มนุษย์เกิดมาทำไม?
ลุงเอง
มนุษย์เกิดมาทำไม?
หลายคนสงสัยและถามว่า ทำไมงานบุญทางพุทธศาสนา ขณะที่พระสงฆ์ให้ศีล ชาวพุทธจึงไม่ให้ความสนใจการรับศีล ทำไมรับศีลแล้วยังคงตั้งวงดื่มเหล้า? ทำไมทำบุญจึงต้องฆ่าวัว ควาย หมู เป็ด ไก่? ทำไมชาวพุทธจึงต้องเบียดเบียนชีวิตและทรัพย์สิน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น โป้ปดมดเท็จไม่ซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน? ทำไม? ......และทำไม......?
สังคมในปัจจุบัน เป็นผลจากการพัฒนาของสังคมโลก โดยเริ่มพัฒนาการจากยุคสังคมเกษตรกรรมปฏิวัติสู่ยุคอุตสาหกรรม ยุคเทคโนโลยีก้าวหน้า (เริ่มบริโภคนิยม) ยุคโลกาภิวัตน์ จนถึงยุคปัจจุบัน “ยุคข้อมูลข่าวสารหรือไร้พรมแดน” (บริโภคนิยมสุดโต่ง) สังคมโลกแสวงหาความสุขความสะดวกสบายจากการบริโภควัตถุนิยมแบบสุดๆ แสวงหาความมั่งคั่งร่ำรวย (โลภะ) แสวงหาและแย่งชิงอำนาจโดยการเบียดเบียน (โทสะ) และเผาผลาญ และเสพ ทำลายอย่างลุ่มหลง (โมหะ) เวียนวนอยู่ในลาภ ยศ สรรเสริญและความสุข ปฏิเสธความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ซึ่งทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า “โลกธรรม ๘ ประการ” คือ ธรรมะคู่โลก ถึงจะปฏิเสธอย่างไร สังคมโลกก็ดิ้นรนวิ่งหนีความทุกข์ไปไม่พ้น เพราะทุกสิ่งล้วนตกอยู่ในกฏแห่งสามัญญลักษณะ หรือ ไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จึงทำให้สังคมมนุษย์ปัจจุบันประสบความทุกข์ทั้งกายและใจมากกว่าสมัยโบราณ (ยุคเกษตรกรรม) นั่นเพราะเหตุอันเกิดปัญหาที่เนื่องมาจากการพัฒนา ดังคำกล่าวที่ว่า“พัฒนาใดๆ ก็ติด ถ้าจิตไม่พัฒนา” ยิ่งมีความเจริญทางวัตถุมากเท่าไรความเสื่อมถอยทางจิตใจก็ยิ่งทวีมากยิ่ง ขึ้นเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นในแต่ละวันมากมายหลายรูปแบบ นับวันแต่จะทวีความรุนแรง ทารุณ โหดร้ายมากยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้จบ จึงน่าเป็นห่วงว่าสังคมโลกจะถึง “ยุคเสื่อมถอยทำลายล้าง” ละหรือ?
ถ้าหากว่าสังคมโลกกำลังจะถึงยุคเสื่อมถอยทำลายล้างดังกล่าวจริงมนุษย์ก็เกิด มาเพื่อพบกับความทุกข์ แล้วมนุษย์เราจะอยู่กันได้อย่างไร?
แต่ถ้าหากท่านยังไม่อยากให้ถึงยุคดังกล่าว ท่านควรจะต้องทำอย่างไรจึงจะอยู่อย่างมีความสุข และความสุขที่ว่านี้ต้องเป็นความสุขที่แท้จริงด้วย ดังนั้นคำถามที่ว่ามนุษย์เกิดมาทำไม? หากต้องการทราบโปรดติดตามพลิกอ่านบทความต่อไปก็คงจะทราบคำตอบได้โดยไม่ยาก