16 ตุลาคม 2553 23:57 น.

(หมา)นุษย์

เมธาวีรำลึก





(หมา)นุษย์

มนุษย์นั้นสุดแสนคาดหยั่งความคิด
ในดวงจิตยิ่งเลวร้ายคล้ายปีศาจ
ชอบกินรักฤทธิ์กามบ้าอำนาจ
ความสะอาดในด้านมืดน่ากลัวนัก

สัตว์ประหลาดในโลกาทั่วฟ้าแดน
มิอาจเทียบกิเลสแสนเกิดจากรัก
ผลิความเห็นแก่ตัวเอาเป็นหลัก
น่ากลัวนักสักว่าคนน่าหวั่นไหว

ทำอะไรได้เลวร้ายคล้ายสุนัข
จะเลือกรักก็แต่คนที่ใส่ใจ
ไม่แลสนผู้คนที่ยากไร้
ไม่มีใครเอื้ออาทรอ่อนให้กัน

ก่อสงครามเพราะความใฝ่กิเลส
เคารพกามทุเรศกิเลสรั้น
ยินดีในกามารมณ์ขมขื่นกัน
แล้วขบขันข่มขืนฝืนกายใคร่

เห็นแก่ตัวเย็นชาจนหน้าด้าน
แถมเลวพาลจะชักต่ำคนดีไว้
ความอิจฉาริษยานี้แหละไง
ที่มันก่อสงครามไว้เกินใครแก้

ความโหยหิวท้องกิ่วเกินพอดี
ระริกรี้ในกลกามความอ่อนแอ
ยอมต่ำทรามกามทรามยากกลแก้
รุมโทรมแลล่อฟันเด็กอย่างมันเมา

ทุนนิยมใครชื่นชมก็รู้อยู่
ว่าสังคมอุดอู้ดูหมองเศร้า
เพราะมีการแข่งขันกันเองเรา
จะมาเล่าสารทุกข์กันทำไม

นรกเอ๋ยไม่เคยเห็นใครกลัว
ไฟสลัวความน่ากลัวน่ะจริงมั้ย
หรือว่าโลกใบนี้ไม่มีอะไร
ทำเลวทรามยังไงไร้ผลกรรม

หรือว่าโลกถูกความมืดที่คือชั่ว
ความน่ากลัวปกสลัวโลกบอกช้ำ
หรือโลกนี้มันไร้จิตแห่งธรรม
คนจึงกล้ำชั่วซ้ำทำทุกวัน

หรือว่าโลกแสนโศกนี้ว่างเปล่าจริง
แทบทุกสิ่งความจริงคือแค่ฝัน
จะทำชั่วยังไงในทุกวัน
จะหวาดพรั้นกลัวบาปไปทำไม

ว่างกระจ่างความจริงไร้ผลกรรม
ว่างจะสร้างความบอกช้ำใครก็ได้
ว่างจะฆ่าข่มขืนแสนสบาย
โอ้ละม้ายคล้ายสวรรค์ชั้นทุรยุค

คนมันเลวใจดิ่งเหวในเบื้องลึก
ความรู้สึกสำนึกบาปคือสุข
ความดีงามเป็นความงามคือความทุกข์
ลิ้มรสสุขทำชั่วเลยไม่ต้องหวั่น

ทำดีในทุกที่มันแสนยาก
โคตรลำบากทำอะไรไม่ต้องฝัน
ชอบผู้ชายกายหญิงไหนอยากจะฟัน
ไม่ต้องฝันแค่ข่มขืนสบายกาย

พอกันทีแผ่นผีซีดีเถื่อน
มันขายเกลื่อนโอ้ยาบ้าแสนหาง่าย
อยากดูหนังโป๊โอ้ง่ายแสนสบาย
มันเรียงรายข้างถนนคนยิ้มหา

จะทำงานหาเงินไปทำไม
เดี๋ยวนี้ใครเขารวยกันมันรวยช้า
แค่ไปปล้นเงินผู้คนแค่เอามา
มีใครว่าอาญาไหนจะรุนแรง

ดื่มเข้าไปไอ้ที่เรียกว่าสุรา
จะเมาบ้ามีใครว่าช่างหัวแม่ง
ทำอะไรใครดุว่าแค่ฟันแทง
เอาเลือดแดงออกจากหัวให้กลัวบ้าง

กามวิวัฒน์พัฒนาน่าชื่นชม
จะไปข่มขืนใครเอาข้างทาง
อยากจะแรดก็แวะไปที่ห้าง
ไปนั่งวางขาพาดโชว์ของดี

ผู้ชายเอ๋ยหลายใจไว้เป็นดี
ผู้หญิงนี้จะดอกทองโอ้น้องพี่
ไม่ต้องรักซื่อสัตย์กันไว้เป็นดี
รักครั้งนี้แค่คืนเดียวเปลี่ยวแล้วพอ

-

ผมหลับฝันในจิตมันแสนน่าหวาด
โลกทั้งชาติคนเลวเกลื่อนไปหมด
มีเลือดหลั่งไหลมามิรินรด
ไม่เคยหมดเกินพจนาเป็นกลอนได้

เห็นสงครามความเลวทรามบ้ากามเยอะ
เห็รอยเปรอะน้ำกามปนเลือดไหล
เห็นหยาดเหงื่อของคนเลวคราบเหงื่อไคล
จนในใจหวาดหวั่นมนุษย์จริง

ในฝันนั้นในวันนั้นมันเลวร้าย
ใจสลายโอ้ไม่ไม่แทบทุกสิ่ง
ภาพข้างหน้าคงไม่ใชความจริง
ปืนถูกยิงคนข่มขืนยืนยิ้มร่า

หวาดหวั่นนางฟ้าที่รักหลง
อาจจะคงโดนใครขยี้กาสา
หรือมีใครทำร้ายใจกายา
คร่ำครวญหาไม่มีสิทธ์จิตรู้อยู่

แต่น้อง..เธอเป็นคนใจบริสุทธ์
อาจถูกฉุดโดนรานรุกโดนข่มขู่
โดยที่ใจของพี่นั้นไร้สิทธิรู้
ว่าน้องอยู่ดีดีโดนใครทำร้าย

วานพิภพเทพทั่วนภาลัย
อย่าทำให้ใจคนเราแตกสลาย
อย่าให้ใจของพวกเขามันเลวร้าย
อย่าให้คนได้พ่ายต่อกิเลส

ได้ปกป้องนวลน้องที่ครองใจ
อย่าให้ภัยจากใครทำน้องเนตร
วอนขออย่าให้ปวงภัยเป็นเหตุ
แม้ทุเรศพี่วอนขอเห็นแก่ตัว

โอ้มนุษย์มันแสนสุดเกินหยุดยั้ง
แม้ระวังสักแค่ไหนก็น่ากลัว
ใจคนเรามันช่างเต็มด้วยความชั่ว
น่าหวั่นกลัวเหลือเกิน..เกินประมาณ

โดยที่แท้มนุษย์ไม่ประเสริฐ
ไม่ได้ก่อกำเนิดจากภพชาติ
โดยที่แท้มนุษย์ไม่สะอาด
ในภพชาติเราอาจเป็นแค่(หมา)นุษย์
				
10 ตุลาคม 2553 18:05 น.

คำขอ

เมธาวีรำลึก

คำขอ

มิใช่การอำลาแต่คราใด
และมิใช่พินัยกรรมที่ช้ำชอก
แต่ว่าบทกวีนี้มีมาบอก
ไม่ได้ลอกกลับกรอกมาจากใคร

บทกวีแผ่นนี้เขียนในห้องเช่า
ที่ไม่เก่าแต่แสนเหงาจับหัวใจ
ด้วยสำนึกบางอย่างพร่างข้างใน
จะทำไงต่อไปในชีวิตหน้า

พัดลมพรมลมเย็นเป็นที่สบาย
แม้สุขกายแต่ในใจแสนอ่อนล้า
ใจคำนึงระลึกถึงทุกเวลา
แม้ว่าลมพัดมายากลืมไป

ว่ามีใครในใจอยู่คนหนึ่ง
แสนคิดถึงแม้ไร้สิทธิได้อยู่ใกล้
ด้วยว่านางไม่รักสลัดใจ
เธอมีใครที่แสนดีมิเหมือนฉัน

นอนผ่อนคลายหวังสลายความอ่อนล้า
คำนึงหานวลนางในความฝัน
โอ้ดอกฟ้าแม่เจ้ามะลิวัลย์
หยาดน้ำผึ้งพระจันทร์ของฉันเอย

อยากจะเกยหนุนตักด้วยความรัก
ได้ผ่อนพักสลักจิตโอ้อกเอ๋ย
ด้วยไม่รักหญิงอื่นใดไม่เคยเลย
แค่ได้เผยความในใจให้เธอรู้

ฉันนั้นก็เป็นคนแสนต่ำต้อย
หน้าตาถ่อยสถุลก็รับรู้อยู่
ไม่ใช่ว่าคนบ้านี้มิรับรู้
แต่ยิ่งดูเรารู้ว่าแค่รักเธอ

จิตโศกาโหยหาแต่เธอเดียว
อย่าให้เปลี่ยวรักเดียวอย่างพร่ำเพ้อ
วอนขอว่าชาตินี้จะรักเธอ
รักเสมอตราบชาติหน้าบรรจบแดน

ขอรักเธอเสมอต้นเสมอปลาย
จะไม่คลายรักนางที่ห่วงแหน
จะรักเธอแม้ไกลกันชั่วเขตแดน
แต่ว่าแก่นหัวใจไม่เลิกรัก
				
5 ตุลาคม 2553 15:07 น.

ไม่อยากละลืมภาพเธอ..

เมธาวีรำลึก

ไม่อยากละลืมภาพเธอ..

เพราะนางเป็นยามเย็นเห็นอาทิตย์
ยิ่งเพ่งพิศในจิตงามกว่าสิ่งไหน
กลัวละลืมภาพเธอไว้ในใจ
กลัวว่าใคร..ในโลกนี้แทนที่เธอ

ยอมทนอดกอดนางในภาพฝัน
ชั่วชีวันตราบนั้นรักเสมอ
ไม่อยากละหลงลืมภาพของเธอ
กลัวนางเบลอในห้วงจิตคิดวอนตาย

เพราะนางเป็นความหวังครั้งสุดท้าย
รักมิคลายเพราะรักหญิงสุดท้าย
เป็นความฝันของฉันจนวันตาย
แม้ไร้สิทธิได้ผ่อนคลายได้ใกล้นาง

กลัวตัวเองไประเลงหลงหญิงใหม่
กลัวว่าใจไปหลงใครใจหลงล้าง
กลัวจะลืมภาพของเธอจนเลือนราง
กลัวเปลี่ยวร้างเพราะรักนางมิเคยกลัว

ในจิตใต้สำนึกระลึกว่า
ทุกเวลาโหยหานางใจพันพัว
ทนอย่างเดียว..ไม่ได้ด้วยเกรงกลั้ว
ไปพันพัวใจนางอื่นเพราะลืมเธอ

ใฝ่เพียงนางหลงเพียงนางที่เหินห่าง
ไม่เลือนรางภาพหญิง..ใจรักเสมอ
ให้แต่รักนางเดียว..ใจให้เธอ
ใจหลงเพ้อมีสุข..ในคำนึงนาง

วอนเทวาจรดฟ้าอย่าลืมเธอ
ขอให้มั่นรักเสมอมิเจือจาง
แม้ว่ากายและใจจะเหินห่าง
จะรักนางตราบฟ้าดินสลาย

ในความคิด..ไร้จิตอยากลืมหลง
รักมั่นคงเพียงเธอมิหลงหาย
รักมั่นคงเสมอตราบวันตาย
จะไม่คลายรักมั่นคง..มิปลั่นปลง

เพราะเธอเสมอภาพฝันและหวัง
ให้ฉันยังก้าวเดินอย่างมั่นคง
แม้จะรักไม่ได้สมประสงศ์
รักมั่นคง..ไม่อยากละลืมภาพเธอ..				
4 ตุลาคม 2553 20:02 น.

กาลปวสาน

เมธาวีรำลึก

กาลปวสาน

รักนางแล้วไม่แคล้วชั่วฟ้าดินสลาย
มิเสื่อมคลายกำจายรักของนางไว้
เพราะกวีต่ำต้อยคอยมอบหัวใจ
เอาไว้ให้แก่นางในทรวงอกเดียว

หวั่นตานางพรูพร่างแรงความฝัน
วารวันปันประกายล้างความเปลี่ยว
หลงรักนางสลักใจไว้นางเดียว
ไม่แลเหลียงนางใดให้หมองหม่น

ประหนึ่งดาวดวงหนึ่งพึงใฝ่หา
จนครวญคราโหยหาสุดฟ้าพ้น
โดยคิดถึงในคำนึงต้องจำทน
อยู่บนฟ้าเกินเอื้อมพ้นจากราตรี

เดิมอาศัยโลกมืดมนแสนอ่อนล้า
จนวันฟ้าสว่างพร่างทั่วรวี
เพราะประสบพบรักนางครานี้
ตราบในห้วงนาทีปีจวบเดือน

ฝังภาพนางไว้ข้างในดวงจิต
แนบสนิทในคำนึงมิรางเลือน
คิดถึงเธอดั่งว่าเธอเสมอเสมือน
ดาวและเดือนไม่เลือนแสงกลางห้วงใจ

ยามนางยิ้มพิมใจให้หวาดหวั่น
มะลิวัลย์ก็ยากเปรียบยิ้มนางได้
รักหลงนางเสมอไม่เสื่อมคลาย
แม้นต้องใจสลายอย่างเอื้อมอาจยาก

หลงนางฟ้าพร่าสถิตในห้วงใจ
แม้ฟากฟ้าที่บากบั่นให้พลัดพราก
สดับรับรู้อยู่แล้วไม่แคล้วจาก
ต้องพลัดพรากนางไร้ใจ..เราต่ำต้อย

เพราะนางฟ้าอยู่ไกลเกินปีนไป่
เกินกำลังดวงหัวใจจะก้าวร้อย
เพราะคงได้มั่นหวังเดียวคือรอคอย
หวังเม็ดพลอยให้คนต่ำได้กร้ำกราย

รักมั่น..นิรันดร์ตราบวอนตาย
แม้ว่ากายหัวใจสูญสลาย
รักมั่นจันทร์นางเดียวตราบวันตาย
มิเสื่อมคลายเพราะรักนางทั่วฟ้าดิน

ในกาลเวลาที่พาพัด
ราวสาดซัดความรักให้สูญสิ้น
แต่ความรักนางฟ้าตราบฟ้าดิน
จะสลายทลายเมื่อสิ้นดินฟ้า

อยากโอบกอดหอมผมนางแม้ร้างรัก
จะสลักความหวังไว้ในเวลา
จะฝากไว้กับผืนใจและผืนฟ้า
จะหลงหานางเดียวแม้นเปลี่ยวกาย

หลงรักนางพร่างสถิตในรอยจิต
ตราบความคิดจิตวิญญานสิ้นสลาย
จะหลงรักนางฟ้าจนวันตาย
ขอมอบกายให้นางชั่วกาลปักษ์

มิหวั่นไหวไปตามกาลเวลา
ที่พัดพาดั่งสาดซาจางความรัก
แต่รักนางตราบแผ่นฟ้าจะหาญหัก
จะหลงรักนางไว้ในรอยชีวิต

เพราะความรักนางฟ้าที่โหยหา
จะคงแน่นแผ่นเวลาในห้วงจิต
เป็นอันหนึ่งอันเดียวในความคิด
เพราะในจิตของกวี..ฉันรักเธอ

รักหาญหักสลักไว้ในดวงใจ
ไม่มีวันในห้วงไหนรักเสมอ
ในดวงจิตกวีที่รักเธอ
จะพร่ำเพ้อเสมอเพียงนางฟ้า

นางงามงดจรดใดในโลกหล้า
ไม่รักหญิงอื่นใดแล้วชั่วเวลา
จะสูญสิ้นผืนดินตราบแผ่นฟ้า
จะโหยหาเพียงนางฟ้าตราบวันตาย

รักนางตราบชั่วกาลปวสาน
จะยืนกรานแม้วิญญานสิ้นสลาย
จะรักแม้นเธอใฝ่เดียวจนเปลี่ยวตาย
ก็มิคลายรักมั่นในวารวัน

				
3 ตุลาคม 2553 20:13 น.

เกินกลอนบรรยาย(ร้องไห้นานไม่มีแรงเขียน)

เมธาวีรำลึก

ฉันรักเธอมากเพ้อเกินรำพัน
ยากบรรยายความฝันเป็นอักษร
ตราบให้เขียนกาพย์โคลงฉันท์พันบทกลอน
ก็ไม่อาจสั่นคลอนรัก...มั่นต่อเธอ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมธาวีรำลึก
Lovings  เมธาวีรำลึก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมธาวีรำลึก
Lovings  เมธาวีรำลึก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมธาวีรำลึก
Lovings  เมธาวีรำลึก เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเมธาวีรำลึก