9 มีนาคม 2550 15:53 น.
เพียงแพรว
เ ก ล็ ด ฝั น ก า น ท์ ก วี . .
จ า ก ฤ ดี ฤ ทั ย เ ที่ ย ง
ก่ อ ฝั น ส า น ร้ อ ย เ รี ย ง
..อย่างพร้อมเพรียง..อย่างพร้อมใจ..
..ความรักระเหยเหิด
ล่องเตลิด..ไปหนไหน
ใครหนอมาเก็บไป
ฤาซ่อนไว้ไม่ให้เรา....
..เพียงพจน์รจนา
เอ่ยออกมาว่าฉันเศร้า
รักจ๋าไยร้างเงา....
หนีไกลเราไกล..แสน..ไกล
...ตะวันยังเคลียคลอ
ดาวยังรอเดือนอยู่ไหน
แล้วฉันผิดอันใด....
หากครวญใคร่เรียกหาเธอ
8 มีนาคม 2550 20:48 น.
เพียงแพรว
นั่งอยู่ม้านั่งริมน้ำ
มองดูความงามของสรรพสิ่ง
นี่นะเหรอความงดงามของโลกแห่งความจริง
นี่นะเหรอคือสิ่งที่ฉันมองข้ามไป
ไม่อกหักฉันคงยังไม่รู้
โลกที่อยู่ยังมีสิ่งสดใส
เสียงนกร้องคล้ายดนตรีขับกล่อมใจ
เสียงน้ำไหลพาใจให้นิ่งงัน
พอกันทีความรักที่ลวงหลอก
ความช้ำชอกวันนี้จงผ่านผัน
จะเปิดรับแค่ความสุขทุกวานวัน
เขาคนนั้นจะเป็นอดีตที่เลือนลาง
6 มีนาคม 2550 12:15 น.
เพียงแพรว
จะว่าเพ้อ ก็มิได้เพ้อ ละเมอพก
จะว่าเศร้า จนช้ำอก ก็มิใช่
จะว่าเหงา ชอกช้ำ ระกำใน
ก็หาใช่ ดังนั้น เลยสักครา
แต่ทำไม ในกมล จึงคร่ำครวญ
ร้าวรัญจวน อกสั่น รำพันหา
รู้ทั้งรู้ เจ้าอยู่ ห่างไกลตา
ยังไม่วาย น้ำนองหน้า เพ้อว่ารอ
ปฎิเสธหัวใจ ยังไงหนา
ที่ทำตัว เหมือนคนบ้า คอยตัดพ้อ
เจ้าอยู่ไกล ไปเรียน สร้างอนาคต-อนางอ
แต่ตัวข้า ยังขอให้เจ้า มาดูเเล
ตัวข้าป่วย ไม่เห็นเจ้า จึงเหงานัก
กลัวเจ้าหาญหัก น้ำใจ ไม่แยแส
ตัวข้าเอง ก็เหมือนเด็ก ที่งอแง
เรียกหาแต่ ตัวเจ้า เฝ้าพยาบาล
1 มีนาคม 2550 20:51 น.
เพียงแพรว
สาดกระเซ็นเป็นเม็ดของเกร็ดฝน
จากเบื้องบนล่วงหล่นลงสู่พื้น
มีเด็กหญิงคนหนึ่งยังหยัดยืน
ยิ้มระรื่นเริงร่ากลางฝนพรำ
เธอกางแขนแหงนคอขึ้นท้องฟ้า
ยังยิ้มร่าขยับขาไปมาย่ำ
ดูท่าทางคล้ายจะเริงระบำ
กลางฝนพรำฉ่ำเย็นทั้งกายา
เธอกระโดดน้ำกระเด็นกระเซ็นทั่ว
เธอไม่กลัวความเปรอะเปื้อนจะถามหา
เธอเฝ้าขอให้เม็ดฝนหล่นลงมา
เธอจะอ้าปากรับให้เต็มที่
เธอสบัดน้ำกระเด็นกระเซ็นสาย
ทั้งใจกายของเธอนั้นสุขขี
" อิ ส ร ะ เ ล็ ก ๆ ที่ ฉั น มี
อิ่ ม ฤ ดี พ อ ใ จ ที่ ไ ด้ ทำ "