21 เมษายน 2550 16:39 น.
เพียงแพรว
วจีจากใจจด....................รักรันทดทำหวั่นไหว
เก็บกดในหัวใจ...............เก็บซ่อนไว้รอยน้ำตา
เสแสร้งแกล้งเย้าหยอก...ฤาใคร่หลอกเสน่ห์หา
ใจหญิงเคยด้านชา...........กลับเปลี่ยนมาเป็นอ่อนลง
ร้อยรักเล่ห์มนต์ร้าย.........เธอเสกได้ตามประสงค์
ใจเราอย่างมั่นคง.............โดนปลิดปลงด้วยมือเธอ
กลรักซ่อนแรงพิษ............หลงสนิทติดจนเพ้อ
สุดท้ายกลายเป็นเธอ........ที่ปรนเปรอแต่รักลวง
เจ็บนักกับรักนี้.................สุดฤดีลึกสุดห้วง
เจ็บแปลบแสบในทรวง.....มนต์รักลวงเล่ห์หลอกใจ
อากูลพูนในจิต.................วิปริตอย่างสงสัย
ใจนี้ไยเปลี่ยนไป.............หลงหวั่นไหวทั้งรู้ดี
อาญาที่ข้ารัก.....................ร้ายแรงนักเกินหลบหนี
ยอมรับแต่โดยดี...............กฎข้อนี้ลงอาญา...
20 เมษายน 2550 15:39 น.
เพียงแพรว
..ขอบคุณความห่างไกล..
ที่ทำให้ฉันรู้หัวใจตัวเอง...ในวันนี้
เวลาที่ขาดเธอโลกของฉันช่างเลวร้ายสิ้นดี
เข็มนาฬิกาเคลื่อนผ่านแต่ละนาทีช่างยาวนาน
เหงา...เมื่อไร้เงาเธอเหมือนแต่ก่อน
อยากจะขออ้อนวอนให้มีปาฎิหาริย์
ให้ตัวเธอกลับคืนมาเหมือนอย่างกับวันวาน
อยากให้รู้ฉันทรมานเมื่อขาดเธอ
เพิ่งรู้วันนี้ว่าเธอนั้นสำคัญ
...มีอิทธิพลต่อฉันอยู่เสมอ..
แท้ที่จริงความรู้สึกลึกๆมีแต่เธอ
แต่ฉันกลับเพิ่งค้นเจอตอนที่เธอได้จากไป
..กลับมานะ....กลับมาหาฉัน..
กลับมาทำให้ทุกวันของฉันสดใส
ช่วยกลับมาหยุดความเหงาข้างในใจ
กลับมารักฉันใหม่....ได้ไหมถ้ายังไม่สายเกิน
8 เมษายน 2550 19:25 น.
เพียงแพรว
กำกวมสวมบทเด่น ด้วยฤทธิ์เร้นล่อหลอกหญิง
ด้วยรักฤาชังชิง จึงปลดทิ้งให้เดียวดาย
ขุนแผนแสนสะท้าน พญามารยังแพ้พ่าย
หลอกชมสู่สมกาย แล้วบินว่ายไปไกลกัน
อนิจจาข้าโดนหลอก สุดช้ำชอกหลุดจากฝัน
แลกกายเป็นกำนัล พญามารยิ่งได้ใจ
สุดใดจะเปรียบเปรย เล่ห์รักเอยอสงไขย
กลเจ้าแนบเนียนไป ข้าด้อยไร้จึงหลงกล
หรือมีสิ่งวิเศษ แลฤทธิ์เดชที่ฝึกฝน
เสกใส่แล้วร่ายมนต์ หลุดไม่พ้นยามจ้องตา
หลีกรักหักความคิด ไม่ยึดติดไม่ห่วงหา
ปล่อยไปให้เพลา เจ้าพัดพาความช้ำไกล
แต่ยากจักทำจบ จักฝังกลบทำไฉน
ภาพเก่าวนเวียนไป มีหรือใจลืมได้ลง
ขอเถิดขอมนต์ถอน ให้บังอรเลิกใหลหลง
พรจากพุทธองค์ ไหว้บรรจงช่วยลูกที
....
8 เมษายน 2550 18:27 น.
เพียงแพรว
ดวงเดือนลอยเลื่อนฟ้า......ฟูโพยม
จันทร์เจิดอวดอ่าโฉม........แช่มช้อย
ดาราแต่งแต้มโคม............รัตติภาคเพราเวย
นำจิตใจเหม่อคล้อย..........เหนี่ยวโน้มคำนึง
ราตรีดื่นดาษด้วย.............แสงดาว
เสริมสุขฤๅขาดคราว.........ขุ่นข้อง
ลมโชยโบกเกรียวกราว....ต้องสู่กายา
ไหวอ่อนโอนดั่งต้อง..........จิตปลื้มลืมหลัง
หรีดหริ่งเรื่อยร่ำร้อง.........บรรเลง
กู่เสียงเพรียกบทเพลง......พาทย์พร้อง
กังวานแว่วครื้นเครง........ซาบโสต
พรทิพย์สถิตพ้อง..............ผ่านห้วงหฤทัย
บันดาลความสุขเพี้ยง.........พรอินทร์
ดาวห่มพื้นธรณิน...............แผ่กว้าง
ปกธาตุอุ่นไอดิน................ดารดาษ
ความโศกกำสรดร้าง..........หลบลี้เลือนสูญ
สมบูรณ์สมบัติเอื้อ.............เอกสถาน
กำซาบทรัพย์ไพศาล.........สู่หล้า
ดาราจักร จักรวาล.............แวมส่อง
มงคลแห่งฟากฟ้า..............จวบพื้นปฐพี
ขอให้พี่ๆน้องๆบ้านกลอนไทยมีความสุขในเทศกาลสงกรานต์นะคะ ส่วนเพียงแพรวก็จะได้กลับบ้านแล้ว ดีใจ้ดีใจ คิคิ
7 เมษายน 2550 11:07 น.
เพียงแพรว
คืนนี้ฟ้าสดใสหาใดเหมือน
ดาวล้อมเดือนทรงกลดแสงสดสี
ฟากฟ้านั้นแสนงามท่ามราตรี
นำชีวีชื่นจิตสนิทนาน
ลมพัดกรูลู่ลิ้วใบไม้ไหว
เจ้าพลิ้วไปไหวว่อนด้วยอ่อนหวาน
สร้างสุนทรีย์ตลอดราตรีกาล
สุขใดปานจะเหมือนดังทรวงใน
หอบดวงใจเวิ้งว้างตามลมล่อง
เหมือนโซ่คล้องสอดรับแสงขับไข
จันทร์เปล่งปลั่งยิ้มรับกับดวงใจ
ประหนึ่งให้อาหารสำราญพลัน
จะจดจ้องเหม่อมองแล้วร้องเรียก
สายลมเพรียกพัดพลิ้วให้สุขสันต์
ฟ้ามีดาวอันพราวแพรวเป็นกำนัล
ส่วนดวงจันทร์ ก็มีแสง แจ่มแจ้งนวล
ฤา..จะปิดดวงใจให้แน่นิ่ง
กับบางสิ่งที่ทำเรากำสรวล
เริงราตรีคืนนี้เลิกโอดครวญ
มาเสสรวลต้อนรับขับกลอนกานท์
ชมราตรีชื่นชมสุขสมหมู่
เสียงเรไรเร่เข้าหูมิหยุดขาน
บ้างเบาแผ่ว บ้างดัง ก้องกังวาล
คืนยาวนานมิเงียบเหงาใต้เงาเดือน