23 มีนาคม 2549 12:45 น.
เรียงร้อยเป็นเรื่องราว
"มาหาใครหรือน้อง" ดิ๊บถามเด็กชายที่ยืนเก้ง ๆ กัง ๆ อยู่หน้าประตูห้องเรียน
"มาหาพี่โบครับ" เด็กชายตอบ
"มันยังไม่มาเลยน้อง มีอะไรกับมันหรือเปล่าล่ะ" ดิ๊บบอกพร้อมทั้งถามออกมา
"พอดีพี่โบเขาลืมของไว้ที่ห้องพี่ชายผมน่ะครับ ถ้ายังไงฝากพี่ช่วยคืนพี่โบด้วยนะ
ครับ อ้อ...พี่ผมเขาซักให้เรียบร้อยแล้ว
นะครับ" เด็กชายบอก พร้อมกับยื่นถุงใบเล็ก ๆ ส่งให้ดิ๊บ แล้วจึงเดินไปจากตรง
นั้น ซึ่งการพูดคุยระหว่างดิ๊บและเด็กชายนั้น ได้อยู่ในสายตาของรุ้งและฝนที่
แอบดูอยู่ตลอดเวลา
"ขอบใจมาก เอานี่เงินกินขนม" รุ้งกล่าวพร้อมทั้งยื่นเงินให้เด็กชายไป 200
บาท
"ทำอย่างนี้มันจะดีหรือแก" ฝนถามอย่างลังเล
"เฉย ๆ ไว้เถอะน่า" รุ้งพูด
ทางด้านฝ่ายนายดิ๊บ พอได้รับของมา ด้วยความที่ถือว่าตนเป็นเพื่อนสนิท จึงได้
ถือวิสาสะหยิบของในถุงนั้นออกมา
"ไอ้หยา!" เพื่อน ๆ ในชั้นเรียนต่างพากันหันมามองนายดิ๊บ เพราะตกใจใน
เสียงร้องของเขา และทุกคนก็ต้องตกตะลึง เมื่อในมือของนายดิ๊บถือกางเกงในจี
สตริงอยู่
"ของเอ็งหรือว่ะไอ้ดิ๊บ" มีเสียงของเพื่อนชายคนนึงตะโกนถามออกมาจากหลัง
ห้อง
"เอ่อ เอ๊ย! ไม่ใช่โว้ย ของไอ้โบมัน" ดิ๊บบอก แต่พอเอ่ยชื่อเพื่อนก็ได้มีอันต้อง
สะดุ้งขึ้นมาอีกครั้ง
_ _ _ _
"ข้าต้องโดนใครสักคนแกล้งแน่นอน แต่ข้าไม่มีเคยมีศรัตรูที่ไหนนี่หว่า เอ...
หรือจะมีคนหมั่นไส้ที่ข้าเกิดมาหน้าตาหล่อ"
โบพูดแล้วจึงหันไปมองหน้าดิ๊บที่ตอนนี้ได้มองหน้าเขาอยู่ก่อนแล้ว
"เฮ้ย ถามอะไรหน่อยดิ" นายดิ๊บพูด
"เอ่อว่ามาดิ"
"ขนาดมันเล็กไป ใส่แล้วไม่อึดอัดหรือไงว่ะ" ดิ๊บถามด้วยสีหน้าที่แสดงความ
สงสัยอย่างเต็มที่
"ไม่อึดอัดหรอก เฮ้ย! ให้ข้าพูดอะไรเนี่ยตัวเองเดี๋ยวก็หยิกสะหรอก มันต้องมีคน
แกล้งข้าแน่" โบพูดพร้อมกับคิดไปว่า ใครกันนะที่เป็นคนกลั่นแกล้งเขา
"โว้ยยย !!! คิดไม่ออกใครกันว่ะ ที่แน่ ๆ ตอนนี้ทุกคนคงเข้าใจว่าข้าน่ะ ต้องมี
รสนิยมอย่างนั้นแน่ ๆ ช่วยข้าที่สิว่ะไอ้เพื่อนยาก"
"ให้ช่วยเลือกซื้อจีสตริงตัวใหม่ให้หรอ" ดิ๊บถามอย่างตีหน้าเซ่อ สักพักจึงได้มี
มะเหงกของนายโบเขกลงไปบนหัวดัง โป๊ก!
" ล้อเล่นเว้ย เอ็งลองนึกดูดี ๆ สิ ไปสร้างศรัตรูไว้ที่ไหนป่ะ"
"เอ่อ! คิดออกแล้ว"
"ใครว่ะ"
"ข้าว่าต้องเป็นยัยลูกคุณหนูหลักหมื่อนแน่"
"เอ็งแน่ใจ"
"ยิ่งกว่าแน่เสียอีก"
_ _ _ _
"เธอใช่ไหมที่เป็นคนทำ" โบถาม เมื่อยืนเผชิญหน้ากับรุ้งในโรงอาหาร
"ทำอะไรหรอ" รุ้งย้อนถามพร้อมกับาตีหน้าเซ่อ
"ตกลงจะไม่ยอมรับใช่ไหมเนี่ย"
"ใช่สิย่ะ ว่าแต่ว่าฉันไปทำอะไรให้นายหรอ นายยาจก"
"เรียกคนอื่นเขาแบบนี้ วิเศษนักหรือไง เธอสร้างเรื่องไม่จริงขึ้นมาให้ฉันอับ
อายขนาดนี้ ดูสิ ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ฉันยังต้องเรียนที่นี่อีก 2 ปีกว่า ๆ นะ"
"นั่นมันเรื่องของนายไม่เกี่ยวกับฉัน ถอยไปได้แล้ว ฉันจะไปกินข้าว ไม่อยาก
เสียเวลาคุยกะคนระดับอย่างนาย"
รุ้งพูดพลางแกล้งเอาไหล่ของตัวเองชนให้นายโบได้เซ พร้อมกับเดินไปจากตรง
นั้นกับฝน
"ฝากไว้ก่อนเถอะ"
และแล้วข่าวคราวเรื่องกางเกงในจีสตริงของนายโบ ก็เป็นที่กล่าวขานกัน
ไปทั่ว ไม่ว่ารุ่นน้อง รุ่นพี่ หรือจะเป็นรุ่นเดียวกัน ต่างเอามาวิพากษ์วิจารณ์ เป็น
ที่สนุกปาก ใครที่สนิทกับนายโบ ก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่เพื่อนโดนกลั่นแกล้ง แต่
ใครที่ไม่รู้จัก ต่างก็พากันพูดกันให้สนุกปาก เวลาที่นายโบเดินผ่านไปทางไหน
จะมีสายตาและเสียงซุบซิบนินทาอยู่ตลอด บ้างก็โดนถาม โดนแซว ให้ต้องอับ
อายขายหน้า
"โธ่! เพราะยัยนั่นคนเดียวที่ทำให้ชีวิตข้าป่นปี้ถึงเพียงนี้ คอยดูนะข้าต้องเรียก
ความเป็นชายชาตรีกลับคืนมาให้ได้"
17 มีนาคม 2549 15:31 น.
เรียงร้อยเป็นเรื่องราว
เนื้อหา "ถ้างั้นที่พี่โบเขาบอกว่าแกไปขอเบอร์เขา พี่แกก็แหลขึ้นมาน่ะสิ" ฝนพูดขึ้นมา
ในเช้าวันหนึ่ง
"ก็ใช่น่ะสิ คอยดูฉันจะเอาคืนให้เจ็บแสบไปเลย" รู้งพูดพร้อมด้วยแวว
ตาที่มุ่งมั่นอย่างเต็มที่
"แต่แกไปหาเรื่องเขาก่อนนี่หว่า จะไปโทษพี่เขาก็ไม่ถูกนะ"
คำพูดของฝนทำให้รุ้งต้องหยุดเดินอย่างฉับพลัน และหันหน้ามามองเพื่อนด้วย
ความไม่พอใจ
"นี่ฉันเป็นเพื่อนแกนะฝน!"
"ฉันก็ไม่เถียง ว่าฉันน่ะเพื่อนแก แต่การที่แกไปดูถูกพี่เขาน่ะ มันไม่ใช่
เรื่องดีเลย"
ดูเหมือนว่าคำพูดของฝนมันไม่ได้ไปสะกิดอะไรให้รุ้งได้คิดเลยสักนิด
"ใครว่าฉันดูถูก ฉันพูดไปตามเนื้อผ้าที่เห็นต่างหาก " รุ้งพูดขณะที่หย่อน
ก้นลงบนม้าหินที่ตั้งอยู่อยู่ใต้ต้นหูกวาง
"นี่ตกลงแกจะต้องเอาคืนพี่เขาให้ได้ใช่ไหม"
"แน่นอน คนระดับอย่างฉันนะ ไม่มีทางให้พวกกระจอกมาทำอะไรเน่า
ๆ ใส่หรอก"รุ้งพูดพร้อมมือที่หยิบฝรั่งที่ซื้อจากรถเข็นหน้ามหาวิทยาลัยใส่เข้าปาก
ไป
ฝนแอบส่ายหน้าอิดหนาระอาใจกับนิสัยข้อนี้ของเพื่อน ที่ทระนงคิดว่าตน
เองนั้นสูงศักดิ์กว่าใคร ทั้งที่ความจริงมีข้อดีมากมายที่อยู่ในตัวของเพื่อนคนนี้ ที่
ทำให้เธอรู้สึกรักและคบมาได้นาน ถ้าเอานิสัยที่คิดว่าตัวเองเลิศหรูเกินใครได้
รุ้ง...เพื่อนคนนี้ของเธอจะเป็นคนที่น่ารักมากคนหนึ่ง บางทีอาจจะมีเจ้าชายสัก
คน มาแก้คำสาบให้ พร้อมกับขอยัยรุ้งแต่งงานครองรักกันอยู่ในปราสาทก็เป็น
ได้ แต่เอ....แล้วใครกันนะจะเป็นเจ้าชายคนนั้น
_ _ _ _
"ที่มหาลัยนี้เขาให้นักศึกษาหญิงแต่งชุดนักศึกษาชายได้ด้วยหรอ"
เสียงของนักศึกษาหญิงคนหนึ่งกำลังพูดกับเพื่อนของเธอ ขณะนั่งคุยกันอยู่ตรง
บริเวณสนามบอล
"ไม่ม่มีหรอกมั้ง ที่ไหนเขาจะอนุญาตกัน" เพื่อนของนักศึกษาหญิงคนนี้
พูดออกมา
"มีสิทำไมจะไม่มี โน้นไง คนที่อยู่ในกลุ่มใหญ่ที่กำลังเดินมาทางนี้ไง"
นักศึกษาหญิงบอก มือก็ชี้ให้เพื่อนดูกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินวางมาดมาอย่างสง่า
เหมือนกับในหนังแนวเจ้าพ่อมาเฟียยังไงยังงั้นทีเดียว
"เอ่อจริงด้วย น่าสนเหมือนกันนะ ที่จะแต่งแบบนี้บ้าง จะได้ทะมัดทะแมง
หน่อย" เพื่อนของนักศึกษาหญิงพูดออกมา
"ฉันเห็นด้วยจ๊ะ เราลองไปถามถึงระเบียบการกับพี่เขาดูดีกว่า ว่าต้องทำ
ไงบ้าง เพราะมาใส่ชุดนักศึกษาชายอย่างนี้ ต้องทำการขออนุญาตจากอาจารย์
ฝ่ายปกครองก่อนแน่เลย"
แล้วทั้งสองสาวจึงได้จูงมือกันกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาพวกรุ่นพี่กลุ่มนั้น
"พี่คะ พี่คะ"
"เฮ้ยมีสาวมาว่ะ" นายอ๋าร้องบอกกับพรรคพวก พลางจึงหันมาถามสอง
สาวที่ตอนนี้ได้มายืนอยู่ตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อย
"พวกน้องสองคนมีอะไรกับพวกพี่หรือเปล่าจ๊ะ"
"คือ พวกหนูสองคนอยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการขออนุญาตใส่
เครื่องแบบนักศึกษาชายน่ะคะ"
คำพูดที่เอ่ยออกมาทำให้พวกรุ่นพี่ทั้งหลาย ต่างพากันมองหน้าด้วยความงุนงง
"น้องจะใส่เครื่องแบบนักศึกษาชายหรือครับ" นายอ๋าถามออกมาด้วย
ความรู้สึกที่ยังงงอยู่
"คะ" สองสาวส่งเสียงขึ้นมาเกือบพร้อมกัน
"จะดีหรือครับน้อง" นายอ๋าถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
"ดีสิคะ ทีเพื่อนพี่คนนี้ยังแต่งได้เลย"
เพียงเท่านั้นแหละเมื่อทุกคนต่างรู้ว่านี่คือการเข้าใจผิด ที่ทำให้ทุกคนพากัน
หัวเราะด้วยความขบขันไปตามกัน จะเว้นก็เสียแต่นายโบเพียงผู้เดียว ซึ่งไม่มี
อารมณ์ร่วมเอนจอยด้วยแต่อย่างใด
"หัวเราะกันพอได้แล้วเว้ยคุณเพื่อนทั้งหลาย"
"อ้าว! นี่พี่เป็นผู้ชายหรอกหรอคะเนี่ย"
สองสาวโพลงออกมา คำพูดของพวกเธอสองคน ทำให้นายโบแทบทรุดลงไปกอง
กับพื้น
ท่ามกลางผู้คนมากหน้าหลายตา ที่ต่างพากันมาจับจ่ายใช้สอยในห้างแห่งนี้ ได้มี
ร่างของใครคนหนึ่ง แม้ดูไม่ต่างอะไรจากคนอื่น แต่ท่วงท่าในการก้าวเดินอัน
เฉิดฉาย คอที่ตั้งตรง หน้าที่เชิด รวมไปถึงเสื้อผ้า เครื่องประดับที่สวมใส่ ทำให้
รุ้งดูเด่นสะดุดตาอย่างไม่ยากนัก ไม่ว่าจะย่างก้าวไปที่ใด ก็เป็นที่หมั่นไส้ของใคร
ต่อใครที่ได้พบเห็น
"ฉันอยากได้เสื้อในสักตัว สองตัว เข้าไปดูกันเถอะ" ฝนไม่ชวนเปล่าจูง
มือรุ้งให้ตามไปยังแผนกชุดชั้นในด้วย
รุ้งปล่อยให้เพื่อนลองเสื้อในอยู่ในห้องลองเสื้อผ้า ส่วนตัวเองออกมาเดินดูของอยู่
แถว ๆ นั้น เธอเดินดูเรื่อยไป จนมาถึงแถว ๆ กางเกงในสตรี และนี่เองที่ทำให้
เธอบังเกิดไอเดียบรรเจิดในการแกล้งคนแล่นขึ้นมาในหัวทันที เมื่อเธอหยิบ
กางเกงในจีสตริง เนื้อบาง ที่แสนจะหวาบหวิว ขึ้นมาไว้ในมือ
"นายเสร็จฉันแน่! นายหน้าหวาน" รุ้งกล่าวกับตัวเอง
16 มีนาคม 2549 20:01 น.
เรียงร้อยเป็นเรื่องราว
"ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก....!"
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างถี่ยิบ ปลุกให้โบตื่นจากหลับใหล เขาลุกจากเตียงเดิน
ไปเปิดประตู โดยที่ไม่ส่งเสียงถาม
สักคำว่า ผู้ที่มารบกวนแต่เช้าเป็นใคร
"ทีหลังก็มานอนนี่เลยสิว่ะ"
โบพูดเป็นแกมประชดนิด ๆ ทว่า ไม่ได้สร้างความรู้สึกรู้สาอะไรให้หนุ่มผมทอง
แต่หน้ากระเดียดไปทางอาตี๋สักนิด กับ
สร้างความดีใจให้เสียด้วยซ้ำ
"ดีสิ!"
ดิ๊บกล่าวออกมาพร้อมกับสีหน้าอันกระดี๋กระด๋าอย่างเห็นได้ชัด ไม่สนว่าตัวเองจะ
ถูกสาบแช่งด้วยความน่าสะพึงกลัวเช่น
ไร
" เจ้าประคุณ! ขอให้มันกลั้นตดไม่อยู่ต่อหน้าสาธารณะชนทีเถอะ"
_ _ _ _
ณ. ระเบียงนอกห้อง
"เมื่อคืนข้าฝันร้ายว่ะ"
โบบอกออกมา พร้อมกับเสียงสต๊าร์ทรถมอร์เตอร์ไซด์ของใครสักคน ที่ดังขึ้นอยู่
ข้างล่างแมนชั่นที่เขาอาศัย
"ฝันว่าไงบ้างว่ะ เล่าให้ฟังทีสิ"
ดิ๊บถามอย่างใคร่รู้ มือก็ฉีกปาท่องโก๋ พรากออกจากคู่ของมัน จิ้มนมข้นหวาน ใส่
ปากเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างเอร็ดอร่อย..........
เมื่อความฝันถูกเล่าจบ เสียงฮาจึงระเบิดออกมาจากปากของดิ๊บทันที
"ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า....!"
"เป็นเกียรติแก่เกล้ากระหม่อมเป็นยิ่งนัก ที่เช้านี้ได้ร่วมเสวยปาท่องโก๋กับองค์
หญิงสโนไวท์"
"ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!....อุ๊บส์!!"
เสียงหัวเราะถูกเบรคพรึดทันที เมื่อเริ่มรู้สึกได้ถึงชะตาที่กำลังจะขาดของตัวเอง
แต่ถึงกระนั้นก็มิวายที่จะแอบคิดว่า ฝันนี้
ช่างเหมาะกับหน้าหวาน ๆ ของเพื่อนเสียเหลือเกิน
"มาทำไมแต่เช้าว่ะ" โบถาม
"วันนี้มีประชุมรับน้อง ลืมแล้วสิเอ็ง" ดิ๊บพูด
"เอ่อลืม แล้วประชุมกันที่ไหนล่ะ"
"บ้านยัยเหมี๊ยว"
_ _ _ _
ณ. มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย และเสียงกรี๊ดกร๊าดกระตู้วู้ ของน้อง ๆ
ได้สร้างสีสรรให้กับงานที่เหล่าบรรดารุ่นพี่ทั้งหลาย
ที่ช่วยกันจัดขึ้นเพื่อน้อง ๆ ทุกคน พวกเขาต่างพากันสนุกสนานกับเกมส์ต่าง ๆ
ที่รุ่นพี่จัดหามาให้เล่น และต่างพร้อมใจกันอวดโฉมหน้าของตน
ที่ถูกบรรดารุ่นพี่ทั้งหลาย ละเลงสีให้ด้วยความเอ็นดู
"เฮ้ย ขอตัวไปปล่อยของเสียก่อนนะ" โบส่งเสียงบอกเพื่อน ๆ
ก่อนที่จะเดินออกไปจากกลุ่ม ท่ามกลางสายตาของเพศเดียวกัน ที่ทำให้เขาอยาก
จะแจกหมัด สักหมัดสองหมัด กับสายตาที่มองเขาเหมือนกับว่า เขาคือนางแบบ
สาวสวยที่เริงร่าในชุดทูพีซ
_ _ _ _
"โครม!"
!" โอ๊ย!"
" ขอโทษครับ เป็นอะไรหรือเปล่า"
" นี่นาย! เดินประสาอะไรน่ะ เข้ามาชนกระเป๋าฉันได้ รู้ไหม? ว่ามันราคาเท่าไร
กระเป๋าใบนี้ราคาหลักหมื่นนะยะ ซอมซ่ออย่างงี้
ไม่รู้ว่าจะมีปัญญาซื้อมาใช้หรือเปล่า อย่างมากก็แค่ 199"
นอกจากจะเข้าไม่ถึงความเป็นห่วงของเขา ว่าจะเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า
หญิงสาวยังมาดูถูกดูแคลนเขาอีก ดีนะที่เป็นผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายล่ะก็
คงได้แหลกกันไปข้าง
"นี่แม่คุณ ไม่มีใครเขาให้พูดหรือไง ถึงได้เก็บกดมากขนาดนี้น่ะ"
โบโพลงใส่เข้าไปบ้างอย่างไม่เกรงกลัว
"นี่นาย! ฉันเป็นลูกคุณหนูนะ กรุณาใช้วาจาให้สุภาพด้วย"
หญิงสาวต่อว่าต่อขานขึ้นมาด้วยความโกรธ
"อุ๊ย! ต๊าย...ตาย ลูกคุณหนู" โบพูดจาล้อเลียนพร้อมกับทำท่าทางสะดีดสะดิ้ง
ที่ไม่ได้เรียกว่าน่ารัก
แต่เรียกว่าน่าประทับรอยพระบาทไว้บนบั้นท้ายเสียมากกว่า
เรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้คนที่เริ่มเข้ามามุงดูเหตุการณ์ด้วยความสนใจ
"แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้ ก็ขึ้นหิ้งบูชาเสียเลยสิคร๊าบบ...คุณหนู"
คราวนี้ได้เรียกเสียงฮาให้กับผู้คนยิ่งขึ้นไปอีก
ซึ่งสร้างความอับอายให้กับหญิงสาวไม่น้อย
ด้วยความที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านั้น
จึงต้องทำทีเป็นเชิดหน้าเพื่อรักษาฟอร์มของตนไว้ แล้วเดินไปจากตรงนั้นทันที
แต่ก็ยังมิวาย มีเสียงของนายโบไล่ตามหลังไปติด ๆ
"ลูกคุณหนู กินน้ำเขียว หรือน้ำแดง เดี๋ยวจะจัดถวายให้นะคร๊าบ"
_ _ _ _
"เป็นไรไปว่ะยัยรุ้ง หน้างอมาเชียว" ฝนเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
เพราะตอนที่เพื่อนขอตัวไปโทรศัพท์ หน้าตายังระรื่นอยู่เลย แต่ไหงพอกลับมา
ดันแบกม้าหมากรุกไว้บนหน้าด้วยก็ไม่รู้
"ก็ฉันไปเจอคนกวนประสาทมาน่ะสิ" รุ้งบอก
"ใครว่ะ ผู้หญิง หรือผู้ชาย" ฝนถามด้วยความอยากรู้
"ผู้ชาย แต่หน้าหวานเหมือนผู้หญิง" รุ้งบอก สักพักเรื่องราวที่เพิ่งเกิด
จึงได้พรั่งพรูออกมาจากปากของหญิงสาว พร้อมกับเท้าที่ก้าวเดินไปพร้อมกับ
เพื่อน
เพียงไม่นานก็มาถึงกลุ่มที่ตัวเองกับเพื่อนกำลังตามหาอยู่อย่างไม่รู้ตัว
"อ้าว! นี่ไงกลุ่มที่เราตามหาอยู่นี่เอง" ฝนส่งเสียงบอกออกมาอย่างดีใจ
เมื่อมองเห็นป้ายกลุ่มเด่นตระหง่านอยู่ตรงหน้า
พลางจูงมือเพื่อนตรงเข้าไปยังกลุ่ม
"เฮ้ย! สวยว่ะ" เสียงของนายดิ๊บ ต่างเรียกความสนใจของเพื่อน ๆ
ให้หันมามองตามสายตาของเขา
และแล้วภาพของหญิงสาวสองคนที่กำลังหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างน่าเอ็นดู
ก็พาให้หัวใจของบรรดาชายหนุ่มทั้งหลาย แทบหลอมละลายไปตาม ๆ กัน
"ยินดีต้อนรับสู่กลุ่มของเราครับ"
ดิ๊บส่งเสียงพร้อมกับตัวที่เดินเข้ามาหาสองสาวแต่ไกล
"น้องสองคนชื่ออะไรกันบ้างครับนี่"
เขาส่งเสียงที่คิดว่าหล่อที่สุดถามออกมา พร้อมกับส่งสายตาอันแสนเจ้าชู้ไปยังฝน
ฝนเองที่รู้สึกชอบรุ่นพี่คนนี้อยู่ในที จึงได้เล่นหูเล่นตาด้วย อย่างพองาม
"ฝนคะ นี่เพื่อนสนิทรุ้ง"
"แหม ฝนกะรุ้งชื่อคล้องจองกันดีนะครับ
แต่พี่ว่าชื่อของน้องฝนคล้องจองกะพี่มากกว่านะ" ดิ๊บพูดออกมา
"แล้วพี่ชื่ออะไรหรอคะ" รุ้งถาม
"พี่ชื่อดิ๊บครับ" คำตอบนี้ ทำให้สองสาวแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่ทัน
ต่างพากันพยายามส่งยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดออกมา
เพื่อกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเอง
"จริง ๆ มันไม่ได้ชื่อนี้หรอกน้อง เดิมทีมันชื่อติ๊บ หรือเรียกเต็ม ๆ
ว่ากระติ๊บ ๆ ที่ใส่ข้าวเหนียวน่ะน้อง แต่กลัวจะไม่อินเตอร์เนชั่นแนลอย่างเขา
ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นดิ๊บ"
" ไอ้เหมี๊ยวแก...ตาย!!!!" พอสิ้นเสียงนายดิ๊บก็ไล่กวดแม่เพื่อนสาวตัวดี
เพื่อหวังจะเขกหัวเสียให้หนำใจ โทษฐานที่ทำให้อับอายขายหน้าต่อหน้าน้องฝน
ภาพไล่กวดของสองคนนี้ ได้ทำให้ต่อมหัวเราะของบรรดารุ่นพี่และรุ่นน้อง
ต่างพากันเปิดออกมาอย่างครื้นเครง
"ยัยรุ้ง ดูผู้หญิงผมยาวที่กำลังเดินมาสิ สวยกว่าแกอีกว่ะ"
รุ้งกวาดสายตามองหาบุคคลที่เพื่อนบอก และแล้วอารมณ์เดือดที่ได้หยุดนิ่งมา
นาน
ก็ได้บังเกิดขึ้นมาอีก เมื่อคนที่เพื่อนพูดถึงนั้นคือ
"เจอกันอีกแล้วนะครับ"
"อ้าว...นี่เอ็งรู้จักกะน้องรุ้งเขาด้วยหรือว่ะ" ดิ๊บถาม
"ก็น้องเขาน่ะสิ เมื่อก่อนหน้านี้ มาขอเบอร์มือถือจากข้า พี่โบอย่างนั้น
พี่โบอย่างนี้ นะคะ นะขา ออดอ้อนจนข้าใจอ่อน มีหรือที่ข้าจะปฏิเสธ
และน้องเขาก็ชวนข้าคุย เพื่อสร้างสัมพันธไมตรี"
นายโบได้สร้างเรื่องขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉย จึงทำให้น้ำได้เดือดอย่างเต็มที่
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะโดนน้ำที่กำลังเดือดใหม่ ๆ สาดเข้าใส่หน้า
เสียงของเพื่อนบางคน ก็ได้ช่วยชีวิตเขาขึ้นมา
"โบ...ขอเสียงหล่อ ๆ ของนายมาช่วยร้องเพลงใส่โทรโข่งหน่อยสิ
เสียงของฉันมันเกือบจะระบบอยู่แล้ว"
"ขอตัวก่อนนะครับคุณหนูหลักหมื่น"
โบกล่าวพลางส่งใบหน้าอันทะเล้นส่งยั่วอารมณ์โมโหใส่รุ้ง
รุ้งเองก็ได้แต่ยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ
พร้อมกับส่งเสียงอาฆาตมาดร้ายขึ้นในใจ
"วันนี้เป็นทีของนาย แต่คราวหน้า และคราวต่อไป เป็นทีของฉันบ้าง คอยดู!!!!"