งค่ะ ตอนนี้ก็เลยมาบอกพ่อก่อน เพราะแพรวกลัวพ่อไม่เข้าใจแพรว ช่วงนี้ทำงานทั้งอาทิตย์ วันว่างๆมีน้อยเหลือเกิน ทำให้รู้สึกไม่ชอบการเป็นผู้ใหญ่เลยค่ะ วุ่นวาย 555 ไม่เหมือนตอนเด็กๆ ที่อยากทำอะไรก็เหมือนง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตองอะไร ตอนนี้ขออ่านเรื่องสั้นของพ่อไปก่อน "ลิงน้อยกระดดโลดเต้น" แพรวแนะนำให้เพื่อนอ่าน เพื่อนบอกว่า ลิงตัวน้อยตัวนี้คล้ายแพรวเลย อิอิ เขียนให้พวกเราอ่านไปเรื่อยๆนะคะ จะรออ่านค่ะ พ่อก็รักษาสุขภาพนะ เเจ้ลิงแพรวเป็นห่วงค่ะ
2 กุมภาพันธ์ 2553 11:30 น. - comment id 114101
คุณ เพียงแพรว ถูกแล้วลูกการเป็นใหญ่เป็นง่าย แต่เป็น ผู้ใหญ่เป็นยาก การเป็นใหญ่นั้นคือการใช้ อำนาจปกครอง ส่วนการเป็นผู้ใหญ่ใช้คุณธรรมกับ อำนาจปกครอง จึงยากกว่าเป็นใหญ่จ๊ะ ฉนั้นเริ่ม แรกคือบันทัดฐาน อุปมาดั่งการฝึกเรียนจ๊ะหาก ฝึกในแนวทางที่ถูกต้องสิ่งที่ได้รับก็จะได้รับการ นิยมจากผู้คน หากฝึกในแนวทางตรงข้าม แล้วทุกๆอย่างจะเกิดความสับสนในชีวิต ฉะนั้นลูกพ่อจงใช้สติพิจารณาไตร่ตรอง ก่อนจะทำการสิ่งใด หากไม่ดีก็ควรจะเว้นเสีย เพราะการทำงานคือการเริ่มต้นของอำนาจชื่อ เสียงในอนาคตนะลูก แต่พ่อเชื่อว่าลูกพ่อต้อง อยู่ในทำนองคลองธรรมสัมมาอชีวะจ๊ะ พ่อรัก ลูกเสมอ ส่วนเรื่องอื่นๆไม่ต้องห่วงในการฝึก กลอนหากพ่อยังอยู่นะ เมื่อไหร่ก็ได้ขัดสน อะไรถามพ่อมาได้เลยจ๊ะ พ่อรักลูกของพ่อเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 กุมภาพันธ์ 2553 13:11 น. - comment id 114103
เริ่มดุเดือด แล้วกับการหลงมิติ เข้าไปของพระเอก ...มาติดตามต่อครับครูแก้ว
2 กุมภาพันธ์ 2553 13:40 น. - comment id 114104
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รักของครู นี่ครูกำลังแต่งเสร็จนะ และจะนำลงเดี๋ยวนี้แหละจ้า หาความสำราญได้ ต่อไปนะศิษย์รักยิ่ง แก้วประเสริฐ.
5 กุมภาพันธ์ 2553 00:23 น. - comment id 114213
ตอนนี้ดุเดือดค่ะ..มีชำแหละด้วย..อิอิ..
5 กุมภาพันธ์ 2553 11:42 น. - comment id 114228
คุณ คมดาบนารี ผมเองค่อยๆดำเนินเรื่องอย่างช้าๆไม่รวบรัด เหมือนยังกับเรื่อง "ทัศยุราชันย์" หรอกครับจน ตัวเองยังไม่แน่ใจเลยว่าผมจะจบได้อย่างไรก็ต้อง แล้วแต่สถานะการณ์ครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.