รักไม่เคยเปลี่ยนแปลง....

คีตากะ

สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม  
ฉันพยายามที่จะค้นหามาตลอดเวลาว่าสิ่งใดกันเล่าหรือกรรมอันใดที่นำพาฉันและเธอมาประสบพบกัน ตลอดระยะหนึ่งปีที่เรารู้จักกันมันมีความผูกพันบางอย่างที่ยากจะอธิบาย ฉันเป็นคนโง่ๆคนหนึ่งที่มักจะหาเหตุและผลถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ แม้พระพุทธองค์จะเคยกล่าวว่าอย่าไปขุดคุ้ยเกี่ยวกับเรื่องของวิบากกรรม แต่ความสงสัยใคร่รู้ของฉันมันกับทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเมื่อมาพบเธอ....
การบำเพ็ญปฏิบัติธรรมของฉันที่จัดเป็นพวกนักปฎิบัติธรรมที่ขี้เกียจสันหลังยาวและขาดวินัยในการบำเพ็ญ ฉันควรจะเป็นพวกหนุ่มเจ้าสำราญขี้เหล้าเมายามากกว่าจะมาเดินทางสายนี้เหมือนพวกคนแก่ๆที่ใกล้จะถูกหามเข้าวัด เพราะสิ่งที่ฉันได้รับการประนามจากคนรอบข้างมาตลอดระยะเวลา 13 ปีแห่งการบำเพ็ญปฏิบัติธรรมคือคำว่าเพี้ยนหรือไม่ก็บ้า การเปลี่ยนจากการกินเนื้อสัตว์มากินแต่ผักไมใช่เรื่องสนุกนักสำหรับหนุ่มวัยรุ่นอย่างฉัน ฉันควรจะไปวุ่นอยู่กับพวกสาวๆสวยๆหรือเฮฮาอยู่กับเพื่อนฝูงมากกว่าจะมานั่งปลีกวิเวกและทำในสิ่งที่น่าเบื่อเยี่ยงนี้......
แต่วันนี้อย่างน้อยการบำเพ็ญปฏิบัติของฉันก็สามารถไขปริศนาบางอย่างที่เกี่ยวกับเธอ แม้มันอาจเป็นเพียงข้อสมมุติฐานเท่านั้นแต่ฉันก็เชื่อความรู้อันนี้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉันเคยคิดว่าเธอคือเนื้อคู่ของฉัน เพราะเรารักกันมากจนอาจบางที จะรักกันมากจนเกินไป ความรักทำให้ฉันตาบอดมาตลอดชีวิต และผลสุดท้ายก็มักจะจบลงด้วยความเศร้าทุกครั้งไป ฉันจึงสงสัยเป็นที่สุดว่าเหตุผลอันใดที่เธอสามารถผ่านด่านบททดสอบต่างๆมาจนถึงวันนี้ วันที่เราแต่งงานกัน....เธอคือเนื้อคู่ของฉันอย่างนั้นหรือ...คือเนื้อคู่ที่ติดตามกันข้ามภพข้ามชาติจนมาได้เจอะเจอกันอีกครั้งหนึ่งเหมือนกับในนิยายหรือละครแบบนั้นหรือ? แต่ในที่สุดความลับก็ถูกเปิดเผยจนได้ เมื่อฉันได้มาพบเจอเธอและอยู่ใกล้กับเธอมากขึ้น ฉันจึงรู้ได้ว่าที่แท้เธอคือใคร?
การได้มีโอกาสพบเจอเธอถึงสองครั้งฉันก็รู้ได้ว่า รูปกายภายนอกที่ดูงดงามแบบสตรีเพศทั่วไป น้ำเสียงที่ไพเราะนุ่มนวลอ่อนหวานของสตรี เรือนร่างอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจของเธอนั้น ไม่อาจปิดบังหรือหลอกลวงสายตาของฉันได้ แท้ที่จริงเธอไม่ใช่เนื้อคู่ของฉัน ! แต่เธอคือคนๆนั้น คนๆนั้นในอดีตที่ความทรงจำของฉันยังไม่เคยลืมเลือน และภาพนั้นยังคงติดตาติดใจตามหลอกหลอนฉันมาตลอดชีวิต ที่รักเธอคือคนๆนั้น คนที่ฉันเคยมีและเคยพลัดพรากจากกันไปตลอดชีวิต คนที่ฉันคิดมาเสมอว่าจะไม่มีวันได้พบอีกแล้วในชีวิตนี้ แต่แล้วก็ได้พบ ไม่มีใครจดจำเธอได้นอกจากฉัน.....
ครั้งหนึ่ง...เธอเคยมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้พร้อมกับฉันและญาติพี่น้อง เมื่อราวๆ 33 ปีที่แล้ว เธอเป็นหนุ่มเจ้าสำอาง เป็นหนุ่มเจ้าสำราญ สูงประมาณ 180 เซนติเมตร ใบหน้าหล่อเหลา คิ้วดกคมเข้ม และมีวาทะศิลป์เป็นเลิศ มันไม่แปลกเลยที่เธอจะมีสาวๆมารุมล้อมมากมาย เธอไม่ได้ร่ำเรียนอะไรมากนักมันก็น่าแปลกที่ผู้ชายอย่างเธอจะเข้าเมืองหลวงเพื่อไปเรียนเป็นช่างเย็บผ้า ซึ่งนี่ควรเป็นงานที่สตรีชมชอบมากกว่าสุภาพบุรุษอย่างเธอ เธอในวันนี้กับเธอในวันนั้นไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากนัก เธอในวันนี้ก็ยังคงชมชอบเย็บปักถักร้อยและยังเคยได้รับรางวัลในเรื่องนี้สมัยที่เธอยังเรียนหนังสืออยู่ ก็เธอเคยเรียนมันมาทั้งชีวิตในอดีต เธอจึงเชี่ยวชาญเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ.... 
เธอในวันนี้...วัยเพียง 18 ปี สูง 166 เซนติเมตร หน้าตาน่ารัก ผิวขาวสะอาด รูปร่างของเธอมีส่วนคล้ายผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ด้วยเหตุนี้เธอจึงมักโดนเพื่อนๆล้อว่าเป็นพวกกระเทย แต่เปล่าเธอเป็นทอมมากกว่า และนี่เองเป็นสาเหตุที่เธอเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง และมีแต่ผู้หญิงที่มารุมล้อมชมชอบเธอ จนครั้งหนึ่งเธอก็ทำตัวเป็นทอมเสียเลยและเป็นสาเหตุที่พ่อกับแม่ของเธอในปัจจุบันกลัดกลุ้มยิ่งนัก แต่เมื่อเธอเริ่มโตขึ้น เธอจึงรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย และก็กลับมาเป็นผู้หญิงเต็มตัวตอนวัย 17  ปี เธอยังคงเกิดในราศีเดิมของเธอเหมือนในอดีตและช่วงเวลานี้เองที่ฉันได้พบเธอ โดยที่ฉันไม่เคยสงสัยเธอมาก่อนเลย..
เธอในวันนั้น... ยังคงพูดภาษาและสำเนียงคล้ายคลึงกับเวลานี้ แม้จะเกิดคนละภาคกันก็ตาม ใช่สิในอดีตเธอเคยไปเที่ยวที่นั่น และรู้สึกประทับใจในดินแดนแห่งนั้น อาจเป็นเพราะความงดงามของธรรมชาติ สภาพอากาศ และน้ำมิตรไมตรีของคนดินแดนนั้น เธอถึงกับเคยบอกภรรยาของเธอว่าอยากจะไปเกิดที่นั่นตอนที่เธอเคยมีชีวิตอยู่ แล้วมันก็เป็นจริงในวันนี้ สนุกไหมล่ะกับความตั้งใจในอดีตของเธอ แล้ววันนี้เธอจึงต้องมานั่งร้องไห้เพื่อที่จะหวนกลับมาที่อยู่เดิมของเธอ แต่ไม่นานหรอกฉันจะพาเธอกลับมาเองที่รัก ก่อนที่เธอจะจากไปเธอเคยมอบดอกลั่นทมหรือลีลาวดีโดยใส่ซองจดหมายส่งให้คนรักของเธอ และวันนี้ดอกไม้ที่เธอชมชอบมันมากที่สุดยังคงเป็นดอกลีลาวดี แต่ภรรยาของเธอสิกลับบอกว่ามันเป็นดอกไม้อัปมงคลที่สุด เพราะคนรักของเธอมอบให้เธอแล้วก็จากไปโดยไม่มีวันหวนกลับมา ภรรยาของเธอได้แต่ปลูกดอกลีลาวดีไว้หน้าบ้านราวกับว่าจะรำลึกถึงใครบางคน แล้วฉันจะพาเธอไปดูมันกับตาในสิ่งที่เธอเคยสร้างบาดแผลและทิ้งเอาไว้ในจิตใจของคนที่รักเธอมากที่สุด...
เธอในวันนี้ ...น่ารักแสนซน เหมือนลิงทโมน เธอชอบขึ้นต้นไม้สูงๆมากกว่าจะทำตัวเรียบๆร้อยๆเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆเขา เรื่องการบ้านการเรือนของเธอจึงแย่มากจนแม่ของเธอส่ายหัวและบอกกับฉันว่า ใครได้ไปเป็นภรรยานับว่าโชคร้ายเป็นที่สุดเพราะเธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่างแม้แต่หุงข้าว ฉันเดาว่าเธอไม่เคยสนใจที่จะทำมันมากกว่าเหมือนกับที่เธอไม่เคยสนใจที่จะเป็นเพศหญิงอย่างที่เธอควรจะเป็น เธอกำลังสับสนทางเพศ แต่ฉันรู้เพราะในอดีตเธอเป็นผู้ชาย มันก็เลยเป็นแบบนี้ การได้ร่างกายผู้หญิงหาใช่เรื่องง่ายดาย เธอต้องมีความอดทนและละเอียดอ่อนมากกว่านี้ เธอคงต้องทำใจ ดังนั้นคนโชคร้ายคงเป็นฉันสิน่ะ.....
เธอในวันนั้น...เป็นคนเจ้าชู้ระดับ 5 ดาว เธอมีภรรยาน้อยเก็บซ่อนและปล่อยให้ภรรยาหลวงต้องนอนระทมทุกข์นานนับหลายปี เธอทิ้งให้ผู้หญิงที่เธอขอแต่งงานด้วย ซึ่งวัยเพียง 18ปี ต้องนอนรอคอยเธอวันแล้ววันเล่า บัดนี้ผลกรรมอันนั้นจึงย้อนกลับมาหาเธอ ที่เธอต้องแต่งงานกับฉันด้วยวัยเพียง 18ปีเช่นกัน แต่เชื่อฉันๆจะหักกงล้อแห่งกรรมในครั้งนี้ด้วยมือของฉันเอง และจะนำพาเธอสู่อิสรภาพจากกงกรรมกงเกวียนบ้าๆในชีวิตนี้ เพราะฉันมาเพื่อการนั้นโดยเฉพาะ เธอรักการพนันเป็นที่สุดและร่ำรวยจากมัน หมอดูเคยทำนายเธอไว้ว่าราศีของเธอตกพญานาค 7 เศียร นั่นหมายถึงถ้าเธอมีชีวิตอยู่ต่อไปเธอจะร่ำรวยกลายเป็นเศรษฐี แต่น่าเสียดายที่เธอมีชีวิตอยู่ได้เพียง 38 ปีเท่านั้นก็ต้องลาโลกนี้ไปแล้ว เพราะรายได้ของเธอมาจากความไม่บริสุทธิ์นั่นคือการพนัน....
เธอในวันนี้...อ่อนหวานและช่างเจรจา แต่สำหรับฉันๆของเรียกมันว่าพวกขี้คุยหรือขี้โม้มากกว่า นี่คือคำที่ภรรยาของเธอในอดีตกล่าวขวัญถึงเธอเสมอๆ คำพูดดีๆมันก็ฟังเข้าท่าดีหรอกน่ะ แต่ฉันไม่ค่อยจะเชื่อมันเท่าไหร่ เพียงแค่เธอเพิ่มความสัตย์จริง และความจริงใจเข้าไปมันก็ใช้ได้แล้ว ไม่ใช่โกหกพกลมไปเรื่อยเปื่อย เธอไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมฉันจึงเป็นคนเดียวที่สามารถจับโกหกของเธอได้  เพราะฉันรู้จักเธอดีหน่ะสิ  เธอเคยถามฉันว่าข้อความที่เขาเขียนไว้ในร้านถ่ายรูปที่เราไปถ่ายรูปด้วยกันว่า ปัญญาอ่อนที่สุดคือการโกหก หมายความว่าอะไร และครั้งนั้นฉันก็ตอบเธอไปว่า จะไม่ปัญญาอ่อนได้อย่างไรเพราะการโกหกนั้นตายแล้วตกนรก ไม่เคยได้ยินเพลงเขาร้องหรอกเหรอ โกหกนั้นตายตกนรก โกหกนั้นตายตกนรก และนี่แหละเป็นสาเหตุที่วันก่อนเธอไปพบโยคีซึ่งนั่งทำนายโชคชะตาอยู่บนเก้าอี้ตะปู แล้วเธอก็ยื่นมือไปให้ทำนาย และเธอก็ได้รับคำทำนายทันทีว่า เธอมาจากดินแดนที่มืดมิด ที่ๆมีต้นเงี้ยวและทัณฑ์ทรมานมากมาย และจะมีคนมาพาเธอกลับไปสู่ที่ๆเธอเคยอยู่ในอดีต ฉันหัวเราะก๊ากเมื่อเธอเล่าจบ นั่นไปได้บอกเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกับเธอหรอกหรือ ส่วนคนๆนั้นจะเป็นใครถ้าไม่ใช่ฉัน....
เธอในวันนั้น...ยังคงทำอาชีพคล้ายคลึงกับวันนี้นั่นคือเกษตรกร เพียงแต่เธอเปลี่ยนจากการเลี้ยงวัวไปทำนาแทนเท่านั้น ซึ่งแต่เดิมภรรยาของเธอก็ยังคงทำนาทั้งหลังและก่อนที่เธอจะลาโลกนี้ไป เธอเป็นพวกอารมณ์ศิลปินเปลี่ยนแปลงไปได้อยู่เสมอเหมือนกระแสลม และมันก็คล้ายคลึงกับฉันแต่ต่างกันที่เธอไม่ค่อยมีเหตุผลอะไรเลย และชอบเอาแต่ใจ และนี่แหละเป็นสาเหตุของความวิตกจริต และอาการเครียดง่ายๆ อารมณ์ปรวนแปรง่าย อ่อนไหว และบ่อน้ำตาตื้น ร้องไห้ได้ทั้งวัน บางครั้งฉันก็รู้สึกรำคาญ แต่ฉันเข้าใจเธอ อีกสิ่งหนึ่งที่เธอรักเป็นที่สุดนั่นคือมวย เธอชอบดูมวยและชอบพนันมวยเป็นที่สุด เธอมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น แต่ก็กีฬานะเป็นเรื่องธรรมดา นี่เองวันนี้เธอจึงต้องไปเกิดเป็นลูกนักมวย เธอจึงได้ฝึกมวยตั้งแต่เด็กเสมือนมันเป็นส่วนหนึ่งของเธอ และน้อยครั้งที่เธอจะแพ้เชิงมวยให้กับใคร เธอพอมีฝีมือดังนั้นเพศหญิงจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ เธอจึงมักไปมีเรื่องทะเลาะต่อยตีกับทอมบ้างกับผู้ชายบ้าง และส่วนใหญ่ก็จะถูกเธอน็อกตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะเธอรู้จักจุดอ่อนในร่างกายของมนุษย์ดี เธอจึงสามารถสยบคู่ต่อสู้ได้ภายในพริบตา แต่สิ่งที่เธอรู้สึกได้นั่นคือความว่างเปล่าและความเจ็บปวดในจิตใจ เพราะการเอาชนะผู้อื่นด้วยพละกำลังหาใช่ทางออกที่ถูกไม่ แต่คืออหิงสา การไม่เบียดเบียนผู้อื่น นั่นคือความรักและอภัยต่างหาก นับวันเธอจึงเพิ่มศรัตรูขึ้นทุกวันตั้งแต่เด็ก จนปัจจุบันก็ยังมีคนที่ยังคอยตามคิดบัญชีเพื่อแก้แค้นเอาคืนกับเธอ เธอจึงคงว้าเหว่าและเป็นเด็กหญิงที่โดดเดี่ยวที่สุดในหมู่บ้านเพราะไม่สามารถคบหากับใครได้อย่างจริงใจ และต่างคอยระแวงกันอยู่ ก็ใครจะไปรู้ว่าจะโดนหมัดน็อกเมื่อไหร่ แม้แต่ฉันเองก็ยังเกรงๆเธออยู่ ถ้าเกิดไปทำอะไรให้เธอโกรธขึ้นมา ฉันก็คงมีสภาพไม่แตกต่างอะไรกับคนเหล่านั้น ดีที่ฉันเป็นนักวิ่ง ความเร็วอาจจะช่วยฉันไว้ได้บ้าง แต่ฉันก็ยังรู้ว่าเธอมีอาวุธลับตามมาอีก เพราะฉะนั้นนอกจากความเร็วเพียงอย่างเดียวคงยังไม่พอ คงต้องอาศัยจังหวะและทิศทางที่ดีด้วย...
เธอในวันนี้...ไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับเธอในวันนั้น ด้วยผลกรรมที่เธอชอบพูดโกหก ฟันของเธอจึงบิดเบี้ยวไม่ได้รูปและแปลกว่าคนทั่วไป เวลายิ้มจึงดูประหลาด ถ้าไม่ยิ้มจะไม่มีทางรู้ และการที่เธอเคยทอดทิ้งภรรยาและลูกๆอีก 3 คนให้ตกทุกข์ได้ยากอยู่กับความยากจน เธอจึงถูกทอดทิ้งและรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่ค่อยอยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ และกลัวการถูกทอดทิ้งเป็นที่สุด เธอจึงอกหักตั้งแต่เด็กซ้ำแล้วซ้ำเล่า หาคนรักจริงไม่ได้ ทุกคนต้องการคบเธอเพียงเพื่อผลประโยชน์ และฉันก็เช่นเดียวกันฉันคบเธอก็เพื่อผลประโยชน์นั่นคือการพาเธอเข้าสู่สัจธรรมเพื่อการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป  การที่เธอชอบมวยหรือการต่อสู้ พ่อของเธอในปัจจุบันซึ่งเป็นนักมวยจึงมักใช้เธอเป็นกระสอบทรายเสมอๆเวลาที่เมาเหล้า เธอเองก็ถูกหมัดน็อกมาหลายต่อหลายครั้งแล้วจนต้องพยายามหลบหนีออกจากบ้านหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง คงมีเพียงฉันกระมังที่สามารถพาเธอออกมาได้ด้วยการแต่งงานกับเธอ...สนุกไหมล่ะนักมวย...
เธอในวันนั้น...ชอบการพนัน เธอในวันนี้จึงชอบการแข่งขันและเป็นนักล่ารางวัล ไม่ชอบทำงานปกติที่คนเขาชอบทำกัน เธอจึงเรียนหนังสือตกๆหล่นๆ แต่กลับได้รับรางวัลมากมายจากการแข่งขันกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น การชอบการพนันและเจ้าชู้เป็นสาเหตุของการตายของเธอ เธอตายเพราะถูกลอบฆ่า ฆาตกรดักซุ่มอยู่หลังต้นไม้และยิงเธอด้วยปืน ขณะที่เธอกำลังขับรถมอเตอร์ไซด์คู่ชีพกลับบ้านเพื่อมาพบภรรยาและลูก นัดแรกคมกระสุนถูกยิงเจาะเข้าที่กึ่งกลางหลังของเธอ แต่เธอยังพยายามอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวดจากฤทธิ์บาดแผลฝืนขับรถมอเตอร์ไปได้อีกประมาณไม่ถึง 100 เมตร ตรงนั้นเป็นทางโค้งหักศอกการที่เธอเสียเลือดไปมากทำให้เธอหมดแรงเสียหลักพลาดท่าล้มลง ฆาตกรจึงติดตามมาได้ทันและใช้ปืนยิงซ้ำเข้าที่ศรีษะอีก 2 นัด กระสุนทะลุออกท้ายทอยเธอจึงเสียชีวิตคาที่ทันที ด้วยวัยเพียง 38 ปีด้วยเหตุนี้ปัจจุบันเธอจึงกลายเป็นคนที่กลัวเสียงดัง เช่น เสียงฟ้าร้อง เสียงปืน เสียงปะทัด เป็นต้น เมื่อภรรยาของเธอมาพบศพเข้าเธอถึงกับร่ำไห้แทบจะขาดใจเป็นลมล้มพับไปหลายรอบ และฉันก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น แต่ฉันยังเด็กมากด้วยวัยเพียง 3 ขวบจึงยังไม่รู้ประสีประสาอะไร แต่ก็ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้านับตั้งแต่กาลบัดนั้นมา ชื่อของฉันที่เธอเป็นคนตั้งให้ซึ่งจำเอามาจากชื่อรายการชิงแชมป์มวยในทีวีสมัยนั้น ฉันยังคงรู้ความหมายและที่มาของมันได้ดี บัดนี้เธอและฉันได้พบกันอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ในฐานะบิดากับบุตรแต่เป็นสามีกับภรรยา หากแต่ความรักยังคงเป็นเช่นเดิมดุจกาลก่อนมิเคยเปลี่ยนแปลงไปชั่วกัลปาวสาน...........
				
comments powered by Disqus
  • แก้วประภัสสร

    12 พฤษภาคม 2552 14:04 น. - comment id 104968

    นี่เป็นเรื่องจริง หรือแต่งขึ้นคะ อ่านแล้วทำให้นึกถึงเรื่องทวิภพเลยค่ะ 
    หากเป็นเรื่องจริง  ก็ถือว่าได้ทำบุญร่วมกันมา
    โชคดีที่สุดเลยค่ะ
    จะรออ่านเรื่องต่อไปนะคะ
    41.gif41.gif41.gif36.gif11.gif
  • ดาวล้อมดวง

    13 พฤษภาคม 2552 09:32 น. - comment id 104980

    ฉันคงไม่อาจปิดบังตัวตนของฉันอีกต่อไป
    ฉันอาจเป็นพ่อของเธอที่ถูกยิงตาย
    ฉันเคยเป็นหนูหยาดเพชร..นังตัวแสบที่คอยแกล้งเธอในบ้านกลอนไทยแห่งนี้
    กาลเวลานำพาเรามาพบกัน.....

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน