5 กรกฎาคม 2550 20:53 น.
เพียงแพรว
ก่อนจะหลับ..........
ฉันนั่งนับดวงดาวบนฟ้า
หนาวเช่นเคยกับหลายคืนที่ผ่านมา
เจ็บปวดปร่า...น้ำตาหลั่งไหลริน
ก่อนจะหลับ..........
ดาวก็ลับไปเกือบสิ้น
เสียงนกน้อยเริ่มบรรเลงเพลงให้ได้ยิน
ไยหนอเจ้ารีบโบยบิน..ร้องเพลงก้องนภา
เช้าแล้วหรอ........
ทำไมฉันยังเพ้อ...นั่งโหยหา
คืนนี้ผ่านไปแล้วนะ..ทำไมยังไม่หลับตา
หรือเพราะว่ามีอะไรค้างคาข้างในใจ
สุดท้ายไม่ได้หลับ....
คงเพราะมัวแต่นับดาวจนเผลอไผล
หรือเพราะสิ่งที่ร้อนรุ่มซ่องสุมอยู่ภายใน
ก็เร่งกระพือแรงไฟให้หัวใจร้อนรน....จนหลับไม่ลง
4 กรกฎาคม 2550 16:17 น.
เพียงแพรว
สองมือนี้ยังน้อยยังด้อยอยู่
ก็เพราะรู้จึงไม่มัวทำตัวกล้า
สมองน้อยหนึ่งนี้ก็มีนะปัญญา
ใช่ไร้ค่าเพียงไร้...วัยวุฒิ
ทั้งสองตีนเรี่ยวแรงยังแข็งขัน
ก้าวทุกวันขยับไปไม่ยั้งหยุด
ประสบการณ์สั่งสมไว้ไม่เร่งรุด
ต่อเติมจุดที่พลาดขาดพอดี
ยังเป็นดาวในห้วงหาวอวกาศ
ไม่เอื้อมอาจประกาศแข่งแรงรัศมี
ไม่เคยกล้าเทียบท้าแสงรวี
พลังมีแต่ยังด้อยค่อยเป็นไป
เพาะเมล็ดความคิดในมุมหนึ่ง
เพียงรอถึงวันนั้นฉันเติบใหญ่
แตกกิ่งตาสาขาทั้งก้านใบ
แผ่ร่มเงาให้ใครๆได้พึ่งพา
ถึงตอนนี้ยังเป็นเช่นต้นอ่อน
ไม่รีบร้อนเพาะบ่มข่มให้กล้า
เก็บเอาไว้ถ้อยคำใครนินทา
เปรียบคำท้าให้ข้ากล้าเดินทาง
แล้ววันหนึ่งใครๆคงได้ตรอง
ว่าควรมองผู้อ่อนวัยในมุมกว้าง
แค่ตัวเลขเสกม่านมาอำพราง
อย่าเพิ่งวางว่าไว้..ไร้ความคิด...
3 กรกฎาคม 2550 11:58 น.
เพียงแพรว
หยาดพิรุณละมุนใสในน้ำฟ้า
หล่นทั่วหล้าแผ่กระจายเส้นสายฝน
ละอองไอซ่านทั่วธราดล
ระแหงหนฉ่ำชื้นระรื่นใจ
คือน้ำทิพย์จากฟ้ามาหลั่งริน
โลมไล้ทั่วธรณินทร์ให้สดใส
ชุบชีวิตพฤกษาพนาไพร
เพื่อต่อกิ่งแตกใบแล้วเบ่งบาน
เพียงหยาดชลที่หล่นกระทบพื้น
แผ่นหล้าชื่นฉ่ำชุ่มไปไพศาล
ดังมาต่อชีวิตจิตวิญญาณ
บำรุงปราณเอื้อให้ดินมิสิ้นลง
คุณอนันต์น้ำฟ้าที่มาหลั่ง
เพื่อโลกยังมิเหือดแห้งเป็นผุยผง
เพื่อต่อสิทธิ์สรรพชีวิตให้ยังคง
มิม้วยลงสิ้นใจเพราะภัยแล้ง
1 กรกฎาคม 2550 12:12 น.
เพียงแพรว
ตอนแดดล่มลมเย็นเดินเล่นกาด
คงไม่พลาดชายตามองหาสาว
หน้าจิ้มลิ้มผอมบางผมปรกยาว
ผิวสีขาวนวลผ่องคงต้องตา
หยอดคำหวานกี่คนแล้วหล่ะอ้าย
เดินแต่บ่ายจนเย็นไม่เห็นล้า
โปรยยิ้มหวานให้ทุกร้านที่ผ่านมา
จ้องแม่ค้าด้วยแววตาชายหัวงู
น้องมาช่วยแม่และยายนั่งขายของ
แอบแลมองเห็นทีท่าว่าเจ้าชู้
แม่บ่นว่า"จีบลูกข้าเอ็งน่าดู"
พ่อรออยู่ถือหน้าไม้พร้อมไล่ยิง
น้องเป็นสาวบ้านนาค่าต่ำต้อย
จึงกลัวถ้อยอ้อนออดพี่หยอดทิ้ง
คำแค่ลมพูดได้แต่ใช่จริง
น้องเป็นหญิงจึงกลัวคำมั่วชาย
หากรักแท้ให้แน่อย่าแค่หยอก
พ่อแม่บอกเวียนมาอย่าหนีหาย
ช่วยทำไร่ทำนาประสาชาย
ไล่ต้อนวัวต้อนควายอย่าหนีงาน
แค่พิสูจน์หัวใจให้น้องเห็น
ว่าพี่เป็นคนดีมิมีคร้าน
หนักก็เอาเบาก็รู้อยู่สู้งาน
ไม่เกินการคงได้อยู่เคียงคู่นอน