...ครั้งหนึ่งเราเคยรักกันมาก รักกัน มีกัน เข้าใจกัน และอยู่เคียงข้างกันเสมอ ด้วยความเข้าใจ ทุกปัญหาที่เข้ามารายล้อมรอบกายเราและเขา ทุกความผิดพลาดที่เกิดจากความตั้งใจและไม่ตั้งใจของเขา...เรารับเขาได้เสมอ...ทุกความเจ็บช้ำที่เคยมี...โกหก..หลอกลวง..ปิดบัง...ทุกครั้งที่รู้ ที่เห็น ที่ได้ยิน ที่ได้รับรู้..สิ่งไม่ดีในตัวเขา..แต่ก็เพราะ "รัก" จึงทำให้เรายอมได้เสมอ.. พยายามไม่จดจำสิ่งเลวร้าย...ความเจ็บปวดที่มีในหัวใจ...เพราะคิดแต่เพียงว่า "สักวันเราต้องได้อยู่ด้วยกัน"... ทำให้มองข้ามเรื่องราวที่กระทบต่อความรู้สึก ที่ทำร้ายจิตใจกันไปอย่างหมดสิ้น...แต่แล้วเมื่อเราทำเรื่องบางอย่างที่พลาดพลั้ง เพียงเพราะตอบโต้จากการกระทำของคนๆนั้น เราไม่ได้เริ่มก่อกวน เพียงแต่ตอบโต้เท่านั้น แม้จะแรงไปสักนิด แต่ทำไมเขาคิดว่าเราผิดมาก เลวมากมายขนาดนี้ เราไม่เคยทำใครก่อน...ที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำ...5-6 ปี ขออยู่ด้วยกันแค่ 2 คน ถ้าคนๆนั้นไม่เริ่มเราก็จะไม่ทำ..ผู้หญิงเรามีใครบ้าง...ที่ทนให้คนอื่นพูดถึงแฟนเรากับเขาอย่างลึกซึ้ง...ป่วนกันก็จริงอยู่แต่เราก็คนนะ...มีหัวใจ มีความรู้สึก เจ็บได้ ร้องไห้เป็น...ทำไมไม่คิดถึงความรู้สึกของเราบ้าง ไม่รู้สึกผิดต่อเราบ้าง... มันเจ็บนะ...ที่เขาไม่เคยคิดว่าเราทำไปเพราะเราตอบโต้ เจ็บที่คิดว่าเราผิดคนเดียว เจ็บที่การกระทำของเราทำให้เขารู้สึกผิดได้มากมาย แต่กับการกระทำของคนๆนั้น กลับไม่ทำให้เขารู้สึกผิดกับเราบ้างเลยสักนิด... แล้วรักที่เราให้ไปจะมีความหมายอะไรอีก...ในเมื่อไม่เคยเข้าใจความรู้สึกและความเจ็บปวดของเราเลย...เจ็บที่ต้องเสียเขาไป...ยังน้อยกว่าเสียใจที่เขาไม่เคยเข้าใจจิตใจและความรู้สึกที่เราเสียไปเพราะคนๆนั้นเลย... กับคำว่า "รัก" ที่เรามีโอกาสให้เขาเสมอ เพราะคิดว่าสักวันนึง "เราจะได้อยู่ด้วยกัน" แต่ทำไม "รัก" ที่เคยบอกกับเรากลับไม่มี "โอกาส" ให้เราเหมือนคนๆนั้น เสียใจนะ...ทำไมเขาไม่มองย้อนไปตอนอายุเท่าเราบ้าง ถ้าต้องเจอแบบนี้ จะรับได้ไหม...จะแย่แค่ไหน...ใจหนึ่งดวงที่ให้ไป...แต่สิ่งที่ได้รับตอบแทนคือ...การปิดบังเรื่องบางอย่าง...มันไม่ร้ายแรงเลยใช่ไหม...แล้วทำไมเราให้ได้...แต่เขาให้เราไม่ได้...แต่ให้คนๆนั้นได้... เจ็บปวดที่สุด...ที่ที่ผ่านมาไม่เคยรักกันที่ตัวตน...ไม่เคยรักและคิดจะอยู่ด้วยกันจริงๆ ไม่เคยแม้แต่จะเข้าใจและให้โอกาสกัน...เจ็บนะ...ที่ให้ใจ...แต่สุดท้าย...กลับทำร้ายกัน...ด้วยการจากไป...
24 มิถุนายน 2552 08:07 น. - comment id 105641
เรื่องของความรัก อธิบายยากจังนะคะ บางคนเขาไม่รับรู้ ไม่เห็นค่ากับสิ่งที่เราทำให้เขา ในขณะที่เขาเห็นค่าของอีกคนมากกว่า ต้องคิดเสียว่าเป็นกรรม และอโหสิกรรมให้กันเสีย เราจะได้ไม่ทุกข์ทรมานแบบไม่จบสิ้น ความรัก ความอาลัยมันยากที่จะตัดใจได้นะคะ ตัวเองก็ยังทำไม่ได้เหมือนกัน เจ็บปวดสุดทนค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ คงต้องใช้เวลารักษาใจ ไม่รู้หรอกว่าจะนานสักเพียงใด เศร้าค่ะ
24 มิถุนายน 2552 14:08 น. - comment id 105649
ใช่ค่ะ...มันต้องใช้เวลา แต่ไม่รู้ว่านานแค่ไหนจะดีขึ้น...ก็ไม่เคยรักใครมากมายขนาดนี้...ไม่เคยรับใครเข้ามาในหัวใจเลยสักคน...ทำเพื่อเขาได้เสมอ อภัยให้ได้เสมอ...แต่แล้วเขากลับไม่เข้าใจเราเท่ากับคนๆนั้น..มันเจ็บนะคะ
24 มิถุนายน 2552 20:03 น. - comment id 105660
รักตัวเองให้มากนะคะ คนบางคนไม่คู่ควรให้เรารักหรอก และหากเราต้องทนเจ็บเสมอ.. ก็ปล่อยเขาไปตามแต่บุญแต่กรรมของเขาเถอะ ไม่นานก็หายค่ะ ไม่นานหรอก
27 มิถุนายน 2552 17:47 น. - comment id 105709
ใครเคยอกหัก ลองอ่านดูนะ มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา ก็เข้ามา! เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น เขาพบว่า มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพนั้น เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู เมื่อพบว่า เป็นศพ ด้วยใจสงสาร จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2 แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า ทีนี้เข้าใจรึยัง ศพนั้นคือคู่รักของโยม ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด ^_^ คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง , ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย