หน้าฝนแล้ว มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวชอุ่ม น้ำไหลเร็วรี่ โอกาสเช่นนี้ย่อมเหมาะเจาะที่เจ้าแดงจะออกไปหาปลานำมาเป็นอาหาร และเป็นที่น่ายินดีเมื่อ เด็กหนุ่มไปดูเบ็ดในเช้าวันนี้ ก็ได้ปลาช่อนนามาตัวเขื่องทีเดียว เขาจึงเดินมุ่งหน้าดุ่มๆ กลับบ้าน ในใจก็คิดถึงแกงส้มปลาช่อนใส่มะละกอ อันเป็นอาหารจานโปรดของตน "ได้ปลาอะไรมาล่ะ" ป้าผินตะโกนถามมาแต่ไกล เมื่อเห็นลูกชายหิ้วปลาตัวใหญ๋ที่ร้อยเหงือกมันไว้ด้วยเถาตำลึง "ปลาช่อนน่ะแม่ ตัวเบ้อเร่อเลย555" เจ้าแดงตะโกนตอบด้วยสีหน้าชื่นฉ่ำมาแต่ไกลเช่นกัน หลังจากที่เจ้าเอกขอดเกล็ดและบั้งปลาเป็นชิ้นซิ่งไม่หนามากนัก จากนั้นชายหนุ่มก็คว้ามะละกอมาปอก ขณะที่ควันจากเตาถ่านก็ลอยโขมงไปทั่วทุ่งทีเดียว "ทำไมแม่ไม่ซื้อพริกแกงมาจากตลาดล่ะ จะได้ไม่ต้องตำให้เมื่อย" ชายหนุ่มเอ่ยถามมารดาด้วยเหตุว่า ทุกครั้งที่ทำกับข้าว ป้าผินจะต้องตำพริกแกงเองเสมอ "เอ็งจะไปรู้อะไร กับข้าวจะอร่อยหรือไม่อร่อย มันอยู่พริกแกงนี่แหละ เป็นสิ่งสำคัญ ถึงหน้าตามันจะน่ากิน แต่ถ้ารสชาดไม่ได้เรื่อง มันก็เหลืออยู่เต็มหม้ออย่างนั้น ไม่มีใครกินหรอก" ป้าผินใส่ร่ายมาเป็นสายด้วยสีหน้าจริงจัง "ก็จริงนะ บางครั้งกับข้าวในตลาดมันก็แสนจะจืดชืด ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย" เจ้าเอกเห็นจริงดังที่ผู้เป็นแม่กล่าวมา จึงได้เสริมขึ้น "ปอกมะละกอเสร็จ ไปหยิบเกลือมาหน่อย" ป้าผินกล่าวกับลูกชาย แต่สายตาและสมาธิแกกำลังอยู่ในครกเป็นอย่างเดียวเท่านั้น "ทำไมต้องใส่เกลือตอนนี้ล่ะ ไม่ใส่ตอนปรุงหรือแม่" เจ้าเอกเริ่มข้องใจ "ก็เพราะพริกขี้หนูแห้งมันจะกระเด็น ถ้าใส่เกลือมันก็จะเกาะกันดี ละเอียดไว และกลมกล่อมด้วยยังไง" ป้าผินจาระไนให้ผู้เป็นลูกชายฟัง ซึ่งเจ้าเอกก็ดูเหมือนจะเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ขณะนั้นเจ้าเอกก็เหลือบไปเห็นสุนัขตัวหนึ่ง มันกำลังเคี้ยวอะไรฉับๆ อยู่ในปากและเมื่อเด็กหนุ่มสังเกตุ ก็รู้ว่าเป็นปลาช่อนที่เขาวางเอาไว้นั่นเอง "แม่...หมามันขโมยปลาไปกินแล้วนั่น" เจ้าเอกกล่าว พลางวิ่งไล่กวดสุนัขตัวนั้นอย่างเร่งรุด "เอ็งไม่ต้องไปไล่มันหรอก หมาน่ะมันโง่โว้ย..."เจ้าได้ยินสายคำนั้น ก็ให้งุนงงสงกายิ่งนัก จึงย้อนถามมารดา "หมามันโง่ยังไงกันล่ะแม่..." ชายหนุ่มหยุดวิ่งโดยกระทันหัน แต่ยังคงหันไปมองสุนัขตัวนั้นด้วยความเสียดายชิ้นปลา "ถึงมันจะเอาปลาไปกิน แต่มันก็ไม่มีทางกินได้อร่อยหรอก" ป้าผินกล่าวอย่างผู้มีเชิงเหนือชั้น "ทำไมมันจะไม่อร่อยล่ะแม่" เจ้าเอกซักด้วยสีหน้างุนงงเข้าไปอีก "มันจะอร่อยได้ยังไง ก็พริกแกงสูตรเด็ดของข้ายังอยู่นี่ เอ็งไม่เห็นหรือ" ป้าผินกล่าวอย่างเหนือชั้นและไม่ใยดีต่อชิ้นปลาชิ้นนั้นแม้แต่น้อย ต่างกับเจ้าเอกที่ขณะนี้ กำลังงงยกกำลังสาม
12 พฤษภาคม 2552 14:35 น. - comment id 104971
หัวเราะท้องแข็งอีกแล้วครับท่าน คราวก่อนก็ทีแระ มาคราวนี้ หนักกว่าอีก ปล่อยหมามังเอาปลาไปกินเถอะเนาะ พริกแกงอร่อยอยู่นี่ 55555
12 พฤษภาคม 2552 15:48 น. - comment id 104972
อิอิ เจ้าโฮ่งเอ๊ย ได้กินทั้งทีได้กินปลาไม่อร่อย น่าสงสารจังนะคะ
12 พฤษภาคม 2552 17:14 น. - comment id 104974
...คุณแก้วประภัสสร จัดให้ตามคำเรียกร้องครับผม... เป็นไงบ้างครับคุณแบม อย่างนี้เรียกขำกลิ้งนะครับ อิอิ ต้องมีพริกแกงสิครับ ถึงจาอาหย่อย...*--* ...หวังแค่รอยยิ้มเล็กๆ ที่ช่วยบรรเทาความเครียดของเพื่อนบ้านกลอน ผมก็พอใจแล้วครับ ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย *--*
12 พฤษภาคม 2552 17:32 น. - comment id 104975
...คุณเพียงพลิ้ว อิอิ น่านสิครับ กินไปได้ไงเนี่ย พริกแกงก็ไม่มี เรื่องนี้เป็นมุขตลกครับ หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้าง แต่ผมนำมาใส่ตัวละคร ใส่ฉากและดำเนินเรื่องซะใหม่ เพื่อความบันเทิงครับ ขอบคุณสำหรับดอกไม้ครับคุณเพียงพลิ้ว *---*
15 พฤษภาคม 2552 20:47 น. - comment id 105005
อืม..ปล่อยให้หมามันกินปลาไปเหอะ เรากินข้าวกะน้ำพริกอกงดีกว่า หุหุ
19 พฤษภาคม 2552 09:10 น. - comment id 105062
...คุณคนบนเกาะ สวัสดีครับคุณคนบนเกาะ ก็บอกแล้วไงครับ พริกแกงสูตรเด็ด ถึงจะไม่ใส่อะไรเลย มีเพียงพริกแกง ก็เป็นอันว่า ...อร่อยครับ 55*---* ฉะนั้น บ่ต้องเคียดหลายเด้อคับ ขอบคุณครับที่แวะมา