บ้านปริศนา ???

ลุงเอง

"จันทร์ฉาย" เล่าประสบการณ์สยองขวัญ
เรื่องลึกลับน่าสยองขวัญในบ้านริมแม่น้ำ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เกิดขึ้นมาเกือบยี่สิบปีแล้ว แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครตอบได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งว่า มันเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่?
ผู้ใหญ่อาจจะไม่กลัว หรือไม่ก็ลืมเลือนเรื่องราวเหล่านั้นไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่สำหรับเด็กๆวัยสิบขวบเศษอย่างดิฉันกับเพื่อนๆ ภาพหลอนอารมณ์สุดขีดยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ ชนิดที่ไม่มีวันจะลบเลือนไปได้ง่ายๆ แน่นอน
สมัยนั้น พวกเราเรียกว่า "บ้านผีสิง" ค่ะ!
จากสถานีรถไฟ ผ่านตลาดไปสู่ถนนเลียบแม่น้ำ มีบ้านเรือนเก่าแก่ปลูกกันห่างๆ ส่วนมากเป็นบ้านสองชั้น ที่เป็นชั้นเดียวก็นิยมลาดปูนใต้ถุนเรือน มีโต๊ะใหญ่สารพัดประโยชน์ ตั้งอยู่หน้าห้องครัวและห้องน้ำ เป็นทั้งโต๊ะกินข้าว โต๊ะทำงานและโต๊ะรับแขกพร้อมสรรพ
มองจากหน้าบ้านเข้าไปมักจะเป็นที่โล่งๆ มีโต๊ะหินสำหรับนั่งเล่น บางบ้านก็มีกรงนกเขาแขวนที่ระเบียง แม่ไก่คุมฝูงลูกเจี๊ยบคุ้ยเขี่ยหากินเป็นภาพที่เห็นจนเจนตาเจนใจ
ทั่วๆ ไปมักไม่มีรั้วหรอกค่ะ นิยมปลูกมะพร้าว มะละกอ ขนุน มะม่วงหรือมะยมไว้หน้าบ้าน อย่างดีก็ปักเสาห่างๆ ใช้ไม้ไผ่พาดตามขวางไว้ 3-4 ท่อน บางบ้านก็ปลูกดอกไม้อย่างดาวเรือง บานชื่น บานไม่รู้โรยไว้ข้างรั้ว
บ้านติดๆ กับดิฉันคือลุงยิ่งกับป้าแย้ม มีอาชีพค้าขายในตลาด ลูกสาวคนเดียวชื่อลำไย อายุราว 17 ปี หน้าตาสะสวยคมคาย รูปร่างสูงโปร่ง เรียนแค่ ม.3 ก็ออกมานั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้าน บางวันโดนพ่อแม่เคี่ยวเข็ญถึงจะยอมออกไปช่วยขายของ
ลำไยชอบหัวเราะต่อกระซิกกับพวกหนุ่มๆ นัยน์ตาแวววาวหยาดเยิ้มที่ชาวบ้านนินทาว่า "เจ้าชู้" ตกเย็นลุงยิ่งเมาเหล้าเข้าไปเป็นร้องด่าลูกสาว หาว่าชอบให้ท่าผู้ชาย พอป้าแย้มร้องห้ามก็ยิ่งยั่วโทสะให้เสียงดังเหมือนตะโกน มีการทุบตีลูกเมียจนดังโครมครามน่าตกใจ
ค่ำวันหนึ่ง หลังจากเสียงทะเลาะกับเสียงทุบตี ตามด้วยเสียงหวีดร้องของลำไย...ก็ได้ข่าวว่าป้าแย้มตกบันไดลงมาคอหักตาย!
ลุงยิ่งจมอยู่กับขวดเหล้า ลำไยก็เอาแต่ร้องไห้จนกระทั่งงานศพผ่านไป...
ไม่มีใครเห็นหน้าลำไยอีกเลย ลุงยิ่งก็เลิกไปขายของที่ตลาด นานๆ ถึงจะขับรถกระบะออกจากบ้าน ซื้ออาหารทั้งสดและแห้งมาตุนไว้ มีคนเล่าว่าแกรูปร่างผ่ายผอมผิดตา หน้าดำคล้ำ นัยน์ตาลึกโหลแดงก่ำเหมือนกะปูด มองใครก็มีแววขุ่นขวางคล้ายคนวิกลจริต
ทุกคนพูดตรงกันว่า ลุงยิ่งเหม็นสาบเหม็นสางราวกับคนจรจัด ใครถามถึงลูกสาวลุงยิ่งก็ขบกราม นัยน์ตาขุ่นขวางยิ่งกว่าเดิม ตอบห้วนๆ ว่า...มันหนีตามผู้ชายไปแล้ว...
นอกจากลำไย ดูเหมือนลุงยิ่งก็สูญหายไปอีกคน!
ไม่มีใครเห็นแกนั่งดื่มเหล้าที่โต๊ะใหญ่ใต้ถุนบ้าน เพื่อนฝูงจากตลาดมาหา ทั้งตะโกนทั้งกดแตรเรียกก็ไม่ได้ยินเสียงขานตอบ...บางคนก็เดาว่าลุงยิ่งคงจะ ออกไปตามหาลูกสาว แต่บาง คนก็เดาว่า แกคงจะเมากลิ้งอยู่บนบ้าน หรือไม่ก็ขาดใจตายไปแล้วโดยไม่มีใครล่วงรู้
แต่ยังหรอกค่ะ...ลุงยิ่งยังไม่ตาย! เพราะตอนกลางคืนพวกเราเห็นไฟสว่างจ้าที่ชั้นบน บางคืนก็เห็นเงาตะคุ่มๆ ของแกยืนทะมึนอยู่ที่หน้าต่าง เป็นสิ่งยืนยันว่าลุงยิ่งยังมีชีวิตอยู่...
ตอนเย็นๆ พวกเราชอบไปเดินเล่นที่ริมตลิ่ง ลมจากแม่น้ำพัดโชยเข้ามาเยือกเย็น แต่บางวันก็พัดแรงจนดิฉันขนลุกเกรียว...ตกค่ำเดินกลับบ้านก็อดมองไปทางบ้าน ลุงยิ่งไม่ได้...มันมืดครึ้มน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับจะมีความชั่วร้ายบางอย่างแอบแฝง ซุกซ่อนไว้ในนั้นอย่างน่าสยดสยอง...
จู่ๆ ก็มีไฟเปิดพรึ่บขึ้นที่ชั้นบน ดิฉันเงยหน้ามองก็เห็นลุงยิ่งยืนจังก้า สองมือเท้าขอบหน้าต่าง ท่าทางเหมือนจะกระโจนลงมาหาในพริบตา
วิ่งซีคะ...รวดเดียวถึงบ้าน หอบแฮกๆ แทบจะขาดใจตาย!
ชาวบ้านพูดกันว่า ลุงยิ่งคงเสียใจสุดขีด ไหนจะเมียตายอย่างน่าสยอง ไหนจะลูกสาวหายสาบสูญไปโดยไม่มีร่องรอย จนแกสติแตก ไม่ยอมคบค้าสมาคมกับใคร ไม่โผล่ไปให้ใครเห็นหน้า คล้ายจะเก็บตัวอยู่โดดเดี่ยวจนถึงวันตาย! บางคนส่ายหน้า บอกว่าหมกอยู่กับน้ำเมาทั้งวันทั้งคืนจนกว่าจะหมดสติ ไม่ช้าก็คงตายตามป้าแย้มไปจริงๆ
บางคนก็หลุดปากว่า...ตายิ่งแกอาจจะฆ่าลูกสาวหมกไว้หลังบ้านที่เป็นป่า ละเมาะก็ได้? แกคงเมาจนขาดสติ พลั้งเผลอทำอะไรลงไป แต่โดนขัดขืนก็เลยบันดาลโทสะ กลายเป็นฆาตกรใจโหดในพริบตา!
บ้านนั้นกลายเป็นบ้านปริศนา ใครผ่านก็หันมอง วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา...จนกระทั่งมีคนสังเกตว่า ไม่มีแสงไฟในยามค่ำคืนมานานแล้ว หน้าต่างยังเปิดโล่งตามเดิม แต่ไม่มีใครเห็นลุงยิ่งมายืนที่หน้าต่างอีกต่อไป
ในที่สุด มีญาติจากราชบุรีมาหา...ครั้นรู้เรื่องจากชาวบ้านก็ชวนกันเข้าไปดูให้รู้แน่ ว่าเกิดอะไรขึ้น? ชาวบ้านตั้งสิบกว่าคนที่ตามเข้าไป รวมทั้งเด็กๆ อยากรู้อยากเห็นอย่างพวกเรา
ดิฉันใจเต้นตึกตัก มือเย็นเท้าเย็นไปหมด นึกวาดภาพว่าจะเห็นศพลุงยิ่งอยู่ในห้องนอน กำลังขึ้นอืดหรือเน่าเฟะ แต่ก็ไม่ได้กลิ่นเหม็นเน่าอะไร นอกจากกลิ่นอับๆ และสาบสางเตะจมูก...ไม่มีวี่แววของลุงยิ่งหรือลำไยในบ้านนั้นเลย!
หลายๆ คนเข้าไปสำรวจหลังบ้าน ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เช่นหลุมศพของลำไยที่ลือกันว่าถูกพ่อฆ่าแล้วฝัง...คนทั้งสองดูเหมือนจะหาย สาบสูญไปโดยไร้ร่องรอยใดๆ ทั้งสิ้น
พวกญาติลุงยิ่งมาขนข้าวของใส่รถบรรทุกไป บอกฝากขายบ้านไว้ด้วย...ยังไม่ทันมีใครจะมาติดต่อขอซื้อหรือขอดู จู่ๆ บ้านหลังนั้นก็เกิดไฟไหม้กลางดึก รุ่งเช้าก็เหลือแต่เถ้าถ่านกองใหญ่ ควันลอยกรุ่น...ติดหูติดตาดิฉันมาจนถึงทุกวันนี้!
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEU0TURJMU1RPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB4T0E9PQ==				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน