11 กรกฎาคม 2548 13:14 น.

๏ จากสามีถึงภรรยา...เซียวเหล่งนึ่ง

เมจิคเชี่ยน

.................................


จากเรื่องราวคราวนั้นเมื่อวันก่อน
บนหินอ่อนพึงสลักตัวอักษร
ด้วยถ้อยคำรักมั่นนิรันดร
ของนงค์อรเซียวเหล่งนึ่งถึงสามี

สิบหกปีนัดพบประสบพักตร์
ขอยอดรักรักษากายานี้
อย่าทำร้ายชีวิตคิดไม่ดี
รอวันที่สัญญามาพบกัน...

จากวันนั้นกาลเปลี่ยนเวียนมาถึง
สุดคำนึงโหยหาภรรยาฉัน
สัจจะที่มอบหมายมิคลายวัน
ยังยึดมั่นแนบติดทั่วจิตใจ

ก่อนจะมาพบอรผ่านร้อนหนาว
วันหนึ่งยาวเหลือคณาแสนพร่าไหว
จึงดั้นด้นพเนจรตะลอนไป
ทั่วหล้าใหญ่กับอินทรีย์คู่ชีวา

คอยช่วยเหลือเจือจุนหนุนคนดี
คนชั่วนี้ปรามปราบกำหราบหนา
หวังสวรรค์เบื้องบนดลเมตตา
จะนำพาเจ้ากลับประทับคืน

เฝ้าคอยมองทะเลที่เห่กล่อม
ฝากเสียงอ้อมแหวกฟ้ามากับคลื่น
รู้ไหมว่าข้าช้ำสุดกล้ำกลืน
รอยอดชื่นอย่างกระวนร้อนรนใจ

ข้าร้องไห้กับดาวทุกคราวฝัน
น้ำตานั้นบาดคมตรอมตรมไหว
เห็นเจ้าทุกข์เจ็บแปลบแสบข้างใน
เป็นไปได้ข้าอยากลำบากเอง

กี่ฤดูกาลผ่านพ้นก็ทนสู้
จิตหดหู่ทับถมถูกข่มเหง
ด้วยความคิดคำนึงถึงบทเพลง
ครั้นบรรเลงคราวนั้นฉันกับเธอ

ขอดาวเดือนเป็นพยานสาบานได้
อ้อมกอดใหญ่เก็บไว้ให้เสมอ
ดอกเหล่งนึ่งรอรับนับวันเจอ
มิเคยเบลอยิ้มหวานเหมือนวานวัน

*เหล่งยี้เอ๋ยรู้ไหมใครรอเจ้า
ณ ที่เก่าริมผาที่ข้าฝัน
รอยอักษรซึ่งสลักว่ารักกัน
จากเธอนั้นเมื่อเพ่งพิศจิตสั่นคลอน

ดั่งมีไฟสุมอกแสนหมกไหม้
ความจริงได้ปรากฏสลดสลอน
จากน้ำคำ*ป้าก๋วยแทบม้วยมรณ์
เมื่อสิบหกปีก่อนย้อนกลับไป

เจ้าได้สิ้นชีวิตด้วยพิษร้าย
ก่อนชีพวายได้สลักอักษรไว้
ฝากเป็นถ้อยน้ำค้ำซ่อนความนัย
คืออยากให้ข้าอยู่หารู้ความ...

สุดอาลัยซึมเศร้าเข้าดวงจิต
เฝ้าครุ่นคิดถึงเจ้าเฝ้าทวงถาม
เหล่งยี้เอ๋ยอยู่ไหนใต้ฟ้าคราม
หรือเจ้าตายดั่งตามความที่กล่าว

ผ่านหลายวันนัดพบประสบพักตร์
ผาไร้รักไร้เงาไร้หญิงสาว
จึงกระโดดลงผาหลับตายาว
หวังเห็นดาวเหล่งยี้ที่รักเอย...

.
. .
. . .

นั่นคือเรื่องที่เล่าให้เจ้าฟัง
เจ้าอย่าหลั่งน้ำตายาหยีเอ๋ย
วันนี้เราพบกันเหมือนวันเคย
ข้าจะเอ่ยคำรัก...มิพักเลือน
.................

....วันนี้เราพบกันเหมือนวันเคย
....เหล่งยี้เอ๋ย..ข้ารักเจ้า...
..........ตราบชั่วฟ้า ดินสลาย ลมหายใจ..........



***********************
ความรักที่เอี๊ยก้วยมีต่อเซียวเหล่งนึ่งนั้น
มันมากมายมหาศาล ยากที่ใครจะขัดขวาง
ทั้งสองคนนี้ได้ 

หลายครั้งหลายคราที่เมจิคเชี่ยนอ่านหนังสือนวนิยายอมตะ
เรื่องมังกรหยก หรือชมหนังทางจอแก้วและจอเงิน 
ไม่ว่าจะภาคก๋วยเจ๋งหรือจะภาคเอี๊ยก้วย
เมจิคเชี่ยนไม่เคยรู้สึกเบื่อแต่อย่างใดเลยขอรับ...

กลับแต่จะชอบชมหรืออ่านซ้ำเสียมากกว่า ^^

.....

ในส่วนของบทกลอนที่เขียนนั้น เมจิคเชี่ยนได้เอาตอนที่เอี๊ยก้วย
เฝ้ารอการกลับมาของเซียวเหล่งนึ่ง ณ เวลานั้นมาถ่ายทอดความรู้สึก...

ซึ่งเมจิคเชี่ยนเชื่อว่าความรู้สึกนึกคิดของเอี๊ยก้วยนั้นมันมากซะจนประเมิน
ค่ามิได้ ความรักของเขาที่มีแด่ภรรยาของเขานั้นมันยิ่งใหญ่ เกินกว่าที่ใครจะ
มาพรากจากเขาไปได้...


*เหล่งยี้  คือ  เซียวเหล่งนึ่ง
เป็นคำที่เอี๊ยก้วยเรียกเซียวเหล่งนึ่ง เมจิคเชี่ยนคิดว่าน่าจะเป็นคำที่คู่รัก
ใช้เรียกกัน ^^ แหะๆ อันนี้ก็ไม่ค่อยทราบเหมือนกันนะขอรับ
หากใครมีความรู้เรื่องตรงนี้ก็ช่วยเอามาบอกเล่าเก้าสิบกันบ้างนะขอรับ

*ป้าก๋วย  คือ อึ้งย้ง ^^
.............

ตัวละครอีกคนที่เมจิคเชี่ยนก็ชอบคือ ลีม๊กโชว
แล้วจะเขียนมาให้อ่านนะขอรับ หรือว่ามีท่านที่มีความประสงค์
จะเขียนมาให้อ่านก็จักขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง แหะๆ				
20 มิถุนายน 2548 00:02 น.

๏ เพลิงพิศวาส...

เมจิคเชี่ยน

.......................................

เมื่อความรักวอดวายสลายหมด
ก็ปรากฏรอยแค้นติดแน่นฝัง
เพลิงเร่าร้อนระอุเริ่มคุดัง
ความเกลียดชังครอบคลุมเป็นสุมไฟ

จากคนที่นิ่งเฉยก็เลยเปลี่ยน
อารมณ์เวียนดั่งลำธารที่ผ่านไหล
ดูสดชื่นแท้ผิดแฝงพิษภัย
รอวันได้โอกาสจะฟาดฟัน

หลอกลวงล่อด้วยจิตริษยา
ร้อยมารยาเล่ห์กลหลอกคนนั้น
วางหลุมพลางกับดักเพื่อกักกัน
มิเคยหวั่นถูกผิดเพราะพิษมาร

คล้ายดั่งถูกเวทมนตร์จนใจพร่า
ความพยาบาทลืมตามาขับขาน
เกิดเป็นเพลิงอารมณ์จมดวงมาลย์
รอประหารชีวิตปลิดวิญญา

เพียงเพราะว่าความคลั่งซึ่งหลั่งไหล
กับคนใดคนหนึ่งที่ซึ้งหนา
บวกกับแรงอาฆาตอุบาทว์ตา
ที่มันพายอดรักจักหนีไป

จึงเกิดเป็นเพลิงร้ายในเพลิงรัก
เร่าร้อนหนักปักจนเกินทนไหว
พิศวาสฆาตกรรมนำพาใจ
เผาผลาญไหม้ทุกอย่างที่ขวางทาง...


...................................................				
13 มิถุนายน 2548 02:03 น.

๏ รอยอาลัย...

เมจิคเชี่ยน

....................................................


สายตาจ้องมองไปในอากาศ
จิตเริ่มวาดความหลังเมื่อครั้งนั้น
ชีวิตคนนับหมื่นกล้ำกลืนกัน
ยืนประจัญรบราอย่างน่ากลัว

ด้วยอาวุธนานาหลายประเภท
เพื่อแสดงเจตงี่เง่าคือเจ้าสัว
ความยิ่งใหญ่ครอบงำทำตามัว
ไม่เห็นตัวคนอื่นขมขื่นใจ

หลายน้ำตาหลั่งล้นเหมือนคนบ้า
สุดเวทนาโลกเอยที่เคยใส
บัดนี้ฉาบสีแดงทุกแห่งไป
ส่งกลิ่นไอโหดร้ายหมายทรมาน

ดั่งตะวันทาทาบอาบด้วยเลือด
ความบริสุทธิ์แห้งเหือดไร้ความหวาน
สิ่งโสมมจมกองแซ่ซ้องนาน
อันตรธานความสุขนั้นพลันมืดลง

กว่าจะย้อนหวนคืนกล้ำกลืนยิ่ง
เหมือนจมดิ่งชีวิตพิศวง
บางคนท้อเตรียมพร้อมยอมยกธง
แล้วเดินลงยุ่มย่ามเข้าความตาย

เหลือเพียงรอยอาลัยให้ลูกหลาน
ตราบชั่วกาลนานวันมิผันหาย
ให้ระลึกเรื่องราวข่าววอดวาย
ซึ่งสลายหัวใจใครทุกคน...
.
..
...
แล้วสายตาซึ่งจ้องมองไปนั้น
ก็เริ่มสั่นเริ่มไหวจนได้ผล
คือหยดน้ำหยดน้อยหยดย้อยตน
ฉันคือคนยุคนั้น...วันสงคราม

..........................................


คือหยดน้ำหยดน้อยหยดย้อยตน
ฉันคือคนสุดท้าย...ที่หายใจ				
6 มิถุนายน 2548 15:36 น.

๏ ความปรารถนาของพ่อ...

เมจิคเชี่ยน

.....................................

หลับสบายดีไหม
ฝันถึงใครสุขเศร้าหรือเปล่าหนอ
พักผ่อนกายบนเตียงอย่างเพียงพอ
อย่าย่อท้อต่อชะตาที่ฆ่าใจ

ตัดกังวลวุ่นวายที่หมายเข้า
พ่อจะเฝ้าเจ้าหญิงอยู่ชิดใกล้
คอยคุ้มครองปกป้องเหล่าผองภัย
มิอาจให้ทำร้ายแม้ปลายกร

ไม่ต้องห่วงพ่อนะลูกยาเอ๋ย
ขอเจ้าเอยอย่าคิดปิดใจก่อน
แม้ร่างกายพ่อซีดจิตบั่นทอน
จะขอพรจากฟ้ามาประทาน

แม้นเหนื่อยล้าแทบล้มตรอมตรมยิ่ง
พ่อมิทิ้งนางฟ้าน่าสงสาร
เห็นลูกทุกข์พ่อทุกข์กว่าทรมาน
มันสะท้านสะเทือนเฉือนหัวใจ

สัมผัสมือลูบพักตร์ลูกรักพ่อ
น้ำตาก็เริ่มล้นจนมันไหล
อธิษฐานภาวนาทุกคราไป
หวังเพียงให้เจ้าตื่นฟื้นขึ้นมา

โลกใต้หมอนตอนนี้ดีหรือไม่
มืดมนไหมบนทางของนางฟ้า
หากพลัดหลงจงฟังเสียงเพียงหลับตา
จะรู้ว่าพ่อมิห่างเคียงข้างกาย

หวังเธอก้าวสู้ต่ออย่าท้อถอย
พ่อยืนคอยหลังแสงกำแพงร้าย
พร้อมความรักเหล่าชนคนมากมาย
ต่างมุ่งหมายน้อมรับเธอกลับคืน

ทั้งหมดนี้ทำให้...พ่อได้ไหม
อย่าสิ้นใจลาลับโปรดกลับฟื้น
อยากเห็นรอยยิ้มหวานเหมือนวานรืน
ลืมตาตื่นเถิดหนา...ลูกยาใจ


.....................................

พ่อจะรอเจ้าหญิงทุกวันคืน
รอเจ้าตื่นยิ้มหวาน...ผ่านแววตา...


*******************************


เมจิคเชี่ยนเชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริง
และหวังว่าเธอคงจะสัมผัสถึงจิตใจของผู้เป็นพ่อ
ได้นะขอรับ.
				
3 มิถุนายน 2548 01:56 น.

๏ การมาของน้ำฝน...

เมจิคเชี่ยน

..............................................

เสียงลมพัดซัดซาดอกหญ้าพริ้ว
ระลอกปลิวโอนอ่อนสั่นคลอนไหว
ฝุ่นตลบคุ้งฟ้าเวหาไว
ดั่งกลับไอหมอกควันพลันเกิดมา

สักพักเสียงพฤกษ์ไพรเริ่มไกวแกว่ง
เบาและแรงเคลื่อนตามความกังขา
เมฆาล่องโยกย้ายส่ายพสุธา
แล้วนภาเริ่มคล้ำพลันดำลง

ชุลมุนวุ่นวายย่างกรายเข้า
ทั้งหนักเบาเป็นนิจพิศวง
เหมือนได้ส่องสถานการณ์การดำรง
ความยืนยงเรื่องราวเข้าชีวินต์

ทั้งนกน้อยลอยแล่นบนแผ่นฟ้า
เริ่มกลับมาคืนกลับประทับถิ่น
ผู้คนต่างลี้ลนบนผืนดิน
เมื่อได้ยินเสียงฟ้ามาคำราม

แล้วเม็ดน้ำเริ่มผุดดุจหยกใส
กระทบไพรเกิดเพลงน่าเกรงขาม
บ้างจูบดินเกิดรอยหยดย้อยงาม
วับแวววามตามจิตที่คิดไป

บ้างบางคนอาจคิดเป็นจิตอื่น
เห็นฝนชื้นคือช้ำนำความไหว
อารมณ์เริ่มกัดกร่อนบั่นทอนใจ
เกิดน้ำใสอาบแก้มแต้มเป็นรอย

มหัศจรรย์ของน้ำธรรมชาติ
นำพาธาตุสุขเศร้าและเหงาหงอย
คล้ายดั่งฟ้าเล่นกลใช้ฝนปรอย
แล้วเลื่อนลอยแล่นผ่านกาลเวลา...


...................................................				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมจิคเชี่ยน
Lovings  เมจิคเชี่ยน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมจิคเชี่ยน
Lovings  เมจิคเชี่ยน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมจิคเชี่ยน
Lovings  เมจิคเชี่ยน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเมจิคเชี่ยน