บ่ายของวันอังคารที่ 16 มิ.ย.52 ที่ผ่านมานั้น หลังจากฉันได้ตระเวนเดินเที่ยวจนเหนื่อย ฉันเดินกลับจากวัดโพธิ์ มาเรื่อยๆยังท่าราชนาวีสโมสร ท่าช้าง เดินมายังท่าราช และมาสิ้นสุดที่ หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พลันสายตาฉันก็สะดุดกับคุณลุงท่านหนึ่งที่นั่งขายปลาตะเพียนสานจากใบลาน ด้วยความที่อยาก่รู้อยากเห็น(เรื่องของชาวบ้าน) ฉันเลยเตร่เข้าไปทักทายพูดคุยกับคุณลุงท่านนั้น จากการที่ได้ลองแย็บๆพูดคุยกับลุงท่านนั้น พอทำให้ฉันใจชื้นมาพอสมควร กล้าพอที่จะพูดคุยสอบถามถึงเรื่องราวส่วนตัวของคุณลุง " คุณลุงโถน มโนหาญ " คือชื่อของคุณลุงที่นั่งขายปลาตะเพียนที่ หน้าศูนย์หนังสือ มธ.ท่าพระจันทร์ ปัจจุบันคุณลุงอายุ 63 ปี คุณลุงบอกว่า จำอายุตัวเองไม่ได้หรอก จำได้แค่ว่า เกิดปีพ.ศ.2489 นั่นก็คืออายุ 63 นั่นเอง คุณลุงโถน เคยมีครอบครัว มีภรรยา แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน แต่ปัจจุบันนี้เลิกกันไปนานแล้ว ลุงก็มาหางานทำในกรุงเทพฯ รับจ้างทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าดายหญ้า ถางหญ้าในบ้านคนมีเงิน หรือแม้แต่ยาม จนสุดท้าย เป็นลูกจ้างคนงานก่อสร้างในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แต่โดนโกงค่าแรง ลุงเลยออกมาหางานอื่นทำไปเรื่อย ด้วยความที่ลุงอายุเยอะแล้ว งานอื่นๆจึงหายากสำหรับลุง สุดท้ายลุงเลยคิดว่า น่าจะหางานเบาๆทำจะดีที่สุด.... นั่นคือได้มานั่งขายปลาตะเพียนสานนั่นเอง ( อ่ะนะ คุณลุง เล่นมุขซะด้วย งานเบาจริงๆด้วยซิคะ นั่งขายปลาตะเพียนสาน ไหนเลยจะหนักเท่าแบกอิฐขนปูน) 55555......คุณลุงโถนนั่งเล่าด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้มตลอด " ในแต่ละวัน ขายได้ประมาณสักกี่แถวคะ ? " ฉันถามด้วยความอยากรุ้ เพราะคำว่า 1 แถวคือ 3ตัว " ก็ไม่กี่แถวหรอกหนู บางวันขายได้เงินไม่พอกินข้าวด้วยซ้ำไป " " อย่างวันนี้น่ะ ลุงนั่งมาได้สัก 3 ชั่วโมงแล้วละ ขายได้แค่ 2 แถวเอง " " ลุงเลยกินข้าวเหนียวไปห่อเดียว แค่นี้ลุงก็อิ่มแล้วล่ะหนู " ลุงพูดเหมือนไม่ทุกข์ร้อนใจ รอยยิ้มยังคงปรากฏบนใบหน้า ไม่มีแววตาของความทดท้อฉายแววออกมาให้เห็น " ลุงไปรับปลาตะเพียนสานจากรังสิตแน่ะหนู รับมาแถวละ 12 บาท " " ลุงก็นำมาขายแค่แถวล่ะ 15 บาท ลุงไปกลับรถเมล์น่ะ ไม่ลำบากอะไร " เสียงคุณลุงโถนยังคงบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองไปเรื่อยๆอย่างไม่ขัดเขิน ฉันได้แต่นิ่งฟังและพยักหน้ารับรู้ มือก็บันทึกข้อมูลไปเรื่อยๆ " ขอโทษนะคะคุณลุง แล้วคุณลุงพื้นเพเดิม เป็นคนกรุงเทพฯหรือคนที่ไหนหรือเปล่าคะ ? " ถามเพราะอยากรุ้อีกแล้วซิเรา ยิหวา อิอิ " ลุงเป็นคนเชียงรายน่ะ อำเภอเมืองแหละหนู พอเลิกกับเมีย ลุงก็เดินทางหางานในกรุงเทพฯ " " อ๋อ... ค่ะ " ไม่มีคำพูดใดที่ดีกว่าประโยคนี้อีกแล้ว ยิหวาเอ๋ย อิอิ ฉันนั่งฟังไป ก็อมยิ้มไปกับการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณลุงโถน เพราะดูท่าทางลุงก็มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตตัวคนเดียวแบบนี้ " จะสุขหรือทุกข์ขึ้นอยู่กับใจเราเองมากกว่านะลุงว่า ถ้าเราขวนขวายมากไป ลุงว่าทุกข์ ถ้าเราอยู่พอมีพอกินแบบง่ายๆ แค่นี้ก็สุขแล้วสำหรับลุง " ลุงพูดเหมือนเดาความคิดของฉันออกหรือเปล่าไม่ทราบได้ แต่แววตาของลุงยังมีความหวัง " ลุงไม่สนใจการเมืองหรอกนะ การเมืองไม่ได้ทำให้ลุงกินดีอยู่ดีกว่านี้หรอก ไม่ว่ารัฐบาลไหนๆก็ตาม " " แล้วลุงไม่กลัวบ้างหรือคะ กับการที่ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปทุกวันๆๆ " ฉันเอ่ยถามขึ้นบ้าง " ลุงไม่กลัวนะ เพราะลุงไม่มีสิ่งของมีค่าที่นำติดตัวเลย มีแต่กระเป๋าหนึ่งใบไว้นอนหนุนหัวแค่นี้เอง ฆ " พอตกช่วงเย็นเลิกงาน ลุงก็จะข้ามฟากไปนั่งขายที่หน้าโรงพยาบาลศิริราช " " พอตกกลางคืน ลุงก็อาบน้ำ นอนที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย มีกระเป๋าใบนี้แหละหนุนหัว " ลุงพูดพลางตบมือแปะๆไปยังกระเป๋าเดินทางคู่กายของคุณลุง " อ๋อ... ค่ะ " ประโยคสิ้นคิดเล็ดลอดออกจากริมฝีปากยิหวาเบาๆ อิอิ " ชีวิตคนเราขอเพียง กินพอประทังชีวิต กินอิ่มนอนหลับ รุ่งเช้าฟื้นลืมตาตื่นแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับลุง " ฉันแน่ใจว่า ลุงพูดแบบนี้จริงๆ ไม่ได้คิดว่าพูดเพื่อประชดใครๆ อย่างน้อย ลุงก็เป็นคนที่มีความคิดดีคนหนึ่งเชียวล่ะ " ลุง ไปทานข้าวด้วยกันไหม เดี๋ยวหนูเลี้ยงเอง " จู่ๆฉันก็เอ่ยถามลุงอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย " ไม่ล่ะหนู ขอบใจมากนะ ลุงเพิ่งกินข้าวเหนียวไปเมื่อกี้นี้เอง " ลุงตอบปฏิเสธอย่างน่ารักทีเดียวเชียวล่ะ " งั้น ลุงรอหนูแป๊บนะคะ เดี๋ยวหนูมา " ฉันพูดพลางวิ่งจู๊ดเข้าเซเว่น ได้นมโฟร์โมส์ 2 กล่อง ขนมปังอีก 2 ห่อ วิ่งกลับมายื่นสิ่งที่อยู่ในถุงนั้นให้ลุง "ขอบใจมากนะหนู ขอให้จำเริญๆนะหนูนะ " ลุงพูดพลางยกมือไหว้ฉันซึ่งมีอายุอ่อนกว่า " ว๊าย ..ลุงไหว้หนูทำไม หนูกลัวบาปนะคะ " ฉันตกใจพลางทำหน้าแหยๆ ยกมือไหว้ลุงกลับไปแทบไม่ทัน " ไม่หรอกหนู ลุงขอบคุณน้ำใจหนูต่างหาก ลุงไม่ได้ไหว้ว่าใครอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าหรอกนะ อย่าถือสาลุง " ลุงพูดพลางอมยิ้ม ........ ข้อมูลที่ฉันได้พูดคุยกับลุง มีเพียงแค่นี้จริงๆที่ฉันจำได้ เพราะรายละเอียดต่างๆหายไปพร้อมกับสมุดบันทึกเล่มสีดำนั้น ปลาตะเพียนสานแค่แถวล่ะ 15 บาท อาจไร้ค่าไร้ราคาสำหรับใครบางคน แต่คุณจะรู้หรือไม่ว่า ปลาตะเพียนสานเหล่านี้อาจต่อลมหายใจ ให้ลุงโถนได้กินอิ่มในแต่ละมื้อ แต่ละวัน ......... ฉันมานั่งคิดๆดู ก็จริงอย่างที่คุณลุงโถนบอก "จะสุข จะทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับใจเรา ถ้าเราขวนขวายมาก ใจเราก็ทุกข์ ถ้าเรารุ้จักพอเพียง ความพอดี ใจเราก็สุข " จะมีใครสักกี่คนกันหนอ ที่คิดได้ มีความคิดที่ดีๆแบบคุณลุงโถนคนนี้ การที่เราจะสอนหรือบอกให้คนอื่นคิด หรือทำตามอย่างเราๆ (หรือลุงโถน)นั้นคงเป็นไปได้ยาก หากแต่เราต้องสอนใจเราเองก่อน หมั่นปลูกฝังสามัญสำนึกที่ดีๆให้แก่เด็กๆในบ้าน ต้องเริ่มต้นที่ครอบครัวเราก่อนแล้วค่อยขยายความคิด สิ่งดีๆสู่สังคมชุมชุนนอกบ้านที่ใกล้ตัวเรา ขอบคุณความคิดดีๆของคุณลุงโถน มโนหาญ ที่จุดประกายแสงสว่างในใจฉันได้อีกมากมาย แม้คุณลุงโถนอาจเป็นเพียงคนหนึ่งๆที่ขายปลาตะเพียนสาน แต่ความคิดของคุณลุงท่านนั้นมิได้จำกัดเพียงแค่ใบลานที่นำมาสานเป็นรูปร่างแค่นี้หรอกนะ ฉันอยากบอกลุงเหลือเกินว่า ลุงคะ ลุงมีความคิดดีกว่าคนหลายๆคนที่ทำงานเป็นเจ้าคนนายคนที่สักแต่ว่ามีเงินชี้นิ้วสั่งๆ แต่ไม่มีความคิด ไม่มีน้ำใจ ....... ขอบคุณปลาตะเพียนสานจากใบลานตัวน้อยๆ ขอบคุณคุณลุงโถน มโนหาญ ที่มานั่งเล่าเรื่องราวน่ารักๆให้ฟังค่ะ ขอบคุณความคิดดีๆของคนจบป.4 อย่างคุณลุงโถน ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น )
.....ปลาตะเพียนสานของลุงโถนที่ไปรับมาขาย แถวละ 15 บาท แถวหนึ่งมี 3 ตัว
.....ปลาตะเพียนหลากสีสรร อาจไม่มีค่าสำหรับใครๆ แต่ก็ต่อลมหายใจให้ลุงโถนได้กินอิ่มในแต่ละมื้อ
..... คุณลุงโถน มโนหาญ คือชื่อของคุณลุงท่านนี้ พูดจาน่ารัก เรียบร้อย มีความคิดมากกว่าใครบางคนซะอีก
.....คุณลุงโถน มโนหาญ บอกไว้ว่า.... "จะสุข จะทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับใจเรา ถ้าเราขวนขวายมาก ใจเราก็ทุกข์ ถ้าเรารุ้จักพอเพียง ความพอดี ใจเราก็สุข " ...... ยิหวา ก็คิดเช่นนั้นจริงๆคะ ขอบคุณที่คิดเหมือนกันค่ะ...
2 กรกฎาคม 2552 09:25 น. - comment id 105880
ที่ 1
2 กรกฎาคม 2552 09:31 น. - comment id 105882
ใจดีจังเลย ฉางน้อย ลุงเป็นคนเชียงรายอีกต่างหาก ลุงจะคิดถึงบ้านเกิดมั๊ยน๊อ บางครั้งกว่าคนเราจะคิดหรือเข้าใจโลกได้อย่างถ่องแท้...มันก็เพราะโลกนี้ลืมเราไปแล้ว.... จริงนะ....เคยคิดแบบนี้ตอนที่เข้ามากรุงเทพฯใหม่ๆ... ไม่มีใครยิ้มให้กันเดินผ่านกันเหมือนแค่สสารที่สัมผัสอากาศวูบเดียวเท่านั้น อยู่บนรถเมล์ก็ไม่มีใครสบตาหรือยิ้มพูดคุยทักทาย เหมือนว่าใครพูดก่อนก็บ้าแล้ว เหมือนว่าเราไม่มีตัวตน แต่เราก็อยู่มาได้เพราะความรู้สึกเหล่านั้นแหละ... ความรู้สึกที่เหมือนไร้ตัวตนในเมืองใหญ่.....ที่ผู้คนต่างวุ่นวายกับการใช้ชีวิต..... สุดท้ายคนที่คิดได้แบบลุง...ก็คือ คนที่เรียนรู้ชีวิต....... อ่านแล้วมันสะท้อนภาพหลายๆอย่างนะ...ฉางน้อย บางทีการไปตายเอาดาบหน้า ในสังคมที่เหมือนเราไม่มีตัวตน ก็อาจจะดีกว่าอยู่ในสังคมที่เราเคยมีตัวตนแต่ทำเหมือนเราไม่มีตัวตน แฮ่ม....วิเคราะห์ใจลุง.....
2 กรกฎาคม 2552 09:34 น. - comment id 105883
เกลาออกมาใหม่อีกรอบ จริงๆก็ถูกของลุงนะ แต่ทุกวันที่มันวุ่นวายอยู่เนี่ย ไม่ใช่เพราะไม่รู้จักพอกันหรือ เหอ เหอ(มีแขวะการเมืองหน่อย เลียนแบบยัยวา) เคยมีนิทานเรื่องนึงพ่อเล่าให้ฟังว่า มีบ้านเศรษฐีกะยาจกติดกัน เศรษฐีผู้พร้อมพรั่งพรั่งสงสัยว่าทำไมไอ้ยาจกข้างบ้านชีวิตช่างมีสุขจริงทั้งที่ไม่มีอะไรในชีวิตเลย จึงโยนเงินก้อนใหญ่ให้ยาจกผู้นั้น หลังจากยาจกได้เงินไปก็เริ่มไม่มีสุข คอยระแวดระวังคนจะมาขโมยเงินนั่น อิอิ เหนมะ ตอนแรกไม่มีเงินก็ดีอยู่แล้วเชียว พอมีปุ๊บได้เรื่องเลย ลุงโถนแกคงรู้คำตอบเรื่องนี้ดีแน่ๆเลยนึ อิอิ มาซะยาว
2 กรกฎาคม 2552 09:35 น. - comment id 105886
1..........น้านนนนนนน สหายยา อิอิ แหมๆ หายมาวว ยังคะ แว่บมาจองที่ 1 เชียว เค้ายังลงรูปไม่หมดเลยน๊า อิอิ ขอบคุณจ้าที่มาทักทาย
2 กรกฎาคม 2552 09:39 น. - comment id 105887
เด็กสาวๆพับดาวใส่โหลให้คนที่ชอบ ลุงพับปลาตะเพียนหล่อเลี้ยงชีวิต ปลาตะเพียนดูยิ่งใหญ่กว่าดวงดาวนับพันในขวดโหลสวยๆเลยนะเนี่ย....ฉางน้อย
2 กรกฎาคม 2552 09:41 น. - comment id 105888
2........สวัสดีค่ะคุณโคลอน ....อ่ะนะๆๆ แหมๆ วิเคราะห์ใจลุงให้เสร็จสรรพเลยน๊าต่ะเอง ....... ....คุณโคลอนก็เหมือนฉางน้อยแหละคะ ตอนมาอยู่กทม.ใหม่ๆ เพราะความที่เราเป็นคนบ้านนอกอ่ะเนอะ เราเห็นใคร ก็ยิ้มทักทายเขาก่อน แต่เขาซิ เหลียวมองซ้ายขวาหน้าหลังเลิ่กลั่กๆ เขาคงคิดว่า ยัยนี่มังบ้าหรือเปล่า ยิ้มให้ใคร 5555 อยากบอกเหลือเกินว่า ตรูยิ้มให้เมิงนั่นแหละ เชอะ 55555 สุดท้ายเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆเขายังกลัวใจตัวเองเหมือนกันว่า ต่อไปเราจะเป็นคนยิ้มยากหรือเปล่าหน๊อ ....... คุณลุงโถน เป็นคนน่ารักนะคะคุณโคลอน แกคุยเก่งเลยล่ะคะ พูดจาดี มีความคิดมากๆ ว่างๆอาจไปเจอลุงอีกสักครั้ง 5555 .....ที่จริงข้อมูลมีเยอะกว่านี้คะ แต่หายไปพร้อมกับสมุดบันทึกสีดำเล่มนั้น .. ขอบคุณที่มาทักทายนะคะ
2 กรกฎาคม 2552 09:46 น. - comment id 105889
3.......สวัสดีค่ะสหายยารอบสอง อ่อ สงสัยไปถอนมาแระ กลับมาเล่านิทานได้แล้วนี่นา อิ อิ .......นิทานของสหายยาเรื่องนี้สอนให้รูว่า..... .....มีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสะดุ้งจนเรือนไหว...... ฟันธง แอนด์ คอนเฟริมส์ 555 ขอบคุณนะคะสหายยา .....
2 กรกฎาคม 2552 09:50 น. - comment id 105891
5.....สวัสดีรอบสองจ้าคุณโคลอน ....เนอะ..คนเราการกระทำอาจต่างกัน แต่จุดมุ่งหมายอาจคล้ายกันหรือเหมือนกัน .... ...................... แต่ดูแล้วคุณลุงโถน แกก็มีความสุขในการดำเนินชีวิตของแกนะคะ ดูแกไม่ทุกข์ร้อนอะไรมากมายเลย การพูดคุยก็เหมือนคนที่ใจเย็นมากๆ ยิ้มตลอด ......ขอบคุณสิ่งดีๆที่ทำให้มารู้จักความคิดดีๆจากลุงโถน เนอะ คุณโคลอน เนอะ ..... ...... ขอบคุณ คุณโคลอนด้วยที่มาทักทายบ่อยๆค่ะ .........
2 กรกฎาคม 2552 10:04 น. - comment id 105892
2 กรกฎาคม 2552 10:04 น. - comment id 105893
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดีที่นำมาถ่ายทอดให้ ได้รับรู้นะคะ ได้อะไรเยอะพอสมควรทีเดียวคะ ขอบคุณมากจริงๆนะคะฉางน้อย ขอให้ฉางน้อยมีความสุข และขอให้คุณลุงมีความสุข ร่างกายแข็งแรงตลอดไปค่ะ
2 กรกฎาคม 2552 10:07 น. - comment id 105894
9.......พี่ต้าๆๆ ยิ้มอะไรหน๊อ ยิ้มมั่งๆๆๆ ขอบคุณที่มาส่งยิ้มนะคะ
2 กรกฎาคม 2552 10:10 น. - comment id 105895
10..... สวัสดีค่ะคุณ somebody กระจกเงา ......คุณลุงดูท่าทางเป็นคนใจดีคะ การพูดจาก็ดี มองโลกในแง่ดี ถ่อมตนน่ะคะ เป็นคนน่ารักนะคะ ........ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรที่มีให้ฉางน้อยจ้า หากมีโอกาสจะนำคำอวยพรนั้นไปฝากคุณลุงด้วยคะ ........ขอบคุณที่มาทักทายและพูดคุยกันค่ะ .....
2 กรกฎาคม 2552 10:32 น. - comment id 105897
คนเราอยากมีชีวิตที่ตัวเองเลือก หลายคนอยากทำในสิ่งที่ตัวเองฝัน แต่หลายครั้งความพยายามก็สูญเปล่า ในที่สุดไม่ว่าสิ่งใดหรืออะไร เราก็ต้องผ่านไปด้วยตัวของเราเอง แม้จะได้ในสิ่งที่เราต้องการหรือไม่ ชิวิตทุกชีวิตมีหนทางของตัวเองเสมอ ดูแลสุขภาพด้วยนะ
2 กรกฎาคม 2552 15:02 น. - comment id 105906
...ขอปรบมือให้คุณลุงโถนด้วยใจจริงครับ มันยากยิ่งนักที่จะดำรงตนและทำตามสัญญาของ ความรู้สึก เพราะภายในเมืองใหญ่เช่นนี้ เป็นตัวบังคับ ให้เราต้องก้าวไปข้างหน้า แต่ลุงโถนกลับมั่นคงต่อ ความรู้สึกพอ นั่นเป็นสิ่งที่น่านับถือมากครับ ...และก็ขอปรบมือให้ฉางน้อยด้วย ในฐานะที่อุตส่า เรียบเรียงเรื่องราวขึ้นมาใหม่ ทั้งที่ต้นฉบับหายไป เยี่ยมจริงๆ *--*
2 กรกฎาคม 2552 15:05 น. - comment id 105907
ขอบคุณครับป้าฉาง ที่นำเอาเรื่องราวของลุงมาตีแผ่ อ่านไปน้ำตาก็ไหลอาจเพราะความสงสารบวกกับความประทับใจในแนวคิดของลุง สังคมทุกวันนี้แก่งแย่งกันไปเพื่ออะไรหรือ แบ่งชั้นวรรณะ รวยจน เรียนสูงเรียนต่ำ จบสถาบันไหนทำงานอะไร จนลืมไปว่า แท้จริงค่าของคนนั้นอยู่ที่จิตใจต่างหาก สุดท้ายฝากป้าฉาง เหมาปลาตะเพียรของลุงมาฝาก เทพธัญญ์ด้วย จะเอาเล่น ฮิๆๆ
2 กรกฎาคม 2552 15:13 น. - comment id 105909
13.....สวัสดียามบ่ายค่ะพี่นักสืบ..... .......ก็อย่างที่พูดๆกันแหละคะ ชีวิตใครชีวิตมัน ไม่มีใครกำหนดชีวิตของใครได้ ขอเพียงคน คนนั้นเขาดำรงชีวิตในแนวทางใดก็แล้วกัน ขอเพียงเป็นคนดีของสังคม คิดดี ทำดีก็พอแล้วค่ะ ถ้าทุกคนคิดกันแบบนี้เยอะๆๆ สังคมก็น่าจะสงบสุขหรอกนะคะ ขอบคุณที่มาทักทายค่ะ
2 กรกฎาคม 2552 15:15 น. - comment id 105910
14.....สวัสดีค่ะเฌอฯ ขอบคุณที่นำภาพน่ารักๆมาฝากนะคะ ขอบคุณที่ทักทายกันจ้า กินมาม่าด้วยกันไหมคะ ไม่ผัก ไม่หมูเชียวนะคะ 5555 ....... ขอบคุณค่ะ....
2 กรกฎาคม 2552 15:20 น. - comment id 105912
15......สวัสดีค่ะคุณเอื้องคำ .....คุณลุงโถน แม้ว่าจะเป็นแค่คนที่นั่งขายปลาตะเพียนสาน แต่ลุงเป็นคนที่มีความคิดที่ดีๆนะคะ ....สังคมเมืองหลวงมีกฏกติกามากมายในการดำรงชีวิต มีชิงไหวชิงพริบ ต้องแก่งแย่งกันทำงาน ทำมาหากิน เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดในสังคม แต่คุณลุงโถนแกไม่คิดแบบนั้น ดูท่าทางแกมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้ .........ขอบคุณ คุณเอื้องคำนะคะที่เข้ามาทักทายพูดคุยกันค่ะ . ข้อมูลของลุงโถนน่าจะมากกว่านี้ แต่ทำสมุดหายไป เสียใจเสียดายคะ แย่จัง .....
2 กรกฎาคม 2552 15:29 น. - comment id 105913
16.....สวัสดีเทพธัญญ์หลานรัก 5555555 ก็ไม่รุ้ว่าเราสองคนนับถือเป็นป้าเป็นหลานกันตั้งแต่เมื่อไหร่นะคะ ไว้เจอป้าตัวเป็นๆแล้วหลานจะชะงักงัน หนาวในความฮามของป้านะหลานเอ๋ย 55555 ขอบคุณเทพธัญญ์น้องรัก เอ๊ย หลานรักมากนะจ๊ะที่อุตส่าห์มาเยี่ยมเยียนป้าที่นี่ อิอิ .....สุดท้ายนี้ ป้าหวังว่าหลานคงสบายดีนะ ดูแลรักษาสุขภาพให้ดีๆนะหลาน5555 ....ปล. เช็ดน้ำตา น้ำมูกที่ไหลได้แล้วคะ อายสาวๆเค้านะหลานนะ ห่วงหลานรักเหลือเกิน ....555555 ป้าไปแระ ฟิ้วววววววว.....
2 กรกฎาคม 2552 17:03 น. - comment id 105917
เข้ามาดูป้ากะหลานเขาคุยกัน.. และเข้ามาอ่านเรื่องราวของลุงโถน..ซึ่งมีวิถีชีวิตการต่อสู้ทีน่าเอาเยี่ยงอย่าง และมีคำพูดที่ให้คิดเตือนสติเตือนใจได้ดี..ได้แง่คิดดี ๆจากเรื่องสั้นเรื่องปลาตะเพียนของลุงโถง จากงานเขียนดีดี ของป้าฉางน้อย .. ( เรียกตาม คุณเทพธัญญ์) ..อายุคราวป้า.ก็ไม่บอก อิอิ..
2 กรกฎาคม 2552 17:23 น. - comment id 105919
21......สวัสดีค่ะคุณลุงลิลิต 55555 อยากเรียกเค้าว่าป้าดีนัก เรียกลุงซะเลย เรียกแล้วเรียกเลย ห้ามคืนคำ .......ลุงลิลิตสบายดีไหมคะ หายไปไหนนานเนี่ยะ อะแฮ่มๆๆ สงสัยแอบคุยกะกิ๊ก เนอะ .......ขอบคุณที่มากทักทายนะคะลุ๊งงงงงงงงงลิต อิอิ .....
2 กรกฎาคม 2552 21:31 น. - comment id 105922
ป้าฉางค๊า.. หนูแบมก็หิวนมแล้ว ขอนมโฟว์ มด ได้ป่าวค๊า อ่านแล้ว แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ทำให้เห็นถึงคนเขียน เป็นคนมีจิตใจเมตตา จงทำต่อไปน้องรัก แม้จะเพียงน้องนิด แต่ความสุขของคนเราคือการให้ค่ะ สงสารลุงนะ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา พี่แบมก็ไป แต่ไม่เจอคุณลุงท่านนี้ เจอแต่หน้าสโมสร มีผู้ชายมานั่งถักหมวกของคนอิสลาม ได้มีโอกาศคุยกับเขา เลยอุดหนุนมาด้วยค่ะ
2 กรกฎาคม 2552 21:39 น. - comment id 105923
..นำเอาเรื่องใกล้ตัว ..มาเล่าได้ดีน้องสาว.. บางเรื่องเราก้อแค่มองผ่านๆ ไม่ได้ใส่ใจ.. น้องวา ..นี่ช่างซุกซน เอ๊ย..ช่างสังเกตุ ชื่นชมจ้า...หมั่นเอามาลงบ่อยๆนะ พี่กิ่งชอบอ่านอะ
2 กรกฎาคม 2552 21:54 น. - comment id 105924
23.....สวัสดีค่ะพี่แบม...... ขอบคุณที่แบมนะคะที่เข้ามาทักทาย ฉางน้อยใช่ว่าจิตใจดีงามอะไรมากมาย เพียงแค่ไม่กี่บาท ก็พอช่วยได้คะ แค่สงสารลุงน่ะค่ะพี่แบม .... อีกอย่างจะให้ฉางน้อย ช่วยอุดหนุนปลาตะเพียนของคุณลุงคงเป็นไปไม่ได้ค่ะ จะให้น้องวาคนน่ารัก ถือปลาตะเพียนสานขึ้นรถเมล์นี่นะพี่แบม แหะ.. แหะ.. ฉางน้อยซื้อไป ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ค่ะ เลยซื้อนม กับขนมให้ลุงดีกว่า กินอิ่มด้วยไงคะ .......ฉางน้อยให้ด้วยใจ ก็เป็นสุขที่ลุงสบายใจค่ะ อิ่มท้อง ขอบคุณพี่แบมนะคะ ........
2 กรกฎาคม 2552 21:58 น. - comment id 105925
24.....สวัสดีค่ะพี่กิ่งโศก........ สั้นๆแต่จริงใจ ฝากสโลว์โมชั่น เอ๊ย สโลว์แกนให้พี่กิ่งด้วยแล้วกันคะ อิอิ ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะพี่กิ่ง พอดีว่า เดินไปเจอลุงคนนี้พอดี เลยอยากรุ้เรื่องชาวบ้านนิดหนึงคะ อิอิ แต่ลุงก็ใจดีนะคะ ยิ้มตลอด ดูท่าทางไม่บ่น ไม่ทุกข์ร้อนเลยค่ะ .ฉางน้อยต้องขอบคุณ ลุงโถน ที่มีความคิดดีๆมาฝากพวกเรากันค่ะ ......... ขอบคุณพี่กิ่งด้วยนะคะที่มาแบบแพ็คคู่กะใครบางคนข้างบนโน้นนนนน อิอิ
3 กรกฎาคม 2552 14:42 น. - comment id 105936
บ่าย 16 มิ.ย.มีเรื่องเล่าดังนี้ 1 สมุดบันทึกของน้องฉาง หายวับไปกับตา ไม่หายที่ท่าช้าง ก็ท่าราช ท่าพระจันทร์ ไม่ท่าใดก็ท่าหนึ่ง หรือเผลอลืมไว้กับคนรัก ไม่ทราบได้ 2 เจอลุงโถน น้องฉาง เราได้บรรยายได้เยี่ยมเช่นเคย 3 พี่ก็ไปบ่ายวันนั้น พี่จำได้ 16 มิ.ย. ช่วงบ่ายๆนี่แหละ สงสัยทำไมไม่เจอกันกว่าจะนึกได้ว่า พี่ไปเมื่อวันนั้นจริงๆ แต่เป็นปีที่แล้ว 4 น้องไม่ยักซื้อนมโฟรโมต์และขนมฝากพี่บ้าง ทั้งๆที่พี่อยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน สถานที่แห่งเดียวกัน.....เมื่อปีที่ผ่านมา น่าน้อยใจจังเลย เอาใหม่ ข้อ1 ถึง 4 จริงๆครึ่งหนึ่ง เล่นๆครึ่งหนึ่ง เอาล่ะ ขอเมนต์จริงๆแล้วกัน...... สิ่งที่ลุงโถนบอกให้เรารู้ สะท้อนสิ่งหนึ่งที่ลุงโถนไม่ได้อาจไม่ได้ระลึกถึงในวัยเยาว์ ซึ่งพี่จะบอกว่า โอกาสในการศึกษาเมื่อครั้งที่ลุงโถนเป็นเด็ก หากวันนั้นลุงโถนได้รับ โอกาสไม่ว่าทางใดทางหนึ่งในด้านการศึกษา เรื่องราวในวันนี้คงเป็นเพียงภาพฝันที่ปรารถนา ทั้งนี้พี่ไม่ได้มีเจตนาดูถูกหรือ ดูหมิ่นชีวิตหรือมองในแง่ลบใดๆ เพียงแต่ วันเวลาไม่เคยรอใคร ทุกครั้งที่เราไม่ขวนขวายไม่พยายาม ไม่อดทน ไม่มีหรอกความหวังในชีวิตที่สมบูรณ์ที่แต่ละคนคาดหวังจะ บันดาลด้วยการพนมมือหรือพลิกฝ่ามือ เห็นใจลุงโทนแน่นอน แต่ทั้งนี้ลุงโทนได้ยอมรับความจริงในชีวิตซึ่งเป็นการยอมรับที่น้อยคนจะทำใจได้อย่างเป็นสุข ส่วนลึกล่ะ ใครจะรู้ลุงโถนคิดถึงอดีตในมุมมองเช่นไร อาจจะ....นึกเสียดายบาวสิ่ง บางโอกาส ที่ ผ่านแล้วผ่านเลย การศึกษา....ที่มุ่งมั่นสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตในเรื่องความสำเร็จได้อย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งนี้ฟ้าอาจต้องลิขิตเพิ่มเติมให้คนคนนั้น เป็นคนสู้ชีวิต และใส่ความฝันความสำเร็จ ให้อยู่ในสมองหรือจิตใจและสองมือสองขา ของเขาด้วย(ไม่พลาดพงถึงคนที่คาบช้อนเงิน ช้อนทองมาเกิดนะ) อีกอย่างวันที่ 16 มิ ย ปีนี้เป็นวันอังคารที่ผ่านมา สงสัยจังน้องเราไม่ต้องทำงานหรือเกงานหนีเที่ยว vowww สุขสันต์ยามบ่าย ต่อจากรายการ ก่อนบ่ายคลายเครียดคับ
3 กรกฎาคม 2552 14:51 น. - comment id 105937
จะบอกว่า พิมพ์ตกคำว่า ไม่ ในบรรทัดที่ว่า "เรื่องราวในวันนี้คงเป็นเพียงภาพฝันที่ ...ไม่...ปรารถนา หือ โล่งอก แก้ถูกต้องแล้ว
3 กรกฎาคม 2552 15:33 น. - comment id 105943
27.....55555555 ก่อนอื่นขอหัวเราะขำพี่วิทย์คะ ที่เขียนอะไรได้น่าขำ นั่งอ่านแล้วหัวเราะคนเดียวจริงๆนะคะเนี่ยะ เดี๋ยวค่อยมาตอบนะคะ ขอหัวเราะสักแป๊บ 555
3 กรกฎาคม 2552 15:37 น. - comment id 105944
28......สวัสดีค่ะพี่วิทย์ ศิริ ขอแซวเม้นท์ 28 ก่อนนะคะ อิอิ จะแซวว่า ....... แก้ ให้ถูกต้อง โล่งใจ แก้อะไรถึงจะโล่งอกคะ ... ติ๊กต่อกๆๆๆๆ คิดคะ คิดๆๆ ....
3 กรกฎาคม 2552 16:30 น. - comment id 105945
27.... ถึง พี่วิทย์อีกครั้งนะคะ หลังจากไปแอบขำ แอบหัวเราะคิกๆเมื่อกี้ ... คือจริงๆแล้ว ฉางน้อยมานั่งคิดๆๆๆๆ ค่ะ คิดว่า หายไปที่ไหนหน๊อ ท่าเตียน ท่าช้าง ท่าราชนาวีสโมสร หรือท่าพระจันทร์ แต่คิดไปคิดว่า ท่าจะบ้าแล้วเรา คิดมากไปได้ อิอิ ในเมื่อหายไปแลวก็หายกันไปคะ พี่วิทย์ว่าจริงไหมล่ะคะ .... ........แหมๆ พี่วิทย์ไปวันนั้นจริงๆ 16 มิ.ย.แต่ขอโทษ วงเล็บว่า ของปีที่แล้ว ป๊าดดดดด นี่แหละคะ ฉางน้อยถึงขำมุขของพี่วิทย์ มุขที่แบบซื่อๆ น่ารักๆ อิอิ ขอบคุณนะคะพี่วิทย์ ....กะว่าจะซื้อนมขนมให้พี่วิทย์ แต่สงสัยพี่วิทย์ต้องสร้างเครื่องไทม์แมชชีนเหมือนโดเรม่อนให้ฉางน้อยนะคะ จะได้ย้อนเวลากลับไปได้คะ โอเค ไหมคะพี่วิทย์ .............................. ..... เหมือนพี่วิทย์บอกคะ คนเราเกิดมาแตกต่างกันไป ทั้งฐานะทางสังคม ทางครอบครัว การเป็นอยุ่ ถ้าทุกคนเลือกเกิดได้ คงเลิกเกิดเป็นคนหล่อ คนสวย คนรวยกันหมดแล้วล่ะคะ เนอะ ...... คิดได้ ทำใจได้อย่างลุงโถนก็ดี จงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี หรือ ได้ครอบครอง ถ้าคิดเพียงแค่นี้ก็สุขใจใช่ไหมคะพี่วิทย์ หรืออีกประการ ทำไมเราต้องพอใจในสิ่งที่เรามีแค่นี้ ทำไมเราไม่ขวนขวายไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เราอยากได้ นั่นเพราะโอกาสทางสังคมแตกต่างกันไงคะ เพราะมีคนรวย ถึงต้องมีคนจน ไม่อย่างงั้นแล้วคงแยกกันไม่ออกค่ะ ระดับทางสังคม ... ไม่รุ้ซินะพี่วิทย์ ฉางน้อยก็คิดตามประสาโง่ๆของนู๋แหละ อิอิ ขอต่อคั่นเวลาอีกนิด อิอิ..... ก็คงจริงอย่างพี่บอก ในใจส่วนลึกๆของลุงโถน อาจไม่มีใครรุ้ว่าแกคิดอะไร ยังไง แต่ว่า เดี๋ยวช้าก่อน ทำไมเราต้องมาวิเคราะห์เรื่องชาวบ้านกันขนาดนี้ล่ะเนี่ยะ 55555 ..... ลุงโถนอาจน้อยเนื้อต่ำใจบ้างหรือไม่ในชีวิตตัวเองนั้นใครจะไปรุ้ถึงเบื้องลึก ด้วยเหตุและผลอันควร ไม่ขอวิเคราะห์ต่อแระ อิอิ ขอแบบเท่าที่ทราบ พอเนาะพี่วิทย์ แหะ..แหะ.. การศึกษาของลุงโถนอาจไม่สูงมากนัก แต่ความคิดของลุงสูงกว่าผู้ใหญ่บางคนนะคะ เอ๊า....ลืมตัว ผ่านๆๆๆ อิอิ ................................... ปล......วันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ฉางน้อยหยุดงานคะ เนื่องในวันขี้เกียจตัวเป็นขนแห่งชาติ อิอิ .. ขอบคุณพี่วิทย์ ศิริที่มาทักทายฉางน้อยบ่อยๆคะ อ่านคอมเม้นท์ของพี่วิทย์แล้วน่ารักมาก เขียนแบบซื่อๆแต่ทว่าอ่านแต่ละที ฮาขำกลิ้งคะ ภาษามวยเรียกว่า แย็บหมัดฮุค แบบนิ่มๆหรือเปล่าคะพี่วิทย์ .......หิวขนมแระ ขอบคุณพี่วิทย์ค่ะ ....
5 กรกฎาคม 2552 14:44 น. - comment id 105969
ปลาตะเพียนสวยน่ารักดี ขอเป็นกำลังใจให้ลุงโถนด้วยคน
5 กรกฎาคม 2552 15:00 น. - comment id 105972
32.....สวัสดีค่ะพี่รอยทาง...... ปลาตะเพียน สวย น่ารักเหมือนฉางน้อยไหมละคะ อะจึ๋ยๆๆ.... ขอบคุณที่มาทักทายค่ะพี่สาวคนเก่ง
6 กรกฎาคม 2552 20:21 น. - comment id 106102
จำได้ ยายไกวเปลร้องเพลงกล่อมน้องนอนมองปลาตะเพียนใบลานเดี๋ยวเดียวก็หลับ เพลงกล่อมเกี่ยวกับปลาตะเพียนก็มี ปลาตะเพียนช่างเวียนช่างแวะ (ซ้ำ) พอถึงบางซื่อตบมอแปะแปะ ปลาตะเพียนช่างเวียนช่างแวะ(ซ้ำ) พอถึงบางหว้าตบหน้าแปะแปะ ก็ร้องไปเรื่อย ๆ ถึงบางอะไรก็ตบที่มันคล้องจองไป พอเราโตขึ้นได้ยินพวกขี้เมาร้อง แต่บางของเขากับที่เขาตบ แล้วเขาก็หัวเราะกันครืน ๆ เช่น พอถึงบางกรวย..ตบ.. พอถึงบางพลี... อิอิ ก็เป็นที่สำราญของวงเหล้าจากเพลงกล่อมเด็กโดยมีปลาตะเพียนเป็นสือ่นำ อิอิ
6 กรกฎาคม 2552 22:03 น. - comment id 106104
34.....สวัสดีค่ะคุณฤกษ์ ... ใช่ค่ะ คนผู้เฒ่าผู้แก่สมัยก่อนมีการละเล่นที่สนุกสนานเฮฮา เพื่อผ่อนคลายจากการทำงาน มีการร้องรำทำเพลง ภาษาที่ใช้ก็ไม่ถือว่าหยาบคาย เพียงแค่ ความสนุก ความบันเทิงในบ้านกันเอง ชาวบ้านก็ถือว่า เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านเค้าแหละคะ ............ อ่านที่คุณฤกษ์เข้ามาคุยให้ฟังแล้ว นั่งอมยิ้มคะ ไม่กล้าอ่านตรงๆดังๆ กลัวขำก๊ากก 5555 ขอบคุณที่มาทักทายนะคะ ....
23 พฤศจิกายน 2552 19:15 น. - comment id 110007
ดีมากๆ อยากให้คุณลุงไปพูดให้คนแถวรัฐสภาฟังจังเลย เผื่อคนเหล่านั้นจะเข้าใจอะไรๆ มากขึ้น