27 ตุลาคม 2550 22:53 น.
เมยานี
A : เอ.. ไยมิสร้างทางสว่างสวรรค์
B : บีฑากันมิคิดแม้จะแลจะเหลียว
C : ซีนะที่ทำชีวิตให้ซีดให้เซียว
D : ดีแต่แสร้งกลมเกลียวประเดี๋ยวประด๋าว
E : อีปากหมาหันซ้ายขวาก็บ้าก็บ่น
F : Ever ก่นด่าให้เจ็บให้เหน็บให้หนาว
G : จีรังก็ที่ขมขื่นปากยื่นปากยาว
H : เฮ็ดให้คนโกยอ้าวจะด่าวจะดิ้น
I : ไอพิษคำชวนสำลักกระอักกระอ่วน
J : เจ-ต-คติก็เลวล้วนมิสุดมิสิ้น
K : เคหาแม้นสามารถฟังสิพังสิภินท์
L : L-I-E ล้วนจากลิ้น.. อนาถอนงค์
M : Embitterment ไม่เคยคิดว่าผิดว่าถูก
N : Enchantment สุดจะผูกให้ลุ่มให้หลง
O : โอ.. น้ำคำทำชีวิตจะปลิดจะปลง
P : People คงหน่ายจะคิดระอิดระอา
Q : Cupid สุดเปลี่ยนใจมัวที่ชั่วที่ชาติ
R : อาละวาดพวกศัตรูเหมือนหมูเหมือนหมา
S : Essence คือมันรกโลกกะโหลกกะลา
T : ทีหลังไม่ต้องรอท่าพะว้าพะวัง
U : Unify ร่างเจ้าหล่อนกับดอนกับดิน
V : วีรกรรมหล่อนคงสิ้นหยุดคลุ้มหยุดคลั่ง
W : ดับ Beauty ลวงอย่าช้าละล้าละลัง
X : Extort ดังให้โลกล่มถล่มทลาย
Y : วายวอดแล้ว เอ้า.. เหล้าเติมเฉลิมฉลอง
Z : Zealously ผู้คนร้องมิเหนื่อยมิหน่าย
จบแล้วที่ต้องหมองหม่นทุรนทุราย
สุขสบายไม่ต้องนั่งระวังระไว
"เมยานี"
27 ต.ค. 2550
26 ตุลาคม 2550 12:47 น.
เมยานี
เธอ.. กลับมาบอกว่าอย่าเคืองโกรธ
เธอ.. ขอร้องว่ายกโทษให้ได้ไหม
เธอ.. ออดอ้อนวอนว่าให้อาลัย
เธอ.. บอกว่าเธอเสียใจที่ผ่านมา
จากวันที่เธอจากไปใครพร่ำเพ้อ
ใครละเมอใครเล่าคอยละห้อยหา
มิอาจพร่ำรำพันพรรณนา
ความเจ็บปวดในอุรามาให้ฟัง
อยู่กับเขาสุขเพียงใดฉันไม่รู้
แต่ฉันถูกทอดทิ้งอยู่เพียงข้างหลัง
มีเพียงภาพสองเราเข้าประดัง
เข้านอนทั้งน้ำตาทุกราตรี
ตราบคืนวันผันผ่านเนิ่นนานนัก
ลืมเจ็บปวดเพราะรักที่พรากหนี
เยียวยาแผลในดวงใจจนหายดี
หลายขวบปีจนวันนี้ที่เธอมา
ความสัตย์ความรักไม่มีในชีวิต
คิดหรือคิดว่าเธอนั้นฉันห่วงหา
รักแท้รักนิรันดร์ฝันทิวา
ที่สุดที่ลืมตาน้ำพร่านัยน์
กลับเถอะกลับไปอยู่กับคนนั้น
อย่าเว้าอย่าวอนกันให้หวั่นไหว
สุดแล้วสุดโหยหาและอาลัย
ไม่แล้วไม่มีวันฉันกลับคืน!
"เมยานี"
26 ต.ค. 2550
24 ตุลาคม 2550 19:24 น.
เมยานี
เกินยั้งยุดสุดแสร้งแกล้งสันต์สรวล
ด้วยปั่นป่วนครวญคร่ำถึงคำหวาน
ที่เขาแนบแอบซ่อนในกลอนกานท์
เพียงเพลิงผลาญแผดเผาเร้าอารมณ์
ให้ครวญคลั่งดังพิษชิดน้ำผึ้ง
แสนซาบซึ้งโศกเศร้าเคล้าขื่นขม
มิอาจเปรียบเทียบน้ำค้างที่พร่างพรม
ด้วยน้ำตาเพราะคารมคมของคำ
ยินเพียงกลอนเว้าวอนไว้ใจเจียนขาด
ดุจก้าวพลาดขาดตรองตรึกลึกถลำ
ราวร่างลับรวดเร็วลงเหวกรรม
ให้ชอกช้ำเพราะคำพ้อพ่อกวี
ปานจักตกหลุมรักในอักษร
ที่เว้าวอนฉะอ้อนรักเกินจักหนี
แสนคำพลอดจวนมอดม้วยด้วยวจี
สุดโศกีประหนึ่งว่าชีวาวาย
ยามยลคำพร่ำถึงรักพรากจิตแจ้ง
เฉกสุรีย์ที่ร้อนแรงสิ้นแสงฉาย
เช่นโสมสิ้นผินลับฟ้านัยน์พร่าพราย
ดุจดาวดับก็คลับคล้ายใจขาดรอน
แล้วจักทำฉันใดเล่าใจนี้
รินระทวยด้วยกวีศรีอักษร
วะวับหวามตามวาจาเขาว่าวอน
ถึงบังอรผู้จรจากสิ้นภักดี
มิอาจลืมลบคำที่ฉ่ำหวาน
ที่เขาเขียนเพียรจารเป็นสารศรี
คะนึงมิตรคิดจักขอต่อไมตรี
แม้นรู้ดีมิใช่เราที่เขาครวญ
"เมยานี"
24 ต.ค. 2550
27 สิงหาคม 2549 19:56 น.
เมยานี
ไม่อาจเอื้อมดวงจันทร์มาสรรค์สร้าง
เป็นโคมทองส่องทางสว่างไสว
ไม่อาจเอื้อมสุริยาบนฟ้าไกล
มามอบให้ดูเล่นเป็นกำนัล
ไม่อาจเอื้อมดารามาเรียงร้อย
เป็นสายสร้อยคล้องใจดังใฝ่ฝัน
ไม่อาจเอื้อมฟากฟ้านภาพรรณ
มาคลี่ห่มให้กันยามหนาวกาย
ไม่อาจรั้งเรียวรุ้งมาปรุงแต่ง
เป็นคำให้ฤทัยแจ้งมิรู้หาย
ไม่อาจหยิบแม้เศษของเม็ดทราย
มาหลอมแก้วพรรณรายและพรายพรรณ
ไม่อาจคว้าดวงหทัยมาใกล้ชิด
เป็นเพราะรักหากไร้สิทธิ์จะคิดฝัน
ไม่อาจเด็ดดอกฟ้าค่าอนันต์
มาร่วมเรียงเคียงชีวันฉันได้เลย..
9 สิงหาคม 2548 19:04 น.
เมยานี
อยากให้เธอพอเสียทีกับการตีสองหน้า
ที่เธอหลอกกันตลอดมาเพราะคิดว่าฉันโง่ใช่ไหม?
เอาเรื่องโกหกมาหลอกกันหรือเธอคิดว่าฉันไม่รู้อะไร?
เธอถึงเอาเรื่องแต่งใหม่มาพ่นใส่ให้ฉันทุกที
อยากเข้าไปบอกให้เธอหยุดทำสงครามน้ำลาย
เพราะฉันไม่มีวันให้เธอทำร้ายด้วยเรื่องใด ๆ ที่เธอใส่สี
เธออาจจะคิดว่าที่โกหกกันคงทำให้ฉันรู้สึกดี ๆ
แต่ขอโทษที.. ฉันคนนี้ไม่เหมือนใครที่เธอเคยเจอ
สิ่งที่รู้มาต่อให้คนเบาปัญญายังคิดออก
ก็เรื่องที่เธอไม่คิดจะบอกมันยังหลุดปากเวลาเผลอ
ฉันคิดเองได้และไม่คิดเชื่อคำใด ๆ จากคนโกหกอย่างเธอ
นึกไม่ถึงล่ะเหรอ?.. ว่าคนที่โง่มาเสมอจะกล้าตัดเธอในสักวัน
ในเมื่อเคยเป็นคนดีแต่เธอก็ไม่มีจะมาเห็นค่า
กลับทำร้ายกันเรื่อยมาด้วยการพ่นเรื่องบ้า ๆ ใส่ฉัน
ในเมื่อที่ผ่านมาเธอไม่เคยคิดจะรักษาน้ำใจกัน
เพราะฉะนั้นวันนี้ฉันจะไปรักษาน้ำใจเธอทำไม?
ถ้าเรื่องของเรามันเหลือทนก็ขอให้เราสองคนจบกันเสียที
ไปคอยปกป้องซะสิ.. คนคนนั้นที่เธอคิดว่าใช่
อย่ามายุ่งกับฉัน.. ถ้าบังเอิญเจอกันก็ให้ช่วยไปไกล ๆ
อย่าเข้ามาถามไถ่.. เพราะฉันไม่อยากฟังอะไรจากเธอแม้ครึ่งคำ