29 ตุลาคม 2547 16:04 น.
เมจิคเชี่ยน
นั่งทบทวนความคิดถึงฤทธิ์รัก
หลงหัวปักหัวปำไม่พร่ำเผลอ
รักคนที่ไม่มีใจให้อย่างเธอ
เจ็บจนเพ้อโดนพิษรักปักหัวใจ
คิดทบทวนความหลังที่พลั้งพลาด
น่าอุจาดความรักที่ขวักไขว่
แสนทุเรศตัวเรางี่เง่าไป
เจ็บปวดไหม...อื้อฮื้อ ซื่อบื้อจริง
ไม่รู้เลยเคยรักเธอได้อย่างไร
คนที่ไม่จริงใจกับทุกสิ่ง
ทำกลิ้งกลอกหลอกลวงน่าช่วงชิง
คิดแล้วยิ่งสมเพชน่าเวทนา
หรือจะเป็นเพราะไอ้เด็กตัวเล็กนั้น
มีปีกสั้นบินพลั่บพลั่บกลางเวหา
เที่ยวเหนี่ยวศรยิงมั่วดั่งวัวลา
พูดแล้วน่าเจ็บใจ...ไอ้เด็กเวร
โดนกามเทพงี่เง่า...ยิงเข้าอก
หัวใจตกเป็นทาสรักเธอกักเล่น
ฤทธิ์ลูกศรอ่อนแรงจึงมองเห็น
ความร้ายเร้นซ่อนลึก...จิตใจเธอ
... ไม่รู้จะเขียนกลอนอะไรดีขอรับ อิอิ ...
... เลยออกมาเป็น กามเทพงี่เง่า ซะงั้นน่ะ 555
30 กันยายน 2547 16:24 น.
เมจิคเชี่ยน
ตามองตาเริ่มซึ้งเข้าถึงจุด
มือเคลื่อนรุดไต่ตอมหว่านล้อมขอ
ลูบไล้โลมเร่งเร้าเคล้าคลึงคลอ
สักพักก็โปรยจูบให้วูบวาม
อารมณ์เริ่มเคลิ้มคล้อยละลอยลิ่ว
อาภรณ์ปลิวร่วงหล่นบนความหวาม
ค่อยค่อยคลึงเริ่มไต่ไล่ลุกลาม
เพื่อปลุกความรู้สึกนึกถึงมัน
ครั้นเริ่มบุกรุกใส่ให้อ่อนช้อย
พึงช้าค่อยอย่ารีบเข้ากลีบฝัน
ทนุถนอมเรือนร่างอย่างสำคัญ
ถึงจุดนั้นค่อยเร่งอย่าเกรงกลัว
โถมเข้าใส่เข้าไปตามจังหวะ
อย่ารีบระรัวเร้าหยอกเย้ายั่ว
อย่าเกร็งไปให้ผ่อนคลายสบายตัว
พอซึมทั่วอารมณ์จะสมใจ
หากถึงจุดสุดท้ายความหมายเสร็จ
พึงมองเนตรลึกซึ้งถึงความไหว
รอยยิ้มผลิเบ่งออกบอกความนัย
ความสุขใจเป็นเช่นนี้ช่างดีจริง...
******************************
หะหะ ... ออกเรทๆนิดหน่อยถ้ามันไม่สุภาพยังไง
ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะขอรับ อิอิ ..
พอดีเมจิคเชี่ยนดูหนังแล้วเห็นฉากแบบนี้พอดี
เลยลองมาเขียนเล่นๆน่ะ อิอิ
.... ไม่เกี่ยวกะผมเด้อ 5555 ...
21 กันยายน 2547 14:18 น.
เมจิคเชี่ยน
คือแสงไฟในยามที่มืดมิด
ส่องชีวิตคว้างเคว้งให้เปล่งแสง
คือสายลมปรากฏยามหมดแรง
โบกพัดแกว่งให้สู้อยู่ร่ำไป
คือสายชลชุ่มฉ่ำชโลมจิต
พึงถอนพิษร้าวร้อนเมื่ออ่อนไหว
คือดอกไม้ยิ้มแย้มคอยแต้มใจ
หอมสดใสยามตื่นสดชื่นจริง
คือสายรุ้งทอดยาวช่างพราววับ
ติดประดับชีวิตชวนพิศยิ่ง
คือดวงดาวประกายหมายอุ่นอิ่ง
ให้พักพิงยามเหงาหรือเศร้าทรวง
คือแววตาอาทรเมื่อตอนร้าว
คอยแลเราไม่ห่างอย่างหวงห่วง
คือเข็มทิศนำห่างจากทางลวง
เข้าสู่ห้วงความฝันอันดีงาม
คือดนตรีเสียงใสอันไพเราะ
จังหวะเคาะสนุกสุขวาบหวาม
คืออัญมณีระยับอันวับวาม
เปล่งแสงงามข้างกายมิหายเลือน
คือคู่แท้คอยช่วยยามป่วยไข้
อยู่ชิดใกล้เคียงคู่ดูเหมือนเพื่อน
คือนภาทอดยาวโอบดาวเดือน
มิคลาดเคลื่อนคงอยู่คู่นิรันดร์
คือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต
เฝ้าเชยชิดเชยชมหัวใจฉัน
คือผู้หญิงจริงใจให้ผูกพัน
คือเธอนั้นคนสำคัญ...ฉันรักเธอ
............................................
4 กันยายน 2547 17:29 น.
เมจิคเชี่ยน
กาลเวลาผันผ่านก็นานเนิ่น
ที่เราเดินแยกทางที่สร้างไว้
ความผูกพันเริ่มลดหมดหัวใจ
อันสายใยเคยเห็นเริ่มเร้นเลือน
ความเป็นฉันที่เห็นเช่นวันก่อน
มันถูกล่อนดั่งมีดเข้ากรีดเฉือน
ตั้งแต่วันเธอพาเขาเข้ามาเยือน
คือย้ำเตือนตัดรักหักสะบั้น
ที่เห็นฉันเฉยชาอย่าแปลกใจ
เพราะว่าไม่เหมือนเก่าดั่งคราวนั้น
สูญสิ้นความรู้สึกนึกผูกพัน
ไม่ปิดกั้นแสดงออกพึงบอกเธอ
เรื่องของเรามันนาน...นานเกินแล้ว
คำหวานแว่วของฉันมันยากเพ้อ
กว่าจะผ่านมรสุมที่รุมเจอ
ไม่เหมือนเธอมีสุขทุกคืนวัน
ถามสักนิดเคยคิดเสียดายไหม
ที่ผ่านไปเธอทิ้งทุกสิ่งนั้น
กับอีกคนอยู่เหมือนตายวายชีวัน
แทบเฟือนฟั่นเท่าไรเธอ...ไม่รู้เลย
แล้ววันนี้มันจะ...แปลกอะไร
ถ้าฉันให้ แค่รอยยิ้ม แล้วเงียบเฉย
เธออย่าถาม อย่าพยายาม เข้าใจเลย
..........
คิดซะว่า แค่ผ่าน มาเฉยๆ
เธอก็เดิน ผ่านไปเลย แค่นั้นพอ.....
... ไม่รู้จะเย็นชาเกินไปหรือเปล่า เหะๆ ...
3 กันยายน 2547 02:37 น.
เมจิคเชี่ยน
ด้วยเหตุใดก็ตามความรู้สึก
มิเคยนึกถึงใจคนใกล้เหรอ
ความอ่อนหวานที่ส่งตรงถึงเธอ
แค่เพียงเก้อดั่งน้ำซึมผ่านทราย
อยู่ใกล้กันเหมือนไกลไกลริบลับ
ดั่งคล้ายกับตะวันเพ้อจันทร์ฉาย
แอบคิดฝันมองเมียงข้างเคียงกาย
ว่าตอนท้ายบทจบเราคบกัน
ยิ่งมองพักต์เพ่งเนตรวิเศษยิ่ง
งดงามจริงดั่งห้วงสรวงสวรรค์
ตรึงตราติดห้ามเลื่อนเคลื่อนชีวัน
สะกดกั้นต้องเธอ...เธอคนเดียว
แต่ว่าเธอเงียบงันฉันไม่ทราบ
เห็นเพียงภาพเธอเฉยมิเคยเฉลียว
เลยต้องพูดความนัยจากใจเพียว
อยากข้องเกี่ยวเพราะรักมันถักทอ
ก็ไม่รู้เธอโกรธหรือเกลียดไหม
ขออย่าให้เลวร้ายได้ไหมหนอ
อยากแนบกายจึงเสี่ยงอยากเคียงคลอ
เลยสานต่อทำตามความคิดใจ
หากว่าไม่เป็นจริงเหมือนสิ่งคิด
คำรักนิจยังพราวสกาวใส
จะยืนอยู่ที่เก่าไม่ห่างไกล
เพียงอยากให้เธอรู้...ว่ารักเธอ
................