บทที่ 1 ปลายฝน ต้นหนาว ใครนะช่างเอ่ยคำนี้ได้ไพเราะจัง นี่ต้นเดือนพฤศจิกายนแล้วนะ ฝนก็ยังตกแบบลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ตกจนลืมว่าเป็นฤดูอะไรไปแล้ว ฉันชอบมองดอกดาวกระจายที่หน้ารั้วบ้าน มันจะบานล้อลมทุกครั้งที่เริ่มสัมผัสอากาศในฤดูหนาว แม้จะดูบอบบาง แต่ฉันว่ามันมีชีวิตชีวา ฉันชอบคุยและทักทายมัน ดูเหมือนมันก็จะรับรู้และส่งความสดชื่นตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน ...................แต่....เช้านี้ ฉันเดินผ่านหน้าบ้านเข้ามาด้วยอารมณ์ที่เหงาหงอย มันคงอยากถามฉันเหมือนกันว่าเป็นอะไร ถ้ามันถาม ฉันจะตอบว่า....ไม่มีอะไรหรอก ฉันเพิ่งตัดใจจากใครคนหนึ่ง....มา......ก็เท่านั้นเอง ตกลงมาทำไมนะฝน กระหน่ำลงมามากมาย น่าเบื่อ ซ้ำเติมฉันเหรอ เออ ซ้ำเติมเข้าไป คนโง่อย่างฉันเจ็บแล้วไม่จำ ใครเตือนก็ไม่เชื่อ สมน้ำหน้าตัวเองให้เขาหลอกใช้ แล้วเป็นไง สะใจไหม ที่เขาไปกับคนอื่น เอ...แต่ไม่มั๊ง ฟ้าคงไม่ได้ซ้ำเติมฉันหรอก เขาร้องไห้กับฉันต่างหาก ร้องไห้ให้พอใจ ฉันจะใช้น้ำฝนชะล้างน้ำตาและความเจ็บช้ำออกไปให้หมด จากนี้ฉันจะเป็นคนใหม่ อย่าหวังจะได้เห็นน้ำตาจากฉันอีก อย่าคิดว่าฉันจะอ่อนแออีก ขอบคุณนะ ฟ้า ที่หลั่งน้ำตามาเพื่อฉัน ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ เสียงแผ่วหายไปพร้อมลมหายใจที่เจ็บช้ำ ฉันหยิบรูปถ่ายขึ้นมาดู เป็นรูปที่ถ่ายไว้ก่อนปีใหม่ หมอกลอยอ้อยอิ่งระ ยอด ดงดอกกระเจียวก่อนที่พระอาทิตย์จะโผล่ขึ้นมาทักทาย มันหนาวเยือกจับใจ แต่แปลก ตอนนั้นหัวใจของฉันมันอบอุ่นอย่างประหลาด ฉันบรรจงถ่ายภาพชายหนุ่มคนนั้น เวลาที่สายตาคมเข้มคู่นั้น ยิ้ม หัวใจฉันเหมือนถูกสะกดทุกครั้ง มันบาดลึก ชาวาบ ไปทั่วร่าง แต่ก็มีพลังประหลาดวิ่งพล่านไปทั้งตัวเช่นกัน ...มันมีอำนาจมากเหลือเกิน เป็นความสุขลึก ๆที่ซ่อนงำไว้อย่างมิดชิดเบื้องหลังความรู้สึกที่เจ็บปวด ฉันดูภาพนั้นทุกวัน ผิดไหม ? ถ้าเราจะรักใครซักคนที่เขามีเจ้าของอยู่แล้ว........คงไม่นะ ...ถ้าไม่มีใครรู้...เธอไม่รู้ เขาไม่รู้....แต่มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ...แล้วทำไมฉันไม่หาใครซักคนที่จะฝากหัวใจไว้ได้ และเขาก็รักฉันโดยไม่ต้องเก็บงำความรู้สึก เช่นนี้ ฉันเองก็เป็นคนมีเสน่ห์คนหนึ่งในสายตาของผู้ชายอีกหลายคนที่ฉันไม่เคยสนใจ ไม่ใช่เหรอ ? บทที่ 2 เสียงเพลงแว่วหวาน เปิดมาตั้งแต่เช้าแล้ว ฉันถอนใจ เป็นระยะ ๆ มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาว่างเปล่า ไร้ความหมาย.... เย็นมากแล้ว แสงสีส้มที่โค้งขอบฟ้ายามตะวันลาลับเริ่มหม่นลงเรื่อย ๆ เหงาจัง ! วาเลนไทน์เหรอ? มันไม่มีความหมายซักนิดเดียว ถ้าไม่มีใครซักคน ก็มันจะมีความหมายอะไรล่ะกับคนที่มีหัวใจรักมากมายแต่บอกใครไม่ได้น่ะ ได้แต่แอบมองเขาไปกับคนอื่น ช้ำทุกทีที่เขามาปรึกษาเรื่องของเธอ ยิ่งแนะนำให้เขาดีกันได้เท่าไหร่ ก็ยิ่งทำร้ายหัวใจตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เจ็บนะ มันเจ็บลึก ๆ ช่างเถอะ อย่างน้อยก็ยังได้พูดจากันได้หยอกล้อ ต่อชีวิตไปอีกนิด แม้ว่าจะต้องเก็บงำความรู้สึกไว้ใต้สีหน้าเมินเฉยหน้านี้เพราะไม่อยากให้ใครอ่านออก เคยอยากหนีไปไกล ๆ แต่ทำไม่ได้ซักที อยากเห็นหน้าเขา สุดท้ายก็วนกลับมาใหม่ เหมือนมุมแมลง ชีวิตมันจะต้องจมอยู่อย่างนี้เหรอ ? ไม่หรอก...ต้องทำอะไรบ้างแล้วละ ฟ้ามืดแล้ว ฉันลุกขึ้นจากเตียงที่นอนเหยียดยาวอย่างเกียจคร้าน พร้อมกับการตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ที่ผ่านมารู้สึกตัวเองเหมือนซาก ๆหนึ่งที่เดินได้ไม่มีชีวิตจิตใจ แล้วทำไมเขาจะต้องมานั่งจมอยู่กับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ในเมื่อโลกนี้มีอะไรอีกตั้งหลายอย่างให้ทำ ฉันต้องเงยหน้ามองดูโลกกว้างและมองดูคนที่อยู่รอบ ๆข้างบ้างแล้ว......................./พี่ชารี..
5 พฤษภาคม 2552 11:01 น. - comment id 104834
แวะมาให้กำลังใจครับ สู้ๆ สู้ตาย *---*
6 พฤษภาคม 2552 01:51 น. - comment id 104835
ความรักเป็นเช่นนี้แหละค่ะ ให้ความสุข พร้อม ๆ กับความเจ็บช้ำ ยิ่งเป็นรักที่เรารักเค้า...ไม่เป็นใคร ไม่รู้หรอกว่าเจ็บแค่ไหน แต่ ความรักเค้ามีไว้เพื่อรัก มิใช่ไว้ ครอบครอง เราน่าจะสุขนะคะที่เห็น คนที่เรารักมีความสุข...แต่ในความ เป็นจริง มีแต่เราเท่านั้นที่รู้ เป็นกำลังใจให้กับคนที่มีความรักค่ะ