ชีวิตรัก... บางมุมมองของความรัก... ที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครเข้าใจ

ฟองอากาศ


                                   แต่ฉันไม่เคยทุกข์เพราะไม่มีรัก
                                   ไม่เคยทุกข์เพราะมีรัก
                                   และไม่เคยทุกข์เพราะหมดรัก...
                                   เพราะฉันไม่เคยมีรัก... จึงไม่เคยมีทุกข์เพราะรัก...
                       บางคน เมื่อเป็นแบบฉันอาจกระวนกระวายใจ เพราะมองไปทางใดก็พบประสบแต่คนที่มีรัก มีคนรัก มีคู่รัก มีภรรยา มีสามี มีแฟน มีคนเคียงข้าง มีคนรู้ใจ... แต่หารู้ไม่ว่า คนพวกนั้นก็มีทุกข์ เพียงแค่มันเป็นทุกข์คนละแบบกับคนที่ไม่มีคู่รัก... 
                      ฉันไม่ได้ไม่มีคู่รัก เพราะไม่มีคนมาสนใจ เพียงแต่ฉันมิได้แสวงหาคนรัก... ฉันเพียงแต่รอเวลาเมื่อมันมาถึงเท่านั้น... ใช่! คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่า คนเราเมื่อมีคนมาสนใจมากหน้าหลายตา มีหลากหลายคนชนชั้นให้เลือก แล้วไยไม่เลือกสักที จะได้มีคู่รัก ก็มันไม่ใช่นี่นา.. จะให้ฉันเลือกเขาได้อย่างไร ฉันเพียงแต่อยากรอ คนที่ฉันคิดว่าใช่ ใช่แน่นอนแล้ว ใช่ ฟ้าต้องส่งคนนี้มาเพื่อฉัน ใช่ พระเจ้ากำหนดให้เราคู่กัน ใช่ เราเกิดมาเพื่อกันและกัน และ ใช่ เขาคืออีกครึ่งหนึ่งของเรา...
                      Do you believe in destiny? เราอาจจะได้ยินคำถามนี้มาจากหนังเรื่อง กุมภาพันธ์ ตลอดทั้งเรื่อง แต่คุณเคยคิดที่จะตอบคำถามนี้มั้ย ส่วนตัวฉัน ฉันตอบคำถามนี้ทุกครั้งที่ชาคริตเอ่ยคำถามขึ้นระหว่างเรื่อง คำตอบของฉันคือ ฉันตอบไม่ได้ เพราะฉันไม่รู้ว่าชะตากรรมของฉันมันเป็นเช่นไร เราจึงไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเรา มันเป็นไปตามชะตากรรมที่กำหนดไว้หรือไม่... ส่วนพรหมลิขิตเรื่องคู่ครอง ฉันเชื่อว่ามีคู่แท้จริง เพราะสิ่งที่ฉันทำอยู่ตอนนี้คือ ใช้ชีวิตตามปรกติ และไม่คิดที่จะแสวงหาคนรัก แต่รอคนที่เราถูกสร้างมาให้คู่กัน... มนุษย์ว่ากันว่า ทุกอย่างถูกสร้างมาเป็นคู่ ตัวเราที่อยู่คนเดียวคือแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องตามหากันเอง... แต่ในเมื่อทั้งสองครึ่งถูกสร้างมาเพื่อคู่กัน และมีแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นที่จะสามารถประกบเข้ากับเราได้ลงตัว... แม้อะไรจะเกิดขึ้น หรือเวลาจะผ่านพ้นไปนานเท่าใด ครึ่งนั้นก็จำจะต้องมาประกบประกอบเข้ากับเราจนได้.. แต่ฟ้า และพระเจ้าชอบเล่นตลกกับคนบางคน เมื่อคนบางคนอาจสูญสิ้นไปก่อนที่จะได้พบกับอีกครึ่ง... นั่นเป็นชะตากรรม อาจเป็นเพราะตัวเราที่ใช้เวลาเดินทางตามหานานไป อาจเป็นเพราะเรามัวแต่หลงใหลได้ปลื้มในคนที่เราคิดว่าใช่ แต่มันไม่ใช่ หรือมันอาจจะเป็นเพราะพระเจ้าสร้างเราและทิ้งเราให้ห่างกันเกินไปก็ได้... หรืออาจจะเป็นชะตากรรมของเรา... ไม่มีใครรู้...
                       ฉันตามหา ฉันรอคอย อีกครึ่งหนึ่งของฉัน ฉันมิได้แสวงหา ฉันมิได้เร่งรีบเพื่อให้มีรัก แต่ฉันเปิดใจกว้างรับทุกคน เพื่อวันใดวันหนึ่ง ฉันจะได้เจอกับคนที่ฉันรักจริงๆ บางคนอาจหาว่าฉันบ้า ที่มัวหลงระเริงกับการตามหาอีกครึ่งหนึ่ง และอาจจะเยียบคานทองในไม่กี่ก้าว แต่ฉันจะรักเมื่อฉันคิดว่าฉันรักคนคนนั้นจริงๆ ฉันไม่อยากรักคนที่ฉันคาดว่ารัก แต่ไม่ได้รัก...
                          ชีวิตฉันมีความสุขแม้ไม่มีรัก ฉันเดินทางตามเส้นทางเดินของฉัน ที่ฉันคิดและกำหนดไว้คือ ฉันมีการเรียนที่เรียนที่สมบูรณ์ มีพ่อแม่พี่น้องที่รักกันมาก และมีเพื่อนฝูงมากมาย สำหรับฉันแค่นี้ยังไม่พอ ใช่ ทุกคนก็คงคิดว่าแค่นี้ยังไม่พอ เพราะฉันยังไม่มีครอบครัว ไม่มีสามี ไม่มีลูก... แต่มันยังไม่ถึงเวลา... ฉันยังรอ...
                           ฉันใช้ชีวิตอย่างไร้คนรักมากได้ไม่กี่ปี ฉันก็ได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ซึ่งอาจจะไม่ได้มีดีไปสะทุกอย่าง แต่ฉันรักเขา ฉันคิดว่าฉันรักเขา ใช่ ฉันรักเขา... ฉันยังไม่รู้หรอกว่าเขาคืออีกครึ่งหนึ่งของฉันหรือไม่... แต่ในเมื่อฉันคิดว่าฉันรักเขา... ฉันก็จะคบกับเขาดู...
                           ชีวิตฉันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เมื่อฉันมีคนรัก ฉันยังไม่ได้แต่งงานกับเขา แต่เราก็ใช้ชีวิตร่วมกันส่วนใหญ่ เราไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน แต่เราก็พบปะกันเกือบทุกวัน... ความรักของเรา เริ่มจากการที่ฉันได้พบกับเขาที่มหาวิทยาลัย เราเรียนที่เดียว แต่ไม่เคยเจอกันเพราะอยู่คนละคณะ... เมื่อเราเจอกัน เราเริ่มจากการคุยโทรศัพท์กันในช่วงแรก เขาไม่เคยคิดที่จะขอให้ฉันโทรหาเขาบ่อยๆ แต่เขาเองที่จะโทรหาฉันทุกเวลา... เราคุยโทรศัพท์กันบ่อยมาก เขาไม่เคยบอกรักฉันหรอก... ในห้าหกเดือนแรกเราคุยโทรศัพท์กันเท่านั้น เจอกันบ้างในรั้วมหาวิทยาลัย แต่เราไม่เคยไปไหนมาไหนกัน... เขาเคยชวน แต่อาจเป็นเพราะฉันที่บอกเขาว่ากลัวแม่จะว่า หากไปไหนมาไหนกับเขาสองต่อสอง เพราะเราเพิ่งรู้จักกันไม่นาน... เขาไม่เคยบอกรักฉันผ่านทางโทรศัพท์หรือเวลาที่คุยกัน... สำหรับผู้หญิง ทุกคนคงจะรู้นะคะ ว่าการบอกรักสำหรับผู้หญิงนั้นสำคัญแค่ไหน... แต่ฉันไม่เคยถามเขาหรอกนะคะ ว่ารักฉันหรือเปล่า... หลังจากที่เราคบกันได้หกเดือน... เขาชวนฉันไปเที่ยว... ฉันบอกแม่ว่าไปกับเพื่อน แต่ที่จริงฉันไปกับเขาแค่สองคน... เราไปดูหนัง กินข้าวกันตามปรกติ... เขาไม่ได้จับมือหรือฉวยโอกาสใดๆทั้งสิ้น... ฉันรู้สึกขวยเขินทุกครั้งที่ได้อยู่กับเขา ซึ่งความรู้สึกนี้ฉันไม่เคยมีกับผู้ชายคนไหนมาก่อน... เราคบกันได้หนึ่งปี.... ทุกอย่างดูจะลงตัวเป็นอย่างดี เขาเอาใจใส่ หึงหวงบ้าง และเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด... แต่เขาไม่เคยบอกรักฉันสักที ฉันก็ไม่เคย... สำหรับผู้ชาย ฉันรู้ค่ะ ว่าการบอกรักสำหรับผู้ชายไม่ค่อยจะสำคัญว่าจะต้องบอกนัก แต่เขาเน้นที่การบอกจากการกระทำ... แต่ฉันก็อยากฟังให้ชื่นใจนี่นา... เมื่อถึงโอกาสพิเศษต่างๆนานาเขาชอบที่จะให้ของขวัญแก่ฉัน... สิ่งของที่เขาให้อาจบอกคำว่ารักได้ดี แต่ก็ไม่เคยออกมาจากปากเขาเสียทีคำคำนี้... เราคบกันได้สองปีเศษ... การนัดไปเที่ยวถือเป็นเรื่องธรรมดาเพราะถึงตอนนี้เราก็เที่ยวกันบ่อยแล้ว... ส่วนเมื่อไปเที่ยวกัน เขามักจะจับมือฉันเดิน และโอบเอวเมื่อขึ้นบันไดเลื่อน หรือเมื่อไม่ได้จับมือ... ฉันชอบนะคะ การกระทำแบบนี้ที่เขาทำ... แต่ฉันก็เริ่มเห็นสิ่งผิดปรกติกับตัวเขาคือ เขาไปเที่ยวกับฉันจริง แต่เขาไม่ค่อยจะโทรหาฉันเท่าไหร่นัก ฉันไม่ได้คิดระแวงอะไรมาก เพราะฉันก็คิดไปว่าเขาคงงานเยอะ... เขาเริ่มจะไม่เสมอต้นเสมอปลายกับฉันเรื่องโทรศัพท์ก็แล้ว... แล้วยังมีเรื่องวันครบรอบที่คบกันอีก เขาจำไม่ได้... เขาไม่เคยลืมที่จะให้ของขวัญในวันนี้เลย แต่ปีนี้เขากลับลืม... มันเป็นวันครบรอบสามปีที่เราคบกัน... เขาไม่สนใจ... แต่เขากลับมาบอกกับฉันว่า เขาได้พบคนใหม่ที่คิดว่าเขารักเธอ... แล้วฉันล่ะ ฉันคิดกับตัวเอง... เขาไม่รักฉันหรือ??... ก็คงเป็นอย่างนั้น... ฉันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น... แต่ฉันก็ดีใจที่เขาได้เจอกับคนที่เขารักจริงๆ... ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี เมื่อเขามาบอกฉันเช่นนี้ มันดีกว่าที่เขาจะปิดมันไว้และคบกับฉันต่อไป เพราะมันอาจจะทำให้ฉันเสียเวลาไปกับเขา ผู้ซึ่งไม่ใช่คนที่ฉันรอคอย... ฉันเสียใจ เมื่อคิดว่าฉันรักเขามากเพียงใด ฉันอาจจะคิดผิดไปที่คิดว่าฉันรักเขาคนนี้ แม้ฉันจะเสียใจเมื่อคิดถึงสิ่งที่เราเคยทำด้วยกัน อยู่ด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน... แต่เมื่อเวลาพ้นผ่านไป ฉันก็ลืม... นั้นอาจจะเป็นเพราะเขาไม่ใช่คนที่ฉันรอคอย... ฉันดีใจที่ได้รักและคบกับเขา เพราะถ้าเราไม่ได้คบกันเราก็คงไม่รู้ในวันนี้ ว่าเขาไม่ใช่คนคนนั้น...
                      นี่เป็นเรื่องราวที่กลั่นกรองมาจากประสบการณ์จริง... เป็นเรื่องราวของความรัก ที่แม้จะผิดหวัง หรือแตกหัก แต่มันก็ได้ให้ประสบการณ์ และความเข้าใจในความรักมากขึ้น... มันทำให้ฉันได้พบประสบการณ์ ที่ทำให้ฉันเข้าใจ และรอคอยคนคนนั้นต่อไป... ฉันยังไม่เจอหรอกค่ะ คนที่ฉันรอคอย มันอาจจะต้องใช้เวลา... หากได้พบแล้ว จะเอามาเล่าให้อีกที... ฉันยังรอค่ะ รอคอยอีกครึ่งหนึ่งของชีวิต... ชีวิตรัก... 				
comments powered by Disqus
  • smiley Face

    7 กรกฎาคม 2546 15:43 น. - comment id 69148

    ผมชอบนะครับ มุมมองความรักของฟองอากาศ ผมชอบความคิด การมองโลกในแง่ดีของคุณที่สุดเมื่อคุณสูญเสียคนที่คุณรักไป คิดถึงจังครับ ผมขอคิดถึงฟองอากาศได้มั้ย
  • พลอย

    7 กรกฎาคม 2546 16:04 น. - comment id 69149

    เป็นมุมมองความรักที่วิเศษมากค่ะ
    เป็นกำลังใจให้พบเจอคนคนนั้นเร็วไวนะคะ
  • น้องนิด

    7 กรกฎาคม 2546 20:46 น. - comment id 69155

    เป็นเรื่องราวที่กลั่นกรองมาเชียวหรอ??
    แสดงว่ามีเซนเซอร์มาบ้างแล้วล่ะสิ คือไม่ค่อยเข้าใจ ที่ว่ามุมมองความรักตัวเองแต่ประสบการณ์ของคนอื่นนี่มันยังไง? คือแบบเอามุมมองจากประสบการณ์ของเขา หรือว่าเปลี่ยนแปลงประสบการณ์เขานิดหน่อยให้เข้ากับมุมมองเรา เป็นงงเลย
  • ผู้ชายรักสบาย

    7 กรกฎาคม 2546 21:28 น. - comment id 69157

    อ้าว ! ฟองอากาศเลิกอาชีพเขียนกลอนแล้วหรอเนี่ย
    เปลี่ยนเป็นเขียนเรื่องสั้นเสียแล้ว คำถาม Do you believe in destiny? ติดหูจริงๆแหละ ตอนที่ดูเรื่อง February 
    ชอบตรงที่บอกว่า คำตอบของฉันคือ ฉันตอบไม่ได้ เพราะฉันไม่รู้ว่าชะตากรรมของฉันมันเป็นเช่นไร เราจึงไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเรา มันเป็นไปตามชะตากรรมที่กำหนดไว้หรือไม่... อ่านแล้วคิดในใจเลยว่า จริงๆด้วย
  • แฟนฟองอากาศ

    7 กรกฎาคม 2546 22:16 น. - comment id 69158

    แต่งกลอนก้อเก่ง แต่งเรื่องสั้นยังเก่งอีก
  • ลลนา

    8 กรกฎาคม 2546 12:31 น. - comment id 69161

    โห้ย..ย...
    แฟนมาชมขนาดนี้เลยเรอะ ตายล่ะ.. อิจฉา อิอิ
    เป็นมุมมองความรักกับชีวิตที่แปลกสักหน่อยนะ แต่พี่ว่ามันเป็นมุมมองที่ดีนะคะ ชอบตรงเดียวกับ ผู้ชายรักสบาย เลยนะคะ 
    ฟองอากาศเป็นคนที่มั่นคงมากจริงๆอ่ะแหละ กลอนก็รอ เรื่องสั้นยังรออีก อิอิ แซวเล่นนะคะ
  • Ice

    9 กรกฎาคม 2546 11:47 น. - comment id 69171

    After reading it, I think of myself and the one who I love. I\'ve just known from you that LOVE is not the thing I hope but it depends on the case, time, and feeling.
  • ชัยชนะ

    11 กรกฎาคม 2546 17:24 น. - comment id 69187

    พี่อ่านเรื่องนี้แล้วเรื่องเริ่มต้นจากศูนย์ พอมาถึงตอนที่ฟองอากาศบอกว่าอาจจะเป็นอีกครึ่งหนึ่งของชีวิต พี่ก็ภาวนาแอบลุ้นอยู่ในใจ ขอให้เรื่องนี้จบลงอย่างมีความสุข น้องฟองอากาศเคยได้อ่านถ้อยคำจากเรื่องข้างหลังภาพหรือเปล่า (ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจว่าฉีนมีคนที่ฉันรัก ) ดังนั้นความรักมักจะมาพร้อมกันทั้งสุขและทุกข์ ตอนท้ายที่ว่าน้องฟองบอกว่าลืมเขาได้(จริง ๆ นะ)พี่ก็ดีใจที่เรื่องนี้จบลงเป็นศูนย์เช่นเดิม 
    แต่ถ้าพบอีกครั้งก็อย่าทำครึ่งหนึ่งของชีวิตให้หายไปอีกละ จะเป็นกำลังใจให้คุณ......(ร้องเพลงดอกไม้ให้คุณ).........
  • พวงชมพู

    14 กรกฎาคม 2546 22:49 น. - comment id 69213

    อ่านแล้วชอบจังเลยคล้ายกับชีวิตของตัวเองแต่ของตัวเองคงไม่รอแล้วล่ะเพราะคิดว่าเจอกับครึ่งหนึ่งของชีวิตแล้วเพียงแต่ครึ่งหนึ่งนั้นไม่สามารถที่จะอยู่กับเราได้ แต่ก็จะขอเก็บเขาไว้ในใจตลอดไป คิดว่าชีวิตเราถูกเติมเต็มแล้วและคงไม่คิดหาใครมาแทนที่ได้แล้วล่ะ  แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณฟองอากาศพบกับอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตนะคะ
  • kp1

    16 กรกฎาคม 2546 13:11 น. - comment id 69226

    อืมๆ...มุมมอง  สวยใส  แม้ไร้รัก
    
    คงต้องพัก..เรื่องรักบ้างใช่ไหม
    
    แต่การรอคอยคงมีอยุ่เรือ่ยไป
    
    เป้นแรงใจให้ครึ่งหนึ่งเดินทางมา
  • windsaint

    4 สิงหาคม 2546 15:34 น. - comment id 69351

    ความรักมีหลายที่พักใจ
    บางครั้งเราอาจจะเจอกับคนที่ใช่
    แต่เขาไม่ใช่
    
    ในท้ายที่สุด เราอาจจะไม่เจอใคร
    แต่เราก็ต้องเจอหัวใจของตัวเอง
    
    ลองผสมมุมมองความรักจากตนเองโดยใช้ประสบการณ์คนอื่น
    เก่งขึ้นนะ 
    
    ช่วงนี้เราเองกลับตัน ไม่สามารถเขียนเรื่องสั้นออกมาได้
    ไว้ขอไปหาแรงบันดลใจก่อนละกัน อิอิ
  • tiki ลืมลงรหัสก่อนค่ะ

    4 กันยายน 2546 17:47 น. - comment id 69540

    อาจมาอ่านช้าไป แต่ได้มาอ่านแล้วค่ะ จะมาอ่านเรื่อยๆถ้ามีเวลานะคะ
  • ไร้เงา

    30 สิงหาคม 2547 11:42 น. - comment id 76462

    มาอ่านช้ากว่าหลายๆคน
    แต่ก็อ่านจนจบ
    และเข้าใจทุกอย่างทุกถ้อยคำ
    ทำให้เราหวันใจไปเลย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน