17 สิงหาคม 2555 15:26 น.

ไม่มีอะไรอีก

เมต้าไซรัป

ฉันเคยฝันไปว่าวันหนึ่งเธอที่ฉันเคยชื่นชอบจะมีอยู่จริงไหม
ในท่ามกลางสิ่งมีชีวิตแห่งดินแดนที่ดิ้นรนไม่รู้จักจบสิ้น

....เพราะฉันนั้นเคยตื่นแล้วพบเธออยู่ชิดใกล้
รอยยิ้มบริสุทธิ์กับเสียงหัวเราะอันสดใสพาดวงใจฉันออกเดินทาง
สิ่งรอบข้างของจุดเริ่มต้นเต็มไปด้วยเสียงนกร้องเสียงเจื้อยแจ้ว
ฉันบูชาเธอประหนึ่งจุดศูนย์กลางของจักรวาลอันลึกลับ
โอ้...เธอผู้นั้นได้มอบอะไรสักอย่างให้กับตัวฉัน
ฉันแทบหยุดหายใจในคำพูดที่ดังกึกก้องกังวาน
มันมีพลังบางอย่างที่ทำให้ฉันพองตัว
ระหว่างกลางทางแดดร้อนเปรี้ยง
ฉันและเธอหยิบแว่นขึ้นเพื่อจะมองหน้ากันอีกครั้ง
มองลอดผ่านกระจกสีดำทึบ
ฉันเห็นเธอภายใต้กรอบแว่นสีขาวเลนซ์สีดำแวววาว
เธอชี้นิ้วไปตรงตึกสูง
ฉันก็มองตามทิศทางนั้น
วัตถุบางอย่างกำลังต่อสู้กับแรงโน้มถ่วง
เธอหันมองหน้าฉัน
ฉันคิดว่ามีรอยยิ้มที่ฉันไม่รู้จักปรากฏอยู่ตรงแว่นตาเธอ
จนวัตถุนั้นมันตกลงตรงหน้า
ลูกนกพิราบนั่นเองปีกทั้งสองข้างยังกางและบิดเบี้ยวผิดรูปทรง
ฉันก้มมองกองเลือดสีดำ
แต่เธอถอดแว่นแล้วเอามือปิดตา
ฉันเดินไปหยิบซากวัตถุไร้วิญญาณเขวี้ยงทิ้งไว้ข้างทาง
แต่เธอก็ยังตกใจจนฉันทำอะไรไม่ถูก
ได้แต่นิ่งเีงียบด้วยอาการมึนงง
ฉันมาคิดว่าความสูงนี้มันช่างร้ายกาจนัก
จนลมวูบใหญ่พัดผ่านมา
เธอหยิบแว่นตามาสวมอีกครั้ง
ฉันมองเห็นหยดน้ำตาไหลลงมาที่แก้มของเธอ
มือของฉันยังเปรอะเปื้อนด้วยเลือดสีดำ
ความเงียบงันอีกแล้วที่มาคั่นกลางเอาไว้
ฉันหันไปมองเส้นทางเบื้องหลังที่ผ่านมา
บัดนี้กลับกลายเป็นว่ามีกอหญ้ารกขึ้นแทนที่
ฉันแปลกใจพอพอกับต้องเดินทางต่อไป
แล้วในที่สุดเราทั้งสองมาหยุดอีกครั้งตรงทางแยก
ฉันเสียใจนิดหน่อยที่ไม่มีป้ายบอกทางติดเอาไว้
ดูเธอเหมือนกำลังใช้ความคิดบางอย่าง
รอยยิ้มเธอหายไป
ฉันมองไม่เห็นแววตาของเธอ
ทันใดนั้นอีกาตัวหนึ่งบินมาเกาะตรงไหล่ข้างขวาของฉัน
เธอคงมองไม่เห็น
แน่ละตอนนี้เธอคงคิดถึงอะไรบางอย่าง
ฉันอยากจะถามเธอแต่ฉันก็สนใจอีกาตัวนี้เหมือนกัน
อากาศร้อนมากผิดปกติ
และเมฆก้อนสีคล้ำลอยปกคลุมรอบตัว
สายลมก็หายหน้าไปเสียแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวฉันเป็นสีเทามัวซัว
ฉันอยากรู้ว่ารอบตัวเธอนั้นเป็นสีเดียวกับฉันหรือไม่
เธอกระซิบข้างหูว่าเส้นทางที่ผ่านมานั้นไม่ปลอดภัย
ฉันไม่เข้าใจในครั้งแรกที่ได้ยิน
อีกาบินหายไปในทางแยก
เธอตกใจกับเงาของอีกาที่ทิ้งเอาไว้
แล้วบอกกับฉันว่าทางแยกนี้มันมีมานานแล้ว
ฉันมองหน้าเธอ
และเห็นหยดน้ำตาตัวเองสะท้อนกระจก
ใช่หรอกรึทางแยกที่ถูำกกำหนดไว้แล้ว
ใครกันฉันหรือเธอเป็นผู้กำหนด
หรือยังจะมีใครสักอีกคนที่ไม่ใช่เรา
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้คำตอบนั่น
ลมพายุกระหน่ำซัดลงมาที่เราทั้งสอง
รอบตัวถูกบดบังเอาไว้ด้วยม่านน้ำ
ฉันคิดว่ามันคล้ายคลื่นในทะเลก้อนโต
ฉันพยายามจะขว้ามือเธอ
แว่นตาฉันหล่นหายไปในกระแสน้ำ
และเธอ โอ้เธอ....เธอได้หายตัวจากฉันไป
ฉันถูกกระแสน้ำพัดไปในเส้นทางที่อีกาตัวนั้นบินหายไป
ฉันร้องไห้ในความโหดร้ายของธรรมชาติ
ฉันร้องอยู่เป็นนานจึงหลับไป
ตื่นมาอีกที่ฉันมาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง
เดินมาหยุดตรงป้ายขนาดใหญ่
...อาณาจักรแห่งความว่างเปล่า...
ฉันอ่านซ้ำๆช้าๆ วนไปวนมา
หันไปมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง
และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว
นอกจากลูกตาของฉันที่กลิ้งกรอกไปมา
ฉันแทบคลั่งพยายามจะเดินหนีจากอาณาจักรแห่งนี้
ฉันก้าวขาไม่ออกแต่ฉันก็ไม่ร้องไห้
แต่เดี๋ยวก่อนนะแล้วอีกาตัวนั้นหล่ะ
.....แล้วเธอหล่ะ
.....แว่นตาของฉันหล่ะ
      
      หากฉันได้ตระหนักรู้สักนิดว่าฉันนั้นเป็นเพียงสิ่งไร้ความหมาย
และวันนึงอากาศร้อนได้หยิบยื่นความตายมากองเอาไว้รอบตัว
เกิดฉันลืมไปว่าความเดียวดายต่างหากไม่ใช่เธอคนนั้น
ที่ฉันใฝ่หามาทั้งชีวิต
เหตุนี้ดวงอาทิตย์เกิดดับแทบทุกวัน
มิใยดวงจันทร์ส่งความฝันล่องลอยไป
ฉันรู้แล้วว่าความเคว้งคว้างไร้จุดหมายไม่สิ้นสุด
ถึงเวลาแล้วฉันควรหยุดค้นหาเธอคนนั้นเสียที				
15 สิงหาคม 2555 21:05 น.

โลกตามธรรมชาติ/โลกที่มนุษย์เป็นเจ้าของ/โลกที่เราเลือกไม่ได้/โลกในฝัน

เมต้าไซรัป

ฉันเบื่อเหลือเกินในอาการเหม่อลอย
บางครั้งความคิดของฉันมันออกท่องเที่ยวนอกเขตแดน
ของโลกแห่งความเป็นจริง
หรือกล่าวได้ว่าฉันเชื่อตามนักคิด
ที่เรียกโลกแห่งผัสสะว่าเป็นโลกแห่งปรากฏการณ์
หลายครั้งหลายหน
ฉันมักจะเจอตัวเองในลักษณะของสิ่งที่ไร้ร่างกาย
คือฉันไม่สามารถอธิบายได้ว่าใช่จิตหรือไม่
ฉันนึกสงสัยว่าขณะที่มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีความคิด
แล้วพวกสิ่งมีชีวิตทั้งหลายละ
มันจะมีความคิดอยู่แยกต่างหากจากร่างกายหรือไม่
ที่ไม่ข้องเกี่ยวกับโลกแห่งปรากฏการณ์
ฉันหมกหมุ่นกับตัวเองวันทั้งวันเพื่อจะพบว่า
ตัวเองไม่ได้หายไปจากโลกแห่งความเป็นจริงเสียทีเดียวนัก
อันที่จริงฉันได้ยินเสียงปฏิกิริยาของอวัยวะภายในร่างกายยังคงทำงานเป็นปกติ
ฉันนึกโมโหที่ปากขยับขณะที่กระเพาะก็ส่งเสียงดังน่ารำคาญ
อีกนั่นแหละฉันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่คุ้นเคยกับความตาย
ฉันไม่มีความกล้าที่จะลาลับออกไปจากโลกสีน้ำเงินใบนี้
ช่างน่าชื่นชมกับมนุษย์ผู้ซึ่งมีความกล้าหาญอันบริสุทธิ์
ที่จะนำพาตัวเองออกไปให้พ้นจากโลกแห่งปรากฏการณ์
ในเมื่อความเปลี่ยนแปลงแฝงเร้นทุกซอกมุมแห่งความทุกข์ทรมาน
ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าล้วนแต่เป็นสสารไปทั้งหมด
ฉันได้แต่สำลักความไร้สะระจนชาชิน
มันควบคุมตัวเองได้ยากเมื่อปะทะอย่างจังกับความว่างเปล่า
โลกของฉันเมื่อวันวานจบสิ้นลงไปพร้อมดวงอาทิตย์ตกดิน
ฉันหวังว่าในโลกแห่งปรากฏการณ์
คงไม่ใช่โลกที่แท้จริงหรอกใช่ไหม
คำถามของฉันทั้งหมดฝากเอาไว้
ตรงระหว่างเข็มนาฬิกาและปฏิทิน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมต้าไซรัป
Lovings  เมต้าไซรัป เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมต้าไซรัป
Lovings  เมต้าไซรัป เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมต้าไซรัป
Lovings  เมต้าไซรัป เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเมต้าไซรัป