เรื่องเล่าของแม่ ตอน น้าที่จากไป

ปุยเมจิกา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
                      15561_005.jpg
                       ในช่วงนั้นเป็นฤดูดำนา  เราจะกลับบ้านเกือบทุกอาทิตย์ โดยรถไฟ เพราะสถานีรถไฟอยู่ใกล้บ้านและที่ทำงาน ไปกลับรถไฟสะดวกที่สุด สมัยนั้น ระยะประมาณร้อยกิโลเมตร รถยนต์โดยสารไม่ค่อยมี เวลาจะไปทำธุระในตัวจังหวัด  ต้องไปนอนค้าง รุ่งเช้าจึงจะมีรถกลับ บ้านเราอยู่ใกล้ตัวเมือง จึงไม่มีปัญหาเวลาเข้าไปอบรม  พักที่บ้านได้ 
                       วันนั้นรถไฟ ถึงบ้านประมาณห้าโมงเย็น เดินจากสถานีรถไฟซึ่งห่างจากบ้านไม่มาก เจอป้าบ้านหลังแรก แกก็บอกว่าน้าสะใภ้  ดำนา อยู่แล้วหน้ามืดเป็นลม  เส้นเลือดในสมองแตก หมอผ่าหัวไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง (น้าเป็นความดันโลหิตสูงแล้วไม่เคยไปหาหมอ) เราก็บอกไปว่ามืดแล้วค่อยไปเยี่ยมพรุ่งนี้ แล้วก็เดินกลับบ้าน แม่ก็บอกและชวนว่าไปเยี่ยมวันรุ่งขึ้น น้าคนนี้ที่มีลูกถึงแปดคนและทะเลาะกับสามีตีกันบ่อยมาก  วันดีคืนดีก็วิ่งเลือดอาบหน้าเรียกให้แม่ช่วยประจำ แม่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็ได้ แต่ บ่น  ด่าน้องชายตัวเอง แล้วก็ช่วยกันทำแผล น้าชายแกขี้เมาทำงานหาเงินมาได้ก็กินเหล้า นึกถึงโฆษณาของ ส ส ส  จน  เครียด  กินเหล้า ส่วนน้าสะใภ้ ก็ไม่ใช่ย่อย  ชอบเล่นไพ่  โดยเฉพาะไพ่ตอง เล่นได้ทั้งวัน หน้าที่เลี้ยงลูก  หาข้าวกิน   ทำงานบ้าน  จึงตกเป็นของลูกสาวคนโต  ซึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเรา  แม่ว่าเตี่ยวน้อง (อุ้มกระเตงน้องไว้ที่เอว)จนเอวเป็นหนาม ไปไหนก็จะต้องเห็นเตี่ยวน้องตลอด นี่ก็เป็นเพื่อนเราสนิทอีกคนหนึ่งส่วนใหญ่ไปทำงานเช่น ตกปลา และมักจะได้ปลามาบ้านทำกับข้าวให้น้องทั้งเจ็ดกิน  ผิดกับเราตกปลาไม่ค่อยจะได้  บ้างครั้งก็หาปูนามาให้เป็ดกิน เพราะเกือบทุกบ้านเลี้ยงเป็ดเอาไว้กินไข่ บ้านน้าเลี้ยงเป็ดปล่อยไว้ใต้ถุนบ้าน คิดเอาเองก็แล้วกัน  หน้าฝนสภาพบ้านจะเป็นอย่างไร ก็ขี้เป็ดมันเลนแฉะไปทั้งบริเวณบ้านจนเราไม่ค่อยอยากไปเพราะหาทางเข้าบ้านไม่เจอ บ้านเราก็เลี้ยงแต่พ่อทำคอกให้มันอยู่ เช้าก็ปล่อยไปหากินปู ปลาในทุ่งนา ตอนเย็นเรียกไม่กี่คำก็กลับเข้าคอกกันเอง ให้ข้าวเปลือกผสมน้ำกินเป็นอาหาร
                        คืนนั้นน้าว่ายังนอนอยู่โรงพยาบาลหลังผ่าตัด  ไม่รู้สึกตัวเราก็เข้านอนในห้องคนเดียว ประมาณตีสอง กำลังหลับเคลิ้มๆ หูได้ยินเสียงคนร้องไห้ที่หัวเตียง  มันดังขึ้นเรื่อยๆ  เสียงน้าสะใภ้จริงๆเราจำได้ จนถึงทุกวันนี้  แกร้องไห้แล้วพูดว่า  กูยังไม่ตาย เด็กอีกคนตาย อยู่กันดีๆนะ เหมือนแกจะสั่งเสียล่ำลา  เราตกใจเหงื่อแตก  ลุกขึ้นได้วิ่งไปที่แม่นอน  แม่ถามว่าเป็นอะไร ก็เล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ว่าคงไม่มีอะไร ก็เลยนอนต่อ แต่พอรุ่งเช้า น้าชายมาบอกว่าน้าสะใภ้ เสีย ตั้งแต่เมื่อคืน  และมีเด็กชายอีกคนก็ตายพร้อมๆกัน  ฟังเท่านั้นความรู้สึกว่า มันขนลุกและเย็นวาบไปทั้งตัวเหงื่อออกเหมือนจะเป็นลม  มือก็เกาะแขนแม่ แล้วถามแม่ว่าเมื่อคืนมันเป็นอะไรละแม่  แม่ไม่ตอบ ก็คงอธิบายไม่ได้  เราเองทุกวันนี้ก็ยังอธิบายไม่ได้ ว่าสิ่งที่ได้ยินมีตัวตนหรือจิตเรานึกไปเอง แต่ทำไมมันถึงเหมือนจริงมากๆแล้วเด็กที่ตายเราไม่เคยรู้มาก่อน มันคำถามทีถามตัวเองตลอดมาจนทุกวันนี้.
				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    28 มกราคม 2553 00:32 น. - comment id 113841

    11.gif6.gif11.gif
  • เสมอจุก

    28 มกราคม 2553 02:56 น. - comment id 113842

    เพิ่งทราบว่าเป็ดกินปูด้วย ยังเข้าใจอยู่ว่า
    เป็ดกินอาหารคล้ายๆหมู สงสัยกินปูกินปลา
    คงจะให้ไข่ใบโตๆ
    ตอนท้ายน่ากลัว แต่เรื่องราวสนุกดี
    ฝากดอกไม้ให้แม่ของบัว3ดอก
    36.gif36.gif36.gif
  • = สิ้ น ฝั น =

    28 มกราคม 2553 10:26 น. - comment id 113845

    น่าสงสารลูกๆทั้ง8นะ คงได้พี่สาวคนโต
    เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ก็หวังว่าคนเป็นพ่อ
    จะกลับตัวใหม่เลิกเหล้าและหันมาดูแลลูกๆ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน