14 มิถุนายน 2549 22:24 น.
เมกกะ
to
ที่มา : http://www.reporter.co.th/index.php?option=com_content&task=view&id=2822&Itemid=1
กลายเป็นอีกหนึ่งหน้าบันทึกของประวัติศาสตร์โลกไปแล้ว สำหรับการจัดพระราชพิธีเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน พุทธศักราช 2549 การจัดพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่ เนื่องในวโรกาสมหามงคลรัชสมัยฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
หลายคนยกมือท่วมหัว..!
ไม่คาดฝันมาก่อนว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตจะมีโอกาสมาร่วมแสดงความจงรักภักดีถวายพระพรอัครกษัตริย์ไทย
ตราบชั่วชีวิตนี้ จะหาเวลาที่ทรงคุณค่าใดเทียบเทียมกับบรรยากาศเช่นนี้ เป็นไม่มีแน่
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ เป็นมงคลของชีวิตของพสกนิกรชาวไทยที่ได้เกิดมาในร่มเงาพระบรมโพธิสมภาร และมีโอกาสชื่นชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ความตื่นตาตื่นใจในพระราชพิธีมหามงคล ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะเจาะจงแต่พสกนิกรชาวไทยเราเท่านั้น
หากแต่สำนักข่าวต่างประเทศเกือบทุกสำนัก ต่างให้ความสนใจนำเสนอข่าวการเฉลิมฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทั่วโลก
เป็นความอัศจรรย์ของโลก ที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง คือการที่รัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กราบบังคมทูลพระมหากษัตริย์จาก 29 ประเทศ หรือเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในโลกเสด็จมาร่วมงานพระราชพิธี
ทั้งที่เสด็จมาด้วยพระองค์เอง และทรงมอบหมายให้พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จแทนพระองค์ ล้วนแต่เป็นความมหัศจรรย์ที่ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าจะอุบัติขึ้นอีกเมื่อไหร่
ความอัศจรรย์ หรือเรื่องยากยิ่งที่จะเกิดขึ้นที่ว่านี้ มาจากพระบุญญาธิการของจอมกษัตริย์ไทยที่แผ่กว้างไพศาล ขจร ขจาย จนเป็นที่ยอมรับของชาวโลก
งานพระราชพิธีแสดงขบวนพยุหยาตราใหญ่ทางชลมารคในลำน้ำเจ้าพระยา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระมหากษัตริย์หรือผู้แทนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ที่เสด็จมาร่วมงานพระราชพิธีครั้งนี้ ทรงประทับทอดพระเนตร ณ ราชนาวิกสภา
เป็นขบวนพยุหยาตราใหญ่ทางชลมารคครั้งยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดในรัชกาลประเทศไทย ได้กลายเป็นศูนย์รวมของพระมหากษัตริย์เกือบทั้งโลกเสด็จมาร่วมเฉลิมฉลอง
บรรยากาศแสง สี เสียงขับร้องกาพย์เห่เรือ เป็นอีกบทหนึ่งที่ตรึงตาตรึงใจกับผู้ที่พบเห็น ยากที่จะลืมเลือน
เชื่อว่าคนไทยทุกผู้ทุกนามต่างรู้สึกปลื้มปีติกับพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่ และถือเป็นมงคลกับชีวิตที่ได้เกิดเป็นคนไทย
การทำหน้าที่เจ้าบ้านทีดีจนได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ เป็นคำตอบอีกบทหนึ่งที่พสกนิกรชาวไทยต่างร้อยใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อเทิด ไท้ องค์มหาราชันย์
เป็นการประกาศขีดความสามารถของประเทศไทย ที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าอารยประเทศที่เจริญ
ทั้งเรื่องของการถวายการรักษาความปลอดภัยพระราชอาคันตุกะที่เสด็จมาร่วมพระราชพิธี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ตลอดจนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำเทคโนโลยีเครื่องไม้เครื่องมืออันล้ำสมัยมาตรวจจับ สอดส่องดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมีมาตรฐานระดับสากลกันทีเดียว
ที่สำคัญต้องชมเชยรัฐบาลในฐานะเจ้าภาพจัดงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่แม้ก่อนหน้านี้ต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรค์นานาประการ แต่กลับละวางประเด็นเหล่านั้นได้อย่างเอกอุก พร้อมกับเดินเครื่องมุ่งมั่นทุ่มเท เพื่อให้การจัดงานพระราชพิธีมหามงคลนี้ยิ่งใหญ่ตระการตาออกสู่สายตาชาวโลกได้รับรู้ถึงพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทยที่เปรียบล้นไปด้วยทศพิธราชธรรม ได้อย่าง มหัศจรรย์ สมพระเกียรติ ล้ำเลิศ
น้ำตาแห่งความสุขที่รินไหลต่อหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2549 คือน้ำตาแห่งความปลื้มอกปลื้มใจ คือน้ำตาแห่งความจงรักภักดีซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ เปรียบดั่งหยาดน้ำทิพย์โปรยปรายพสกนิกรชาวไทยได้อยู่ดีมีสุขมาจวบทุกวันนี้
ดังที่สำนักวิจัยเอแบคโพลล์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนคนไทย ต่างรู้สึกยินดีปรีดากับพระราชพิธี โดยโพลล์ชี้ว่า กระแส เรารักในหลวง ด้วยพลังแห่งความจงรักภักดีในบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี ทำให้ดัชนีความสุขมวลรวมคนไทยพุ่งสูงสุด อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระชนมายุยิ่งยืนนาน ขอทรงพระเจริญ