1........ ใครคนหนึ่งเคยบอกฉันว่า " งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา " เรามาพบกันเพื่อลาจากกันอย่างงั้นหรือ เธอย้ำเตือนเสมอๆ ว่าคนเราแต่ละคนต่างมีฝัน ต่าง มีเส้นทางที่ต้องเลือกเดินตามเส้นทางฝันนั้น ฉันรู้ ฉันเข้าใจ แต่เส้นทางระหว่างฝันของฉันนั้นมันโดดเดี่ยวเกินไป(หรือเปล่า) บนเส้นทางฝันของฝันนั้นเหนื่อย ท้อแท้ เหงา เศร้า เดียวดายสารพัด จะมีใครไหมที่จะกล้ามาร่วมเส้นทางเดิน ทางเดียวกันกับฉันผู้ที่มีฝันอันไกลโพ้น คุณเคยเป็นเหมือนฉันไหมล่ะ รอบกายเรามีผุ้คนมากมาย ไม่ว่า เดินถนน เข้าตลาด นั่งรถเมล์ แต่ทำไมเหมือนเหงาๆเศร้าๆเพียงคนเดียว ส่วนตัวฉันเองเคยครั้งหนึ่ง สมัยเข้ากรุงเทพฯมาใหม่ๆ นั่งรถเมล์ มีผุ้คนมากมายแต่ทำไมใจเราเหงาๆ เหนื่อยๆ น้ำตาก็ไหลออกมาเอง ง่ายดายนักเจ้าน้ำตา ไม่รุ้ ฉันยังให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เหมือนกัน คนเราเกิดมาเพื่ออะไร เพื่อความสุขเพียงชั่วครู่ยาม เพียงเพื่อพบแล้วจากกระนั้นซินะ .................................................................................. 2.......... ณ. ม้านั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาค่ำคืนนั้น สายลมพัดเอื่อยๆ ใครคนนั้น...ฉันนอนหนุนตักเธอ เธอชี้ชวนดูแสงจันทร์ดวงกลมด้วยกัน แม้จันทร์จะมืดไปสักนิด แต่ใจเราสองคนกลับสว่างไสว ด้วยกำลังใจที่มีให้กัน ไม่ต้องมีคำพูด ต่างก็รับรู้ด้วยหัวใจ ไม่ต้องสื่อความนัย ขอเพียงหัวใจเราตรงกัน ใครคนนั้น ...เราเคยเดินเกี่ยวก้อยร้อยฝันด้วยกันไปในสถานที่ต่างๆ เคยแอบอิงพิงไหล่ในสวนสาธารณะแห่งนั้น เธอ ฉัน ต่างบอกเล่าความฝันของกันและกัน ฝ่ามืออันแข็งแรงของเธอ ที่ชอบจับหัวฉันโยกไปมาภายใต้หมวกใบเก่ง ความรู้สึกคือ อบอุ่นใจทุกครั้งไป เหมือนพี่ชายตัวดีที่ชอบแหย่เล่นกับน้องสาว อ้อมแขนเธอยามโอบไหล่หยอกล้อ ทำให้ฉันแอบขำในใจ เธอพร้อมไหมที่จะคุ้มครองปกป้องภัยไปด้วยกัน หือ ? อยากบอกว่า ขอบคุณสำหรับความอบอุ่น แม้เพียงเวลาน้อยนิด แต่ขอเก็บเอามาคิดแทนความคิดถึง ...................................... 3.........ต่อไปนี้ไม่มีแล้วใช่ไหม เหตุการณ์และความทรงจำที่ดีๆ ณ.ม้านั่งตัวเดิม ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เก่า .... วันนั้นสีหน้าเธอเหมือนเหนื่อยๆท้อแท้ แต่เธอยังมีน้ำใจถามฉันว่า.... " นอนหนุนตักไหม ต่อไปนี้ไม่มีตักนี้ให้หนุนแล้วนะ ? " คำถามเบาๆของเธอ แต่ทำให้ใจที่เคยหนักแน่นของฉันหวั่นไหว แทบน้ำตาซึมกับคำถามนั่น ได้แต่สกัดกั้นความอ่อนแอของหัวใจ แสร้งยิ้ม หน้าเชิด ตอบว่า.. " ไม่เห็นจะอยากนอนหนุนตักเลย " แท้จริงแล้ว เธอจะรู้บ้างไหม ฉันแกล้งเชิดหน้า เพื่อให้น้ำตาไหลย้อนกลับเข้าข้างในต่างหาก ท้องฟ้ายามเย็นย่ำ เราสองต่างชี้ดูกลุ่มเมฆซึ่งกลายร่างเป็นภาพต่างๆ นั่นเจ้าดวงกลมๆ อาทิตย์สีส้มกำลังจะตกหล่นลงน้ำ แล้วนั่นอาคารกำลังก่อสร้างใหม่ ช่างน่าขัดสายตาซะเหลือเกิน เฮ้อออ....... เธอยังขำ ฉันบอกว่า ถ้าอยากถ่ายภาพอาทิตย์ตกน้ำสวยๆ ต้องไปหยิบอาคารนั้นลงมาก่อน พูดเหมือนทำได้ดั่งปากว่า เธอจะรู้บ้างไหม เหงานะ เศร้านะ ต่อไปนี้หากไม่มีเธออยู่เคียงข้าง เหลียวมองข้างกาย ไร้คนเกี่ยวก้อยร้อยฝันวันของเรา แค่คิด ... หัวใจก็ปวดแปลบ ( ยังอยากโอบไหล่อีกไหม ต่อไปไม่มีไหล่ของหมูตัวนี้ให้โอบอีกแล้วนะ ) ไม่อยากผ่านเส้นทางสวนที่เราเคยนั่งเล่นด้วยกัน อ่านหนังสือด้วยกัน ไม่อยากมองเห็นภาพเก่าๆที่เราแอบอิงพิงไหล่ด้วยกัน ภาพผุ้ชายคนหนึ่งเดินถือรองเท้าผ้าใบคู่เก่งของฉันเดินตามมายังม้านั่งหินอ่อนที่ฉันนั่งเล่น ( เพราะฉันเอารองเท้าคู่โตของเขามาใส่ ) ภาพนี้ยังจำติดตา ฝังในใจแห่งความทรงจำเสมอ ขอบคุณนะ ขอบคุณมาก ที่เธอทำให้ฉันได้ทุกอย่าง ..................................................................... 4.......... เอาน่ะ ไม่เป็นไร อย่าเศร้า อย่าอ่อนแอ ...นะ คนดี ฉันเข้าใจ เธอย่อมมีเส้นทางเดินระหว่างฝันเธอเลือกเองแล้ว เธอบอกว่า เสียดายเวลาที่ผ่านมา เธอน่าจะรู้จักฉันให้มากกว่านี้ ฉันรู้ ... เวลา คือ กำแพงกั้นความสัมพันธ์ของสองเรา เธอย้ำบอก เราสองเริ่มจะสนิทสนม เริ่มจะเรียนรู้นิสัยของกันและกัน ต่างซึมซับความรู้สึกที่ดีๆแก่กัน แต่ทำไม เวลา ต้องมาพรากเราจากกัน อย่าท้อ....นะคนดี ฉันคนนี้เป็นกำลังใจให้เสมอ สักวันหนึ่ง... เราคงได้เจอหวังเพียง เจอเธอ ที่เดิม เธอเข้าใจใช่ไหม ...." แม้ส่งกันหมื่นลี้ ก็ต้องจากกันอยุ่ดี " " มีงานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลา " และสุดท้าย " เรามาพบ เพื่อลาจาก " ขอเพียงสองเรา ลาจากกันด้วยความรู้สึกที่ดีๆที่มี..ให้แก่กัน แค่นั้น ... ฉันก็ สุขใจ ความรัก..ความคิดถึง ..มิตรภาพ..ไม่จำเป็นต้องครอบครองเป็นเจ้าของ ขอเพียงเขาคนนั้นมีความสุขใจในเส้นทางที่เขาเลือกเดินเอง แค่นี้.. เราก็สุขใจแล้ว แต่...หาก วันใดเธอเหนื่อยล้า ท้อแท้ เหงา เศร้าเพียงใด ขอให้คิดถึงฉันคนนี้ ฉัน..คนนี้ ยังรอเธอที่เดิม ณ.ม้านั่งตัวเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ .... ฉันจะรอจนกว่า... เธอไม่ต้องการให้รอ... ................................................................ ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น )
10 มิถุนายน 2552 07:07 น. - comment id 105347
ง่า.......... เศร้าอ่ะ..... ฉันแกล้งเชิดหน้า เพื่อให้น้ำตาไหลย้อนกลับเข้าข้างในต่างหาก ^ ^ ^ อาการนี้.....เป็นเหมือนกันเวลาน้ำตาจะไหลน่ะ ตอนเด็กๆเวลาร้องไห้เราจะชอบก้มหน้าหาบ่ากว้างๆซบ หาชายเสื้อปาดขี้มูก...... ถ้าไม่มีใครอยู่ข้างๆ ณ เวลานั้นก็เอาหน้าถูๆไปกับ ที่นอน พอเวลาผ่านไปเด็กน้อยขี้แยที่ไม่ชอบเช็ดน้ำตาตัวเองก็เรียนรู้ว่า...มันง่ายกว่าถ้าจะเงยหน้ามองฟ้า เพราะถึงแม้จะไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้อยู่เราก็รู้วิธีที่จะเช็ดน้ำตาตัวเอง
10 มิถุนายน 2552 07:23 น. - comment id 105348
วิธีไล่น้ำตาอย่างมีฟอร์ม 1.เงยหน้ามองฟ้าแล้วแกล้งทำท่าปาดเหงื่อที่หน้าผากไล่มาเรื่อย...จนไปหยุดที่หางตา....แล้วก็แกล้งนวดขมับตัวเอง วิธีนี้ใช้เวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะ 2.เงยหน้ามองฟ้า....แกล้งเอามือป้องหน้าผากบังแสง( แล้วจะเงยทำไมฟระ...) หลับตาและถือโอกาสนั้น งีบทั้งยืน 3.เงยหน้ามองฟ้า...เอามือกดตรงหัวตา...ประมาณว่ากลัวตาดำหลุด เดี๋ยวจะมีคนว่าเราตาขาว 4.รีบเออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนหน่วยพิสูจน์หลักฐานจะมาถึง วิจัยมาได้แค่นี้ล่ะ 55ไปแระ....ต้องหาวิธีสยบความเศร้าก่อนไป... ยิ้มนะ ฉางน้อย (o*^____________________^*o)
10 มิถุนายน 2552 09:20 น. - comment id 105349
ฉันจะแอบมองเธออยู่ห่างๆ เมื่อไหร่ที่เธอท้อ ขอให้รู้ว่า ยังมีฉันยืนรอเธออยู่เช่นกันจ๊ะน้องรัก
10 มิถุนายน 2552 09:46 น. - comment id 105350
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกลา คำกล่าวของเหล่าชาวยุทธ และเมื่อถึงที่สุดแล้ว เราก็ต้องอยู่ด้วยตัวเราเอง ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถึงแม้ไม่มีคนให้หนุนตัก พักพิง อิงไหล่ แต่ก็ยังมีกำลังใจ ที่ให้กันอีกมากมายนะ เราไม่ได้อยู่ในโลกเพียงคนเดียวซะหน่อย จะอาวรณ์ไปทำไม
10 มิถุนายน 2552 10:16 น. - comment id 105352
น้ำตาไม่ค่อยย้อนน่ะ เพราะมันแต่ละทีเหมือนน้ำป่าเลย...เกินสะกัดกั้น..ต้องใช้วิธีเมินหน้าอย่างเดียว หันหลังคุย.. แต่ไม่น่าเรียกว่าคุย เพราะฟังตลอดเนื่องจากไม่สามารถเอ่ยคำใดๆ ได้อีกต่อไปแล้ว...
10 มิถุนายน 2552 12:27 น. - comment id 105354
อยากให้เธอดูแลตัวเองให้ดี
10 มิถุนายน 2552 13:53 น. - comment id 105355
1.....คุณโค............ลอนคะ อิอิ ฉางน้อยแค่บ้าเป็นพักๆค่ะ 5555555 อาการแถวบ้านเรียกว่า คุ้มผีคุ้มร้ายคะ เอ่อ.. เป็นคนละอย่างกับคำว่า คนดีผีคุ้มนะคะ 5555 แบ่บว่า....คุ้มคนละอย่างคะ อิอิ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ......
10 มิถุนายน 2552 13:54 น. - comment id 105356
7..........จะบอกคุณโคลอนว่า คุ้มดีคุ้มร้าย กลายเป็น คุ้มผีคุ้มร้าย แล้วคนอื่นจะเข้าใจความหมายไหมเนี่ยะ เอ้อออ เฟอะฟะอีกแล้วเรา
10 มิถุนายน 2552 13:57 น. - comment id 105357
2......คุณโค........ลอนคะ วิธีไล่น้ำตาอย่างมีฟอร์มของคุณน่ะ น่ารักดีคะ อ่านแล้วไม่เศร้าเลย อมยิ้มด้วยซิคะ 55555 ขำ ข้อ 4 คะ ....ถ้าฉางน้อยคงต้องรีบออกก่อนที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานมาเจอ ไม่กลัวไร กลัวทรงผมของหมอพรทิพย์อย่างเดียว ทรงรังนกกระจอก แหะ.. แหะ...
10 มิถุนายน 2552 13:58 น. - comment id 105358
3..... พี่แบมคะ น้องวาเข้าใจค่ะ ประมาณพี่แบมอยากบอกว่า .... อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ชิม่ะๆๆ อิอิ ขอบคุณค่ะพี่สาวคนสวย
10 มิถุนายน 2552 14:00 น. - comment id 105359
4....... ฮั่นแน่ะ พี่ไร้อันดับของน้องๆ มาได้ไงพี่ สงสัยน้องวาใช้แผนล่อหมู(ป่า)ออกจากถ้ำได้สำเร็จ อิอิ ขอบคุณนะเจ้าคะ สำหรับกำลังใจที่มีให้ฉางน้อย น้องสาวตัวแสบ อิอิ
10 มิถุนายน 2552 14:25 น. - comment id 105360
5.....คุณกุ้งหญิงคะ จริงอย่างที่คุณบอกคะ พอฟังน้ำเสียงที่เขาพูดเขาคุยเหมือนเขาเศร้าๆเหนื่อยๆท้อแท้ในการตัดสินใจของตัวเอง คนฟัง ได้แต่นิ่งอึ้ง พูดไม่ออกคะ เหมือนจุก เฮ้อออออ แบบว่า พูดไม่ออกจริงๆ ได้แต่รับฟังที่เขาพูดอย่างเดียว เนอะ .... ขอบคุณที่ทักทายให้กำลังใจ พูดคุยกันค่ะ
10 มิถุนายน 2552 14:27 น. - comment id 105361
6.....สวัสดีค่ะพี่คนไร้ร่าง ... ขอบคุณมากมายสำหรับกำลังใจน๊า ไม่เอาค่ะ อย่าคิดมาก เคยได้ยินไหมคะ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ฉะนั้น การตัดสินใจของใครบางคน เขาคิดถูกต้องแล้วคะ พบกันเพื่อจาก จากลาเพื่อเดินตามเส้นทางระหว่างฝัน .....ใช่ไหมคะ ...... เฮ้ออออ ....ดูแลตัวเองมานานแระ ดูจนเบื่อแระ อิอิ ....... ทะลึ่งๆ ยัยเฟอะฟะ 55555
10 มิถุนายน 2552 14:50 น. - comment id 105362
ช่างเศร้าอะไรเช่นนี้ครับ พี่เองสมัยหนุ่มๆ เคยล่องเรือหารัก ผ่านมาทางบางกอกน้อยนี่แหละ เคยเจอสาว ๆ แถวริมเจ้าพระยา สงสัยน้องฉางนี่แหละ อืม....เจอแล้วเธอก็ไม่ยอมนั่งเรือไปด้วย เสียดายจังเลย อิอิ พูดให้งง
10 มิถุนายน 2552 15:00 น. - comment id 105363
เศร้าชะมัด
10 มิถุนายน 2552 15:41 น. - comment id 105365
เขียนสะท้อนอารมณ์ได้ดี ในเรื่องคงไม่ใช่ฉางน้อยตัวจริงแน่ เพราะตัวจริงก็ไม่รู้จักอยู่ดี ว่าเถอะเกิดเศร้าขึ้นมาได้ไง หรือว่า เปลี่ยนมุขตามเพลง จริงๆ ชีวิตก็เท่านี้แหละ เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ อีกประเดี๋ยวก็บ้าก็บอไปตามเรื่อง จริงๆอีกอย่าง น้องฉางฯ เขียนเรื่องสั้นได้ดี น่าอ่าน คราวที่แล้วก็อ่านแต่ไม่ได้เมนต์ แอบไปหนุนตักใครมาก็ไม่บอก แอบไปรอใครที่ท่าน้ำก้ไม่บอก คราวหน้าก็อย่าลืมบอกด้วยละ จะไปรอ...แอบดู เขียนเรื่อยเปื่อยตามเนื้อเรื่อง จะรออ่านบทต่อไปคับ
10 มิถุนายน 2552 15:48 น. - comment id 105366
โห...เศร้าจัง (เป็นกริยานะครับ ไม่ใช่ชื่อตัวละครญี่ปุ่น แหะๆ เอิ้ก... ลืมไปว่ากำลังเศร้า)
10 มิถุนายน 2552 20:17 น. - comment id 105367
..ทำไม ดูเศร้านัก น้องเรา... ..งานเลี้ยงย่อมเลิกลา แน่เพราะอิ่ม.. แต่..งานเลี้ยงใช่จะมี ครั้ง้เดียว ซะเมื่อไหร่เล่า..
10 มิถุนายน 2552 20:20 น. - comment id 105368
อาวรณ์..เพลงนี้คุ้น ๆนะ..ใช่ทูล ทองใจ ร้องอะเปล่า..เพราะจริง ๆ..
10 มิถุนายน 2552 23:01 น. - comment id 105370
14.....สวัสดีพี่บ่าวคนบนเกาะนะคะ ....พี่บาว บายดีม่ายนิคะ ขอบคุณที่แวะเวียนทักทายน้องนุ้ยเสมอๆค่ะ .....ล่องเรือหารัก น้องนุ้ยอิขายพวงมาลัยได้พรือหล่าวนิพี่บาว อิอิ ขอบคุณค่ะ
10 มิถุนายน 2552 23:04 น. - comment id 105371
15......สวัสดีค่ะคุณแทนคุณแทนไท ขอบคุณนะคะที่ทักทายฉางน้อย อย่าเพิ่งเศร้านะคะ ยิ้มๆๆค่ะ ยิ้มแบบนี้น๊า...... ....... ขอบคุณนะคะ...
10 มิถุนายน 2552 23:07 น. - comment id 105372
16......สวัสดีค่ะพี่วิทย์ พี่วิทย์คะ คนเราใช่ว่ามีเพียงด้านเดียวนะคะ มีสนุก ย่อมมีทุกข์บ้าง เหมือนเหรียญเนอะ ย่อมมีสองด้าน บางคนภายนอกเหมือน ร่าเริง แต่ข้างในเขาอาจน้ำตาซึมก็ได้นะคะพี่วิทย์ ...... แหะ.. แหะ.. ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวเข้าตัวเอง อิอิ เอ.. แอบหนุนตักใครที่ไหนล่ะคะ แหมๆๆ ไม่ได้แอบรอใครที่ไหนสักหน่อย ....ว่าแต่ว่า รอพี่วิทย์ ดีไหมละ อิอิ ขอบคุณนะคะพี่วิทย์
10 มิถุนายน 2552 23:09 น. - comment id 105373
17....... สวัสดีค่ะคุณเอื้องคำจัง เอ๊ยๆ คุณเอื้องคำเฉยๆ อิอิ แหมๆ กำลังเศร้ายังจะเล่นเนอะ ยัยวา 555 ขอบคุณนะคะที่มาทักทายฉางน้อยจ๊า สบายดีไหมคะ ช่วงนี้ฉางน้อยคอมพ์ไม่ค่อยรักดีค่ะ
10 มิถุนายน 2552 23:12 น. - comment id 105374
18......พี่กิ่งคะ ....ฉางน้อยไม่ได้เศร้ามากมายหรอกคะ แหมๆ อย่าคิดมาก ยังเล่นเป็นลิง ได้เหมือนเดิมคะ ยังเป็นน้องสาวพี่กิ่งคนเดิมนะคะ อย่าคิดมากน๊า ขอบคุณที่ให้กำลังใจค่ะพี่ .... งานเลี้ยงไม่ได้มีครั้งเดียว แต่ว่า งานเลี้ยงครั้งต่อไป น้องวาคงอิ่มแล้วมั้งคะ อิอิ เบื่องานเลี้ยงครั้งต่อๆไปแล้วคะ 555555 ขอบคุณนะคะพี่กิ่ง
10 มิถุนายน 2552 23:15 น. - comment id 105375
19....... สวัสดีค่ะพี่บ่าวลิลิต อ้าวววว ไม่รู้จักเพลง อาวรณ์ ซะเนี่ย แหมๆๆๆ อาวรณ์น่ะ ใครบอกว่า ทูล ทองใจร้องล่ะค่ะ แหมๆ พี่บ่าวเชยจังนะคะ เพลงอาวรณ์นี้น่ะ ขับร้องโดย สุนทราภรณ์ ต่างหาก อิอิ อ่ะๆๆ ...หรือว่า ร้องโดย คุณสุเทพ วงษ์คำแหง ไม่แน่ใจค่ะ ต้องไปถามลุงจุดก่อนนะคะ ผุ้ชำนาญด้านร้านอาหารน้องเพ็ญโอเกะ 55555 (ขอแอบพาดพุง เอ๊ย พาดพิงนิดนุงน๊าลุงน๊า อิอิ ) ขอบคุณนะคะพี่บ่าวลิลิต
11 มิถุนายน 2552 01:24 น. - comment id 105376
ตรงไหนฟะ ม้านั่งตัวเก่า ฉานนนนนไปเดินบ่อยๆ ไม่เห็นมี ใครเลย...
11 มิถุนายน 2552 08:57 น. - comment id 105378
26.....อย่าฟะซิเฟ้ยยยย อิอิ .. เดี๋ยวโดนๆๆ พูดไม่เพราะน๊าลุงน๊า ลุงน่ะเหร๊อออ จะมองไร นอกจากมาวววว
12 มิถุนายน 2552 09:29 น. - comment id 105389
" ..อาวรณ์.." งานเลี้ยงเลิกลาจำลาล้าง ไปตามเส้นทางทางของตัวเอง คนเราต่างคนต่างมีฝัน พันธผูกพันธ์เงื่อนไขจำเป็น สุขเพียงชั่วคราว เมื่อได้พบกัน เวลานั้นน้อยเหลือเกินกันเราต้องห่าง รอคอยนั้นยั้งยืน หลังเราบอกกล่าวคำลา ลา ลา *ในความอบอุ่นอันลึกซึ้ง ในห้วงคำนึงเราคิดถึงกัน คือการจำยอมยอมลาร้าง ไปตามเส้นทางเพื่อหวังพบกัน พูดคุยทักทายให้กำลังใจ ปลอบโยนและห่วงใย คือความหวังดี ทุกๆสิ่งที่มี ซึ้งใจอบอุ่นใจ อบอุ่นใจ ** ในคืนเงียบเหงาที่ดาวหาย อยู่อย่างเดียวดายเงียบเหงาวังเวง เจ็บจนยอมแพ้แก่จุดหมาย เจอความหลากหลายสับสนตนเอง เหม่อมองผู้หวังดี ไม่มีเคียงข้าง เหนื่อยล้ามองเห็นเส้นทาง ก้าวไกลแสนไกล อยากกลับมาที่เดิม เสริมกำลังใหม่ เช่นอดีตที่ผ่านมา เท่านี้ก็สุขใจ ก็สุขใจ ............ ทั้งอาวรณ์และอาลัยเลยค่ะ คิดถึงใครบางคนเหมือนกัน เอาเพลงมาแปะให้
12 มิถุนายน 2552 15:42 น. - comment id 105402
^ ^ เว่อร์ป่าวยะ สนมเอ๋อ ดีจ้าฉางน้อย วันนี้มาเศร้าเชียว เก้าอี้ตัวนั้นริมเจ้าพระยา ป๊าด...โรแมนติกซะไม่มี อิอิ อย่าไปสร้างข้อแม้มากเลย เด่วอด อิอิ ต้องใช้คติ ด้านได้อายอดดดด...
12 มิถุนายน 2552 16:31 น. - comment id 105404
28........ไหนอ่ะสนมเอ๋อ เสียงเพลง อาวรณ์อ่ะ ไม่เห็งได้ยิง อิอิ มีแต่เนื้อเพลง แหะ..แหะ.. อย่าอาวรณ์มากไปเลยเนอะ เดี๋ยวเศร้าไปก่าสี้ ... ขอบคุณจ๊าที่ทักทายกันนะคะ
12 มิถุนายน 2552 16:36 น. - comment id 105405
29......ไหนๆ ใครว่าสนมเอ๋อ เว่อร ชิชะๆ อิอิ ( หาพวกๆๆ อิอิ ) ...... ..... สวัสดีค่ะสหายยา หายไปนานเลยเนอะ ไม่มีใครสร้างข้อแม้กับใครหรอกคะ ทุกอย่างมีเหตุมีผล มีที่มาที่ไปในตัวของมันเอง ปรัชญาม่ะพวก อิอิ .. .... ......คติไรอ่ะ ด้านได้อายอด ม่ะเคยรู้จัก อิอิ วอนขอคำชี้แนะหน่อยน๊าต่ะเอง ... ขอบคุณนะคะสหายยาที่มาทักทายกัน เนอะ
14 มิถุนายน 2552 07:36 น. - comment id 105415
ในคืนค่ำ ฉันนอนนับดาวบนท้องฟ้า...อิอิ นับไม่ไหวหรอก...รู้ใช่ไหมว่าทำไม.. ถามใจตัวเองว่า..เหนื่อยไหม.. กับการเพิ่มภาระให้หัวใจด้วยการ รับใครเข้ามาสักคน...เหนื่อยสิ.. เสียงตอบกระซิบแผ่วเบา... แต่ก็สุขมิใช่หรือ....เธอจะมองดาว เหมือนฉันไหม...ฉันฝากใจไปกับดาว เธอได้รับหรือเปล่า....เห็นไหม ใจทำงานอีกแล้ว...ก็ใจมันคิดถึงนี่นา..
14 มิถุนายน 2552 08:36 น. - comment id 105416
32............ไม่อยากเชื่อว่า พี่ครูพิมหวานก็เป็นด้วย อิอิ.... ...สวัสดีค่ะพี่ครูพิม สบายดีไหมเอ่ย ขอบคุณที่มาแจมและเฉลย ขอบคุณที่เปิดเผยเอ่ยความนัย ความนัยจากใจ..ใครบางคน...ที่อาจห่างไกล เกินใจฝัน อิอิ .... .... ปล. ไม่ใช่ลูกบิดน๊า แต่เป็นกลอนเปล่า เปล่าจริงๆไม่ผสมโซดาด้วย อิอิ ขอบคุณนะคะพี่ครูพิม ....
14 มิถุนายน 2552 19:46 น. - comment id 105417
Don't cry.
14 มิถุนายน 2552 20:51 น. - comment id 105418
34.....สวัสดีค่ะเจ่เจ้ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่เจ่เจ้มอบให้หมวยน้อย น้องวาคนนี้เสมอๆๆนะคะ แท้งค์กิ้วมากมายจ้า.......
16 มิถุนายน 2552 19:19 น. - comment id 105449
เศร้าอ่า พี่วาแต่งได้โดยใจเอิงมากๆเลยอ่ะ อ่านแล้วโดนมากๆ แต่ของเอิงแม้ว่าเขาจะบอกว่าเอิงไม่ต้องรอเขาแล้ว แต่เอิงก็ยังรออ่า
16 มิถุนายน 2552 23:31 น. - comment id 105454
36.....สวัสดีค่ะน้องเอิง อย่าเศร้าคะ สิ่งดีๆมีให้เสมอคะ ต่อไปในวันหน้าน้องอาจเจอคนดีๆ ส่วนสิ่งที่ผ่านมาขอเก็บเป็นความทรงจำที่ดีๆนะคะ ......เป็นกำลังใจให้ค่ะ