พี่กี
สะพั่งสะท้านไมภพ
ในตอนนั้น
ผมเห็นพี่กีเดินลัดเลาะที่จอดรถใต้ต้นไม้เพื่อให้ร่มเงามันอำพรางไม่ให้ใครเห็นการเคลื่อนไหวในพื้นที่
ไม่มีใครเดินตามสักคน
ตะแกก็ลัดเลาะใต้ร่มเงาต้นไม้จนกระทั่งลับหายจากสายตาผมที่แอบจ้องมองอยู่ไป
ผมนั่งทบทวนถึงความทรงจำในอดีตย้อนกลับไปไม่นาน
พี่กีหน้าแดงคล้ำ
ด้วยความเอาการเอางาน
และในที่สุดก็ติดตามนายพี่กีไป
จนกระทั่ง พี่กี ได้เป็นนาย
ลูกน้องมากมายมหาศาลเดินตามเป็นพรวน
เวลาเดินแกก็เดินตรงกึ่งกลางถนน ลูกน้องที่เดินตามซ้ายขวากระจายเต็มท้องถนนหมดเหมือนกระบวนแห่พ่อนาค
ชีวิตคนมีแต่ความเปลี่ยนแปลง
และเมื่อไม่รวย ไม่มีอำนาจ ตกเป็นจำเลย อะไรก็แล้วแต่
ก็มักจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า
ผมอดไม่ได้ที่จะเข้าไปในตอนที่พี่กีตกอับ
พี่ครับ พี่มีอะไรบอกผมนะครับ ผมยินดีช่วยเหลือ
ขอบใจมากน้อง พี่กีมองตาผม
ประกายตาของแก แวววาม ด้วยความซาบซึ้งใจ
เพียงแค่ความรู้จัก แต่ไม่ยอมประจบ ในตอนรุ่งเรือง
เพียงแต่หวังปลอบประโลม ให้คลายทุกข์เท่านั้น ในตอนตกอับ
แต่ก็มีพี่อีกหลายคนที่ลืมความหลัง
ได้ดีก็ไม่เคยคิด
พอตกอับและยิ้มแค่นเข้ามา
แต่บ้างแม้ตกอับก็ไม่สะทกสะท้านและไม่เคยกระดิกหางให้ใคร
สิงห์โตย่อมไม่กระดิกหางอย่างพร่ำเพรื่อเป็นแน่
บัดนี้ พี่กี กลับฟื้นคืนชีพมาอีกแล้ว
ก็คงเข้าใจแล้วว่า
คำว่า พี่ยังจำผมได้ไหม มักจะได้ยินเสมอๆเวลาเจ้าตัวที่โดนเรียกว่าพี่ ได้ดี
แต่ทว่า ในยามตกต่ำ หากถามมันกลับไปว่า จำพี่ได้บ่
มันคงไม่รู้สึกว่าได้ยินอะไรและทำเป็นมองไม่เห็น
พี่กี ตอนนี้ ก็ไม่รู้จัก สะพั่ง เหมือนเคยอีก
สะพั่ง ก็จะรอ
รออีก
ไม่ได้รอพี่กีคนเดียว
แต่รอพี่หลายๆคน
ที่ตกอับเมื่อไร
ผม จะเข้าไปให้กำลังใจให้มีแรงต่อสู้ต่อไป