หลังจากใช้ชีวิตอย่างผู้ไร้ซึ่งจินตนาการมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนเมื่อมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้น.. นั่นทำให้ฉันเริ่มพาตัวเองกลับคืนสู่โลกแห่งฝัน.. อีกครั้ง เฮอะ.. ไร้สาระ คำ ๆ นี้ แว่วเข้ามาในโสตประสาทฉันอย่างช่วยไม่ได้ เพื่อนต่างถิ่นคนหนึ่งมักพูดใส่ฉันทุกครั้งที่ได้ยินฉันพูด ได้เห็นฉันแสดงอะไรอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้.. พวกชอบอยู่กับความฝัน ถึงไม่ค่อยเปิดจิตเปิดใจรับความจริง เขาไม่เคยทนฟังฉันเล่าเรื่องราวของบทกวีได้เลยแม้สักครั้ง แต่กลับเพลิดเพลินไปกับการเล่าเรื่อง 80 วันรอบโลก การเดินทางอันยิ่งใหญ่ ของ ฟีเลียส ฟ็อกก์ สุภาพบุรุษชาวอังกฤษ ที่ดูจะเป็นเรื่องราวที่ห่างไกลความเป็นฉันเสียเหลือเกิน.. แต่ท้ายที่สุด.. ก็ต้องหยุดเล่ากะทันหัน เพียงเพราะฉันตอบคำถามของเขา เกี่ยวกับที่ตั้งของประเทศอังกฤษว่า.. ไม่รู้.. ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนในแผนที่โลก แต่เปล่า.. ฉันไม่ได้คิดจะเล่าเรื่องราวของชายผู้นี้ให้ฟังหรอกนะ ไมตรีจิตจากสหายหนึ่งต่างหาก ที่ฉันระลึกถึงในช่วงเวลาต่อมา วิญญูชนจอมปลอม ผู้ไร้ร่องรอย.. เมื่อฉันพาตัวเองกลับเข้าสู่งานกวีเก่า ๆ วันเวลาเก่า ๆ ที่นั่น ที่นี่ เรื่องราว ความรู้สึก ณ ห้วงเวลานั้น ก็เริ่มเข้ามาทายทัก ฉันมองเห็น ความสุข ความเศร้า ความเป็นมาเป็นไปของชีวิต แต่ละช่วงที่เคยก้าวผ่าน.. ฉันมองเห็นน้ำจิตน้ำใจ มิตรไมตรี จากคนแปลกหน้า ซึ่งไม่เคยรู้จักรู้ใจ บางสิ่งบางอย่าง.....ของความรู้สึก เราก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจอะไรกับมันได้มากนัก ก็คงทำได้เพียง......พยายามบอกตัวเอง ให้เข้มแข็ง...ไม่หวั่นไหวหรืออ่อนแอ เพื่อ..... บางสิ่งบางอย่าง.....ของความรู้สึก ที่ควรเปลี่ยนแปลงไปในภายภาคหน้า วันคืนเก่าๆ...ในความฝันใหม่ๆ... ๓๐ เมษายน ๒๕๔๘ นั่นคือกำลังใจครั้งแรก ที่ฉันได้รับจากสหายผู้นี้ เมื่อครั้งที่ฉันนำความท้อใจไปแปะวางไว้ แม้ไม่ได้คิดหวังคำปลอบโยนใดใด แต่ฉันก็ได้รับมัน.. ทุกการเดินทาง..... ต้องมีที่สิ้นสุด จงรอคอย..... ด้วยหัวใจที่เปี่ยมศรัทธา สิ่งสวยงาม..... ย่อมบังเกิดต่อผู้ที่อดทน ไม่ยากเกินไปที่จะเติมเต็มความฝันให้เหมือนเดิม ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๘ อีกครั้ง สำหรับกำลังใจในยามเหนื่อยล้า..
เราต่างอยู่เพื่อ สิ่งที่รอคอย.... ความฝัน...ความหวัง...ความตั้งใจ...ในที่ผ่านมา เป็นแรงผลักดัน...ให้เราก้าวเดิน...ไปเพื่อสิ่งเหล่านั้น จึงเป็นสิ่งที่...เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้...ที่จะพบกับ ความจริง...ความสิ้นหวัง...หรือความปวดร้าว...จากสิ่งที่ผ่านมา ชีวิต...จึงมากสีสัน...เพื่อให้เรา...มากเรื่องราว ค้นหา...ในสิ่งที่เราเป็นอยู่...เพื่อความเหมาะสม...สำหรับตัวตน เพื่อคนที่รอคอย... เพื่อคนหัวใจเดียวกัน... ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๘ สหายแปลกหน้าผู้นี้ ยังคงสร้างพลังใจให้ฉันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่ข่าวคราวความอ่อนแอของฉันถูกส่งไปถึง วันนี้.....ผ่านมา ฝากความทักทาย.....ผ่านไป ผ่านฟ้า.....สู่อ้อมใจ ให้ท่านมีแต่.....คำว่า "ความสุข" แด่ สหาย ด้วยไมตรี... ๑๕ มิถุนายน ๒๕๔๘ คำทักทายอีกครั้งที่ฉันได้รับ หลังจากแวะไปส่งคำขอบคุณ เมื่อเรี่ยวแรงกำลังใจเริ่มกลับคืนมา ขออภัยที่เรา...ไร้ร่องรอย สำหรับเรา...ไม่แตกต่างกับท่านเท่าไหร่..... ทุกคืนวันที่ผ่านพ้น...มีแต่ความสับสนและเดียวดาย พยายามเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคม....แห่งนี้ เราเผชิญซึ่งความจริงที่ต้องรับรู้และยอมรับ... เพื่อก้าวเดินสู่เส้นทางที่...มันควรจะเป็น... เราหวังให้ท่าน...มีดวงใจที่โชติช่วง เพื่อฟันฝ่า...สิ่งที่เจอ...ให้ผ่านพ้น ณ ห้วงยามหนึ่ง...ทั้งท่านและเรา... คงทำความเข้าใจ...ในการใช้ชีวิตบนโลกใบนี้... หวังให้เป็นเช่นนั้น... เต็มใจเสมอ...จากเรา ๒ กันยายน ๒๕๔๘ และนี่คือครั้งสุดท้าย.. สำหรับกำลังใจจากสหายแปลกหน้า วิญญูชนจอมปลอม.. ผู้ไร้ร่องรอย จดหมายรอตอบอีก ๓ ฉบับ ที่ฉันส่งถึง เมื่อปี ๒๕๔๘ ไร้วี่แววการตอบกลับ แม้แต่งานเขียนของเขาก็พลอยหายไปด้วย ฉันติดตามข่าวคราวเขาอยู่สักระยะหนึ่ง.. แล้วเวลา... ก็พาฉันเดินทางห่างออกมาทุกที ทุกที... และฉัน.. ก็เริ่มลืมเลือนสหายผู้นี้ไปทีละน้อย ทีละน้อย ๔ ปีผ่านไปแล้ว นั่นเป็นระยะเวลาที่ฉันเข้าออกอยู่ในบ้านหลังนี้ เป็นช่วงระยะเวลาที่ฉันหลงลืมน้ำใจไมตรีและสหายแปลกหน้าผู้นั้น แต่วันนี้.. หัวใจฉันเริ่มกลับมาระลึกถึง วิญญูชนจอมปลอม สหายเรา ความรู้สึกบางอย่าง.. บางทีก็น่าฉงนนัก ทำไมฉันรู้สึกไว้วางใจคนแปลกหน้า ที่ไม่รู้จักตัวตนของกันและกัน ยิ่งกว่าคนรู้จักในชีวิตเสียอีก.. วิญญูชนจอมปลอม ฉันเพียงต้องการทราบข่าวคราวของเขาบ้างเท่านั้นเอง แต่ไม่ว่าอย่างไร สำหรับฉัน.. ขอจดจารความรู้สึกในวันนี้เอาไว้ โดยไม่ปล่อยผ่านไปอีก ความรู้สึกดีดี และหัวใจระลึกถึง.. สหายแปลกหน้า ผู้ไร้ร่องรอย วิญญูชนจอมปลอม อีกหนึ่งมิตรภาพแสนสวย ในหนึ่งช่วงชีวิตของฉัน.. You are the most beautiful part of my life.
29 ธันวาคม 2552 11:50 น. - comment id 112959
หลงลืมไม่ลงกระมังคะมิตรภาพน่าอบอุ่นเช่นนั้น
29 ธันวาคม 2552 16:35 น. - comment id 112968
ประกาศหา..ในหนังสือพิมพ์..ดีมั้ยคะ? อิอิ
29 ธันวาคม 2552 19:19 น. - comment id 112971
คงไว้ซึ่งความระลึกถึง ไร้ร่องรอย หาได้ไร้เงา สบายดีนะคะ
30 ธันวาคม 2552 12:19 น. - comment id 112977
สวัสดีปีใหม่นะ คนช่างฝัน
31 ธันวาคม 2552 16:29 น. - comment id 112989
กับเขาอื่นชื่นสุขทุกคราฝัน พันสี่ร้อยหกสิบวันยังคิดถึง แต่กับเราแบ่งให้สักเพียงครึ่ง ถ้าคิดถึงแบ่งให้ซึ้งใจนัก ลืมเสียเถิดร่องรอยไม่เห็นหน หันมามองดูคนอยากรู้จัก เขาเฝ้าเพียรเยี่ยมกรายมาทายทัก ไม่ต้องรักแค่เต็มใจก็ได้แล้ว เป็นของแท้เชื่อได้ไม่จอมปลอม แม้ไม่หอมแต่หัวใจใสดังแก้ว เข้าใจง่ายคบง่ายได้ทุกแนว มิใช่แซวเพราะเหงาจึงเข้ามา อิอิ อย่าไปฟังใคร อิอิ
4 มกราคม 2553 20:32 น. - comment id 113008
มิตรอบอุ่น... ที่จะไม่ทำร้ายหัวใจกัน... หวังอยากให้เขาเป็น... คิดถึงเสมอ...แม้มิตรนี้ไม่อุ่น... เพียงขอแค่คุ้นในใจพอ...
5 มกราคม 2553 09:40 น. - comment id 113010
๑... อะไร! หายไปในสายลม ลับลึก ในอารมณ์ความรู้สึก ดิ่งลง ล่วงล้ำ ณ สำนึก จดจาร จารึก ในความจำ ๒... จากเพื่อ เพ้อถึง พึงถาม เอ๋ยความ รู้สึก ระทึกระส่ำ เหงาเหงา ง่ายง่าย เงียบงำ เยือนย้ำ แต่คิดถึง ซึ่งทรมา ๓... ค่ำซึ่ง เงียบงัน เห็นฝันฝาด ประหวัดหวาด วกวาดปรารถนา ใครหนอ ลับไปไม่เคยมา นั่น! ความเหว่ว้า ของใครกัน ๔... หายไป หายไป ในสายลม คิดถึงเธอ ก็ซึ้งซม แต่ในฝัน งดงาม ก็งามแต่ในนิรันดร์ กับเปล่าว้าง ปัจจุบัน ฝันเดียวดาย ...บทส่งใจ... บางตื่นก็พบว่า ปรารถนาบางอย่างหายไป และมิรู้ว่าอยู่แห่งหนไหน ในความฝัน จึ่งมีแต่ฝันฝาด ที่งดงามเป็นนิรันดร์อยู่ในฝันนั้น แต่. เป็นความว้างดาย ในความจริง ...หากินง่ายๆ คงไม่ว่ากันนะ...
7 มกราคม 2553 10:34 น. - comment id 113045
ความรู้สึกดีๆ เก็บไว้ปลอบประโลมใจตนเองยามเศร้า ว้าเหว่ฯลฯ ได้เสมอ....ส่วนความรุ้สึกแย่ๆ เราได้แต่ทิ้งไป.....น่ะน่ะ