บทเรียนชีวิต(1)
เงามืดบนดวงจันทร์
"คนเรามักจะเห็นค่าของสิ่งที่เรามีอยู่ก็ต่อเมื่อเสียมันไปและไม่มีวันได้มันกลับคืนมา" คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำกล่าวนี้ แต่จะมีสักกี่คนที่เชื่อในคำกล่าวนี้อย่างจริงจัง โดยที่ไม่ได้เสียอะไรไปก่อนเพราะคนทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเองยอมไม่เชื่ออะไรง่าย จะเชื่อก็ต่อเมื่อเราได้รับประสบการณ์ตรง ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้สนใจกับคำกล่าวนี้ จนกระทั้งถึงวันนี้ วันที่ฉันได้รู้ตัวว่าฉันเสียสิ่งๆหนึ่งที่มีค่ามาก สิ่งนั้น คือ "เวลา" ฉันใช้เวลาอย่างไร้ค่ามากตลอดเวลาที่ฉันอยู่ที่นี่ ณ ตอนนี้ต่อให้ฉันอยากได้เวลาเหล่านั้นกลับคืนมามากขนาดไหน อยากย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต มันก็ไม่มีโอกาสแล้ว ชีวิตฉันถือว่าฟ้าให้โอกาสฉันมากแต่ฉันก็ไม่ใช้โอกาสนั้นอย่างคุ้มค่า ฉันเชื่อว่าโชคชะตาเป็นผู้ให้โอกาสครั้งนี้ต่อฉันและฟ้าก็คงเสียใจที่ฉันไม่ใช้โอกาสที่ฟ้าเลือกที่จะให้ฉัน ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ฟ้ามอบให้และก็ขอโทษที่ใช้มันไม่คุ้มค่ากับเวลาที่ผ่านมา แต่ฉันก็ไม่ใช่คนที่เนรคุณขนาดนั้น เวลาและโอกาสที่เหลืออยู่นี้ ต่อไปนี้ฉันจะพยายามใช้มันให้คุ้มค่ามากที่สุดแต่ก็ไม่รู้ว่าฉันจะทำได้ดีเพียงได้แต่เชื่อได้ว่ามันต้องดีกว่าที่เคยเป็น วันนี้ฉันได้เรียนรู้ว่า "เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากและเมื่อมันผ่านไปแล้วมันก็จะไม่มีกลับมาให้เราแก้ไขในสิ่งที่เราทำลงไปในแต่ละเสี่ยววินาทีและมันก็เป็นสิ่งที่ยุติธรรมที่สุดในโลกนี้ด้วยเพราะทุกคคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 60 นาที นาทีละ 60 วินาที ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้เวลาในแต่ละวินาทีให้เกิดประโยชน์มากแค่ไหน หรือ แค่หายใจทิ้งไปวินาทีละ 1 เฮือก ลมหายใจแต่ละเฮือกหมายถึงการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ เลือกเอาว่าเราจะใช้แต่ละเฮือกของลมหายใจแสดงให้โลกรู้ว่าเรามีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ หรือ จะให้แต่ละเฮือกของลมหายใช้เป็นการใช้ออกซิเจนอย่างไร้ค่า" ส่วนตัวฉันใช้แต่ละเฮือกของลมหายใจอย่างไร้ค่ามามากพอแล้ว ต่อจากนี้ฉันเลือกที่จะใช้ลมหายใจแต่ละเฮือกของฉันเพื่อที่จะให้โลกรู้ว่าฉันยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ให้รู้ว่าคนชื่อ...ยังไม่ตายจากโลกใบนี้ ที่ผ่านมาฉันเดินหลงทางและล้มลงนับครั้งไม่ถ้วน มากเสียจนฉันเองเคยยอมแพ้ ฉันเคยใช้ชีวิตอย่างผู้แพ้ ฉันเคยยอมก้มหัวให้กับอุปสรรคและขวากหนาม และฉันก็ได้รู้ว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย มีแต่แย่ลงเรื่อยๆ นับวันความทุกข์ก็สุมเพิ่มขึ้นๆ มันทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่าถึงแม้ว่าเรายอมแพ้ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มันไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่มันคือการหนีปัญหา นับวันปัญหามันก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆไม่มีวันลดน้อยลง ทางที่ดีเราควรจะแก้ไขมัน ไม่มีอะไรเกินความสามารถคนหรอก นับตั้งแต่นี้ฉันจะลุกขึ้นสู้ต่อให้ล้มสักกี่ครั้งก็จะลุก ฉันจะเดินหน้าต่อไปอย่างมีสติ เกิดมาทั้งทีโลกต้องรู้ว่ามีคนชื่อ...อยู่บนโลกใบนี้