15 กรกฎาคม 2550 22:08 น.
เพียงแพรว
แว่วแว่วเสียงซาบซ่าน...............ซึ้งใจ
ดาลอกพร่ำพิไร........................ร่ำร้อง
ขวัญมิ่งแห่งดวงฤทัย................จรจาก
ฤๅเสน่ห์ในตัวน้อง....................หมดสิ้น สาบสูญ๚
อัสสุชลท้นเอ่อท่วม...................ธรณี
ถมทับม่านเมฆี.......................ค่อนฟ้า
หวาดหวั่นพรั่นฤดี....................วนโศก
ชีวิตหนึ่งกำพร้า.......................พี่แล้ว หรือไร๚
กำซาบรสโศกเศร้า..................เสมอกาล
ยืนอยู่อย่างทรมาน...................หม่นว้า
เพียงลมลู่โบกลาญ..................ใจแหลก
อกอิ่มความเหนื่อยล้า...............อ่อนไร้เรี่ยวแรง๚
เราเอยไยห่มน้ำ......................ตาหนาว
หนาวยิ่งกว่าเหน็บหนาว............แนบเนื้อ
ครวญคร่ำยามขาดคราว...........เคียงคู่ พี่เอย
ชุ่มช่วงชั้นเชิงเชื้อ...................อดีตร้ายราญรุม๚
ก่อนเคยแนบชิดใกล้...............เคียงกัน
อบอุ่นสายสัมพันธ์...................เพริศพ้อง
หวังรักหวานชื่นหัน..................หวนกลับ ดังก่อน
อย่าให้ใครหนึ่งต้อง ................เหนี่ยวรั้งกำสรวล๚
.......................
14 กรกฎาคม 2550 08:20 น.
เพียงแพรว
มองกิ่งไม้ที่ลู่ไหวด้วยลมลูบ
เอนกายจูบพสุธาดังรักใคร่
เจ้าโอนอ่อนอย่างอ่อนโยนทั้งก้านใบ
โดนลมไหวจึงไหวลงโค้งสู่ดิน
มองขึ้นฟ้าเมฆาเจ้าเคลื่อนคล้อย
ลอยล่องลอยแข่งวิหคที่ผกผิน
ยังเปลี่ยนร่างสร้างภาพให้ยลยิน
ดังภาพศิลป์บนผืนผ้านภาดล
หากมีปีกคงตีปีกร่อนเหนือเมฆ
ไปปั้นเสกรูปเมฆกลางเวหน
ใช้อิสระโบยบินไปดังใจตน
หลบให้พ้นจากทุกข์ทนคนธรรมดา
นั่งรับลมกลางชานบ้านหลังน้อย
ปล่อยความคิดล่องลอยหลุดเวหา
บรรจงสร้างภาพศิลป์จินตนา
มองด้วยตาแต้มให้งามด้วยหัวใจ
สูดกลิ่นหอมมวลไม้ที่ขจร
เอนกายนอนแนบลงตรงแคร่ไผ่
ภาพซ้อนภาพจินตนายังวาดไป
ความงดงามแต่งแต้มใจจนอิ่มเอม
(ภาพซ้อนภาพจินตนายังวาดไป
ลืมทันใดข่าวภาคใต้ ข่าวการเมือง 555)
10 กรกฎาคม 2550 07:36 น.
เพียงแพรว
เขาตีบทได้แตกเกินแยกแยะ
ฉันโดนแทะเล็มเนื้อเหลือเพียงร่าง
กลผู้ดีตีหน้ามาอำพราง
ช่างวาดวางแผนร้ายได้แยบยล
คำพูดหวานกว่าน้ำตาลแต่เสแสร้ง
แต่งบทเพื่อแสดงชวนสับสน
จับผิดยากยิ่งกว่ามายากล
คนหนอคนร้ายนักชักหวั่นใจ
สวมหน้ากากเลิศหรูดูน่าเชื่อ
ไล่ตอนเหยื่อลวงล่อให้หลงใหล
เสกมนต์ดำอำพรางไว้ข้างใน
เหลือเพียงขาวเคลือบไว้ให้ดูดี
จิตใจคนยากนักเกินหยั่งรู้
หวานคำยอยกชูเพียงฉากสี
ความจริงใจหาง่ายนั้นใช่มี
มิตรไมตรีอาบน้ำลาย..ง่ายยิ่งกลืน
จะหาใครคนไหนไม่ตีหน้า
ทิ้งมารยาให้ลับทั้งหลับตื่น
ถอดหน้ากากเฉลยเผยจุดยืน
มิตรที่ยื่นนั้นจากใจ...ใช่เพียงลม
8 กรกฎาคม 2550 21:18 น.
เพียงแพรว
จากผิดแผกแตกแยกในแรกเริ่ม
เปลี่ยนจากเดิมความสัมพันธ์ถึงขั้นนี้
เคยฉายแววเกลียดชังฝังฤดี
กลับกลายมีความห่วงหาเข้ามาแทน
หากว่าเราไม่รู้จักซักกระเบียด
แค่เดินเฉียดเหมือนคนอื่นอีกหมื่นแสน
ไม่คุ้นเคยลึกซึ้งถึงในแกน
หนึ่งอ้อมแขนหนึ่งนั้นฉันคงไกล
กว่าเข้าร่องเข้ารอยก็คอยนาน
ด้วยต่างคนดื้อด้านเกินขานไข
ทั้งก็รักผูกพันกันในใจ
แต่ภายนอกกับภายในไยขัดกัน
ก็คล้ายคล้ายจะรู้อยู่เต็มอก
แต่ต่างปกปิดไว้ไม่ไหวหวั่น
จนวันหนึ่งถึงที่หนทางตัน
เธอกับฉันจึงเฉลยเอ่ยออกมา
หากว่าเราเป็นเพียงเพื่อนร่วมโลก
ไม่มีโชคผูกพันกันเกินกว่า
เพียงผิวเผินแค่เดินเฉียดไปมา
บทจากลาคงไร้ท่าว่าอาวรณ์
ร้าวรู้สึกเมื่อนึกถึงตอนนี้
พอได้ร่วมฤดีเกินถ่ายถอน
ฟ้ากลับพลัดฉุดพรากให้จากจร
ใจสั่นคลอนซับน้ำตา.. ข้างฝาโลง..
5 กรกฎาคม 2550 20:53 น.
เพียงแพรว
ก่อนจะหลับ..........
ฉันนั่งนับดวงดาวบนฟ้า
หนาวเช่นเคยกับหลายคืนที่ผ่านมา
เจ็บปวดปร่า...น้ำตาหลั่งไหลริน
ก่อนจะหลับ..........
ดาวก็ลับไปเกือบสิ้น
เสียงนกน้อยเริ่มบรรเลงเพลงให้ได้ยิน
ไยหนอเจ้ารีบโบยบิน..ร้องเพลงก้องนภา
เช้าแล้วหรอ........
ทำไมฉันยังเพ้อ...นั่งโหยหา
คืนนี้ผ่านไปแล้วนะ..ทำไมยังไม่หลับตา
หรือเพราะว่ามีอะไรค้างคาข้างในใจ
สุดท้ายไม่ได้หลับ....
คงเพราะมัวแต่นับดาวจนเผลอไผล
หรือเพราะสิ่งที่ร้อนรุ่มซ่องสุมอยู่ภายใน
ก็เร่งกระพือแรงไฟให้หัวใจร้อนรน....จนหลับไม่ลง