30 กว่าปีผ่านไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ในใจเสมอมา เช้าวันนั้น วันที่ 14 ตุลาคม 16 ทหารเริ่มส่งกำลังออกมาทั่วถนนราชดำเนิน ทั้งรถปืนกล รถหุ้มเกราะและฮอลิคอปเตอร์ กระจายกำลังไปทั่ว ส่วนทหารเรือส่งมาส่วนหนึ่ง เพื่อดูแลกรมประชาสัมพันธ์ในขณะนั้น ในวันนั้นมีผู้ร่วมประท้วงมากมายออกมาร่วมทวงธิปไตยคืนจากรัฐบาลทหาร เหตุการณ์คลุกรุ่นขึ้นเมื่อทหารนำกำลังปิดทางเข้าออกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีการยิงฝูงชนลงมาจากฮอลิคอปเตอร์ และในที่สุดเหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่ทุกท่านทราบ รัฐบาลทหารใช้กำลังและอาวุธเข่นฆ่านักศึกษาและประชาชนนับร้อยนับพันที่หายสาปสูญเป็นจำนวนมาก ในวันนั้นผมอยู่ที่สะพานหน้าโรงแรมรัตนโกสิน ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังของคนในรูป (ไอ้ก้านยาว) และถูกทหารต้อนให้ถอยไปรวมกันที่หน้าโรงแรมเหลือแต่คนในรูปเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมถอยแ ละในที่สุดก็ถูกทหารยิงเข้าที่ขา บาดเจ็บสาหัส กว่าจะได้ประชาธิปไตย พี่น้องต้องหลั่งเลือดและชีวิตให้ได้มา แล้วมาวันนี้ ไม่รู้ว่า เรายังจะแบ่งพรรคแบ่งพวก ต่อสู้กันเองเพื่อสิ่งใด ทำไมไม่ร่วมมือกันช่วยพัฒนาชาติไทยให้ทั่วโลกยอมรับว่า ไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ และทำให้พ่อหลวงของเราทรงสบายพระทัย ที่ไม่เห็นลูก ๆ มาทะเลาะกันและต้องอับอายต่างชาติอย่างเช่นทุกวันนี้
13 ตุลาคม 2552 21:11 น. - comment id 108858
บ้านเมืองนี้ถูกพวกการเมืองชั่ว สมคบกลไกอำนาจรัฐที่ไม่มีจิตสำนึก ฉวยโอกาส เหยียบหัววีรชนเดือนตุลาคม ปล้นประชาธิปไตยที่พวกเขาและเธอแลกมาด้วยชีวิต เลือดและน้ำตาการสูญเสีย การต่อสู้เสียสละตลอดเวลาที่ผ่านมามา ... มีแต่ประชาชนต้องสามัคคีกันให้กว้างใหญ่ไพศาล ช่วงชิงสิทธิประชาธิปไตยแท้จริงที่พวกการเมืองชั่วสมคบและใช้อำนาจรัฐสามานย์ปล้นไปคืนกลับมาให้จงได้ สร้างการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยแท้จริงเกิดขึ้นให้จงได้ เพื่อให้สมเจตนารมณ์ประชาธิปไตย์ของวีรชนเดือนตุลาคม !!!!!!!
13 ตุลาคม 2552 21:33 น. - comment id 108859
เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 16 มันจบไปแล้ว ไม่มีอาถรรพ์อีกแล้ว ถือว่าเป็นเหตุการณ์ รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากวันนี้ ก็ไม่มีความรุนแรงเท่ากับ 14 ตุลา 16 อีกเลย รู้หรือไม่เหตุการณ์ครั้งนั้นคนตาย เกลื่อนเมืองเลย แล้วไม่เกิดเหตุการณ์ เช่นนี้อีกเลย แล้วจะว่ามันไม่หมดอาถรรพ์ ได้อย่างไร เวลาแสดงความคิดเห็นไม่เกี่ยวกับบุคคล อื่นแล้วแต่จะคิด อย่าละลาบละล้วงให้มาก มันไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีการศึกษา
13 ตุลาคม 2552 22:46 น. - comment id 108860
จนป่านนี้ก็ยังไม่พ้นทหารอยู่ดี รัฐบาลนี้ก็ตั้งโดยทหาร ใช้กฏของคณะทหารที่ปฏิวัติ และควบคุมโดยทหารอยู่นั่นเองโดยจะเปรียบประทศไทยเป็นรถม้า มีนายกเป็มนม้าเทียมลากรถ สารถีใส่สีเขียวถือแซ่หวดก้นม้าแซ่ทำด้วยเทป ตัวจริงที่เปิดเผยข้อความมาบางส่วนขู่ให้ผ่านงบประมาณและไม่ให้หือ ถ้าหือก็จะเปิดเผยทั้งหมดว่าสั่งว่ายังไงบ้าง สรุปแล้วยังไง ๆ ก็ไม่พ้นมือไปได้
13 ตุลาคม 2552 23:58 น. - comment id 108865
.....วันก่อนดูสัมภาษณ์คุณก้านยาว ออกทีวี เห็นแกนั่งรถเข็นนี่นา แกบอกว่า จริงๆแล้วรูปร่างไม่ได้สูงใหญ่ เพียงแต่ว่า นักข่าวที่ถ่ายรูปทำข่าววันนั้นน่ะ เขานอนถ่ายรูปมั้งคะ ภาพเลยออกมาเหมือนเป็นคนสูงใหญ่ ดูแกหน้าตายังสดใสเลยคะ เสียดาย หาบทความนั้นไม่เจอแล้ว จะนำมาให้อ่านกัน
13 ตุลาคม 2552 23:59 น. - comment id 108866
4.......อ่ะ ไทษที ไม่ได้ออกทีวีนี่นา ออกทางเวปโอเคเนชั่นน่ะค่ะ ลืมๆๆ
14 ตุลาคม 2552 10:19 น. - comment id 108870
คห ๑-คห ๓ ผมขอขอแสดงความนับถืออย่างยิ่งครับ ความคิดคุณคืออุดมการ๋ประชาธิปไตยโดยแท้ พวกเราต้องช่วยกันคนละไม้ละมือ กำจัดไอ้พวกอำมาตย์ที่ขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตย ตัวหลักที่ขัดขวางกระบวนการประชาชนคือทหาร ตราบใดทหารยังเป็นใหญ่ไม่มีทางได้เห็นประชาธิปไตยของประชาชน
14 ตุลาคม 2552 16:35 น. - comment id 108875
ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
15 ตุลาคม 2552 11:01 น. - comment id 108893
เราคงอยู่ในยุคสมัยเดียวกันแน่เลย ตอนนั้นเราเป็นเด็กราม ปี 1 รหัส 161.........และได้ไปร่วมเดินขบวนด้วย แต่เช้าวันที่เริ่มมีการยิงกันนั้นพอดีเพื่อนที่ไปด้วยกันปวดท้องเข้าห้องน้ำประมาณตีสี่พวกเราเลยเดินกลับหอแถวประตูน้ำเดินจากหน้าพระบรมรูป แป๊บเดียวเองที่อาบน้ำเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนัดกันว่าจะออกไปสบทบกับเพื่อนกันใหม่ก็ฟังวิทยุไปด้วยทราบว่ามีการยิงกันแล้วพี่เราเลยใส่กุญแจบ้านไม่ให้ออกไปอีก คิดถึงเพื่อน ๆ ร่วมอุดมการณ์ 14 ตค.16 ทุกคนที่เสียสละเพื่อประชาธิปไตย แต่ 30ปีกว่าที่ล่วงผ่าน กาลเวลาที่ล่วงไป ประชาธิปไตยที่ใฝฝันก็เป็นเพียงภาพฝันที่ไม่มีวันจะเป็นจริง ตราบใดที่ประชาชนไม่ว่าระดับไหนก็ตามยังไม่ได้พัฒนาพื้นฐานขององค์ความรู้ว่าประชาธิปไตยที่ไขว่คว้านั้นสาระสำคัญมันคืออะไร.................
18 ตุลาคม 2552 16:44 น. - comment id 109024
มีบางจำพวกยังหลงตนคิดว่าการเมืองไทยที่ชั่วช้าได้ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่มีความชั่วร้ายอะไรเกิดขึ้นได้อีก เผด็จการเข่นฆ่าผู้คนล้มตายอย่างโหดเหี้ยวได้ตายไปจากสังคมการเมืองไทยแล้ว มองความคิด มองการเมือง อ้างประชาธิปไตยด้วยอัตตวิสัย ยกตนสั่งสอนคนอื่นด้วยจิตใจที่เรียกว่าประชาธิปไตยที่ตนแสดงความเห็นต่อปัญหาได้ แต่คนอื่นแสดงความเห้นด้วยหรือแย้งไม่ได้ ไม่เคยเห็นจิตใจประชาธิปไตยบ้านเมืองไหนกัน เจตนารมณ์ประชาธิปไตยแท้จริงเป็นอย่างไร คงต้องกลับไปเรียนรู้ใหม่ เพราะการเมืองเป้นเรื่องของสังคมคนหมู่มาก ไม่ใช่ใครจะอยากสำรากอวดอ้างวิเศษอะไรก้ได้ โดยไม่ยอมรับรู้รับฟังคนอื่นว่าคิดเห็นต่อปัญหานั้นอย่างไร ....